บทที่ 95
“สตรีนางนี้ไม่เลว”
จินหัวหัวเราะเบาๆ
ผู้อาวุโสจินยังไม่ทราบว่าที่อีกฝ่ายเอ่ยคำ ‘ไม่เลว’ นั้นเป็นในแง่มุมไหน แต่ที่แน่ๆหวางว่านเป็นสาวกชั้นสาม เรื่องพลังรบน่าจะไม่เท่าไหร่ ดังนั้นคำไม่เลวน่าจะเอ่ยถึงหน้าตามากกว่า
ฉินห่าวหรี่ตามอง สตรีนางนี้เขาจดจำนางได้
“ศิษย์น้องหวางไม่ต้องกังวล ข้าจะออมมือให้” สาวกนิกายเฉินเมิ่งที่รอสู้บนสังเวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
การต่อสู้เริ่มขึ้น
หวางว่านแทงออกด้วยกระบี่ เธอกวัดแกว่งกระบี่อย่างงดงาม ทุกการเคลื่อนไหวไม่ต่างจากการร่ายรำแต่ไร้ซึ่งพลังโจมตีใดๆ
และอีกฝ่ายก็ไม่เร่งรีบอย่างเห็นได้ชัด เพียงปาดซ้ายหลบขวา ขยับมือในบางครั้ง ปล่อยให้หวางว่านแสดงอย่างเต็มที่
“ไม่เลว ไม่เลว”
จินหัวเอ่ยอย่างมีรสชาติ
“นี่ … ”
ผู้อาวุโสจินพูดไม่ออก ในใจเขาเศร้าเล็กน้อย พลังรบในขอบเขตเปิดภูมิปัญญาของหวางว่านมิได้ถูกใช้ออกอย่างเต็มที่ แต่กลับถูกนำมาแสดงเพื่อความฉูดฉาดหรูหรา
“ศิษย์น้องหวาง เตรียมรับมือ!”
สาวกนิกายเฉินเมิ่งเตือนและฟาดฝ่ามือออกไป พลังทำลายของมันไม่ได้มากนัก แต่ก็ทำยังทำให้หวางว่านกลัวมากจนหน้าซีด ผละกระบี่จากมือและขอยอมแพ้ไป
เมื่อเห็นภาพนี้ สาวกนิกายเซียวเหยาซึ่งเดิมก็คอยให้กำลังใจพลันเงียบลง พวกเขาเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แม้สาวกทุกคนก่อนหน้านี้จะพ่ายแพ้ แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยขอยอมแพ้เลยสักคน
และทั้งๆที่ฝ่ายเราเป็นถึงศิษย์น้องหญิงผู้งดงาม แต่ไม่รู้ว่าทำไม พวกเขาที่รับชมกลับยิ่งดูยิ่งอึดอัด
สายตาที่พวกเขามองหวางว่านไม่ได้คลั่งไคล้เฉกเช่นเดิมอีกต่อไป
“ฮู่ว! ข้ากลัวแทบตาย”
หวางว่านก้าวลงจากสังเวียน ตบหน้าอกตัวเอง แสดงสีหน้าหวั่นกลัว
บรรดาสาวกคนอื่นๆเฝ้ามองเธออย่างเงียบๆ
“ฮ่า ฮ่า”
บนที่นั่ง ฉินห่าวหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “ไม่เลว ไม่เลว เป็นการร่ายรำที่งดงามจริงๆ”
ทุกคน “ … ”
ผู้อาวุโสจินมองหน้าฉินห่าว แม้สิ่งที่หวางว่านทำจะค่อนข้างมากไป แต่อย่างน้อยนางก็ยังเป็นสาวกนิกายเดียวกัน เจ้าประชดนางเช่นนี้จะดีจริงๆหรือ?
หวางหยานที่อยู่ล่างสังเวียนจ้องมองน้องสาวตัวเอง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร น้องสาวผู้นี้วันๆเอาแต่เสริมเติมแต่งความงาม และจะมีเวลาที่ไหนไปฝึกฝน?
“ข้าต้องการสนทนากับสตรีคนเมื่อครู่ เชิญนางขึ้นมาได้หรือไม่?”
