บทที่ 82

ณ นิกายเฉินเมิ่ง ภูเขาด้านหลัง

ชายชราผมขาว ฉินห่าว และผู้อาวุโสหลิวนั่งอยู่ในศาลลา

“เกิดอะไรขึ้น? ช่วยเล่าตั้งแต่ต้น” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“ตั้งแต่ต้นไม่ได้ เพราะเมื่อข้าไปถึง พวกเขาก็ถูกขังอยู่ในจัตุรัสแล้ว ข้าแยกเข้าไปหาสมบัติคนเดียวแต่ไม่เจออะไร เมื่อกลับมา ก็พบสตรีนางหนึ่งยืนอยู่ในจัตุรัสตรงข้ามพวกเขา”

ฉินห่าวเล่าคร่าวๆ

“แล้วเจ้าออกจากค่ายกลต้องห้ามได้อย่างไร? เจ้ารู้จักสตรีนางนั้นหรือไม่?” ดวงตาของผู้อาวุโสสูงสุดทอประกายหยั่งรู้ คำที่เอ่ยถามของเขาเฉียบแหลมมาก

“เอ่อ ข้ามีวิธีของข้า สำหรับสตรีนางนั้น ข้าเพียงเห็นมาจากในหนังสือโบราณเล่มหนึ่ง”

“แล้วเจ้าไม่เจออะไรข้างในนั้นเลยจริงๆ?”

ผู้อาวุโสสูงสุดไม่แน่ใจว่าเชื่อคำพูดฉินห่าวหรือไม่ เขาถามต่อ

“ข้าได้รับอาวุธระดับเสวียนมาไม่น้อย อาวุธระดับตี้อีกนิดหน่อย ไม่มีทักษะฝึก แต่ก็พอมีสมบัติวิเศษระดับตี้อยู่บ้าง” ฉินห่าวพูดกึ่งจริงกึ่งเท็จ

“อืม”

ผู้อาวุโสไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ เขาไม่สนใจกระทั่งว่าอีกฝ่ายจะพูดจริงหรือเท็จ เพราะเป้าหมายสำคัญตอนนี้คือช่วยชีวิตคน สมบัติเอาไว้อย่างสุดท้าย

“เราผู้เฒ่าคงต้องออกไปเดินเล่นกับพวกเจ้าเสียหน่อยแล้ว”

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้อาวุโสสูงสุดก็กล่าวขึ้น

“แค่ก แค่ก จะไปมันก็ได้อยู่หรอก แต่ข้าแนะนำให้ท่านนำอาวุธวิเศษที่ช่วยทำลายค่ายกลต้องห้ามไปด้วย ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี มิฉะนั้นด้วยความเคารพ อาศัยแค่ฐานบำเพ็ยเพียรของท่าน เกรงว่าคงช่วยอะไรไม่ได้ ”

ฉินห่าวไอแห้งๆ

ใบหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดกระตุก

กี่ปีแล้วที่ไม่มีใครบอกว่าฐานบำเพ็ญเพียรของเขาไม่ดี? มันนานมาก! นานจนลืมไปแล้ว!

แต่ถ้าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริงเล่า?

อืม ดูท่าคงต้องเตรียมพร้อมเผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ

“เอาล่ะ เช่นนั้นรอเราผู้เฒ่าก่อน”

ผู้อาวุโสสูงสุดเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าและหายวับไปเงียบๆ

“เจ้ากล้าหาญมาก”

ผู้อาวุโสหลิวถึงกับต้องเอ่ยชม

“เหอ เหอ ไม่ใช่ว่าข้าโม้นะ แต่พี่สาวหงที่โผล่มาทีหลัง ต่อให้มีผู้อาวุโสสูงสุดนิกายเฉินเมิ่งสองร้อยคน ก็ยังสู้ไม่ได้”  ฉินห่าวคุยโว

“เอ่อ … ”

ผู้อาวุโสหลิวพูดไม่ออก นี่เป็นเรื่องยากที่เธอจะจินตนาการ ว่าคนที่ฉินห่าวถึงกับยอมเคารพนับถือ จะต้องน่ากลัวขนาดไหนกัน?

