บทที่ 8 มาได้ถูกเวลา
เย่เฟิงอุ้มสาวสวยไว้ในอกขณะมุ่งไปยังโรงแรมอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึง บริกรที่เคาน์เตอร์หน้าโรงแรมมองเห็นนักเรียนชายคนหนึ่งกำลังอุ้มหญิงสาวที่น่าจะเป็นนักเรียนเช่นกันเดินเข้ามาข้างใน ดูจากสภาพแล้วนักเรียนหญิงคนนั้นหากไม่เมามายก็หมดสติ เมื่อเย่เฟิงถามถึงห้องพัก บริกรก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูก แต่ยังคงเปิดห้องพักพร้อมส่งกุญแจให้
ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ และทุกๆครั้งที่เขารู้เห็นกับเรื่องแบบนี้ เขาก็รู้สึกว่าศีลธรรมในใจเขาค่อยๆพังทลายลงไปทุกวัน
แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่มีเวลามาสนใจกับท่าทีและความคิดของบริกร เขารีบเดินเข้าไปในห้องพักอย่างรวดเร็วพร้อมกับวางร่างของหญิงสาวไว้บนโซฟา
เมื่อครู่นี้ เขาได้กุเรื่องขึ้นต่อหน้าอู๋บี เพราะหญิงสาวคนนี้กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส ยิ่งไปกว่านั้น มีผงติดตามตัวถูกโปรยอยู่ตามร่างของเธอ ชัดเจนว่าเธอกำลังถูกไล่ล่าจากคนที่จ้องจะเอาชีวิต
ในตอนที่เขายังคงคุยเรื่องไร้สาระกับอู๋บี เย่เฟิงได้ใช้เจินฉีขจัดผงติดตามตัวที่ติดอยู่ตามร่างกายของเธอออกไป และเวลานี้ เขาพบเหตุผลที่แหวนดาบมังกรโบราณร้อนขึ้นมาแล้ว มันมีสาเหตุมาจากสิ่งของบางอย่างซึ่งถูกซุกซ่อนไว้ที่หน้าอกของหญิงสาว จนทำให้แหวนที่นิ้วของเขาปล่อยความร้อนออกมาไม่หยุด
ในความจริง ระหว่างอาการบาดเจ็บของเธอกับสิ่งของที่ซุกซ่อนอยู่ที่หน้าอก เย่เฟิงจะให้ความสนใจกับสิ่งหลังเสียมากกว่า เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอามือล้วงเข้าไปในขอบเสื้อของเธอ เพื่อต้องการดูว่าสิ่งของสิ่งนั้นมันคืออะไร
โดยไม่คาดคิด มือของเย่เฟิงรับรู้ได้ถึงสัมผัสอันอวบอิ่มและอ่อนนุ่ม ตอนนี้เขารู้สึกประหม่าเป็นอย่างยิ่ง นี่เหมือนกับเขากำลังฉวยโอกาสทำสิ่งมิดีมิร้ายขณะที่เธอกำลังหมดสติอยู่ ช่างเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับสุภาพบุรุษเอาซะเลย
ถึงอย่างนั้น หญิงสาวคนนี้มีหน้าอกที่อวบอิ่ม อ่อนนุ่ม และให้ความรู้สึกอุดมสมบูรณ์เหลือเกินยามสัมผัส มันยังมีความยืดหยุ่นและเต่งตึงสู้มืออีกต่างหาก……..แค่กๆ ถึงอย่างนั้นความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นนานนัก เพราะเขารีบล้วงเอาของสิ่งนั้นออกมาอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เขาล้วงออกมาได้คือสมุนไพรสามต้น แต่ละต้นจะมีใบบางๆห้าแฉกและมีสีทองแต้มอยู่ตรงกลางราก
เมื่อเห็นสมุนไพรทั้งสามต้น เย่เฟิงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาพร้อมกับความปิติยินดีที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า สิ่งเหล่านี้คือหญ้าใบทองงั้นหรือ? ฟ้ามีตาจริงๆ หญ้าพวกนี้ช่างมาหาเขาได้ถูกเวลาเหลือเกิน!
