บทที่ 94: กองทัพตัวต่อ (5)
หึ่ง หึ่งงง
“ป้องกันมัน!”
“เรากำลังถูกกดดันให้ถอย”
ผู้คนคำรามออกมาขณะที่พวกเขามองไปยังกองทัพตัวต่อที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขาจากทุกทิศทาง
ครืนนนน
โซ่และลูกแก้วกำลังถูกทำลายจากเหล่าตัวต่อ
หนึ่งในพวกเขากัดฟันกรอดเมื่อแนวป้องกันเบื้องหน้ากำลังเข้าใกล้จุดที่กำลังจะพังทลายลงเข้าไปทุกที
‘เวรเอ้ย ถ้ามันพัง…’
ตอนนี้เขายังปลอดภัยในเมือเขาสามารถซ่อนตัวอยู่หลังแนวป้องกันและโจมตีด้วยสกิล แต่เมื่อยามที่บริเวณที่เขาอยู่ถูกฝ่าเข้ามา พวกตัวต่อก็จะพุ่งเข้ามาหาเขาและฆ่าเขา
ชายคนนั้น อาซร่าคิดถึงโซ่และลูกแก้วของเขาที่ไม่ได้อยู่ที่นี่
รีลิคที่เขาใช้พันหอกสีทองเอาไว้ห่างออกไปเพื่อที่จะเอาชนะไอ้หอกแปลกประหลาดนั้นก่อนหน้า
‘ด้วยสิ่งนั้น…’
หากเขามีพวกนั้น เขาจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวป้องกันข้างหน้าเขาที่กำลังจะพังทลายลงได้
‘แล้วมันก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะมาเสียบพวกเราด้วย’
ทุกคนได้โยนโซ่ออกไปด้วยความลนลานก่อนหน้า แต่พวกเขาไม่ใช่เป้าหมายของหอกสีทองนั่น
มันมีเป้าหมายแค่ฮันซูคนเดียว
หากเขาปลดโซ่ หอกสีทองนั่นจะพุ่งไปหาฮันซู ไม่ใช่ตัวเขา
‘… เวรเอ้ย’
ฮันซูจะตกอยู่ในอันตราย มันเป็นเรื่องชัดเจน
แต่หากเขาไม่ทำให้แนวป้องกันเบื้องหน้าเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาก็จะกลายเป็นอาหารของกองทัพตัวต่อ
แกร๊ง
“เฮือก!”
อาซร่าแทบจะเสียสติไปและสนับสนุน <แนวป้องกันเอลเลน> ของเขาที่พังลงจากการโจมตีของตัวต่อที่โจมตีเขาด้วยขาหน้าของมัน
จากนั้นเขาจึงเรียกโซ่และลูกแก้วที่อยู่ห่างออกไปมาด้วยสัญชาตญาณ
ฟุ่บบ
โซ่และลูกแก้วที่บินมาตามคำสั่งตามสัญชาตญาณไปปิดบังภาพเบื้องหน้าสายตาเขา
กรอดดด
อาซร่ากัดฟันกรอดจากนั้นจึงลอบพึมพำอยู่ภายในขณะที่เขาซื้อเวลาให้ตนเองซ่อมแซมแนวป้องกัน
ใช่… มันมีโซ่มากกว่าหมื่นอัน อันเดียวคงไม่ส่งผลเท่าไหร่หรอก
และแม้ว่าจะเป็นฮันซู มันก็คงจะดีกว่าที่จะเสริมพลังในแนวป้องกันแบบนี้
ในเมื่อมันจะจบลงถ้าพวกมันฝ่าเข้ามาได้
วินาทีที่อาซร่าเริ่มมุ่งความสนใจไปยังกองทัพตัวต่อที่อยู่เบื้องหน้าเขา เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างคลายตัวอยู่เบื้องหลัง
