บทที่ 95 วิทยายุทธตระกูลเย่
สำหรับของบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในบ้านหลังนี้ เย่เฟิงมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ที่เขามาถึงยังโลกแห่งนี้
หลังจากกินบะหมี่หมด เย่เวิ่นเทียนลุกขึ้นและเดินขึ้นไปยังห้องน้ำชัั้นบน
“สาวน้อยเธอสามารถมาขึ้นพร้อมกับพวกเราได้ แต่ต้องจำไว้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของตระกูลเย่ จะต้องไม่แพรงพลายเรื่องนี้ออกไปข้างนอกเข้าใจไหม?”
คำอนุญาติของเย่เวิ่นเทียนทำให้เย่เฟิงและซูเหมิงหานดีใจอย่างยิ่ง
คำพูดของชายชราหมายความได้ว่าเธอถือเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลเย่แล้วใช่ไหม? รวมทั้งเขายังยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่เฟิงด้วย แล้วเรื่องของคุณหนูตระกูลหลินที่เป็นคู่หมั้นของเย่เฟิงล่ะ?
อย่างไรก็ตาม ซูเหมิงหานไม่อยากจะคิดมากเรื่องนี้ เพราะเวลานี้ เด็กสาวดีใจอย่างยิ่งที่เห็นปู่ของเย่เฟิงยอมรับเธอ
เดิมที ซูเหมิงหานอยู่ในสถานะไร้ที่พึ่ง ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่บ้านเย่เฟิง แต่เด็กสาวไม่เคยรู้สึกถึงความเป็นครอบครัว สำหรับเธอ มันไม่ต่างกับการมาขออาศับอยู่บ้านคนอื่น ซึ่งบ่อยครั้งที่เด็กสาวจะรู้สึกอึดอัดในใจ
แต่ตอนนี้ หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิงเวิ่นเทียน ความกังวลของเธอที่อยู่ในใจได้มลายหายไปในทันที
เมื่อซูเหมิงหานแอบมองไปยังเย่เฟิง ใบหน้าของเด็กสาวก็แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
ตระกูลเย่ของพวกเรา……
เย่เฟิงเกาหัว ก่อนจะจูงมือเด็กสาวและเดินตามปู่ของเขาไป
สำหรับความคิดของเย่เวิ่นเทียน เย่เฟิงเดาถูกต้องอยู่อย่างสองอย่าง ปู่ของเขาต้องการให้ตระกูลเย่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งในกรณีนี้ ลำพังแค่เย่เฟิงคนเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้
ก่อนหน้านี้ ที่เย่เวิ่นเทียนพูดว่าชื่นชอบซูเหมิงหานเพราะเขาแค่อยากเอาชนะใจเธอ แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่เคยเชื่อว่าชายชราคนนี้จะไม่ตรวจสอบเบื้องหลังของซูเหมิงหานก่อนได้พบกับเธอ และเขาย่อมรู้สถานการณ์ปัจจุบันของเด็กสาวเป็นอย่างดี
บางที ที่เย่เวิ่นเทียนคิดแบบนี้เพราะชายชราอยากให้เย่เฟิงมีภรรยาหลายคน เพื่อจะให้กำเนิดลูกหลานมากมาย ซึ่งมันจะช่วยให้ตระกูลเย่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
และแน่นอนว่าหากเย่เฟิงทำแบบนั้นจริงก็ย่อมไม่มีปัญหาอะไร
ถึงแม้โลกใบนี้จะมีกฏหมายให้คนทั่วไปมีสามีหรือภรรยาคนเดียว แต่ในโลกยุทธภพ ผู้คนมักไม่ค่อยสนใจกฏหมายของโลก ยกตัวอย่างเช่น เมื่อ20ปีก่อน ตระกูลเย่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ หรือเมื่อ10ปีก่อน หน้าบากต้องประสบกับโศกนาฏกรรมอันใหญ่หลวง และแม้แต่ที่ภูเขาฉางไป่เมื่อเร็วๆนี้ ก็มีผู้คนมากมายที่ได้ตายไป ซึ่งกฏหมายในโลกก็ไม่อาจทำอะไรได้
เรื่องต่างๆส่วนใหญ่ของประเทศนี้ยังคงขึ้นกับอิทธิพลของคนๆนั้น ซึ่งหากเย่เฟิงแข็งแกร่งจริง การที่เขาจะมีภรรยาหลายคน ก็ไม่มีใครในประเทศนี้กล้าตำหนิเขาได้
………….