หญ้าใบทองเป็นสมุนไพรที่สามารถพบได้ทั่วไปในโลกเทวะ พวกมันยังมีสรรพคุณที่หลากหลาย
ตัวอย่างเช่นหญ้าใบทองที่อยู่ในมือเย่เฟิงในขณะนี้ ต้องใช้เวลาถึงห้าปี จึงจะนำมาใช้งานได้ พวกมันยังอัดแน่นไปด้วยหลิงฉี ซึ่งช่วยเพิ่มระดับของการบ่มเพาะได้ถึง 5 เดือน แต่มันจะส่งผลเฉพาะครั้งแรกที่ใช้เท่านั้น ครั้งถัดไปจะไม่เกิดผลแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เย่เฟิงยังรู้ตำรับปรุงยาพิษง่ายๆซึ่งมีหญ้าใบทองเป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อใช้ควบคุมคนธรรมดาให้เชื่อฟังเขาได้ ซึ่งเขาต้องการนำมันไปใช้กับหัวหน้าแก๊งอสรพิษสวรรค์
แน่นอนว่าหญ้าใบทองเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติของล้ำค่าของหญิงสาว จึงไม่แปลกที่เธอจะเก็บซ่อนมันไว้ที่หน้าอก
“ดีละ ถ้างั้นต้นหนึ่งเอามาใช้รักษา อีกต้นหนึ่งใช้ปรุงยาพิษ และต้นสุดท้ายใช้……”
เย่เฟิงมองไปยังหญิงสาวไร้สติที่นอนอยู่บนโซฟาพร้อมกับเกิดอาการลังเลเล็กน้อย
ชัดเจนว่าการกระทำในตอนนี้ของเขาเป็นการเอาประโยชน์จากเธอ แต่เขาไม่มีทางเลือก เพราะหญ้าใบทองนั้นสำคัญต่อเขามากในเวลานี้ และในเมื่อเขาใช้ต้นหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตเธอ ถ้าอีกสองต้นเป็นสิ่งตอบแทนสำหรับเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องสมควร
เพราะหากเขาไม่ได้ช่วยเธอไว้ บางที เธออาจถูกกลุ่มคนที่ไล่ล่าตามจับ และอาจจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายจนเสียชีวิตก็เป็นได้
เย่เฟิงจึงนำหญ้าใบทองต้นหนึ่งป้อนเข้าไปในปากสาวสวย เขาเริ่มควบคุมเจินฉีในมือพร้อมกับค่อยๆดันหญ้าใบทองเพื่อให้เธอกลืนมันลงท้องไป การกลืนสมุนไพรสำหรับคนที่ไร้สตินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่โชคดีที่เย่เฟิงเป็นคนช่วยเธอ หญิงสาวไอออกมาสองสามครั้งก่อนจะกลืนมันลงไปในที่สุด
จากนั้น เย่เฟิงจึงจับข้อมือที่ละเอียดอ่อนของหญิงสาวแล้วค่อยๆส่งกระแสเจินฉีเข้าไปในร่างของเธอ พร้อมกับชักนำให้หญ้าใบทองในร่างเธอให้ปลดปล่อยหลิงฉีออกมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
แต่เขากลับพบว่ามันไม่สามารถทำได้ง่าย!
เย่เฟิงลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจเพราะในขณะที่เขากำลังตรวจสอบร่างกายของเธอ เขากลับสัมผัสได้ถึงจุดชีพจรในเส้นลมปราณของเธอที่ถูกเปิดออก รวมทั้งกระแสของพลังแปลกประหลาดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างของเธอ มันคล้ายคลึงกับเจินฉีในร่างของเขา
“เป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอไม่ได้มีเมล็ดพันธุ์ในจุดตันเถียน แต่เธอกลับสามารถบ่มเพาะวรยุทธ์ได้?”