ในตอนนั้นเอง จินหัวยิ้มและเอ่ยขึ้น
“ย่อมได้”
ผู้อาวุโสจินคิดพักหนึ่งก่อนพยักหน้าอนุญาต
ระหว่างนี้ การประลองยังคงดำเนินต่อไป
ไม่ช้า หวางว่านก็ถูกเรียกขึ้นไปบนที่นั่ง
“เราสตรีหวางว่านขอคารวะสหายเต๋าจิน” หวางว่านย่อตัวโค้งคำนับเบาๆด้วยท่าทีอ่อนช้อยและงดงาม
“อืม ไม่เลว เจ้าสนใจที่จะเข้าร่วมกับนิกายเฉินเมิ่งของเราหรือไม่?” จินหัวมองหวางว่นาด้วยรอยยิ้ม
ทันทีที่คำนี้เปล่งออกมา สีหน้าของสองผู้อาวุโสที่อยู่ข้างหลังเขาก็แปรเปลี่ยนไป แต่ก็ข่มมันให้กลับมาเป็นปกติทันที
ไม่มีใครคาดคิดว่าจินหัวจะเอ่ยคำถามเช่นนี้ มันคือคำต้องห้าม! การขุดต้นไม้ในที่ดินผู้อื่นต่อหน้าสาธารณะ นั่นไม่ถือเป็นการตบหน้าหรือ?
สีหน้าของผู้อาวุโสจินมืดมน แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เขาไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้ เพราะยังไงซะ นั่นคือสิทธิ์เสรีของสาวก เขาจึงมองหวางว่านเพื่อรอฟังคำตอบ
การแสดงออกของฉินห่าวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาเพียงมองด้วยรอยยิ้ม
“เรื่องนี้ .. เราสตรีย่อมเต็มใจเข้าร่วมอยู่แล้ว แต่ข้ายังมีพี่สาวอีกคนที่นี่ พวกเราโตมาด้วยกัน หากต้องให้แยกจากกันข้าเกรงว่า … ”
หวางว่านดูลังเล
ผู้อาวุโสจินถอนหายใจโล่งอก ประโยคเช่นนี้สมควรเป็นการปฏิเสธแบบนุ่มนวลใช่หรือไม่?
ดวงตาของฉินห่าวกะพริบ แต่เขายังคงยิ้มรอชมละคร
“โอ้ เช่นนั้นก็ให้พี่สาวเจ้ามาเข้าร่วมกับเราด้วยเลยดีไหม? นางอยู่ที่ไหน? เจ้าสามารถเรียกนางมาได้”
จินหัวไม่สนใจและเอ่ยถามเบาๆ
“คนนั้นคือพี่สาวข้า”
หวางว่านยื่นมือและชี้ออกไป
บนสังเวียน สตรีงามถือกระบี่ยาวในมือ ดาหน้าเข้าโจมตีอย่างดุเดือด กดดันสาวกนิกายเฉินเมิ่งให้ต้องล่าถอยแล้วถอยเล่า สร้างเสียงโห่ร้องจากผู้ชมดังลั่น
“หือ? ใช้ได้นี่นา เช่นนั้นข้ายินดีให้พี่สาวเจ้าเข้าร่วมกับเราเช่นกัน!”
ดวงตาของจินหัวเป็นประกาย คำไม่เลวของเขาไม่รู้เหมือนกันว่าหมายถึงฝีมือรึเปล่า แต่ก็เอ่ยเชื้อเชิญด้วยรอยยิ้มสดใส
“หากพี่สาวข้าเต็มใจ เราสตรีก็ย่อมเต็มใจเช่นกัน”
หวางว่านยิ้มอย่างยินดี สิ่งที่พวกเธอกำลังเฝ้ารออยู่คือโอกาสนี้! พวกเธอจะมีอนาคตที่ดีได้อย่างไรหากยังอยู่ในนิกายธรรมดา?
–หากเป็นมนุษย์ ชีวิตย่อมต้องปีนป่ายให้สูงขึ้น มิใช่ตกต่ำลง!