Ep.218
อันที่จริงแล้ว สือต้าหนิวกับชายหนุ่มต่างก็เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 ด้วยกันทั้งคู่ เดิมกำลังรบของทั้งสองสมควรอยู่ในสภาวะก้ำกึ่ง
อย่างไรก็ตาม สือต้าหนิวมีร่างกายที่แข็งแรงกว่า จึงสามารถใช้พละกำลังสยบคู่ต่อสู้ได้
นอกจากนี้ยังมี [ค้อนสวรรค์] ที่ปลดล็อคมาจากชิ้นส่วน มันมีอานุภาพเทียบเท่ากับอาวุธวิเศษ แถมยังมีน้ำหนักโดยรวมมากถึง 380 กิโลกรัมหรือราวๆพันชั่งอีกด้วย
เมื่อนำข้อได้เปรียบทั้งหมดมารวมกัน จึงสามารถทำลายมีดยาวและส่งเจ้าของมันปลิวออกไปราวกับว่าวสายป่านขาดได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าหมอนั่นแข็งแกร่งมาก!”
“เขาเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 งั้นหรอ?”
ผู้ชมที่มุงดูทั้งตกใจและตื่นตระหก เริ่มกลับมาสนทนากันอีกครั้ง
อาจกล่าวได้เลยว่า ผลการฟาดค้อนในครั้งนี้ของสือต้าหนิว มันสร้างความฮือฮา เหนือล้ำยิ่งกว่าฉากการตายก่อนหน้านี้ของฟางปินและทหารยามคนแรกซะอีก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฟางปินและทหารยามเป็นแค่คนธรรมดา แต่ชายหนุ่มในกลุ่มของฟางเฉิงอู่ คือผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 อย่างแท้จริง
แต่ถึงกระนั้น สุดท้ายเขาก็ยังถูกค้อนทุบ ส่งปลิวออกไป ตอนนี้ไม่ทราบว่าเป็นหรือตายไปแล้ว
ฉากนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าสือต้าหนิวแข็งแกร่งเพียงใด
สีหน้าของฟางเฉิงอู่ตอนแรกกลายเป็นไม่น่าดู แต่แล้วมันก็ถูกแทนที่ด้วยความโหดเหี้ยมแทบจะในทันที
เพราะเขามองออก ว่าสือต้าหนิวเป็นแค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 เท่านั้น
แม้จะเก่งกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 ทั่วๆไปบ้างก็ตาม แต่แล้วยังไง?
สุดท้ายตัวฟางเฉิงอู่คือผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มันมากพอที่จะบดขยี้ผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 แม้อีกฝ่ายจะเก่งกว่าในระดับเดียวกันก็ตามที
“ไอ้เด็กอวดดี!”
ฟางเฉิงอู่โกรธเกรี้ยว กำหมัดแน่น พุ่งเข้าหาสือต้าหนิว สบถสาบานในใจว่าจักสังหารให้ตาย ล้างแค้นในหมัดเดียว
ผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 คนอื่นๆจากสถานชุมชนฮั่วหลางเองก็เริ่มลงมือแล้วเช่นกัน พวกเขากระจายเข้าโอบล้อมสือต้าหนิว
สือต้าหนิวแม้กระจ่างแก่ใจ ว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งมากมาย เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน
กระนั้น เขาก็ไม่ยอมที่จะถอยหนี เจ้าตัวกัดฟัน กวัดแกว่ง [ค้อนสวรรค์] สู้สุดชีวิต
แต่ในเวลานั้นเอง ซูเฉินได้กล่าวขึ้น “พอแล้วต้าหนิว ถอยออกมา”
แค่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 คนเดียว สือต้าหนิวก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงการถูกปิดล้อมโจมตีจากผู้วิวัฒนาการจำนวนมาก
ซูเฉินกังวลว่าต้าหนิวจะได้รับบาดเจ็บ จึงตัดสินใจลงมือด้วยตัวเอง
รอจนสือต้าหนิวฝ่าวงล้อมถอยกลับมาได้ ซูเฉินวาดมือ และปลดปล่อยเคียวสีเทายักษ์ออกไป
“เทคนิคใบมีดสายลม!”
สัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนของเวทมนต์อันน่าสะพรึงที่แฝงอยู่ในคมมีด ฟางเฉิงอู่ตกใจมาก คว้ามีดที่เหน็บไว้ข้างเอวอย่างไม่ลังเล ยกขึ้นขวางหน้า
อีกหลายคนก็ใช้อาวุธในมือ ฟันเข้าใส่ใบมีดสายลมเช่นกัน
ปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขาไม่เชื่องช้า บ่งบอกว่ามีประสบการณ์พอสมควร รู้จักใช้กลยุทธ์ในการรับมือ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
นั่นคือใบมีดสายลมที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา นั้นเป็นถึงเวทมนต์เลเวล 3 แล้วแบบนี้พวกเขาจะต้านทานมันได้อย่างไร?
วินาทีถัดมา ได้ยินเพียงเสียง กริ๊ก
อาวุธของฟางเฉิงอู่และคนอื่นๆ รวมไปถึงร่างของพวกเขาถูกตัดเป็นสองท่อน!
‘เวทมนต์เลเวล 3 .. ที่แท้เขาเป็นปรมาจารย์มนตราเลเวล 3!’
ประโยคนี้ผุดขึ้นในใจของฟางเฉิงอู่ ต่อมาสติก็ดับวูบ ตายไปทั้งๆอย่างนั้น
หลังจากการตายของฟางเฉิงอู่และผู้วิวัฒนาการคนอื่นๆ ทั่วทั้งบริเวณประตูเมืองตกอยู่ในความเงียบอันน่าขนลุก
ฝูงชนที่มุงดู ไม่กล้าแม้จะหายใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ในสมองของพวกเขาบังเกิดเสียงอื้ออึง ไม่ต่างจากแผ่นแป้งที่ถูกตีซ้ำๆ
ปลดปล่อยการโจมตีเพียงครั้งเดียว .. แค่ครั้งเดียวเท่านั้น! แต่ถึงขั้นสามารถสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 และเลเวล 1 อีกหลายคนได้อย่างง่ายดาย!
นี่คือความแข็งแกร่งอันน่าหวาดกลัวอย่างไม่ต้องสงสัย
น่ากลัวจนแทบบ้า!
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของซูเฉินเหนือล้ำเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้แต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เฉินตงกลืนน้ำลายอย่างแรง เวลานี้ใบหน้าเขาน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด คล้ายถูกบิดลำไส้
หากเขารู้ตั้งแต่แรกว่าซูเฉินแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ เขาจะไม่มีวันกระโดดมายืนฝั่งฟางเฉิงอู่
แถมตอนนี้ฟางเฉิงอู่ตายแล้ว เมื่อปราศจากที่พึ่งพิง ชะตากรรมของเขาคงสามารถจินตนาการได้
–แต่เขายังไม่อยากตาย!
ปุก ..!
เฉินตงคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะให้ซูเฉินไม่หยุด ปากร้องตะโกนว่า “ ตัวชั่วช้าผู้นี้เผลอสับสนไปชั่วขณะ วอนผู้อาวุโสโปรดเมตตา ไว้ชีวิตด้วย!”
เพื่อความอยู่รอด เขายอมละทิ้งศักดิ์ศรี ไม่เห็นแก่หน้าตัวเองอีกต่อไป