อาซร่ารีบหันหลังกลับไปมองและกัดฟันแน่น
“ฉิบหายเอ้ย…”
ราวกับว่ามีคนที่มีความคิดคล้ายๆ กับเขา โซ่กำลังคลายตัวลงและพุ่งออกไปยังแนวป้องกัน
อาซร่ามุ่นคิ้วเมื่อเขาเห็นว่าหอกกำลังดิ้นรนอย่างหนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม
ฟุ่บ
ฮันซูเหวี่ยงรีลิคของกาลาเดรียงไปยังหนึ่งในตัวต่อที่บินมาหาเขา
ฉัวะ
พลังที่ถูกใส่ลงไปในดาบที่เหนือกว่าก่อนหน้ามากได้ตัดร่างของตัวต่อนั้นจนเป็นสองส่วน
แต่ฮันซูแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา
ตัวที่ถูกหั่นครึ่งดี่วงลงไปพร้อมกับเสียงกรีดร้อง แต่ตัวต่อจำนวนมากกว่าเดิมที่กำลังมุดมาจากต้นไม้โลกได้แทนที่พวกมัน
‘แบบนี้มันจะไม่มีวันจบ’
ฮันซูใช้พลังสนับสนุนมังกรปีศาจจนถึงขีดสุด จากนั้นจึงพุ่งทะลวงฝ่าตัวต่อเหล่านั้นไป
นั่นหมายความว่าเขาได้ยอมแพ้ในการขึ้นไปพร้อมกับฆ่าพวกมันทีล่ะตัว
แม้ว่าเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บบ้าง เขาก็ตัดสินใจที่จะฝืนฝ่าขึ้นไป
ตูม!
ตัวต่อเบื้องหน้าเขาถูกฟาดจนแหลกเป็นชิ้นจากผลของเกราะไร้ลักษณ์ของฮันซู การหลอมรวมกันของทหารพันเกราะและพลังสนับสนุนมังกรปีศาจ
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น
เขาสามารถที่จะมุ่งไปข้างหน้าไปมากกว่าสิบเมตร แต่การทะลวงฝ่าของเขาก็ได้ถูกหยุดโดยตัวต่อที่ยังคงขวางทางของเขาอย่างต่อเนื่อง
และไอ้ตัวที่แข็งแกร่งขึ้นจากการกินร่างของอูโรโบรอสก็ได้ทะลวงผ่านเกราะไร้ลักษณ์และทหารพันเกราะเข้ามาสร้างอาการบาดเจ็บให้แก่เขา
‘… แหวนเนอร์มาฮ่าใช้ได้ไม่ดีเพราะไอ้ตัวพวกนี้เป็นแมลง ฉันขึ้นไปไม่ได้ถ้าฉันติดอยู่แบบนี้’
และหากหอกที่ถูกมัดอยู่ข้างล่างนั่นหลุดออกมาขณะที่เขากำลังติดอยู่แบบนี้ มันจะยิ่งเลวร้าย
‘แม้มันจะสมเหตุสมผลถ้ามันจะถูกมัดได้นานกว่านี้อีกหน่อย…’
ถ้าแนวป้องกันเริ่มแตกสลาย มันไม่มีทางที่ผู้คนจะปล่อยโซ่ของพวกเขาไปมัดหอกต่อ
เขาต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘เวรเอ้ย… นี่มันค่อนข้างสร้างภาระให้กับร่างกายของฉัน’
มันค่อนข้างที่จะเร็วเกินไปที่จะใช้การกลายพันธุ์ของพลังสนับสนุนมังกรปีศาจ
‘ถ้าฉันใช้มันตอนนี้… ฉันจะสามารถงอกหัวใจได้แค่สองดวง ฉันจะทำได้ไหม?’