ไม่นาน ผู้อาวุโสสูงสุดก็กลับมาอีกครั้ง และทั้งสามคนก็ออกเดินทางทันทีโดยไม่ได้พาคนไปเพิ่มเติม ไม่ต้องคิดก็รู้คำตอบ เพราะเรื่องแบบนี้คนยิ่งรู้น้อยยิ่งดี

แล้วพูดตามตรง การมีคนเยอะกลับยิ่งทำให้วุ่นวายมากขึ้น

ผู้อาวุโสสูงสุดมีพลังปราณเหลือล้น เขาพาทั้งสองคนไป ครึ่งวันก็ถึงน้ำตก จากนั้นก็พุ่งลงใต้น้ำอย่างไม่ลังเล

“เชี่ย! ข้าไม่ได้บอกซักหน่อยว่าจะเข้าไปด้วย!” ใบหน้าของฉินห่าวเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำด้วยความกลัว

“ปล่อยข้า! ข้าไม่ไป!”

“ไปเถอะน่า ไว้จบเรื่องแล้วข้าจะมอบรางวัลให้เจ้า”

ผู้อาวุโสสูงสุดเอ่ยคำมอบรางวัล ฉินห่าวก็สงบลงทันที แล้วหันไปมองผู้อาวุโสหลิว หัวเราะเฮะ เฮ่

ผู้อาวุโสหลิว “ …. ”

เมื่อกลับมาที่เมืองเฟิงเทียนอีกครั้ง ทั้งสองก็ตกตะลึงกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง

“ไปเถอะ อย่าสนใจที่นี่ เร็วเข้า เร่งเลย!” ฉินห่าวเร่งเร้า เขาไม่อยากอยู่ในนี้นานจริงๆ

ทั้งสองได้สติ และบินไปที่นิกายเฟิงเทียน

แล้วฉินห่าวก็ต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อมาถึง

เห็นเพียงคนสองกลุ่มกำลังเผชิญหน้ากัน แต่ครั้งนี้ฝั่งตรงข้ามนิกายเฉินเมิ่งไม่ได้มีคนเดียว ข้างๆหงเทียนเยว่ยังมีชายอีกคนยืนอยู่ด้วย

จักรพรรดิหวงเย่!

“เช็ดเด้! ไม่รอดแน่ มันจบสิ้นแล้ว”

ฉินห่าวอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

สองคนนี้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาคงไม่ทะเลาะกับสวรรค์อีกใช่ไหม?

อย่างไรก็ตาม ฉินห่าวสังเกตได้ถึงความผิดปกติ เขาพบว่าสติของสองคนนี้ได้หายไป หลงเหลือเพียงร่างกายเท่านั้นที่ยังเคลื่อนไหว ราวกับว่าที่พวกเขากำลังทำ คือการตรวจตรานิกายตามปกติ

“หรือวิญญาณยังไม่กลับชาติมาเกิด?”

ฉินห่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และจดจำวิชากลับชาตมาเกิดได้

“ผู้อาวุโสสูงสุด? ยอดเยี่ยม! ท่านรีบมาช่วยพวกเราออกไปเร็ว!”  เซียวหลงและคนอื่นๆสั่นสะท้าน เมื่อเห็นผู้อาวุโสสูงสุด พวกเขาปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ผู้อาวุโสสูงสุด “ …. ”

อย่างไรก็ตาม สายตาของผู้อาวุโสสูงสุดไม่มองพวกเซียวหลงเลย แต่จ้องคู่ชายหญิงฝั่งตรงข้ามตาไม่กระพริบ

เพียงแวบเดียวที่มองไป เขาก็หลั่งเหงื่อเย็นทันที ระดับฐานบำเพ็ญเพียรของตัวเองสูงมาก ดังนั้นจึงมีสัญชาตญาณที่ดีมากตาม และตอนนี้เขารู้สึกว่าตราบใดที่คู่ชายหญิงยกมือขึ้น ไม่สิ ทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องยกมือ แค่พ่นลมหายใจ พวกเขาก็จะตายทันที

ไร้เรี่ยวแรงใดๆที่จะต่อต้าน!

