Ep.246

 

“คนเผ่ามนุษย์กล้าอวดดีเช่นนี้ ช่างไม่รู้จักที่ตาย! รู้ตัวหรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”

 

ซอมบี้ผิวดำหมึกอีกตัวก้าวออกมาจากฝูงซอมบี้ แต่ตัวนี้ ร่างของมันสูงกว่าตัวแรก แถมภาษาที่เอ่ย ยังไม่ใช่ภาษามนุษย์

 

“ฉันเป็นเผ่ามนุษย์แล้วทำไม? อาศัยแค่แก ฉันขอแค่มือเดียวก็ฆ่าได้แล้ว!”

 

ซูเฉินกล่าวเหยียดหยาม ตะโกนกลับไปด้วยภาษาของอีกฝ่าย

 

“นี่เจ้า ..! รู้จักภาษาเผ่าอมตะของเราได้อย่างไร?” ซอมบี้ตัวสูงอึ้งไปชั่วขณะ ได้สติตวาดขู่อย่างดุร้าย “จงบอกความจริงมา มิเช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าชนิดต่อให้ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ก็ตายไม่ได้! ”

 

ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวติดตลกว่า “ความจริงก็คือ ฉันเป็นบรรพบุรุษของแก เลยสามารถพูดภาษานี้ได้”

 

“นี่เจ้าอยากตาย?”

 

ซอมบี้ตัวสูงถูกนำบรรพชนมาล้อเล่นก็โกรธเกรี้ยว ยกกระบองเขี้ยวหมาป่าขึ้นมา พุ่งเข้าหาซูเฉิน

 

“ใครกันแน่ที่อยากตาย?”

 

ซูเฉินยิ้มเยาะ ปลดปล่อยหอกน้ำแข็งออกไป

 

“ปรมาจารย์มนตรา?”

 

เมื่อซอมบี้ตัวสูงเห็นซูเฉินปลดปล่อยเวทมนต์ สีหน้าของมันก็แสดงออกถึงความดูแคลนเล็กน้อย ง้างกระบองเขี้ยวหมาป่าและทุบลงไป

 

อำนาจของปรมาจารย์มนตรา จะสำแดงฤทธิ์ได้สูงสุดก็ต่อเมื่ออยู่ในระยะไกล

 

ขณะที่ตำแหน่งของมันกับซูเฉิน อยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เมตร ในระยะนี้ ตราบใดที่มันสามารถต้านทานเวทย์แรกของซูเฉินได้ มันก็จะสามารถรุกเข้าประชิดตัว และสะบั้นศีรษะซูเฉินได้สำเร็จ

 

อย่างไรก็ตาม ความคิดมักสวยงาม แต่ความเป็นจริงมักโหดร้าย

 

ท่าหอกน้ำแข็งของที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมานั้นเป็นเวทมนต์เลเวล 4 ทั้งยังถูกหลอมรวมเข้ากับ [เหมันต์เก้าเร้นลับ] ส่งผลให้พลังทำลายเหนือกว่าเวทมนต์เลเวล 5 อยู่เล็กน้อย

 

ขณะที่ซอมบี้ตัวสูงเป็นแค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 แล้วแบบนี้มันจะต้านทานได้อย่างไร?

 

วินาทีถัดมา กระบองเขี้ยวหมาป่าก็ฟาดลงบนหอกน้ำแข็งที่พุ่งเข้าใส่

 

อย่างไรก็ตาม ฉากที่หอกน้ำแข็งถูกทุบจนแหลกเป็นเสี่ยงๆกลับไม่ปรากฏขึ้น

 

ในทางกลับกัน ดันเป็นกระบองเขี้ยวหมาป่าที่หักเป็นสองท่อน

 

“ได้ไงกัน? หรือว่าแก ..!”

 

เห็นอาวุธในมือพัง ซอมบี้ตัวสูงฉุกคิดได้ทันที ว่าเวทมนต์ที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา ไม่ใช่เวทย์เลเวล 3 อย่างแน่นอน หรือต่อให้เป็นเวทย์เลเวล 4 ก็ไม่น่าจะทำลายอาวุธของมันได้ง่ายดายเช่นนี้

 

ฉะนั้นสมควรเป็นเวทย์เลเวล 5 ใช่หรือไม่?

