3/8

 

Ep.103

 

ตรงข้ามกับคนอื่นๆที่มีท่าทีตึงเครียด ฉู่เซวียนเผยยิ้มออกมา เอ่ยปากว่า “ทุกคนไม่ต้องกังวล ด้วยพลังรบของพวกเรา กระแสฝูงสัตว์กลายพันธุ์ไม่น่าจะยากเกินรับมือ”

 

ระหว่างพูด สัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่นๆที่ตามเสือกลายพันธุ์มาจากเบื้องหลัง ก็วิ่งมาถึงพวกเขาพอดี

 

แต่ ณ เวลานี้ทุกคนเตรียมตัวรับมือกันมานานแล้ว เห็นศัตรูบุกเข้ามาทั้งหมดก็โจมตีพร้อมกันทันที สัตว์กลายพันธุ์หลายตัวถูกระเบิดตัวแตกตายในการโจมตีเดียว

 

ช่วงเวลานี้ เสียงโหยหวนน่าสังเวชนับไม่ถ้วนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในป่าทึบฉุนไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอันเข้มข้น

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีสัตว์กลายพันธุ์หลายตัวรอดพ้นจากการโจมตีมาได้ วิ่งผ่านกลุ่มของพวกฉู่เซวียนไป

 

จากนั้น เกิดเสียงกรีดร้องของมนุษย์ดังแว่วเข้ามาจากเบื้องหลัง คิดว่าคงเป็นพวกผู้ใช้พลังที่ลอบตามมาแล้วต้องตายลงภายใต้คมเขี้ยวของสัตว์กลายพันธุ์

 

ทว่ากลุ่มของฉู่เซวียนไม่มีใครสนใจเสียงเหล่านั้นเลย เวลานี้สมาธิของพวกเขาทั้งหมดจมอยู่กับการต่อสู้เบื้องหน้า

 

เห็นแค่เพียงมีดบินหลายเล่มลอยอยู่รอบตัวอันหยุนหลาน คอยเก็บเกี่ยวชีวิตสัตว์กลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง

 

เจิ้งสุ่ยเป็นผู้ใช้กระบี่ เขากวัดแกว่งอาวุธในมือ และทุกครั้งสามารถเจาะผ่านลำคอของสัตว์กลายพันธุ์ได้อย่างแม่นยำ

 

ส่วนทางด้านเฉียวหลวนกับหยางเจิ้น ทั้งคู่ประสานงานกันได้เป็นอย่างดี เบอร์เซิร์กเกอร์คนหนึ่งทำหน้าที่เป็นกำลังหลักในการต่อสู้ ผู้ใช้พลังธาตุดินอีกคนทำหน้าที่เป็นนักรบ พริบตาเดียวมีสัตว์กลายพันธุ์นับไม่ถ้วนตกตายภายใต้เงื้อมมือพวกเขา

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับคนพวกนี้แล้ว ลวดลายการต่อสู้ของฉู่เซวียนดูโหด ดิบ เถื่อนกว่ามาก

 

เขากระโจนเข้าไปกลางฝูงกระแสสัตว์กลายพันธุ์โดยตรง และมุ่งเป้าไปที่สัตว์กลายพันธุ์เลเวล 4

 

และทุกครั้งที่เงาโลหิตเชือดเฉือน จะมีสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 4 จบชีวิตลง

 

จนตอนนี้ร่างของฉู่เซวียนปกคลุมไปด้วยเลือด กลิ่นอายของความกระหายเลือดและบ้าคลั่งปกคลุมรอบตัวเขา

 

เมื่อไม่มีศัตรูเลเวล 5 สามารถเรียกได้เลยว่าฉู่เซวียนเป็นสิ่งมีชีวิตไร้เทียมทานท่ามกลางกระแสสัตว์กลายพันธุ์ฝูงนี้

 

แม้ยังไม่ได้เปิดโหมดคลุ้มคลั่ง แต่ฉู่เซวียนก็ลงมือฆ่าไม่หยุด ธรรมชาติของซอมบี้ปะทุออกมาอย่างเต็มที่

 

ฆ่า ฆ่า ฆ่า!

 

ชั่วขณะนี้ นั่นคือความคิดเดียวที่อยู่ในหัวฉู่เซวียน

 

สัตว์กลายพันธุ์นับไม่ถ้วนจบชีวิตลงด้วยเงาโลหิต

 

ฟิวชั่น! ฟิวชั่น! ฟิวชั่น!