เขาได้แข็งแกร่งขึ้น แต่ความเชี่ยวชาญในสกิลนี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก
หากเป็นแบบนี้ต่อไปเขาก็จะกลายเป็นเนื้อเสียบไม้ขณะที่ถูกไอ้ตัวพวกนี้ถ่วงเวลา
‘มันไม่ใช่เวลาที่จะกังวลเรื่องนี้’
ฮันซูกระตุ้นยีนส์ที่อยู่ในส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา
ครืดดด
พลังสนับสนุนมังกรปีศาจเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกายของฮันซูให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างออกไป
กระดูกของเขาเปลี่ยนแปลงไปเป็นของสิ่งมีชีวิตอื่น ปรากฏเกล็ดบางๆ ขึ้นปกคลุมพวกมัน
ในเวลาเดียวกัน หัวใจที่กำลังเต้นตุบภายในร่างกายของเขาก็เริ่มบีบรัด
ปึด ปึด
หัวใจอีกดวงปรากฏขึ้นเยื้องออกไปทางขวาจากหัวใจเดิม
แต่มันก็แค่นั้น
มันไม่ได้มีหัวใจสามดวงเหมือนก่อนหน้า
‘ฮึบ’
แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาบ่นเรื่องนี้
เขาต้องสู้โดยที่รีดเค้นทุกสิ่งที่เขามีออกมา
ความสามารถทางร่างกายของเขาอาจจะด้อยลงนิดหน่อย แต่เขามีรีลิคและทหารพันเกราะไม่เหมือนก่อนหน้า
พลังต่อสู้โดยรวมของเขาก่อนหน้าเองก็ไม่อาจกระทั่งเทียบกับที่เขามีตอนนี้ได้
‘ทะลุฝ่าไปในระยะเวลาที่สั้นที่สุด… และฆ่าราชา’
ตราบเท่าที่พลังที่ควบคุมกองทัพตัวต่ออยู่ที่ร่างโคลนหรือราชา มันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าในการมุ่งไปยังดอกไม้แทนที่จะมุ่งเป้าไปยังราชินี
ในเมื่อหัวใจของเขาอาจจะถูกแทงทะลุด้วยสามง่ามอัสนีขณะที่เขาต่อสู้กับราชินีอย่างยืดเยื้อ
ในทางกลับกัน มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับกองทัพตัวต่อเมื่อเขาฆ่าราชา
ในเมื่อเขาจะสามารถควบคุมพวกมันได้อย่างที่เขาต้องการหลังจากที่ได้ครอบครองพลัง
ฮันซูถ่ายทอดพลังในร่างกายของเขาที่กลายเป็นเผ่าพันธุ์อื่น จากนั้นจึงพุ่งทะยานออกไป
ตูม!
แรงระเบิดที่ไม่อาจเทียบกับก่อนหน้าได้ได้ถูกสร้างขึ้น
ลำต้นที่ฮันซูยืนอยู่ไม่อาจรองรับแรงนั้นได้และพังลง
ฮันซูใช้แรงสะท้อนจากมันมุ่งหน้าตรงไปเหนือลำต้นราวกับอุกกาบาต
ไม่ใช่ผ่านเส้นทางขุนนาง แต่เป็นทางที่สามง่ามอัสนีสร้างขึ้นขณะที่พุ่งตรงลงมาเป็นเส้นตรง
กรี๊ซซซ!
มันมีตัวต่อกลายพันธุ์จำนวนมากในเส้นทางนั้น แต่ฮันซูทำเพียงเมินพวกมันขณะที่วิ่งผ่านไป
‘มันไม่มีเวลาให้ฉันรับมือกับพวกมันทีล่ะตัว’
ฟุ่บ
ตัวต่อที่มีร่างกายส่วนล่างเป็นงูและส่วนบนเป็นมนุษย์ทิ้งร่างของพวกมันตรงไปยังฮันซู
ราวกับว่าพวกมันกำลังทำราวกับราชาเป็นราชินีของพวกมัน
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
พวกมันพุ่งตรงมายังเขาอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะถูกบดขยี้เป็นชิ้น
ด้วยอาวุธที่น่ากลัวที่สุดของกองทัพตัวต่อที่อยู่ด้านหน้าสุด
‘… เหล็กใน มันยังคงอยู่หลังจากการวิวัฒนาการงั้นเหรอ’
เกล็ดจากส่วนหางของงูปรากฏชิ้นส่วนของตัวต่อขึ้น
ในยามนั้น พิษก็ได้ส่งออกจากรูบริเวณเกล็ดของพวกมันและอาบย้อมเกล็ดที่เหมือนดาบนั้น
เหล่าตัวต่อยกห่างที่เหมือนเม่นเหล่านั้นพุ่งตรงมายังฮันซู
โพล๊ะ!
