บทที่ 88

“เหล่าศิษย์น้องที่กำลังว่างทุกคนจงมารวมตัวกัน” กลางจัตุรัสยอดเขาเซียวเหยา หวังจุนปรบมือ ตะโกนเสียงดัง

หลายคนที่ไม่ได้ฝึกฝนมารวมตัวกัน

“เรียกพวกเรามาแบบนี้ มีเรื่องอะไรรึเปล่าเนี่ย?”

“นี่เจ้าไม่รู้หรือ ได้ยินว่าศิษย์พี่ฉินกลับมาแล้ว!”

“เขากลับมา? งั้นก็หมายความว่า ..!”

“อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ!”

คนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆเงี่ยหูฟังคนที่กระซิบกระซาบกัน สาวกหน้าใหม่บางคนหันมาสบตากัน ยังไม่เข้าใจ

“ข้าคิดว่าศิษย์น้องทั้งหลายน่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว ถูกต้อง! ศิษย์พี่ฉินกลับมาแล้ว และศิษย์พี่ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อนำสมบัติหลายชิ้นกลับมาด้วย แต่ปัญหาก็คือ พวกเราต้องเป็นคนแยกประเภทสิ่งของเหล่านั้น ว่าชิ้นไหนควรเก็บ ชิ้นไหนควรใช้”

หวังจุนยืนอยู่บนแท่นสูง ใบหน้าแดงก่ำ เขาตื่นเต้นมาก นิกายเซียวเหยาของพวกเขามั่งคั่งร่ํารวยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“ศิษย์พี่โปรดวางใจ พวกเราจะคัดแยกมันไม่ปล่อยให้ล่าช้าแน่นอน”

“มิผิด! กว่าศิษย์พี่ฉินจะหาสมบัติมาช่วยพวกเราบำเพ็ญเพียรนั้นไม่ง่ายเลย ดังนั้นปล่อยให้เรื่องแค่นี้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถิด”

เหล่าสาวกที่เพิ่งเข้าร่วมหลายคนอุทานอย่างตื่นเต้น พวกเขาไม่เคยเห็นภาพแบบนี้ในยอดเขาอื่นๆ แค่สมบัติที่หามาได้ ต้องใช้คนมากมายขนาดนี้เชียวหรือ?

เช่นนั้นพวกมันต้องมหาศาลขนาดไหนกัน?

สาวกที่อยู่มาก่อนแล้วมองเหล่าสาวกใหม่ด้วยสายตาเยาะเย้ยและส่ายหัว และคล้ายย้อนนึกไปถึงภาพของตัวเองตอนที่เพิ่งเข้าร่วมกับยอดเขาเซียวเหยาใหม่ๆ

ในตอนนั้นข้ากับสหายก็สงสัยแบบพวกเจ้านี่แหละ แต่พอเห็นสมบัติก็ตื่นเต้นมาก หยิบโอสถมากมายกรอกใส่ปากตัวเองจนอาเจียนออกมา หลังจากนั้นหลายวัน จะเดินไปทางไหนก็มีกลิ่นโอสถติดตัวไปทุกที่ ล้างยังไงก็ล้างไม่ออก ช่วงนั้นถึงกับมีหลายครั้งที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสาวกนักกลั่นโอสถกันเลยทีเดียว

“พูดได้เยี่ยม ศิษย์พี่ฉินเองก็ชื่นชมในคนหนุ่มสาวที่กระตือรือร้น เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเจ้าจงตามข้ามา”

หวังจุนพยักหน้าอย่างพอใจ  เขาเดินไปที่หอโรงกลั่นโอสถ และหอเก็บสมบัติวิเศษในยอดเขาเซียวเหยา เหล่าสาวกที่เดินตามหลังกลุ่มใหญ่ตื่นเต้นกันมาก

สาวกใหม่พากันคาดหวังในสิ่งที่ศิษย์พี่ฉินนำกลับมา ส่วนสาวกเก่าตั้งความหวังว่าขอเถอะ ขออย่าให้มันเยอะนักเลย เดี๋ยวจะยุ่งยากและคัดแยกลำบาก

“เอาล่ะ ที่นี่แหละ”

หวังจุนหยุดปิดประตู ปัดมือแล้วพูดว่า “พวกเจ้าถอยออกไป”

ทุกคนถอยหลังพร้อมกัน

“ถอยไปอีก”

ทุกคน “ … ”

ทุกคนถูกสั่งให้ถอยไปเรื่อยๆจนห่างจากหวังจุนหนึ่งกิโลเมตร ถึงตอนนั้นหวังจุนค่อยสั่งให้หยุดและวาดมือในอากาศ พริบตานั้นประกายแสงเจิดจ้าสว่างวาบ สมบัติมากมายถูกปล่อยออกมา และค่อยๆกองสุมกันเป็นภูเขา

ถึงตอนนี้ ทุกคนต่างอ้าปากค้าง คอของพวกเขาเชิดสูงขึ้น ไม่ว่าจะโอสถ อาวุธ สมบัติวิเศษ กระทั่งสมบัติระดับตี้หรือเทียน ต่างปรากฏออกมา

จนกระทั่งไม่มีอะไรออกมาอีก ทุกคนค่อยได้สติ กวาดมองกองสมบัติที่ส่องประกายแพรวพราวนี้ จิตใจของพวกเขาคล้ายพังทลายลง

ทุกคน “ … ”

หวังจุนเองก็หวั่นไหวเช่นกัน แม้เขาจะเคยตรวจสอบสิ่งที่อยู่ข้างในแหวนมิติแล้ว แต่พอเห็นกับตา ก็ยังตื่นตกใจ

ในขณะนี้ ทุกคนลองคำนวณดู และพบว่านี่ … นี่มันร้ายแรงมาก

สมบัติมหาศาลขนาดนี้ การจะคัดแยกพวกมันทั้งหมดคงต้องใช้เวลานานมากๆ!

ต่อให้เรียกระดมพลสาวกจากทั้งยอดเขาเซียวเหยา ก็ยังแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคัดแยกพวกมันให้แล้วเสร็จในเวลาหนึ่งเดือน!

“เอาล่ะ ข้าขอย้ำกับว่าสมบัติทุกชิ้น ศิษย์พี่ฉินนำกลับมาอย่างยากลำบาก พวกเจ้าต้องทะนุถนอมพวกมัน”

หวังจุนเห็นทุกคนแสดงสีหน้าขมขื่น จึงเร่งให้กำลังใจ พูดตามตรง ตอนนี้กระทั่งตัวเองยังหนังศีรษะด้านชา

“ขอรับ!”

ทุกคนพยักหน้าขมขื่น พวกเขาจะทำอะไรได้อีก? รีบช่วยกันเก็บกวาดสมบัติไม่ธรรมดาเหล่านี้

ตอนแรกทุกคนต่างอยากได้มัน แต่พอมันปรากฏออกมา ต่างเริ่มหนักใจ เกิดความคิดว่าถ้าเยอะขนาดนี้ไม่เอาแล้วได้ไหม?

นี่ช่างเป็นอะไรที่ทั้งทุกข์และสุขจริงๆ!