Ep.25

 

“ระบบ ตอนนี้ค่าสเตตัสของฉันเป็นยังไงบ้าง?”

 

“ระบบไฮเปอร์ฟิวชั่น 

 

 เจ้าของร่าง : ฉู่เซวียน

 

 สถานะ : ซอมบี้ 

 

 แร็งค์ : เลเวล 3

 

 ความว่องไว : 620 

 

พละกำลัง : 598 

 

ร่างกาย* : 604 

*(ขอเปลี่ยนจากการโจมตีทางกายภาพ เป็นร่างกายนะครับ คำนี้เหมาะกว่า)

 

ค่าพลังจิต:634 

 

 อบิลิตี้ : ใบมีดกระดูก , พลังควบคุมจิตใจ , ภูมิคุ้มกันทางจิต , คลุ้มคลั่ง , ภูมิคุ้มกันธาตุ

 

ไอเท็ม : ดาบเลเซอร์ 

 

 แต้มยีน 100 หน่วย”

 

“สุดยอดไปเลยระบบ เอาเข้าจริงนายเองก็พึ่งพาได้เหมือนกันนี่นา” ฉู่เซวียนมองค่าสเตตัสที่สูงกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า อดพูดหยอกล้อขึ้นมาไม่ได้ เผยรอยยิ้มที่ไม่อาจเก็บงำบนใบหน้าเขา

 

แม้ถูกชมแต่ระบบไม่ตอบสนอง ยังคงเงียบกริบเหมือนเคย 

 

อย่างไรก็ตาม ความเงียบนี้อยู่ได้ไม่นาน เพราะสองร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในสายตาของฉู่เซวียน 

 

มู่อ้าวซวงกับอี้อี้มาถึงห้อง พวกเธอก็พบว่าฉู่เซวียนลุกขึ้นยืนได้แล้ว 

 

“ตื่นซักทีนะ เป็นไง หลับเต็มอิ่มไหม?” มู่อ้าวซวงถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ก็ไม่เลวนะ” ฉู่เซวียนเกาหัว ตอบกลับไป

 

แต่เมื่อเห็นสีหน้าของมู่อ้าวซวงที่คล้ายลังเลว่าจะพูดอะไรบางอย่าง ฉู่เซวียนก็ยิ้มแล้วเอ่ยปากว่า “ทำไม มีอะไรอยากถามฉันใช่รึเปล่า?” 

 

“ช่วยบอกตัวตนที่แท้จริงของนายมาได้ไหม” มู่อ้าวซวงพอถูกเปิดโปงก็ไม่คิดเก็บงำ จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของฉู่เซวียน  “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจ ก็แค่รู้สึกสนใจนิดหน่อย เพราะยังไงซะ มีคนไม่มากนักหรอกที่สามารถทำให้อี้อี้รู้สึกดีด้วยได้”

 

เนื่องจากไม่มีอะไรต้องปิดบัง ฉู่เซวียนกล่าวอย่างสบายๆว่า “ฉันชื่อฉู่เซวียน เป็นซอมบี้เลเวล 3 ”

 

“เลเวล 3 ? นี่นายล้อกันเล่น?” ได้ยินแบบนั้น มุมปากของมู่อ้าวซวงกระตุก กล่าวด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

 

“เธอเห็นว่าฉันพยายามทำตัวเหมือนคนกำลังล้อเล่นหรอ” ฉู่เซวียนยักไหล่ กล่าวอย่างช่วยไม่ได้

 

เอาจริงๆ ด้วยพลังรบของเขาที่สามารถกุดหัวเทพสงครามได้ ถึงเธอจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น เกรงว่าคงไม่มีใครเชื่ออยู่ดี 

 

“พี่ชายไม่ได้โกหกนะ เขายืมพลังของอี้อี้ไปใช้” อี้อี้ที่อยู่ข้างๆยืดอกเชิดหน้า กล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจ

 

“อย่างงั้นหรอ แต่ฉันว่ายังไงก็ไม่ใช่เรื่องปกติอยู่ดี ทั้งๆที่มีพลังรบอยู่แค่เลเวล 3 แต่สามารถยืมพลังจากระดับลอร์ดได้ นายนี่มัน …” มู่อ้าวซวงหยุดเล็กน้อยแล้วกล่าว “น่าเหลือเชื่อจริงๆ”

 

