5/10

 

Ep.1005

 

ได้รับคำตอบจาก [รถศึกอัจฉริยะ] ซูเฉินค่อยคลายใจลง

 

หากปรากฏตัวตนที่เหนือกว่าระดับเทวะขั้น 5 ขึ้นมา แล้วพวกเขาต้านไม่ไหว อย่างมากก็แค่ข้ามเขตแดนหลบหนีไปซะ

 

ซูเฉินหันไปถามชายชราชุดหนังสัตว์ว่า “สัตว์อสูรและหุ่นเชิดที่ทรงพลังที่สุดในที่นี้อยู่ในขั้นไหน?”

 

“มีกิเลนเนตรสีชาดระดับเทวะขั้น 4 นอกจากนี้ยังมีหุ่นเชิดระดับเทวะขั้น 3 อีกด้วย” ชายชราชุดหนังสัตว์สารภาพตามจริง

 

สองพี่น้องตระกูลฉีตกใจ

 

สัตว์อสูรระดับเทวะขั้น 4 ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถต่อกรได้ ยิ่งปัจจุบันอยู่ในสถานะถูกลดขั้นเป็นคนธรรมดา ความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือสัตว์เลี้ยงวิญญาณของซูเฉิน

 

อย่างไรก็ตาม สัตว์เลี้ยงวิญญาณของซูเฉินเป็นเพียงระดับเทวะขั้น 1 เท่านั้น แม้ทั้งสี่จะร่วมมือกัน ก็ไม่ใช่คู่มือของสัตว์อสูรระดับเทวะขั้น 4 อยู่ดี

 

ณ ขณะนี้ ในหัวใจของสองพี่น้องเริ่มกระสับกระส่ายเล็กน้อย เกิดความรู้สึกต้องการจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

 

แน่นอน พวกเขาจะได้ออกไปหรือไม่ ต้องให้ซูเฉินเป็นคนตัดสินใจ

 

ระดับเทวะขั้น 4 …

 

ซูเฉินพึมพำเสียงกระซิบ

 

หากศัตรูมีกำลังรบอยู่เพียงเท่านี้ ด้วยหุ่นเชิดทองคำและอสูรเทพปลุกพลัง ย่อมสามารถรับมือได้ เสริมด้วยสัตว์เลี้ยงวิญญาณตัวอื่นๆของเขา ไม่ใช่ว่าสามารถท่องไปทั่วที่นี่ได้อย่างอิสระหรอกหรือ?

 

ยังไงก็ตาม สิ่งที่อีกฝ่ายพูดจะเป็นความจริงหรือไม่ ยังต้องได้รับการยืนยันอีกที

 

ซูเฉินสื่อสารกับ [รถศึกอัจฉริยะ]

 

“เสี่ยวจือ สแกนหาที ที่นี่มีสัตว์อสูรและหุ่นเชิดอยู่ทั้งหมดกี่ตัว และตัวไหนแข็งแกร่งที่สุด ”

 

ไม่นาน [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ให้คำตอบ “เจ้านาย มีสัตว์อสูรระดับเทวะขั้น 1 อยู่สิบตัว และสัตว์อสูรระดับเทวะขั้น 4 อีกหนึ่งตัว นอกจากนี้ยังมีหุ่นเชิดอีกสองตัว ตัวแรกอยู่ในระดับเทวะขั้น 1 อีกตัวอยู่ในระดับเทวะขั้น 3”

 

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นส่งสายตาไปให้หงส์เพลิง

 

สัญญาณนี้เป็นที่เข้าใจกันดี ว่าชายชราชุดหนังสัตว์ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว

 

หงส์เพลิงเข้าใจทันที ใช้กรงเล็บกดชายชราลงไปในดิน บดขยี้เป็นเนื้อเหลวโดยตรง

 

ซูเฉินรวบรวมชิ้นส่วนที่ดรอป จากนั้นเรียก [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา เรียกฉีมู่เฟิงและฉีมู่เล่ยขึ้นรถ

 

“ซูเฉิน พวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ?”

 

พอขึ้นไป ฉีมู่เฟิงเอ่ยถาม

 

ซูเฉินชี้ไปบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง เอ่ยเสียงเรียบว่า “ไปที่นั่น ก่อนอื่นต้องจัดการอสูรเทวะขั้น 4 แล้วที่เหลือค่อยว่ากัน”

 

บนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง แสดงภาพบริเวณตีนเขา ว่ามีสิ่งมีชีวิตรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แล้วอีกอย่าง อสูรเทวะและหุ่นเชิดเองก็อยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน

 

นั่นคือเหตุผลที่ซูเฉินอยากไป เพราะนอกจากการสังหารอสูรเทวะแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญอีกอย่าง

 

ตามที่นกสำรวจได้บอกไว้ หัวใจจักรกลและแร่อื่นๆ มันมาจากภูเขาลูกนี้

 

สังหารอสูรเทวะขั้น 4?

