3/10
Ep.193
ต่อมา เห็นแค่เพียงดวงตาของหลังอานกลายเป็นแข็งทื่อ มันสูดหายใจเข้าลึกๆ
เวลานี้ เหมือนกับว่าหลังอานจะรู้สึกประหม่ายิ่งกว่าตอนที่มันล่าโสมกลายพันธุ์ซะอีก
วินาทีต่อมา เปลวเพลิงสีม่วงเข้มก้อนเล็กๆที่มีความหนาเท่ากับตะเกียบค่อยๆลอยออกจากปากของหลังอาน มองจากรูปลักษณ์ที่สั่นเทาของมัน เหมือนว่าสามารถดับได้ตลอดเวลา
จากนั้น เปลวไฟค่อยๆตกลงในหม้อตุ๋น เริ่มเกิดการเผาไหม้อย่างช้าๆและสม่ำเสมอ สุดท้ายไม่เกิดฉากระเบิดแบบครั้งก่อนอีกต่อไป และน้ำในหม้อก็เริ่มเดือดทีละน้อย
“ไม่เลว ต้องประมาณนี้สิ ควบคุมมันไว้อย่าให้ดับนะ!”
สีหน้าของฉู่เซวียนดูมีความสุขมาก รีบเอ่ยอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากต้องควบคุมไฟ ตอนนี้หลังอานเลยยังพูดไม่ได้ แต่สายตาที่มันแสดงออกมา ฉายชัดว่ากำลังมุ่งมั่นสุดๆ
เพื่ออาหารอร่อยๆ เราราชาจะสู้! ประโยคนี้สะท้อนอยู่ในแววตามัน
อันหยุนหลานเฝ้ามองไปยังฉากที่สัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงกำลังเชื่อฟังมนุษย์ แถมยังคอยเป็นลูกมือช่วยทำอาหารด้วยความรู้สึกทึ่งเล็กน้อย แต่ต่อมาก็อดหัวเราะไม่ได้ “ฉู่เซวียน นายนี่ร้ายจริงๆ ”
นั่นไม่ผิดเลย เกรงว่าในโลกใบนี้คงมีเพียงฉู่เซวียนเท่านั้นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้
หลังจากที่น้ำในหม้อถูกตุ๋นจนเดือด ฉู่เซวียนได้เพิ่มส่วนผสมต่างๆลงไป ต่อมาก็ใส่น้ำโสมและรากโสมกลายพันธุ์ พลังงานบริสุทธิ์ปะทุขึ้นทันใด เล่นเอาคนอื่นสะดุ้งตกใจกลัวเล็กน้อย
แต่โชคยังดี ที่ฉู่เซวียนสามารถใช้พลังจิตของเขากักเก็บพลังงานเหล่านั้นไว้ในหม้อตุ๋นได้ทัน
ท้ายที่สุดแล้ว อาหารบำรุงนี้มีวัตถุดิบหลักคือโสมกลายพันธุ์ ขืนปล่อยให้แก่นสารเหล่านี้กระจายหายไป เกรงว่าเอฟเฟกต์ที่ได้รับอาจลดลงอย่างมาก
หลายสิบนาทีต่อมา ภายใต้เปลวเพลิงที่ถูกควบคุมโดยความเพียรพยายามของหลังอาน วนที่สุดก็มีกลิ่นหอมแรงฟุ้งออกจากหม้อ
เวลานี้อาหารบำรุงได้ถูกปรุงมาจนถึงกระบวนการขั้นสุดท้ายแล้ว
“เกือบเสร็จแล้ว” เห็นภาพนี้ ฉู่เซวียนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นหันไปพูดว่า “หลังอาน ใกล้เสร็จแล้ว นายหยุดปล่อยเปลวไฟได้”
ได้ยินคำนี้ หลังอานหุบปากลงทันที มันที่ได้รับอิสระทิ้งตัวนอนแลบลิ้นอยู่กับพื้น “แม่มันเถอะ ต้องควบคุมไฟอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ แถมยังอยู่ในท่าเดิมหลายนาที เสียพลังจิตไปไม่น้อย ขอกินเลยได้ไหม? ”
ได้ยินคำของหลังอาน ฉู่เซวียนยิ้ม เอ่ยว่า “นี่คืออาหารบำรุง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ยิ่งตุ๋นสมุนไพรข้างในนานเท่าไหร่ รสชาติก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้น ไม่ใช่ว่านายอยากกินอาหารอร่อยๆหรอกหรอ?”
หลังอานพอได้ยิน ก็ส่ายหัวอย่างเด็ดเดี่ยว กล่าวว่า “งั้นก็ลืมมันเถอะ เราราชารอได้!”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่หลังอานยังคงจับจ้องหม้อตุ๋นไม่วางตา
“ต้องใช้เวลาอีกกี่นาที?” หลังอานเอ่ยถาม
ฉู่เซวียนยิ้ม ยื่นมือลูบหัวหลังอาน ตอบว่า “ไม่ต้องรีบร้อน ยังเหลือขั้นตอนสุดท้าย”
ต่อมา ฉู่เซวียนเดินไปที่หม้อตุ๋น จากนั้น เสียงของระบบพลันดังขึ้น
“อาหารบำรุงโสมกลายพันธุ์ : ช่วยเสริมพื้นฐานพลังจิตของผู้กินได้ 3% , ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บทางพลังจิตทั้งหมดหลังรับประทาน , มีโอกาสเล็กน้อยที่จะสามารถเรียนรู้อบิลิตี้พลังจิต”
ได้ยินแบบนั้น รอยยิ้มประหลาดใจผุดขึ้นบนใบหน้า ฉู่เซวียน–
–อาหารบำรุงที่เสียเวลาปรุงตั้งนานมื้อนี้ ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ!