เย่เฟิงยังคงจำคำพูดของเขาที่กุขึ้นมาพูดกับอู๋บีก่อนหน้านี้ดี แต่ไปๆมาๆมันอาจจะกลายเป็นเรื่องจริงเสียอย่างนั้น เพราะในความทรงจำของเย่เฟิงคนก่อน ไม่เคยมีเรื่องราวใดๆเกี่ยวกับผู้มีวรยุทธ์ปรากฏขึ้นมาบนโลกใบนี้ หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าหญิงสาวคนนี้ก็ทะลุมิติมาจากโลกเทวะเช่นเดียวกันกับเขา
แต่เย่เฟิงไม่รู้สึกคุ้นเคยกับกระแสพลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างของเธอเลย ชัดเจนว่ามันไม่ใช่เจินฉี และไม่ได้ความพลังเทียบเท่าเจินฉีเช่นกัน เมื่อวิเคราะห์ดูแล้ว ดูเหมือนเธอจะมีระดับการบ่มเพาะวรยุทธ์อยู่ที่ 8 ปี ซึ่งเขาต้องบ่มเพาะวรยุทธ์ถึง 4 ปี จึงจะมีระดับทัดเทียมกับเธอได้
มันอาจจะเป็นไปได้ที่เจินฉีมีพลังสูงกว่าพลังประหลาดในร่างของเธอประมาณสองเท่า
เย่เฟิงพยายามยับยั้งอาการตื่นตระหนกในใจ ขณะกรุยทางเส้นลมปราณในร่างของหญิงสาวด้วยการชักนำเจินฉีให้ไหลเวียนเข้าไป เขาพบว่าบาดแผลในและเส้นลมปราณที่ฉีกขาด เป็นสาเหตุให้ลมปราณของเธอรั่วไหลออกจากร่าง และทำให้เธอหมดสติไป เคราะห์ดีที่หญ้าใบทองให้ผลต่อการรักษาอย่างดีเยี่ยม เมื่อรวมกับการชักนำกระแสเจินฉีของเขา จึงทำให้บาดแผลของเธอสามารถรักษาได้อย่างง่ายดาย
โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ในที่สุดเย่เฟิงก็สามารถรักษาเส้นลมปราณที่ฉีกขาดทั้งหมดของเธอให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม จากนั้น เขาจึงจับขอมือของเธอมาตรวจสอบอาการ
“แม้ฉันจะช่วยชีวิตเธอ แต่ฉันก็ได้รับบางสิ่งจากเธอเช่นกัน หากเธอตื่นขึ้นมา ด้วยระดับวรยุทธ์ของเราคงเอาชนะเธอไม่ได้……”
เย่เฟิงคิดว่าเขาควรจะรีบหนีไปให้เร็วที่สุดก่อนที่หญิงสาวคนนี้จะตื่นขึ้นมา
เขากวาดสายตาไปรอบๆห้อง และพบกับกระดาษปากกาที่ถูกจัดเตรียมไว้ในตู้เก็บของ เย่เฟิงจึงเดินไปยังตู้เพื่อเตรียมจะเขียนข้อความบางอย่างถึงเธอ อย่างน้อยก็คือการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษที่เอาหญ้าใบทองของเธอไปโดยพลการ
แต่ขณะที่เขากำลังหยิบปากกาขึ้นมาเขียนบนกระดาษ หญิงสาวที่ไร้สติได้ลืมตาและยืนขึ้นในทันใด
“คุณเป็นใคร!”
หญิงสาวคนนี้หมดสติมาเป็นเวลานานแล้ว ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ว่าตัวเองกำลังถูกไล่ล่าจากคนบางคน และเมื่อตื่นขึ้นมา เธอก็พบกับเย่เฟิงที่ยืนถัดไปจากตู้ใส่ของ
น้ำเสียงของเธออ่อนหวานและน่ารื่นรมณ์เหมือนดั่งเสียงร้องของนกขมิ้น แต่ขณะเดียวกัน มันก็แฝงไปด้วยเจตนาฆ่าฟันที่อยู่ในน้ำเสียงที่ไพเราะนี้
“เอ่อ……….”