 

สีหน้าของสองพี่น้องตระกูลฉีแปรเปลี่ยนไป เหม่อมองซูเฉินด้วยความว่างเปล่า พูดไม่ออกไปชั่วขณะ

 

หากฐานฝึกตนไม่หายไป ซูเฉินจะกล่าวแบบนี้พวกเขาไม่มีปัญหาเลย แต่ปัจจุบันขอแค่หุ่นเชิดระดับเทวะขั้น 1 ก็สามารถฆ่าพวกเขาได้แล้ว ทำแบบนี้ไม่เท่ากับส่งแกะเข้าปากเสือหรอ?

 

ขณะที่ฉีมู่เฟิงกำลังเข้าเกลี้ยกล่อม ซูเฉินชิงพูดก่อน

 

“วางใจเถอะ ฉันมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม”

 

จริงๆน่ะหรือ?

 

ฉีมู่เฟิงไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อซูเฉิน ซูเฉินไม่เคยพูดอะไรพล่อยๆ

 

เป็นไปได้ไหมว่าซูเฉินจะมีไพ่ตายอยู่จริงๆ?

 

เมื่อนึกทบทวนถึงลูกเล่นมากมายของซูเฉิน บวกกับการสร้างปาฏิหาริย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉีมู่เฟิงก็ไม่กล่าวอะไรอีก

 

“เสี่ยวจือ ไปที่ตีนเขา” ซูเฉินออกคำสั่ง

 

“รับทราบ” [รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่มความเร็ว พุ่งตรงไปยังตีนเขาปานสายฟ้าแลบ

 

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา มันได้ปรากฏตัวขึ้นหน้าตีนเขาเป็นที่เรียบร้อย

 

เหล่าสัตว์อสูรที่เฝ้ายาม หลังจากเห็น [รถศึกอัจฉริยะ] ก็กระจายกันปิดล้อมทันที

 

6/10

 

Ep.1006

 

“เจ้าพวกคนบนรถ จะยอมไสหัวออกมาดีๆ หรือจะให้บุกเข้าไปกุดหัว!”

 

ชายชราจมูกงองุ้มเหมือนเหยี่ยวกวาดสายตาสำรวจ [รถศึกอัจฉริยะ] ตะโกนเสียงดัง

 

[รถศึกอัจฉริยะ] ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน แม้นี่จะทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับเก็บมาวิเคราะห์หาสาเหตุหรือฉุกใจคิดใดๆ

 

เอี๊ยดดดดดด!

 

หลังจากที่ประตูรถเปิดออก ซูเฉินก้าวออกมายืนอยู่หน้าประตู แต่ไม่ได้ลงจากรถ

 

ปัจจุบันเขาสูญเสียฐานฝึกตน หากก้าวลงไป แล้วถูกโจมตีขึ้นมา มีโอกาสสูงที่จะตายในไม่กี่วินาที อย่างน้อยใน [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ยังพอรับรองความปลอดภัยแก่เขา

 

ซูเฉินหรี่ตาและกวาดมองออกไป เมื่อเบนไปเห็นหุ่นเชิดที่อยู่ข้างๆชายชราจมูกงุ้ม ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันที

 

เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าหุ่นเชิดตัวนี้มีขนาดประมาณ 20 เซนติเมตรเท่านั้น เหมือนเป็นแค่ของเล่น

 

ทว่า เขามั่นใจเต็มเปี่ยม หุ่นเชิดตัวนั้นต้องเป็นของเผ่าจักรกลแน่ๆ เพราะหุ่นสามตัวที่เขาได้มาก่อนหน้านี้ ก็มีลักษณะแบบเดียวกัน

 

“เจ้าหนู ยังไม่รีบไสหัวลงมาอีก หรือจะให้ข้าต้องลงมือ!”

 

เมื่อเห็นซูเฉินยังยืนเฉย ใบหน้าของชายชราจมูกงุ้มเริ่มปรากฏหมอกควัน ตวาดเสียงเย็น

 

ทันทีที่เขาพูดจบ สัตว์อสูรที่กระจายกันล้อมรอบพากันส่งเสียงคำรามออกมา คล้ายกำลังสื่อว่า หากซูเฉินไม่ปฏิบัติตาม จะถูกพวกมันฉีกเป็นชิ้นๆ

 

“ไอ้แก่ คิดหรือว่าอาศัยแค่อสูรขยะไม่กี่ตัวจะขู่ฉันได้?”