ฝากโหวตเลือกนิยายเรื่องใหม่ที่จะนำมาลงหน่อยครับ

1.ตัวร้ายเช่นข้า ปล้นโชคจากทุกสรรพชีวิต

เรื่องย่อ : ชะตาจักรพรรดิ? พรแห่งโอรสสวรรค์? ดวงแห่งนักบุญ? เสียใจด้วย! ชะตาที่หนุนนำพวกเจ้าสู่มหาอำนาจ ข้าผู้นี้จะช่วงชิงตัดหน้าจนสิ้น!

2.วันสิ้นโลก : ยุคสมัยแห่งสัตว์ร้าย

เรื่องย่อ : ในบลูสตาร์ได้มีการจัดงานสมรภูมิระดับชาติขึ้น แต่ละประเทศจะสุ่มเลือกผู้ลงแข่งคนหนึ่งเพื่อเข้าสู่สนาม ผู้ลงแข่งจากหลากหลายประเทศ ต้องปกป้องเมือง ต่อต้านการโจมตีจากสัตว์ร้าย และทุกครั้งที่สำเร็จ ผู้ลงแข่งกับประเทศนั้นๆจะได้ระดับรางวัลมากมาย! แต่หากล้มเหลว ทุกครั้งที่มีสัตว์ร้ายหลุดเข้าไป สัตว์ร้ายนับหมื่นตัวที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนกับตัวที่หลุดเข้าไปในสนามจะปรากฏขึ้นในประเทศที่ผู้ลงแข่งคนนั้นเป็นตัวแทน!

3.โลกาวินาศ : สร้างกองทัพสุดแกร่งในวันสิ้นโลก

เรื่องย่อ : ตัวเอกถูกส่งข้ามมิติมายังวันสิ้นโลก ที่นี่มีทั้งซอมบี้ ปีศาจ และสัตว์ร้ายในตำนาน แต่เขาพบว่าโลกใบนี้พิเศษกว่าวันสิ้นโลกใดๆที่เคยอ่านนิยายหรือเล่นเกมมา เพราะหลังจากฆ่าศัตรู จะสามารถดรอป ‘ไพ่’ ได้ และทุกคนในโลกสามารถเรียก ‘บุคคล’ หรือ ‘กองทัพ’ ที่อยู่ใน ‘ไพ่’ ออกมาช่วยสู้ได้!

4.เกมออนไลน์ : เทพอัศวิน

เรื่องย่อ : เกมออนไลน์เสมือนจริงเปิดเซิร์ฟเวอร์ และมีผู้เล่นเล่นออนไลน์นับสองหมื่นล้านคน! โจวหยุนก็เป็นหนึ่งในนั้น อย่างไรก็ตาม เขาได้รับสกิลโคตรบั๊คอย่างการปรับสภาพ สิ่งใดก็ตามที่เขาปรับสภาพให้เข้ากับมันได้แล้ว สิ่งนั้นจะไม่มีผลต่อเขา ไม่อาจทำดาเมจหรือทำร้ายเขาได้! (แนวๆน้องโล่สายแท็ง ที่ยืนให้มอนตีจน ดาเมจ-1 -1 -0)

5.ชาวนาขั้นเทพ!

เรื่องย่อ : ถูกส่งข้ามมิติไปเป็นชาวนา?​ ไม่ใช่ปัญหา! วีรบุรุษไม่เคยย่อท้อต่อต้นกำเนิดของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังสามารถมองเห็นแถบค่าสถานะได้! การมีนิ้วทองคำตั้งแต่แรกเริ่มเช่นนี้ ช่างโชคดีจริงๆ แต่ช้าก่อน? นั่นอะไร? เจ้าเมืองกำลังนำสิ่งใดออกมา? บังเกิดแสงสีขาวสว่างวาบ และชาวนาอีกคนที่เหมือนกับเขาทุกประการปรากฏกายขึ้น … ชิบหายแล้ว! ตกลงข้ามิใช่ตัวเอก แต่เป็น ตัวประกอบธรรมดาๆงั้นหรอกหรือ!

ลองโหวตกันมาได้ครับผม