เมื่อทั้งสามคนเดินขึ้นไปถึงชั้นบนของบ้าน เย่เวิ่นเทียนปล่อยหมัดใส่ประตูห้องน้ำก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน เมื่อภาพภายในห้องปรากฏต่อสายตาของหนุ่มสาวทั้งสอง พวกเขาก็มองเห็นชั้นหนังสือที่มีหนังสือเก็บไว้มากมายและเต็มไปด้วยฝุ่น
ชัดเจนว่าที่นี่ไม่มีใครเข้ามาใช้เป็นเวลานานมาก และมันต้องเก็บของสำคัญบางอย่างเอาไว้ สังเกตได้จากเย่เวิ่นเทียนรู้สึกกังวลมากและรีบกลับมาที่นี่ทันทีเมื่อได้ยินเย่เฟิงบอกว่ามีโจรอยู่ในบ้าน
เย่เฟิงมองไปทั่วชั้นหนังสือและพบว่าพวกมันเป็นแค่หนังสือธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้น เขาเข้าใจว่าในหมู่หนังสือเหล่านี้ต้องมีสิ่งล้ำค่าอย่างเช่นวิทยายุทธที่หายากรวมอยู่ด้วยแน่นอน
จากกองหนังสือ เย่เวิ่นเทียนหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่ดูธรรมดาออกมา แต่เมื่อมองดูให้ดี มันดูเหมือนกับหนังสือโบราณที่มีลวดลาย และบนหน้าปกมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า “ทักษะจิตผสานฟ้า ตระกูลเย่”
“นี่คือพื้นฐานของตระกูลเย่ของเรา ขั้นแรกของการบ่มเพาะกำลังภายใน ‘ทักษะจิตผสานฟ้า’ ”
เย่เวิ่นเทียนถอนหายใจ “โลกเราตอนนี้ มีทักษะการบ่มเพาะกำลังภายในขั้นเริ่มต้นอยู่มาก ถึงอย่างนั้น ความเร็วในการฝึกก็ไม่ได้แตกต่างกันมากมาย ซึ่งในอดีตมีทักษะการบ่มเพาะกำลังภายในขั้นกลางที่มีความเร็วในการฝึกสูงเป็นสองเท่าของคนทั่วไป และหากเป็นทักษะการบ่มเพาะกำลังภายในขั้นสูง ความเร็วในการฝึกก็จะสูงกว่านี้อีกหลายเท่า……”
ความเร็วสองเท่าในการฝึก หมายความว่าการฝึกทักษะการบ่มเพาะกำลังภายในหนึ่งปี ระดับวรยุทธ์จะเพิ่มขึ้นถึงสองปี! หากเป็นทักษะการบ่มเพาะกำลังภายในขั้นสูง มันจะไม่แปลกเลยที่การฝึกฝนเพียงแค่ 10 ปี จะเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้ถึง 100 ปี
เย่เฟิงฟังและพยักหน้าขณะคิดว่าทักษะนี้เกือบคลายทักษะ ‘จิตแห่งเซียน’ในโลกเทวะ
ในเวลาที่เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งอาจารย์ของเขายังอยู่ในสำนักสุสานดารา ที่นั่นมีเพียงทักษะจิตแห่งเซียนขั้นแรก ถึงอย่างนั้น โม่จิ่วเกออาศัยอยู่ที่หนานหลิงซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของตระกูลโม่ และที่ตระกูลโม่นั้นมีทักษะจิตแห่งเซียนขั้นกลางซึ่งช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้เร็วกว่าคนทั่วไปถึงสองเท่า
“เย่เฟิง หากแกได้ฝึกทักษะการบ่มเพาะกำลังภายในของปรมาจารย์เกาเหรินเหวยแล้ว ทักษะจิตผสานฟ้าก็ยังไม่จำเป็นสำหรับแกอีก”
เย่เวิ่นเทียนพูด ขณะถือหนังสือทักษะจิตผสานฟ้าของตระกูลเย่ไว้ในมือ ราวกับเป็นการล่อใจซูเหมิงหาน “สาวน้อย อยากได้นี่ไหม ฉันเห็นเธอสั่นไปทั้งตัวเลย…….”
“แค่ก แค่ก นี่ปู่ เธอก็ฝึกทักษะบ่มเพาะของสำนักอาจารย์ผมด้วย ดังนั้น เธอก็ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะจิตผสานฟ้าหรอก”
เย่เฟิงกระแอม แล้วรีบพูดเตือนชายชรา
“อ้าวหรอ?”