“ก็งั้นแหละนะ” ฉู่เซวียนยอมรับอย่างหน้าไม่อาย เพราะท้ายที่สุดแล้วมีสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากมายเกิดขึ้นกับเขา

 

“ถ้าว่ากันตามปกติแล้ว มีแต่ซอมบี้เลเวล 4 ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะสามารถเริ่มปลุกจิตสำนึกได้ และพอเลเวล 5 ซอมบี้ก็จะสามารถฟื้นฟูความทรงจำบางส่วนของมนุษย์ ขณะที่นายมีเลเวลแค่ 3 แต่ไม่ใช่แค่มีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง แต่ยังดูเหมือนว่าจะมีความทรงจำของมนุษย์ด้วย นี่คือเรื่องที่ฉันสงสัย” มู่อ้าวซวงอธิบาย  

 

ได้ยินคำเหล่านี้ ฉู่เซวียนค่อยเข้าใจ 

 

ก่อนหน้าเขาเขามีข้อสงสัยอยู่บ้าง ว่าทำไมซอมบี้เลเวลสูงเหล่านั้นจึงดูไม่ค่อยแตกต่างจากมนุษย์มากนัก  ตอนนี้เขาได้รับคำตอบแล้ว

 

“ในเมื่อเธอฟื้นความทรงจำตอนยังเป็นมนุษย์แล้ว งั้นทำไมถึงยังเป็นปรปักษ์กับมนุษย์อีกล่ะ? ” ฉู่เซวียนอดถามไม่ได้

 

“ดูเหมือนว่านายยังไม่เข้าใจที่ฉันพูด” มุมปากของมู่อ้าวซวงเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ เธอค่อยๆเอ่ยอย่างช้าๆ “จำได้ไหมว่าที่บอกว่าซอมบี้เริ่มปลุกจิตสำนึกตัวเองได้ก่อน จากนั้นค่อยได้รับการฟื้นฟูความทรงจำในอดีตของมนุษย์”

 

เมื่อถูกอธิบายย้ำ ฉู่เซวียนคล้ายเกิดการตรัสรู้ เขาเข้าใจเรื่องหนึ่งขึ้นมาทันที 

 

“หรือก็คือ จิตสำนึกของเธอตอนนี้ไม่ใช่จิตดั้งเดิม”

 

“ถูกต้อง ความทรงจำเหล่านั้นสำหรับพวกเรา มันก็เหมือนหนังที่ถูกฉายในมุมมองของบุคคลที่สาม ดังนั้นเลยไม่ได้สำคัญ ไม่อาจแทรกแซงความรู้สึกนึกคิดของพวกเราได้” มู่อ้าวซวงกล่าวอย่างเฉยเมย

 

ฉู่เซวียนถึงค่อยกระจ่าง นี่เองสินะสาเหตุที่ว่าทำไมซอมบี้เลเวลสูงที่มีจิตสำนึกถึงยังคงเป็นศัตรูกับมนุษย์  

 

ที่แท้ก็เพราะพวกเขารู้สึกว่าสถานะของซอมบี้นั้นแตกต่างจากมนุษย์อย่างสิ้นเชิง 

 

เห็นฉู่เซวียนเงียบไป เธอหรี่ตามองเขา เอ่ยถามด้วยสีหน้างงๆ “เอาจริงๆฉันมีเรื่องที่อยากรู้อีกนิดหน่อย ในเมื่อนายมีจิตสำนึกของตัวเองแล้ว ทำไมถึงไม่รู้เรื่องพวกนี้?” 

 

ได้ยินแบบนั้น ฉู่เซวียนชะงักไป เห็นได้ชัดว่าเขาพึ่งถามคำถามโง่ๆไป  แต่ไม่นานก็หาคำตอบมาได้

 

เจ้าตัวส่ายมือ กล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติว่า “ฉันอยู่แค่เลเวล 3 เอง จะไปรู้ข้อมูลเยอะขนาดนั้นได้ยังไง”

 

หลังจากเห็นมู่อ้าวซวงพยักหน้าว่าเข้าใจ ฉู่เซวียนก็ลอบถอนหายใจโล่งอก  

 

ส่วนอี้อี้ เธอแอบออกไปเล่นคนเดียวตั้งนานแล้วระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน 

 

สุดท้าย แม้เรื่องที่อี้อี้คือซอมบี้ลอร์ดจะเป็นความจริง แต่ธรรมชาติของเด็กยังคงไม่เปลี่ยนแปลง