เกล็ดส่วนมากแหลกสลายลงเมื่อพวกมันเผชิญเขากับเกล็ดของฮันซูและทหารพันเกราะ
แต่เมื่อความเร็วที่ชายหนุ่มวิ่งรวมกับตัวต่อจำนวนมหาศาล มันก็ได้ทำให้เกล็ดและทหารพันเกราะของเขาพังทลายลงอย่างช้าๆ
ครึ่กก
‘เวรเอ้ย มันต้องลำบากมากแน่ๆ ในการซ่อมมันทีหลัง’
ฮันซูมุ่นคิ้วขณะมองไปยังทหารพันเกราะที่สภาพคล้ายผ้าขี้ริ้ว
ฉัวะ
ไม่ช้า เกล็ดหางของตัวต่อก็ได้ทะลุผ่านเกราะไร้ลักษระ พลังสนับสนุนมังกรปีศาจ เกล็ดจากการกลายพันธุ์ และทหารพันธุ์ก่อนจะเริ่มทะลุลงไปยังเนื้อของชายหนุ่ม
พิษได้แทรกซึมเข้าไปในร่างเพื่อที่จะหลอมละลายร่างของเขา
หัวใจทั้งสองได้ปั้มเลือดที่มีฤทธิ์ในการชำระล้างพิษออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่พวกมันพยายามต่อต้านพิษนั้น
ฮันซูยังมุ่งหน้าขึ้นอย่างบนต่อไป แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะกลายเป็นหิน
‘… ฉันเกือบจะถึงแล้ว!’
แสงได้ส่องสว่างอยู่ท่ามกลางตัวต่อที่เต็มไปทั่วทั้งรูที่ถูกสร้างขึ้นจากสามง่ามอัสนี
ซึ่งหมายความว่าเขาเกือบจะขึ้นไปถึงยอดแล้ว
เผื่อกรณีที่พวกตัวต่อจะถ่วงเวลาเขา ฮันซูได้ใช้โซ่และลูกแก้วทั้งเจ็ดที่เขาไม่ได้ใช้จนถึงตอนนี้ล้อมร่างของเขาเอาไว้ขณะที่พุ่งขึ้นไปอย่างบ้าคลั่ง
ในเมื่อมันไม่มีเวลาให้ห่วงอะไรในยามที่การป้องกันของเขากำลังจะพังทลายลง
ร่างกายของเขาจะแหลกเป็นชิ้นๆ ถ้าโซ่และลูกแก้วไม่ป้องกันพวกมันไว้
แคร่ก
‘เวรเอ้ย พวกมันกำลังพังลงทีล่ะชิ้น’
ลูแก้วทั้งเจ็ดกำลังเริ่มพังลงทีล่ะลูกจากตัวต่อที่พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างต่อเนื่อง
ฮันซูใช้ลูแก้วทั้งสองที่เหลืออยู่ป้องกันขณะที่เขาขึ้นไป
‘เมื่อฉันไปถึง… มันจะไม่ยากขนาดนั้นที่จะฆ่าหมอนั่นทิ้ง’
พลังของราชานั้นน่ากลัวด้วยตัวของมัน แต่ความสามารถทางกายของเขาไม่ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น
และนั่นคือสาเหตุให้เขามีสามง่ามอัสนีและทหารพันเกราะ
แต่ในตอนนี้ ยามที่ของทั้งสองชิ้นนั่นถูกยึดไปจากราชา ฮันซูย่อมสามารถจัดการเขาได้ในวินาทีที่เขาขึ้นไป
เคร้งงง
ในตอนนั้นเองที่บางสิ่งได้ส่งเสียงดังขณะที่มันกำลังขึ้นมาจากด้านล่าง
ผ่านเส้นทางที่ฮันซูใช้ขึ้นมา
เคร้งงง
เสียงของโซ่นับพันเส้นที่กำลังกระทบกัน
ฮันซูขมวดคิ้วขณะที่เขามองลงไปด้านล่าง
‘…มันฝ่าโซ่มาได้!’