เย่เวิ่นเทียนขมวดคิ้วแล้วรีบถอนหนังสือหายากกลับไป เขายื่นมือมาจับข้อมือของซูเหมิงหานแล้วรู้สึกถึงอย่างไรบางอย่าง
ความจริง กระแสพลังประหลาดไหลเวียนอยู่ในร่างของเด็กสาว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเธอได้เริ่มฝีกวรยุทธ์แล้ว ถึงแม้ว่าพลังที่ไหลเวียนอยู่นี่จะแปลกมากและดูไม่เหมือนพลังชี่ภายใน แต่เย่เวิ่นเทียนก็ไม่ได้สนใจ
ในโลกยุทธภพนี่มีทักษะการบ่มเพาะอยู่มากมายที่มีคุณลักษณะต่างกัน ดังนั้น ความรู้สึกจึงต่างกันด้วยเช่นกัน
“โอเค โอเค ฉันจะเก็บหนังสือทักษะจิตผสานฟ้าในที่นี่ แล้วค่อยคุยเรื่องนี้กันวันหลัง”
เย่เวิ่นเทียนส่ายหัว เขาเก็บหนังสือเข้าไปในมุมของชั้นหนังสือแล้วเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับเย่เฟิงและซูเหมิงหานที่เดินตามไป
จากนั้น พวกเขาได้มายังห้องนอนของเย่เฟิง ซึ่งเป็นห้องนอนของซูเหมิงหานในตอนนี้ เดิมที ที่ห้องตรงกันข้ามจะมีอยู่อีกหนึ่งเตียง แต่ตอนนี้มันถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น และมีกองหนังสือวางระเกะระกะไปทั่วทั้งห้อง มันดูเหมือนกับมีใครสักคนที่ขี้เกียจเก็บหนังสือเหล่านี้มาวางบนชั้น
ที่ห้องนั้น ชายชราได้เข้าไปก่อนเพื่อต้องการจะมองหาบางสิ่ง และไม่นาน เขาพบหนังสือเล่มที่ต้องการแล้วจึงหัวเราะขึ้นมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้แกจะไม่ใช้ทักษะจิตผสานฟ้าของตระกูลเย่ แต่ก็ยังมีทักษะอีกอยู่อีก นี่คือทักษะที่มีชื่อว่า ‘กรงเล็บมังกร’ ซึ่งกำเนิดมาจากสำนักผู้ฝึกยุทธ์ ถึงอย่างนั้น ปู่ของฉันได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการไหลเวียนของพลังชี่แล้วทำให้มันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
หลังจากพูดจบ เย่เวิ่นเทียนยิ้มแล้วโยนหนังสือเล่มนี้ไปยังเย่เฟิง
ชายหนุ่มรีบรับหนังสือไว้ในมือ จากนั้นจึงเปิดอ่านดู ทักษะกรงเล็บมังกรงั้นหรือ?
ในโลกเทวะ เขาได้ฝึกฝนทักษะมากมาย แต่ไม่เคยเห็นทักษะประเภทนี้มาก่อน มันเกือบจะคล้ายกับทักษะฝ่ามือแปดทิศของเขาซึ่งเป็นมวยจีนโบราณ ถึงอย่างนั้น มันก็ยังมีค่านิดหน่อยในโลกเทวะ
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ซูเหมิงหานดูเหมือนได้เห็นสิ่งที่แปลกประหลาดของโลก
ถึงแม้ว่าเธอจะฝึกวรยุทธ์แห่งเซียนแล้ว แต่ความจริง เธอยังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่าการฝึก ก่อนหน้านี้ เด็กสาวไม่คาดคิดว่าตระกูลเย่จะเป็นหนึ่งในตระกูลชั้นสูงของโลกยุทธภพ ยิ่งกว่านั้น ยังครอบครองหนังสือวิทยายุทธหายากเอาไว้มากมายด้วย
“เหมิงหาน ถือนี่ไว้หน่อย”
เย่เฟิงได้อ่านหนังสือทักษะกรงเล็บมังกรอย่างถี่ถ้วนโดยใช้เวลาไม่นาน จากนั้นจึงยื่นมันเด็กสาวถือไว้
หลังจากนั้น เขาได้ทดลองใช้ทักษะนี้ออกมา ทันใดนั้นทั่วร่างของเขาพลันปลดปล่อยกลิ่นอายที่รุนแรงออกมา ส่งผลให้เย่เวิ่นเทียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที
ไอ้เด็กนี่คิอจะทำอะไร? แค่ได้อ่านครั้งเดียว มันคิดว่าจะใช้ทักษะนี้ได้เลยงั้นรึ? อะไรจะเร็วปานนั้น
แต่ไม่นาน สีหน้าของเย่เวิ่นเทียนก็พลันเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความตกใจ และกลายเป็นตื่นเต้นในที่สุด
“เข้ามาเลย!”
เย่เฟิงมองไปยังปู่ของเขา จากนั้นชายหนุ่มจึงเคลื่อนไหวแล้วแสดงทักษะกรงเล็บมังกรออกมาครั้งหนึ่งตามที่ในหนังสือได้บอกเอาไว้
……………………
แปลโดยทีมงานGSI