4/10
Ep.194
เห็นสีหน้าของฉู่เซวียน หลังอานพูดอย่างร้อนรน “เป็นอะไรไปเจ้าหนู? สรุปได้ที่แล้วใช่ไหม เราราชารอไม่ไหวแล้ว!”
อี้อี้จ้องหม้อตุ๋นไม่วางตา เผลอกลืนน้ำลายไปอีกอึกหนึ่ง
“นี่คือช่วงเวลาที่ทุกคนจะได้เป็นสักขีพยานแห่งปาฏิหาริย์!” เห็นพฤติกรรมของแต่ละคน ฉู่เซวียนยิ้ม จากนั้นค่อยๆเปิดฝาหม้อ
ฟุ่มมม!
เมื่อมีช่องว่างให้อากาศออก ทันใดนั้นไอสีขาวที่อุดมไปด้วยกลิ่นหอมลอยฟุ้ง อีกทั้งยังมีแสงสีทองเป็นประกายสะท้อนออกมาจากด้านใน!
ใช่แล้ว เป็นแสงสีทองจริงๆ!
เห็นภาพนี้ แม้แต่ฉู่เซวียนก็ยังอดแปลกใจไม่ได้
‘ทั้งๆที่เป็นแค่อาหาร แต่กลับสร้างนิมิตหมายเช่นนี้ขึ้นมาได้’
เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้น อันหยุนหลานเผลออ้าปากกว้างโดยไม่รู้ตัว จิตใจเธอเริ่มฟุ้งซ่าน
แสงสีทองปรากฏขึ้นเพียงครู่เดียวก็หายไป
“เจ้าหนู รีบเปิดมันเร็วเข้า” ในทางกลับกัน หลังอานถูกกระตุ้นด้วยความอยากรู้อย่างสิ้นเชิง ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น
หลังจากที่ ฉู่เซวียนเปิดหม้อตุ๋นเสร็จ บางสิ่งบางอย่างก็เผยสู่สายตาทุกคน
ฉู่เซวียนสูดลมหายใจลึก ค่อยๆดึงฝาออกจากหม้อ
ในจังหวะเดียวกับที่หม้อถูกเปิดออก กลิ่นหอมกรุ่นที่เข้มข้นกว่าเดิมหลายสิบเท่าก็ฟุ้งออกมาในคราเดียว
รอจนไอสีขาวหายไป สิ่งที่อยู่ข้างในก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
เห็นแค่เพียงในหม้อตุ๋น มีอาหารอยู่ประมาณครึ่งหม้อ มันเป็นอาหารที่ดูเหมือนโจ๊กสีขาว ยังไงก็ตาม โจ๊กนี้โปร่งแสง บ่งบอกชัดว่าโสมกลายพันธุ์ได้ละลายไปแล้ว และผสมผสานอยู่ข้างในนั้น ให้ความรู้สึกสดชื่น
ภายใต้อุณหภูมิที่เหลือของหม้อตุ๋น ทำให้ยังมีฟองอากาศน้อยๆลอยปุด ปุด ขึ้นมา
เห็นภาพนี้ ทุกคนที่มุงดูอดกลืนน้ำลายไม่ได้
ต่อมา ฉู่เซวียนนำอุปกรณ์กินอาหาร พวกตะเกียบ ชาม โต๊ะออกมาจากพื้นที่ระบบ แน่นอน เขายังไม่ลืมชานข้าวหมาของหลังอาน
ฉู่เซวียนตักโจ๊กสีขาวหนึ่งชามจากหม้อตุ๋น แล้วยื่นมันให้อันหยุนหลาน
รับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมอันเข้มข้นของโจ๊กขาวที่เล็ดลอดออกมาจากชามข้าม อันหยุนหลานที่ไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน เกิดความรู้สึกหิวโหยทิ่มแทงขึ้นมาจากกระเพาะเธอ
อย่างไรก็ตาม อันหยุนหลานไม่ได้กินทันที เธอมองไปทางฉู่เซวียน เอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ “นี่ของฉันหรอ?”
ฉู่เซวียนพยักหน้า เอ่ยยิ้มๆว่า “แน่นอน เธอเป็นคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นต้องได้เป็นคนแรก รีบกินซะตอนที่มันยังร้อน”
หลังอานจ้องมองอาหารในมืออันหยุนหลานด้วยความอิจฉา น้ำลายไหลย้อยลงกับพื้นไม่หยุด แต่โชคดีที่เจ้าหมอนี่ไม่ได้ทำอะไรวู่วามในครั้งนี้ ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมอย่างสงบ
อันหยุนหลานถือชามโจ๊กสีขาวในมือ รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิอันอบอุ่นของมันถ่ายทอดไปถึงหัวใจ ฉู่เซวียนคนนี้ยังคงเป็นห่วงเธอ ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจอันหยุนหลาน มุมปากเผยรอยยิ้มบาง
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ” อันหยุนหลานมองฉู่เซวียน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
จากนั้น ภายใต้การจับจ้องน้ำลายสอของหลังอาน อันหยุนหลานค่อยๆจิบคำเล็กๆ
อื้มมมม
ทันทีทีโจ๊กเข้าปก อันหยุนหลานต้องเบิกตากว้าง
เวลานี้ ในที่สุดอันหยุนหลานก็เข้าใจว่าทำไมหลังอานกับอี้อี้ถึงคาดหวังกับอาหารฝีมือ ฉู่เซวียนนัก
ปรากฏว่ารสชาติของมันอร่อยสุดยอด!
เพียงชิมคำเล็กๆ ก็เปิดโลกใบใหม่แก่อันหยุนหลาน