 

ศพสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 4 ทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นจุดแสง ไหลเข้ามาในร่างฉู่เซวียน พลังรบของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วที่มองเห็นได้

 

ตั้งแต่ต้นจนจบ กล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลย ว่าแค่ฉู่เซวียนคนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะรับมือกับกระแสสัตว์กลายพันธุ์ฝูงนี้ เขาเป็นเสมือนดั่งแนวปะการังท่ามกลางพายุฝน แม้ถูกกระแสคลื่นทะเลซัดสาด ก็ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว!

 

บนพื้นรอบกายฉู่เซวียนเจิ่งนองไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม ซากศพของพวกเลเวลต่ำเริ่มกองสุมกัน

 

เฉียวหลวนกับอีกสามคนหยุดสู้ไปตั้งนานแล้ว พวกเขามองมายัง ฉู่เซวียนด้วยสายตาตกตะลึง

 

“นี่สหายฉู่ … ออกจะดูป่าเถื่อนไปหน่อยไหม?” หยางเจิ้นกลืนน้ำลายเขา พึมพำเสียงกระซิบ

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นผู้ใช้พลังพัฒนาขึ้นทุกครั้งระหว่างการต่อสู้ แถมดูเหมือนว่ายิ่งนาน การต่อสู้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น อีกทั้งฉู่เซวียนดูไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด

 

ใบหน้าทรงเสน่ห์ของอันหยุนหลานซีดขาวลงเล็กน้อย เวลานี้เธอแทบไม่กล้ามองหน้าฉู่เซวียน

 

เธอยังจำคำพูดหยอกเย้าฉู่เซวียนระหว่างทางได้

 

เมื่อย้อนนึกไป อันหยุนหลานรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

 

‘ไม่นึกเลยว่าน้องชายตัวน้อยที่ดูใจดีคนนั้น เวลาสู้จะเป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่าจากนี้ไปคงต้องอยู่ให้ห่างจากเขาหน่อยแล้ว’

 

เมื่อสัตว์กลายพันธุ์ตัวสุดท้ายจบชีวิตลงภายใต้เงาโลหิต ในที่สุดฉู่เซวียนก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง

 

“อ้าว หมดซะแล้วหรอ? ” ฉู่เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ

 

ได้ยินแบบนั้น มุมปาของทุกคนอดกระตุกไม่ได้

 

พี่ชาย … นายเล่นฆ่าสัตว์กลายพันธุ์หลายร้อยตัวด้วยตัวเอง แถมยังมีพวกเลเวล 4 อีกเป็นสิบๆตัวจบชีวิตลงด้วยฝีมือนาย ถึงขนาดนี้แล้วยังพูดว่าหมดซะแล้วอีกหรอ?

 

4/8

 

Ep.104

 

‘ระบบ ขอดูค่าสเตตัสของฉันตอนนี้หน่อย’ ฉู่เซวียนปรับอารมณ์ เอ่ยขึ้นในใจ

 

“ระบบไฮเปอร์ฟิวชั่น

 

เจ้าของร่าง : ฉู่เซวียน

 

สถานะ : ซอมบี้

 

แร็งค์ : เลเวล 4

 

ความว่องไว : 9423 , พละกำลัง : 17476 , ร่างกาย : 15632 , ค่าพลังจิต:8243

 

อบิลิตี้ : ใบมีดกระดูก , พลังควบคุมจิตใจ , ภูมิคุ้มกันทางจิต , คลุ้มคลั่ง , ภูมิคุ้มกันธาตุ , คำสาปรัตติกาล , ผ่ามิติ , ปกปักษ์ไร้เงื่อนไข

 

ไอเท็ม : ดาบเลเซอร์ , เงาโลหิต”

 

หน้าต่างโปร่งใสปรากฏขึ้นเบื้องหน้าฉู่เซวียน แสดงค่าสเตตัสปัจจุบันของเขา

 

จะเห็นได้ว่าค่าพละกำลังและร่างกายตอนนี้ทะลุหลักหมื่นขึ้นไปแล้ว

 

อาจกล่าวได้ว่าฉู่เซวียนในตอนนี้ แม้ตัวเขายังอยู่ในเลเวล 4 แต่พลังรบนั้นเทียบได้เลยกับผู้ใช้พลังเลเวล 5 ขั้นต้น และเมื่อบวกกับอบิลิตี้ต่างๆที่มี ก็มากพอแล้วที่จะต่อกรกับซอมบี้ลอร์ดขั้นตั้นหรือเทพสงครามขั้นต้น!