 

ซูเฉินเบ้ปาก เอ่ยเยาะเย้ยเหยียดหยาม

 

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา บรรดาผู้เห็นเหตุการณ์จากระยะไกลต่างพากันทอดถอนหายใจ

 

“เจ้าเด็กนั่นจบสิ้นแล้ว โชคร้ายจริงๆ”

 

พวกเขาต่างคิดเห็นตรงกัน ว่าซูเฉินคงยังไม่สังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาดของสถานที่แห่งนี้ รอจนรู้ตัวว่าตัวเองสูญเสียฐานฝึกตนไป เกรงว่าคงสายเกินไปแล้วที่จะกลับใจ

 

คำพูดของซูเฉิน ได้กระตุ้นความโกรธของชายชราขึ้นมาแล้ว

 

ด้วยอุปนิสัยของชายชราจมูกงุ้ม เขาจะทำให้ซูเฉินมีชีวิตอยู่ไม่สู้ยอมตายอย่างแน่นอน!

 

“ฮะ ฮ่า … ”

 

ชายชราจมูกงุ้มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นน่าหวาดกลัว ขบฟันแน่นคำรามเสียงต่ำ

 

“เจ้าหนู ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้!”

 

สิ้นเสียง เขาออกคำสั่งแก่อสูรเสือดาวระดับเทวะว่า “ไปจับตัวมันมา ขอแบบเป็นๆ!”

 

โฮกกกกก!

 

อสูรเสือดาวแยกเขี้ยวคำราม กระโจนเข้าใส่ซูเฉิน

 

ซูเฉินยิ้มดูแคลน สะบัดข้อมือคราหนึ่ง เห็นแค่เพียงแสงสีทองกระพริบวาบ

 

ภายนอก [รถศึกอัจฉริยะ] แมลงสีทองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน เป็นด้วงเขมือบทองคำ

 

“แมลงอสูรระดับเทวะ!”

 

เสียงอุทานดังขึ้นจากรอบด้าน

 

อสูรเสือดาวเมื่อเห็นด้วงเขมือบทองคำ แวบแรกมันอึ้งไป แต่ไม่นานก็โผเข้ากัดอย่างดุร้าย

 

ดวงตาของด้วงเขมือบทองคำเต็มไปด้วยความดูแคลน มันลอยนิ่งไม่ไหวติง ปล่อยให้อสูรเสือดาวพุ่งเข้ามา

 

หวาดกลัวจนโง่งมไปแล้วหรือ?

 

มองไปยังด้วงเขมือบทองคำที่ลอยตะลึงงันอยู่กับที่ ฝูงชนรอบด้านต่างพากันสงสัย ว่าคงมิใช่หวาดกลัวอสูรเสือดาวจนโง่งมไปแล้วหรอกนะ?

 

แต่ฉากที่ปรากฏขึ้นในเวลาต่อมา มันทำให้ทุกคนต้องตะลึงจนอ้าปากค้าง!

 

เห็นแค่เพียงอสูรเสือดาวระดับเทวะอ้าปากงับมัน ทว่าราวกับกัดเข้ากับหินแข็ง ฟันร่วงหักนับสิบๆซี่

 

ชายชราจมูกงุ้มเห็นสิ่งนี้ หางตาเขากระตุกอย่างรุนแรง ร้องตะโกนว่า “พวกเจ้าไป! ร่วมมือกันฆ่าแมลงอสูรตนนั้นซะ!”

 

ความแข็งแกร่งของด้วงเขมือบทองคำ มันเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก ทั้งยังตระหนักได้ทันที ว่าอสูรเสือดาวระดับเทวะตัวเดียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของด้วงเขมือบทองคำ

 

ขณะที่สัตว์อสูรตัวอื่นกำลังวิ่งเข้ามา ซูเฉินสะบัดข้อมืออีกหลายครั้ง

 

หงส์เพลิง , เต่าทรราชปราณฟ้า และ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] พุ่งออกมา เข้ารับมือกับเหล่าสัตว์อสูร

 

“ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงมีสัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับเทวะมากมายขนาดนี้!”

 

“แถมสัตว์เลี้ยงวิญญาณแต่ละตัวยังทรงพลังมาก!”

 

เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นจากรอบด้านอีกครั้ง

 

สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณของซูเฉิน ครอบครองพลังในการต่อสู้มากเป็นพิเศษ แต่ละตัวล้วนแกร่งกว่าในลำดับชั้นเดียวกัน

 

ชั่วพริบตาเดียวสัตว์อสูรหลายตัวถูกสังหารตายคาที่

 

เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เกรงว่าใช้เวลาไม่ถึงนาที สัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับเทวะนับสิบตัวของชายชราจมูกงุ้มคงถูกสังหารจนหมด!