มันพุ่งขึ้นมาเร็วเสียจนโซ่นับร้อยนั่นได้หลอมละลายและติดอยู่กับตัวหอกสีทองนั้น
หอกที่ได้ขึ้นมาตามเส้นทางพร้อมกับสร้างความวุ่นวายอย่างใหญ่หลวงจากโซ่นับร้อยที่กระทบกัน พุ่งเป้าไปยังหัวใจของฮันซู
‘… ฉันจะให้แกดวงหนึ่ง!’
กรอดด
จะยังไงเขาไม่อาจป้องกันมันได้อยู่แล้ว
ฮันซูขบฟันแน่น จากนั้นจึงมอบหัวใจดวงหนึ่งให้กับมัน
ร่างของฮันซูพุ่งขึ้นไปบนอากาศจากหอกที่ทะลวงผ่านหัวใจของเขา
ปึดด
ฮันซูจับหอกสีทองที่แทงทะลุหัวใจของเขาด้วยมือก่อนจะหมุนร่างกายส่วนบนของเขาพร้อมด้วยลูกแก้วที่เหลืออีกสองลูกกับโซ่ สร้างชั้นป้องกันขึ้น
จากนั้นฮันซูจึงเริ่มพุ่งขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็วด้วยแรงจากหอกนั้น
ครืนนน
ตัวต่อร่างกายแหลกเละจากร่างกายของฮันซูและสิ่งที่ป้องกันเขา
จากนั้นร่างของฮันซูจึงหลบหนีออกจากรูนั้นไปยังสถานที่ที่แสงส่องสว่าง จากนั้นจึงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
คว้างงง
ราชวังขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นในสายตาของชายหนุ่ม
ราชวังของเหล่าเอลวินไฮล์มที่มักจะถูกปิดกั้นด้วยม่านพลังงานขนาดยักษ์และดอกไม้
‘อย่างที่คิด… เขาไม่สามารถใช้ทั้งม่านพลังงานของดอกไม้กับสามง่ามอัสนีพร้อมกันได้’
ฮันซูส่งพลังไปยังมือที่จับสามง่ามอัสนีที่แทงทะลุหัวใจของเขาเอาไว้
จากนั้นจึงดึงมันออก
ปึด
หอกสีทองตื่นตะลึงเมื่อสิ่งที่มันทะลวงหัวใจพลันเคลื่อนไหวและพยายามที่จะนำร่างของฮันซูออกไป ทว่าฮันซูได้ออกห่างจากหอกสีทองนั้นนานแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ฮันซูได้ร่วงลงไปยังร่างของเอลวินไฮล์มทั้งสองที่ยืนอยู่ในราชวังด้วยความเร็วสูง
หอกสีทองรีบเปลี่ยนแปลงทิศทางของมันและพยายามที่จะแทงร่างของฮันซูอีกครั้ง แต่ลูแก้วทั้งสองและโซ่ได้มัดพันตัวมันไว้ไม่ให้ขยับ
แน่นอนว่าพวกมันย่อมไม่อาจรั้งไว้ได้นาน
ในเมื่อมันเป้นสิ่งที่เขาสามารถจับไว้ด้วยแรงของเขาและลูกแก้วทั้งเจ็ดอย่างยากลำบาก
แต่เพียงเสี้ยววินาทีเล็กๆ ก็เพียงพอ
ฮันซูพุ่งลงไประหว่างร่างของเอลวินไฮล์มทั้งสอง
ตูม!
‘ฆ่าพวกมันทั้ง… เวรเอ้ย!’