 

สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรงกว่าเดิมเกือบสองเท่าของฉู่เซวียน คนอื่นๆในทีมอดหวั่นไหวไม่ได้

 

ความสามารถในการกลืนกินศัตรูอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาพลังรบ อบิลิตี้ของเทพมรณะทรงพลังอย่างที่เล่าลือกันจริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม ฉู่เซวียนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะเขายังฆ่าไม่พอ

 

เนื่องจากการมีอยู่ของทักษะกระหายเลือดจากเงาโลหิต มันทำให้เขาได้รับพลังงานที่เสียไปกลับมา กล่าวคือตราบใดที่จิตใจของฉู่เซวียนยังสู้ไหว เขาก็สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไล่ฆ่าได้ไม่มีที่สิ้นสุด

 

ฉู่เซวียนหันกลับมา ยิ้มให้คนอื่นๆในทีม เผยให้เห็นฟันขาวๆในปากเขา

 

เวลานี้เขาอารมณ์ดีมาก หลังจากฟิวชั่นกับสัตว์กลายพันธุ์เลเวล 4 ไปหลายสิบตัว พลังรบของเขาสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อีกนิดเดียวก็สามารถกระโดดขึ้นเป็นเลเวล 5 ได้แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เห็นรอยยิ้มของฉู่เซวียน คนอื่นๆเผลอชักฝีเท้าถอยโดยไม่รู้ตัว จับจ้องเขาด้วยสีหน้าหวาดระแวง

 

“เฮ้ เฮ ้ผมไม่ใช่สัตว์กลายพันธุ์ซะหน่อย พวกคุณจะหนีกันทำไม?” ฉู่เซวียนเห็นภาพนี้ กลับเอ่ยปากพูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน

 

หลายคนพอได้ฟังก็อดกลอกตาไม่ได้

 

นายไม่ใช่สัตว์กลายพันธุ์ แต่ดุร้ายยิ่งกว่าสัตว์กลายพันธุ์ซะอีกรู้ตัวไหม?

 

สุดท้ายเป็นเฉียวหลวนที่ได้สติกลับมาเร็วสุด เขากระแอมเบาๆ ระงับความกระอักกระอ่วนก่อนหน้านี้แล้วพูดว่า “สหายฉู่ นายสังเกตเห็นความผิดปกติในกระแสสัตว์กลายพันธุ์นี่บ้างไหม?”

 

“สังเกตเห็นแน่นอน” ฉู่เซวียนพยักหน้า เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “สัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ เอาจริงๆเหมือนไม่มีความคิดที่จะสู้เลย เหมือนกับว่าพวกมันกลัวอะไรบางอย่าง ”

 

ฉู่เซวียนลองนึกๆดู ก็ได้ข้อสรุปว่า “เหมือนกับว่า … พวกมันกำลังหนีเอาชีวิตรอด”

 

“ถูกต้อง” เฉียวหลวนพยักหน้า “หรือก็คือ เบื้องหลังกระแสสัตว์กลายพันธุ์นี้ มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้พวกมันรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง ”

 

“พื้นที่รกร้างเป็นอาณาเขตของสัตว์กลายพันธุ์ พวกมันยังมีอะไรให้กลัวอีก?” หยางเจิ้นกล่าวเสียงขรึม

 

“เท่าที่ฉันนึกออก มีแค่อย่างเดียวเท่านั้น” เฉียวหลวนสูดหายใจลึก

 

“กระแสกองทัพหนู!”

 

ยังไม่ทันสิ้นเสียง เสียงกรอบแกรบเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

 

จากนั้น ท่ามกลางสายตาแตกตื่นของฝูงชน หนูกลายพันธุ์นับไม่ถ้วนที่มองไกลๆราวกับจุดดำมหาศาลวิ่งตรงเข้ามา พืชพรรณที่ขวางทางถูกโค่นลง กัดกินไม่เหลือซาก

 

หนูกลายพันธุ์เหล่านี้ส่วนใหญ่มีพลังรบอยู่ในเลเวล 1 2 และ 3 ในบรรดาพวกมัน มีเลเวล 4 แค่หลักสิบตัวเท่านั้นเอง

 

และท่ามกลางกระแสกองทัพหนู จะมีหนูตัวหนึ่งที่มีความยาวประมาณหนึ่งเมตร มันคือหนูตัวใหญ่ที่สุด มีขนสีทองอยู่ทั่วตัว ดวงตาแดงก่ำ สะท้อนถึงความโหดร้ายทารุณ

 

เห็นภาพนี้ นอกจากฉู่เซวียนแล้ว สีหน้าของสมาชิกทีมทั้งสี่ที่เหลือกลายเป็นซีดเผือดทันที