เย่เฟิงรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยขณะต้องการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่เมื่อหญิงสาวจ้องไปที่เย่เฟิง เธอกลับไม่ได้มองเห็นปากกาและกระดาษที่วางอยู่หน้าเขา สายตาของเธอกวาดไปพบกับสิ่งที่อยู่บนตู้ ทันใดนั้น ใบหน้าของเธอก็ขึ้นสี เมื่อมองเห็นของสิ่งหนึ่งที่ถูกจัดไว้ให้โดยโรงแรม ซึ่งเป็นกล่องใบหนึ่งที่เขียนไว้ว่า“X Yang God Lu”
(note:ผมไม่แน่ใจเหมือนกันนะฮะว่า“X Yang God Lu”คืออะไร ยังไงใครมีความรู้ช่วยบอกทีนะครับ)
คนๆนี้จะทำเรื่องมิดีมิร้ายตอนเธอหมดสติงั้นหรือ?
ไม่สิ!
หญิงสาวรีบตรวจสอบของที่เธอซ่อนไว้บริเวณหน้าอกและพบว่าหญ้าใบทองทั้งสามต้นได้หายไป สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที และหันไปมองเย่เฟิงอย่างดุร้าย
“เอาละคุณผู้หญิง ในคุณตื่นแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องเขียนอะไรทิ้งไว้อีก”
เมื่อเย่เฟิงมองเห็นใบหน้าเอาเรื่องของเธอ ใจของเย่เฟิงเต้นรัวเหมือนคนโดนจับได้ แต่ใบหน้าของเขายังคงนิ่งสงบพร้อมกับพูดขึ้น “ผมเห็นคุณหมดสติอยู่บนถนนจึงนำคุณมาที่นี่ ในเมื่อตอนนี้คุณไม่เป็นอะไรแล้ว ผมก็คงต้องขอตัวก่อน”
จากคำพูดของเย่เฟิง ดูเหมือนเขาเป็นพี่ชายแสนใจดีที่ผ่านมาเจอเด็กสาวคนหนึ่งที่หมดสติอยู่ข้างถนน จึงได้ยืนมือมาช่วยเหลือ เมื่อฟังดูแล้วก็เหมือนเป็นไปได้ แต่เธอจะเชื่อคนแปลกหน้าทันทีได้อย่างไร
หญิงสาวเพ่งพิศอยู่ชั่วครู่ และครุ่นคิดถึงความเป็นไปในคำพูดของเขา ตอนนี้เธอตระหนักว่าบาดแผลภายในและเส้นลมปราณของเธอได้รับการเยี่ยวยาจนหายดีแล้ว รวมทั้งผงติดตามที่ถูกโปรยบนตัวของเธอก็หายไปเช่นเดียวกัน ชัดเจนว่ามีใครช่วยเธอไว้
หรือจะเป็นเด็กคนนี้ที่ช่วยเธอไว้?
ขณะที่มองเย่เฟิง เธอลอบครุ่นคิดในใจ แม้ว่าเขาจะช่วยเธอไว้ แต่เธอคงไม่ยอมให้เขาเอาหญ้าใบทองไปแน่ๆ เพราะที่เธอถูกไล่ล่าและโดนทำร้ายจนบาดเจ็บก็เพราะสิ่งนี้ หากเธอให้เขาไปง่ายๆ สิ่งที่เธอทำมาตลอดหนึ่งเดือนก็สูญเปล่าน่ะสิ
เย่เฟิงเหลือบมองไปนอกห้องก็พบว่าตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว หากเขาหนีไปตอนนี้ มันน่าจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา
ในตอนนแรก หญิงสาวตั้งใจจะจับตัวเย่เฟิงให้เร็วที่สุด ส่วนเย่เฟิงก็เตรียมตัวที่จะหนีแล้วเช่นกัน แต่ทันใดนั้น ได้มีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นเสียก่อน
จู่ๆ ประตูโรงแรมก็ถูกเปิดออกพร้อมกับมีเสียงแหลมคมดังก้องออกมา
“อย่าขัดขืนแล้วยกมือขึ้น!”
……………………………………………
แปลโดย : Mediate
ปรับสำนวน : Solar Spark