เขาต้องการจะฆ่าทั้งคู่ แต่ว่าหอกสีทองที่ได้ทะลวงผ่านโซ่มาแล้วได้ฟาดลงมายังร่างของเขา
เขาจะตายถ้าหัวใจของเขาถูกแทงด้วยมันอีกครั้ง
ฮันซูรีบคว้าคอของคนที่อยู่ใกล้ที่สุดจากนั้นจึงใช้ร่างของอีกฝ่ายป้องกันไว้ด้านหน้า
กิ้งง!
หอกสีทองหยุดชะงักลงกลางอากาศแม้จะพุ่งมาด้วยความเร็วขนาดนั้นราวกับว่ามันกำลังงุนงง
‘เฮ้ออออ…’
ฮันซูถอนหายใจจากนั้นจึงคำรามไปยังคนที่เขากำลังกำคออยู่โดยที่อีกฝ่ายกำลังจ้องหน้าเขาอยู่
“หยุดกองทัพตัวต่อเดี๋ยวนี้”
แนวป้องกันพังลงแล้ว นั่นหมายความว่าผู้คนเบื้องล่างกำลังถูกฆ่าโดยพวกกองทัพตัวต่ออยู่
เขาต้องให้ไอ้หมอนี่หยุดราชินีให้ไว
ในเมื่อเขาไม่มีพลังแบบนั้น
ในตอนนั้นเอง เอลวินไฮล์มที่เขากำรอบคออยู่ได้ครุ่นคิดไอชั่วขณะหนึ่งก่อนจะกรีดเสียงออกมา
“อย่ากังวลเกี่ยวกับข้า แค่ให้ดอกไม้ระเบิดตัวเองทิ้งซะ! ข้าไม่สนใจหรอกถึงจะตายที่นี่… ถ้าเผ่าพันธุ์ของเราถูกกำหนดมาให้ล่มสลายแบบนี้!”
“…”
คนที่ใจกระตุกวูบคือฮันซู
‘เวรเอ้ย นี่คือร่างโคลนไม่ใช่ราชา?’
พลังของการทำลายตัวเองของดอกไม้นั้นเป็นของราชาเพียงผู้เดียว
เขาสามารถมอบพลังทุกอย่างไปได้ยกเว้นสิ่งนี้
เขาจับหมอนี่เพราะสัญลักษณ์ที่ใช้ในการควบคุมกองทัพตัวต่ออยู่กับหมอนี่ และคิดว่าหมอนี่คือราชา แต่ว่ามันกลับกลายเป็นร่างโคลนแทน
และในตอนนั้นเองที่เอลวินไฮล์มที่มีสีหน้าหน่อยล้าเล็กๆ ถอนหายใจและเกือบจะผงกศีรษะ
“ข้ายอมรับในตัวเลือกของเจ้…”
ฟิ้ววว
ในวินาทีที่ร่างโคลนกำลังจะหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นราชาเปิดปาก ลูกแก้วหยกก็บินตรงไปยังราชา
เคร้งง
แล้วร่างของราชาที่กำลังจะพูดก็แข็งไปทั้งตัว
เมื่อเขาถูกจับขังอยู่ภายในคุกน้ำแข็ง
“แฮ่ก… แฮ่ก ฉันไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม?”
โซเฟียที่วิ่งมายังสถานที่ที่ห้องสมุกบอกและใช้สามแก้วหยกแช่ชีวิตเอ่ยไปยังฮันซู
ฮันซูที่เห็นเสี้ยววิญญาณคนอื่นๆ กำลังต่อสู้กับตัวต่อซื้อเวลาห่างออกไปถอนหายใจอย่างโล่งออกก่อนจะผงกศีรษะ
“มันยอดเยี่ยม”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โซเฟียก็หมดสติลงพร้อมกับรอยยิ้ม ในขณะที่เตกิลอนวัยหนุ่มที่ฮันซูกำรอบคออยู่นั้นแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวออกมา
TL: จบเขตสีแดงแล้วล่ะค่ะ!