Ep.200
“ทุกคนรออยู่ที่นี่ ฉันจะออกไปฆ่าเจ้ามังกรนั่น” ซูเฉินกำชับคนบนรถ เปิดประตู เตรียมก้าวออกไป
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนกลับกลาย
“ซูเฉิน ครั้งนี้ปล่อยมันไปเถอะ” ตันหลินอ้อนวอน สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
“ซูเฉิน นายอย่าไปเลยนะ” หยางเฉียนก็ห้ามเขาเช่นกัน
แม้พวกเธอจะรู้ว่าซูเฉินครอบครองความแข็งแกร่งของทุกสายอาชีพ และทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ ทว่าต่อหน้าสัตว์ประหลาดอย่างมังกรเพลิงทมิฬ ทั้งคู่ก็ไม่มองโลกในแง่ดี จนถึงขั้นคิดว่าซูเฉินจะสามารถเอาชนะได้
“ซูเฉิน งั้นให้หุ่นเชิดของคุณตามไปด้วย” หวู่หยางเสนอ
เขารู้จักซูเฉินดี เมื่อตัดสินใจแล้ว ซูเฉินก็จะลงมือทำ ไม่ว่าจะยากเย็นซักแค่ไหนก็ตาม
เนื่องจากไม่สามารถโน้มน้าวได้ งั้นก็ต้องคอยช่วยเหลือด้านอื่น
ด้วยสถานะหุ่นเชิดเลเวล 3 ของ [นักรบจักรกล] หากมีมันติดตามไปด้วย ก็น่าจะช่วยลดทอนแรงกดดันของซูเฉินได้มาก
“ไม่จำเป็น” ซูเฉินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
แม้ว่า [นักรบจักรกล] จะมีกำลังอยู่ในขั้นสูงสุดของเลเวล 3 แต่อย่างไรมันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมังกรเพลิงทมิฬอย่างแน่นอน
หากนำมันติดตามไปด้วย เกรงว่าจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
นอกจากนี้ เขามีความมั่นใจมาก ว่าจะสามารถสังหารมังกรเพลิงทมิฬได้ โดยไม่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น
ก่อนจากไป ซูเฉินยิ้มและกล่าวว่า “พวกคุณรอกินเนื้อมังกรย่างกันได้เลย”
สิ้นเสียง เขาก็ออกจาก [รถศึกอัจฉริยะ] เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ทะยานไปทางมังกรเพลิงทมิฬอย่างรวดเร็ว
มองไปยังแผ่นหลังที่ค่อยๆเล็กลง พุ่งไกลออกไปของซูเฉิน หวู่หยางและคนอื่นๆรู้สึกหนักใจเล็กน้อย
อำนาจของมังกรเพลิงทมิฬเป็นที่ประจักษ์ต่อทุกสายตา ด้วยการตะปบเพียงสองครั้งก็สามารถทำลายค่ายกลป้องกันเมืองได้
แล้วแบบนี้ซูเฉินจะสามารถรับมือกับมันได้จริงๆน่ะหรือ?
อีกด้านหนึ่ง มังกรเพลิงทมิฬมุ่งเป้าไปที่หานคุนและคนอื่นๆ มันยกกรงเล็บขึ้น ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะบดพวกเขาให้เละเป็นโจ๊ก
ภายใต้แรงกดดันมหาศาลของมังกรเพลิงทมิฬ กำลังใจของหานคุนและคนอื่นๆถูกข่มขวัญอย่างร้ายแรง ไม่มีแม้ความคิดเพียงเล็กน้อยที่จะต่อต้าน ได้แต่เฝ้ารอความตายอย่างเงียบๆ
มองไปยังกรงเล็บมังกรที่กำลังฟาดลงมา ซูเฉินที่บุกเข้าไปถึงระยะโจมตีพอดีก็เหยียดมือไปข้างหน้า ปลดปล่อยเวทย์สายฟ้า
บอลสายฟ้าย้อยเป็นเส้นโค้งอันงดงามในอากาศ ร่วงตกลงบนหัวยักษ์ของมังกรเพลิงทมิฬอย่างแม่นยำ
ได้ยินเพียงเสียง ‘ตูมมมม!’
หัวยักษ์มังกรเพลิงทมิฬถูกระเบิดเหวอะเป็นรูขนาดใหญ่ เลือดสีแดงสดสาดกระจายราวกับพายุฝน
ในชั่วพริบตาเดียว ตลอดทั้งกำแพงเมืองเปียกโชกไปด้วยเลือดสีแดง
“ก๊าซซซซ!”
ถูกโจมตีอย่างแรง มังกรเพลิงทมิฬโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ทั้งร่างของมันสั่นสะท้าน ร่วงตกลงจากฟ้า
โครม!
ตามด้วยเสียงสนั่นสะเทิ้นฟ้าสะเทือนดิน ร่างมหึมาของมังกรเพลิงทมิฬร่วงกระแทกพื้นอย่างแรง
ความเสียหายนี้ไม่เพียงก่อให้เกิดแอ่งลึกบนพื้นเท่านั้น แต่ยังบดขยี้สัตว์กลายพันธุ์กว่าหลายร้อยตัวในคราวเดียว
“เกิดอะไรขึ้น?”
หานคุนที่เดิมกำลังรอรับความตาย หลังจากได้ยินเสียงสะเทือน เขาก็ลืมตาขึ้น
เมื่อเขาเห็นมังกรเพลิงทมิฬหนอนแผ่อยู่กับพื้น ทั้งยังเหมือนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส สีหน้าของเขาก็กลายเป็นแข็งทื่อ
สถานการณ์นี้มันอะไรกัน?
เหตุใดจู่ๆมังกรเพลิงทมิฬถึงได้รับบาดเจ็บได้?
ใครกันที่สามารถทำร้ายมัน?
“ท่านผู้นำ เป็นเขา เขาเป็นปรมาจารย์มนตราสายฟ้าที่ทรงพลัง เขาคือคนที่ทำร้ายมังกรเพลิงทมิฬ!” ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายหานคุนกล่าวด้วยความตื่นเต้น ชี้ไม้ชี้มือไปยังซูเฉินใต้กำแพงเมือง
หานคุนมองตามทิศทางนิ้วของลูกน้อง เมื่อเห็นใบหน้าของซูเฉินได้อย่างชัดเจน เขาก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ กล่าวตะกุกตะกักว่า “ทำไมเขา .. ถึงได้ดูเด็กนัก?”
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีอายุมากเท่านั้น
เพราะการฝึกฝนมิใช่อะไรที่สำเร็จได้ในวันสองวัน แต่วันต้องใช้ความอดทนเป็นหลายปี
อย่างไรก็ตาม มองไปยังซูเฉิน ดูก็รู้ว่ายังอายุไม่ถึง 20 ปี
อายุน้อยขนาดนี้ แล้วจะมีกำลังรบมากพอที่จะทำร้ายมังกรเพลิงทมิฬได้อย่างไร?
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อ แต่นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไป