7/8

 

Ep.107

 

“สหายฉู่!!”

 

“ฉู่เซวียน!!!”

 

คนอื่นๆพอเห็นฉู่เซวียนถูกกลืนหายไปกลางกระแสกองทัพหนู ทั้งหมดตื่นตกใจ พากันร้องอุทานขึ้นมา

 

และเพราะเสียสมาธิไปชั่วขณะ ทำให้การโจมตีเสียขบวน และหนูกลายพันธุ์ย่อมไม่ปล่อยโอกาสดีๆเช่นนี้ไป กระโจนเข้าฝากบาดแผลร้ายแรงลงบนร่างของเฉียวหลวน กับหยางเจิ้น ก่อนถูกทุบตีให้ล่าถอยกลับไปอีกครั้ง

 

ด้านอันหยุนหลานแม้ตื่นตกใจในตอนแรก แต่ยังคงควบคุมมีดบินเข้าสังหารหนูกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สีหน้าเธอในเวลานี้ซีดเซียว เนื่องจากใช้พลังจิตมากเกินไป

 

“ไม่ต้องกังวล เขาไม่เป็นไร ฉันยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของเขา” อันหยุนหลานสูดหายใจลึก เอ่ยอย่างช้าๆ

 

ได้ยินคำนี้ สมาชิกที่เหลือเริ่มใจชื้นขึ้น

 

“ได้แค่นี้เองหรอ?” ต่อมา แม้จะไม่เห็นร่างฉู่เซวียน แต่เสียงของเขายังคงดังออกมาจากข้างใต้หนูกลายพันธุ์นับไม่ถ้วน

 

ได้ยินคำนี้ หลายคนถอนหายใจโล่งอก สีหน้าโล่งใจผุดขึ้นบนใบหน้าพวกเขา

 

หากยังพูดได้แบบนี้ แสดงว่าฉู่เซวียนยังคงปลอดภัยดีเหมือนที่อันหยุนหลานว่าไว้ ไม่น่าเป็นห่วงอะไร

 

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวินาทีถัดมา มันทำให้พวกเขาต้องเบิกตากว้าง

 

ตูมมมม!

 

พร้อมกับเสียงระเบิดดังกึกก้อง หนูกลายพันธุ์นับไม่ถ้วนตัวแหลกเป็นชิ้นๆ พร้อมกับร่างที่ราวกับมังกรคลั่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า

 

ขณะนี้ โหมดคลุ้มคลั่งถูกเปิดใช้งานแล้ว!

 

พลังรบเพิ่มพูนขึ้นเป็นสิบเท่า ขณะเดียวกัน กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวเขา มันทะลุเกินขอบเขตเลเวล 4 ไปเป็นที่เรียบร้อย

 

เห็นภาพนี้ ดวงตาแดงเข้มของราชาหนูหรี่แคบลง มันไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้า ที่ตอนแรกไม่มีอะไรมากไปกว่ามดปลวกตัวหนึ่ง ตอนนี้พลังรบกลับพุ่งทะยานจนสามารถคุกคามตนได้

 

“ตายซะ! ผ่ามิติ!” ฉู่เซวียนคำรามลั่น ภายใต้พลังรบที่เพิ่มพูนเป็นสิบเท่า รังสีเลือดที่มีความยาวหลายเมตรถูกฟันออกไปจากเงาโลหิต กวาดไปทางราชาหนู

 

เห็นภาพนี้ ขนสีทองของราชาหนูลุกชันทันที มันตระหนักได้ถึงวิกฤตเป็นตาย

 

คมมีดฟาดฟันไปทางราชาหนูแล้ว! เหลือแค่เชือดเฉือนผ่านเนื้อหนังของมันเท่านั้น!

 

จี๊ จี๊!

 

ทันใดนั้นปากของราชาหนูเปล่งเสียงร้องบาดหู และทันทีที่เสียงนี้ดังขึ้น หนูกลายพันธุ์นับไม่ถ้วนกระโจนเข้ามาเบื้องหน้าราชาหนูทันที –ใช้ร่างตนเป็นโล่กำบังป้องกันคมมีด

 

“คิดหรือว่าจะได้ผล?” ฉู่เซวียนเห็นภาพนี้ เขาแค่นเสียงเย็น

 

วินาทีถัดมา คมมีดสีเลือดสีเกิดจากท่าผ่ามิติเฉือนลงบนโล่กองทัพหนูที่มีความหนาหลายเมตร และฝังลึกเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 

เลือดเนื้อสาดกระเซ็นไปทั่ว บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเลือด และในที่สุดคมมีดก็บุกมาถึงร่างของราชาหนูแล้ว!

 

ภายใต้ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ราชาหนูระเบิดความแข็งแกร่งในเลเวล 5 ออกมาอย่างสมบูรณ์ แรงกดดันจากตัวมันก่อสายลมกรรโชก รังสีแสงสีทองนับไม่ถ้วนพรั่งพราวจากร่างราชาหนู จากนั้นกลายเป็นโล่ทองคำ

 

มีรัศมีสีทองไหลเวียนอยู่บนโล่ ดูไร้เทียมทานมิอาจทำลาย

 

ต่อมา คมมีดประสานงาเข้ากับโล่ทองคำ

 

โผล๊ะ!

 

คล้ายเสียงฟองสบู่แตก โล่ทองคำถูกทำลาย สลายกลายเป็นจุดแสง

 

และคมมีดสีเลือดที่เกิดจากท่าผ่ามิติตัดลงบนร่างของราชาหนู กวาดผ่านไปโดยตรง แยกร่างของมันออกเป็นสองส่วน

 

หลังจากเปล่งเสียงร้องจี๊ จี๊ ด้วยความไม่ยินยอม สุดท้ายกลิ่นอายของราชาหนูก็เหือดหายไป

 

จากนั้น หนูกลายพันธุ์ที่เหลือก็เกิดอาการสับสนและแตกฮือ

 

ใช้เวลาไม่ถึงสิบลมหายใจ พวกมันทั้งหมดก็มุดเข้าป่า หายไปจากสนามรบ

 

มองไปยังศพราชาหนูและหนูกลายพันธุ์เลเวล 4 อีกหลายสิบตัว ใบหน้าของ ฉู่เซวียนอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้

 

–ได้เวลาฟิวชั่น พัฒนาความแข็งแกร่งอีกครั้งแล้ว!

 

8/8

 

Ep.108

 

อึก!

 

ไม่รู้ว่าเป็นเสียงใครกลืนน้ำลาย แต่มันได้ทำลายความเงียบงันอันน่าขนลุกนี้ลง

 

“ราชาหนูเลเวล 5 … ตายแล้วจริงๆ?” มองไปยังแผ่นหลังของฉู่เซวียนที่ราวกับปีศาจ หยางเจิ้นงึมงำด้วยอาการเหม่อลอย

 

เดิมทีในความเห็นของคนอื่นๆ พวกเขาคิดว่า แค่ฉู่เซวียนสามารถพาพวกตนหลุดจากกระแสกองทัพหนูได้ นั่นก็เพียงพอแล้ว

 

แต่ใครมันจะไปคิดกันล่ะว่า ฉู่เซวียนจะร้ายกาจมาก ร้ายกาจถึงขั้นกุดหัวราชาหนูที่มีพลังรบอยู่ในเลเวล 5 ลงได้

 

“พลังรบของสหายฉู่ ยังคงสุดยอดเหมือนเดิม” เฉียวหลวนอดถอนหายใจไม่ได้

 

“สมกับเป็นเทพมรณะ พลังรบของเขาทรงพลังจริงๆ” แม้แต่เจิ้งสุ่ยที่เงียบขรึมมาโดยตลอดยังเอ่ยออกมาดังๆ

 

อันหยุนหลานไม่ได้พูด ทว่ายามมองไปยังฉู่เซวียน เธอคล้ายเกิดอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย

 

คงรู้ใช่ไหม ว่าหลังการระบาดของหายนะวันสิ้นโลก ผู้หญิงค่อนข้างตกที่นั่งลำบากมากกว่าผู้ชาย กว่าอันหยุนหลานจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเธอต้องเหนื่อยยากมากขนาดไหน

 

นั่นทำให้ในความคิดของเธอ หากอยากรอดชีวิต หนทางเดียวคือต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น

 

นั่นเป็นเหตุให้เธอปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่ไล่ตามจีบ

 

แต่เมื่อได้พบกับฉู่เซวียน หัวใจของอันหยุนหลานที่เงียบงันมาโดยตลอดกลับถูกกระตุ้น จนเธอรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตาม ฉู่เซวียนไม่ได้สนใจเธอ สมาธิของเขาขณะนี้ ทั้งหมดตกอยู่กับศพพวกหนูกลายพันธุ์เบื้องหน้าอย่างสิ้นเชิง

 

‘ระบบ ฟิวชั่นพวกมันทั้งหมด’ ฉู่เซวียนกล่าวในใจ

 

ต่อมา ศพของหนูกลายพันธุ์เลเวล 4 และราชาหนู ทุกตัวได้กลายเป็นจุดแสง ไหลเข้ามารวมในตัวฉู่เซวียน

 

เสียงระบบดดังก้องในใจเขา

 

“ฟิวชั่นสำเร็จ ได้รับค่าสเตตัสเพิ่มเติม ความว่องไว 3425 หน่วย , พละกำลัง 26564 หน่วย , ร่างกาย 21953 หน่วย , ค่าพลังจิต 62227 หน่วย , ได้รับอบิลิตี้ใหม่ : โล่ทองคำอมตะ”

 

“ปัจจุบันค่าสเตตัสทั้งหมดของเจ้าของร่างมีมากกว่า 10,000 หน่วย พัฒนาสู่เลเวล 5 ได้สำเร็จ ‘ภูมิคุ้มกันธาตุ’ ได้รับการอัพเกรดเป็น ‘ภูมิคุ้มกันธาตุขั้นกลาง’ : เจ้าของร่างสามารถต้านทานความเสียหาย 5% ที่เกิดจากการโจมตีด้วยธาตุ”

 

“เจ้าของร่างสามารถมาถึงเลเวล 5 ระบบจะเริ่มต้นอัปเกรดฟังก์ชั่นโดยอัตโนมัติ ระยะเวลาโดยประมาณ : 6 ชั่วโมง”

 

แม้เสียงที่ดังขึ้นเป็นชุดของระบบจะทำให้ ฉู่เซวียนอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังรบที่พุ่งสูงขึ้น ใบหน้าเขาก็อดแสดงออกถึงความสุขไม่ได้

 

แต่หลังจากจากขึ้นเป็นเลเวล 5 ระบบจะมีการอัพเกรดด้วยหรอ? ไม่เคยรู้มาก่อนเลยแฮะ

 

‘ระบบ … นี่ระบบ!’

 

หลังจากลองเรียกอยู่หลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ฉู่เซวียนก็ล้มเลิกความพยายาม รอให้มันอัพเกรดอย่างเงียบๆ

 

ในเวลานี้ เฉียวหลวนกับคนอื่นๆเดินมารวมกลุ่มกับฉู่เซวียน ในฐานะเบอร์เซิร์กเกอร์และผู้ใช้พลังธาตุดิน ร่างกายของเฉียวหลวนกับหยางเจิ้นแข็งแกร่งมาก อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการต่อสู้ครั้งก่อนสมานจนเกือบหายเป็นปกติแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเจิ้งสุ่ยกับอันหยุนหลานดูซีดเซียวเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าพลังจิตที่สูญเสียไปไม่ง่ายนักหากคิดฟื้นฟูในระยะเวลาสั้นๆ

 

“สหายฉู่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิต!”

 

ยกเว้นอันหยุนหลาน ผู้ชายสามคนในทีมประสานคือโค้งคำนับให้เขา

 

ฉู่เซวียนโบกมือ พูดอย่ามงไม่ใส่ใจว่า “ก็แค่เรื่องเล็กน้อย”

 

เห็นคนอื่นเอ่ยปากกันหมดแล้ว ใบหน้าของอันหยุนหลานแดงขึ้นเล็กน้อย เธอก้มหัวลง ไม่กล้ามองหน้า ฉู่เซวียนตรงๆ อึกอักไม่กล้าพูดซักที

 

เห็นภาพนี้ ฉู่เซวียนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย อันหยุนหลานที่สวยงามราวกับปีศาจสาว ไฉนจู่ๆถึงมีอากัปกริยาเช่นนี้ไปได้?

 

หยางเจิ้นหันไปขยิบตาให้ เฉียวหลวน เห็นได้ชัดว่าเขารู้ความรู้สึกของอันหยุนหลาน

 

ทั้งสองคนรู้จักกับอันหยุนหลานมานานแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกขบขันเมื่อเห็นหญิงแกร่งอย่างเธอแสดงท่าทีขวยเขินเหมือนหญิงสาวตัวเล็กๆ

 

เฉียวหลวนอดกลอกตาใส่หยางเจิ้นไม่ได้ นั่นเพราะเขารู้ดี ว่าในใจของฉู่เซวียน เวลานี้ทั้งหมดอยู่กับแฟนสาวของเขา

 

ความรู้สึกในช่วงเวลาสั้นๆของอันหยุนหลาน ได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องพบกับความผิดหวัง