ลง 199 200 ครับผม
Ep.199
“ถึงเป็นมังกร แต่สุดท้ายมันก็แค่สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 3 นี่พวกคุณไม่ไว้ใจผมเลยหรอ?” ซูเฉินปาดจมูก กล่าวตัดพ้อ
“พี่เฉิน ผมเชื่อมั่นในตัวพี่นะ แต่เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นมันตัวใหญ่เกินไป!” หยางฮ่าวอธิบาย เดาะลิ้นและกล่าวอย่างไม่มั่นใจว่า “พี่เฉิน พี่คงไม่คิดจะสู้กับมันจริงๆใช่ไหม?”
ซูเฉินยิ้ม ไม่พูดอะไรซักคำ
มังกรเพลิงทมิฬตัวนี้ เขาต้องการฆ่ามันอย่างแน่นอน
แต่ก่อนหน้านั้น เขาอยากจะเห็นว่ากำลังรบของมังกรเพลิงทมิฬทรงพลังแค่ไหน ดังนั้นไม่รีบร้อนที่จะลงมือ
ในเวลาเดียวกัน บนกำแพงเมืองของสถานชุมชนเฝิงซี
ชายหนุ่มในชุดดำ อายุราวๆ 27-28 ปี กำลังมองมังกรเพลิงทมิฬที่ลอยอยู่เหนือศีรษะเขา
เดิมคนผู้นี้มักมีสีหน้าผ่องใส แต่เวลานี้กลับหน้าดำเคร่งเครียดอย่างถึงที่สุด
หลังจากแหงนมองมัน เขาก็ถอนสายตากลับมา หันไปพูดกับคนข้างๆว่า “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป บอกพวกเขาว่า เมื่อค่ายกลป้องกันเมืองถูกทำลาย ขอให้ทุกคนวิ่งหนีเอาชีวิตรอด”
ว่าจบ เขาก็ถอนหายใจยาว กำหมัดแน่น คล้ายยังไม่อยากยอมจำนนต่อโชคชะตา แต่ก็ไร้ความสามารถเกินกว่าจะพลิกสถานการณ์ได้
“ท่านผู้นำ ท่านเองก็เตรียมตัวหนีไปด้วยกันเถอะ” หนึ่งในนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล
เพราะค่ายกลป้องกัน ไม่สามารถหยุดมังกรเพลิงทมิฬได้อย่างแน่นอน
หากให้รอจนกว่าค่ายกลแตกแล้วค่อยจากไป เกรงว่าจะไม่ทันการ
ชายหนุ่มในชุดดำถอนหายใจ “ทุกคนไปเถอะ”
“ท่านผู้นำ แล้วท่านเล่า?” คนเดิมเอ่ยปากถาม
“เมืองอยู่คนอยู่ เมืองพินาศฉันพินาศ!”แววตาของชายหนุ่มชุดดำทอประกายเด็ดเดี่ยว คล้ายตัดสินใจได้แล้ว “ฉันหานคุนจะไม่มีวันจากไป”
ได้ยินแบบนั้น คนอื่นๆหันไปมองหน้ากัน สายตาของแต่ละคนคล้ายเข้าใจถึงความหมายที่สะท้อนอยู่ในแววตาอีกฝ่าย เอ่ยพร้อมกันว่า “งั้นพวกเราขอสาบานว่าจะอยู่และตายพร้อมกับท่านผู้นำ!”
“ทำไมพวกคุณถึงได้ดื้อรั้นแบบนี้?” หานคุนเริ่มหมดความอดทน แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ท้วงออกไป เมืองทั้งเมืองคล้ายประสบเหตุแผ่นดินไหว สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“มังกรเพลิงทมิฬเริ่มโจมตีพวกเราแล้ว!”
สีหน้าของหานคุนแปรเปลี่ยน สะบัดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
เห็นแค่เพียงมังกรเพลิงทมิฬที่อยู่ลอยอยู่เบื้องบน บัดนี้กางกรงเล็บหนา ตะปบลงบนโล่แสงของค่ายกลอย่างแรง
โล่แสงพลังงานสั่นไหวอย่างรุนแรง แทบจะในทันทีหลังจากนั้น รอยปริร้าวได้ปรากฏขึ้น แตกแขนงไปทั่วทุกจุดราวกับใยแมงมุม
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น มังกรเพลิงทมิฬเมื่อตระหนักได้ว่าถูกขวาง มันก็แหงนคอกู่คำรามขึ้นฟ้า ชั้นอากาศสั่นไหวเกิดเสียงหึ่งๆ
เสียงกู่คำรามดังกึกก้อง เนิ่นนานค่อยจางหายไป อีกหนึ่งกรงเล็บกางออก ฟาดเข้าใส่โล่แสง
ได้ยินเพียงเสียง ‘กริ๊ก’
ค่ายกลทั้งค่ายพลันแตกเป็นเสี่ยงๆราวกับกระจกใส สภาพแวดล้อมเดิมของสถานชุมชนเฝิงซีถูกเปิดเผยออกมา
ในเวลานี้ ทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในความตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง
เหล่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในเมือง ต่างหันหลังวิ่งหนีด้วยความสิ้นหวัง
“สถานชุมชนเฝิงซีจบสิ้นแล้ว … ” หานคุนเหลียวหลังกลับไปในเมือง สองตาค่อยๆหุบลง คล้ายไม่ต้องการทนเห็นจุดจบการสังหารหมู่มนุษย์
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเขาไม่ฮึดสู้กับสัตว์กลายพันธุ์น่ะหรือ?
นั่นเป็นเพราะเขารู้ดี ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ามังกรเพลิงทมิฬ ต่อให้ใช้ทั้งร่างเขา มันก็ไม่พอที่จะอุดซอกเล็บอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
ต่อให้ดิ้นรนอย่างไรก็ไร้ประโยชน์
มังกรเพลิงทมิฬเมื่อสามารถทำลายค่ายกลป้องกันของเมือง มันกวาดดวงตากลมโตขนาดใหญ่ลงไปด้านล่าง ไม่นานก็เจอหานคุนและคนอื่นๆ
…
ซูเห็นเห็นภาพนี้ เขาก็พร้อมเคลื่อนไหวแล้ว
จากการสังเกตที่ผ่านมา เขาได้ข้อสรุปว่ามังกรเพลิงทมิฬมีกำลังรบมากพอที่จะสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 4
ต่อให้เป็นเขาก้าวออกไปเผชิญหน้า ก็ใช่ว่าจะชนะได้ง่ายดายเหมือนทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม คนอย่างซูเฉินไม่คิดล่าถอย
ในเมื่อเทคนิคใหม่ที่เขาเพิ่งได้มา มันเอ่ยอ้างว่าตัวผู้ใช้งานจักคงกระพันในเลเวลเดียวกัน
ดังนั้น ไม่ต้องกล่าวถึงมังกรเพลิงทมิฬเลเวล 3 ต่อให้ตรงหน้าเป็นมังกรเลเวล 4 —
–มันก็ต้องถูกเขาฆ่าตายในวันนี้!