 

อีกฝ่ายคือผู้ใช้มนตราเลเวล 5 กระนั้นหรือ?

 

ความคิดนี้ผุดเข้ามาในใจ สีหน้าของซอมบี้ตัวสูงแปรเปลี่ยนไปอย่างบ้าคลั่ง มันกำกระบองเขี้ยวหมาป่าที่เหลือครึ่งท่อน กระโดดถอยออกมาอย่างรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตาม ถอยมาได้ไม่กี่ก้าว มันก็ถูกหอกน้ำแข็งไล่ตามทัน

 

พริบตานั้นเอง มันสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่เสียดแทงลึกไปถึงกระดูก ทั้งตนทั้งร่างไม่สามารถขยับเคลื่อนไหว สติค่อยๆเลือนคล้ายจมอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ

 

เห็นภาพนี้ ฝ่ายมนุษย์เกิดความโกลาหลขึ้นทันใด

 

“อื้อหือ! ท่าหอกน้ำแข็งทรงพลังถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

 

“ต่อให้ศัตรูคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 แต่ก็ยังสามารถแช่แข็งเป็นรูปสลักได้ หรือว่านั่นจะเป็นเวทย์เลเวล 4 ?”

 

“น่ากลัวว่าเวทย์เลเวล 4 ก็ยังไม่ทรงพลังถึงขนาดนี้”

 

“โอ้พระเจ้า เมื่อกี้พวกเราหัวเราะเยาะเขาเพราะคิดว่าแสร้งเป็นอวดดี แต่จริงๆแล้วเขามีความสามารถมากพอที่จะพูดแบบนั้นจริงๆ”

 

“เจ้าหนุ่มนั่นจะเท่เกินไปแล้ว! ถ้าฉันเด็กกว่านี้ซักสิบปี ฉันจะแต่งงานกับเขา!”

 

“ยี้! อย่างเธอน่ะหรือเขาจะยอมแต่ง ต้องฉันนี่!”

 

 

ซอมบี้ผิวดำหมึกที่เหลือ ขณะนี้ทั้งหมดต่างเผยสีหน้าตื่นตะลึง

 

เพราะความแข็งแกร่งของซูเฉิน เหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิง

 

ใครจะไปคิดกัน ว่าชายหนุ่มที่ดูเหมือนอายุไม่ถึง 20 ปี จะครอบครองความสามารถอันทรงพลังที่สามารถสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ได้ดั่งใจนึก

 

อาจกล่าวได้ว่า แค่อาศัยท่าหอกน้ำแข็ง ซูเฉินก็แข็งแกร่งอย่างหาผู้ใดเทียบ

 

หัวใจของซอมบี้ผิวดำหมึกบังเกิดความกังวลอย่างเหลือล้น

 

เมื่อครู่ซูเฉินประกาศว่าจะฆ่าพวกมัน และอีกฝ่ายได้พิสูจน์แล้วว่าแกร่งพอจะทำเช่นนั้นจริงๆ

 

แล้วแบบนี้มันควรทำอย่างไรดี?

 

ยืนอยู่เฉยๆเพื่อเฝ้ารอความตาย?

 

หรือตัดสินใจลุกขึ้นสู้ดี?

 

ซูเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ ในที่สุดก็หยุดลงบนร่างซอมบี้ผิวดำหมึก

 

เขามองออกแล้ว ว่าซอมบี้สีดำหมึกสมควรเป็นผู้นำของกองกำลังซอมบี้ฝูงนี้

 

คิดจับโจรก็ต้องจับหัวหน้าเป็นอันดับแรก

 

วิธีการฆ่าซอมบี้ สมควรกำจัดซอมบี้ที่แข็งแกร่งที่สุดก่อน

 

ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซอมบี้ผิวดำหมึกคือเป้าหมายแรกของซูเฉิน