บทที่ 71

“คนของเซี่ยถู?”

เดิมชายชุดดำคิดว่าอีกฝ่ายจะตกใจและหวาดกลัว แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของเขาก็คือ ใบหน้าของฉินห่าวยังคงสงบ แม้เลือดย้อยออกจากมุมปาก แต่เขาก็ยังถามประโยคนี้

“เอ่อ .. ”

เขาพูดไม่ออก

แม้ตนจะเป็นนักฆ่าที่เมินเฉยต่อชีวิต แต่อย่างน้อยก็ยังให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเอง กระนั้น อีกฝ่ายกลับเหมือนไม่สนใจชีวิตของตัวเองเลย

“ขอ 10 วินาที รอข้าก่อน”

ภายใต้สายตาที่มองมาอย่างโง่เขลา อีกฝ่ายพูดประโยคนี้จบก็สิ้นใจไป

รอ? รอบิดาเจ้า!

เจ้าตายแล้ว ยังจะให้ข้ารอทำไมอีก?

หรือต่อให้กลายเป็นผีก็ไม่คิดปล่อยข้าไป? ต้องการหมายความอย่างนี้กระมัง?

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้สนใจประโยคนี้นัก เริ่มค้นตามร่างไร้วิญญาณของฉินห่าว เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายมีสมบัติสองชิ้น นั่นคือค้อนระดับตี้และกระบี่หักที่ลึกลับ

กระนั้น พอได้ลองค้นตัวสองสามรอบ ชายชุดดำกลับพบว่าฉินห่าวไม่มีอะไรติดตัวเลย แม้แต่ถุงมิติหรือแหวนมิติก็ไม่มี แต่เมื่อครู่เขาเห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายนำค้อนออกมาใช้งาน ….

“หรือเขาจะมีมิติเก็บของส่วนตัว? เช่นนั้นก็ยุ่งยากแล้ว น่าเสียดายนัก” พอนึกบางอย่างออก ชายชุดดำขมวดคิ้ว บ่นเสียดาย

มิติเก็บของส่วนตัวสามารถถูกครอบครองโดยผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ผู้ยิ่งใหญ่สามารถเปิดมิติส่วนตัวให้กับศิษย์ของตัวเองได้ ซึ่งสมบัติข้างในผู้อื่นไม่อาจคว้ามัน มีแต่เจ้าของหรือคนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงจะเปิดได้

“น่าเสียดาย!”

ชายชุดดำส่ายหัวและหันหลังเตรียมจากไป

“เฮ้อ ก็บอกแล้วไงขอเวลา 10 วินาที เจ้ารอข้าไม่ได้เลยหรือ?”

ทันใดนั้นเอง เสียงแผ่วเบาดังมาจากข้างหลัง

ชายชุดดำสะดุ้งโหยง รู้สึกว่ามีเม็ดเหงื่อผุดซึมและขนลุกชัน คนที่อยู่ข้างหลังเขาโผล่มาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบกาณณ์ลอบสังหารที่ยาวนานกว่า 20 ปี เขาไม่หันหลังกลับไป แต่วิ่งหนีอย่างไว พอเว้นระยะได้ค่อยหันกลับ

เห็นเพียงชายที่เพิ่งฆ่าไป เวลานี้ยืนอยู่ในสภาพดี แถมยังเปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าตัวใหม่

“เจ้า … เจ้ามาได้ยังไง นี่มันบ้าอะไรกัน?”

ชายชุดดำตัวแข็ง เขาไม่อยากจะเชื่อ อีกฝ่ายถูกเขาฆ่าตายไปแล้ว งั้นเป็นไปได้อย่างไรกัน? หรือนี่คือทักษะร่างแยกของลัทธิเต๋า?

เช่นนั้นแล้วที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้คือร่างเต๋าหรือร่างจริง?

สับสนซะแล้ว!

“ไม่ได้การ ต้องรีบถอนตัว!”

ในชั่วพริบตา เมื่อยืนยันว่าเหตุการณ์เบื้องหน้ามันประหลาดเกินไป ทำให้ตนสูญเสียความเยือกเย็นของนักฆ่า ชายชุดดำจึงหันหลังกลับอย่างไม่ลังเล

“เล่นลอบสังหารใต้จมูกข้า เดี๋ยวข้าจะแสดงให้ดูว่าการลอบสังหารของจริงน่ะมันเป็นยังไง!”

เบื้องหลังชายชุดดำ เสียงฉินห่าวที่คล้ายสามารถกำหนดชะตาชีวิตของผู้คนได้ดังขึ้น แต่ชายชุดดำไม่สนใจ เขาอยู่ในจุดสูงสุดขอบเขตรู้แจ้ง ดังนั้นไม่เชื่อว่าศัตรูจะมีพลังรบแก่กล้าถึงขั้นไล่ตามตัวเองทัน

ฉัวะ!

แต่ในตอนนั้นเอง ชายชุดดำรู้สึกผิดปกติที่แขน เขาก้มมอง และไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่แขนบางส่วนของตนได้หายไปแล้ว และมีเลือดกำลังทะลักออกมา

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ม่านตาของชายชุดดำหดวูบ เขาใช้พลังปราณปิดบาดแผลตัวเอง

“อ้อ ขอโทษที พอดีมือมันลื่น ดูเหมือนด้านทักษะการโจมตีปลิดชีพในคราเดียว ข้าจะด้อยกว่าเจ้าจริงๆ วิ่งต่อไปสิ เดี๋ยวข้าจะลองโจมตีเรื่อยๆ ต้องมีซักครั้งที่เข้าจุดตายล่ะน่า”

ใบหน้าของชายในชุดดำเปลี่ยนเป็นซีดขาว เห็นได้ชัดว่าเจตนาของอีกฝ่ายคือต้องการหยอกล้อกับเขา

ในชั่วพริบตา ชายชุดดำหยุดวิ่งและตัดสินใจจะสู้ เพราะเขารู้สึกว่าหากยังหนีต่อไป อาจได้ตายจริงๆ

ฟัฟฟฟ

แต่ทันทีที่เขาหยุด เสียงกระบี่เสียดแทงเข้าเนื้อก็ดังขึ้น เมื่อก้มมอง ก็พบว่าเห็นหน้าอกตัวเองถูกเจาะแล้ว

เขาเงยหน้าขึ้นอย่างแข็งทื่อ และพบว่าอีกฝ่ายยืนอยู่ข้างหลังเขา แต่เป็นในระยะที่ใกล้มาก ใกล้จนแทบประชิดกัน …

“หือ? ทำไมเจ้าหยุดซะเล่า?”

ฉินห่าวดูประหลาดใจ

ในขณะนี้ ชายชุดดำมั่นใจแล้วว่าครั้งแรกอีกฝ่ายน่าจะมือลื่นจริงไม่ได้กำลังหยอกล้อตัวเอง

“กองบัญชาการใหญ่ของเซี่ยถูอยู่ที่ไหน เจ้าช่วยบอกข้าที”

ชายชุดดำปิดปากเงียบ แต่ในใจเกิดอารมณ์ซับซ้อน ทำไมข้าต้องพบจุดจบเช่นนี้ด้วย แล้วทำไมไม่เลือกสู้แต่แรก? ในเมื่อพลังรบของข้าอยู่ในขอบเขตก่อเกิดจิต ขณะที่ศัตรูอยู่ในขอบเขตแก่นทองคำ แล้วข้าจะเอาชนะไม่ได้เชียวหรือ?

คำถามผุดขึ้นมาในหัว อย่างไรก็ตาม มันสายไป

พรวดดด!

ชายชุดดำล้มงกับพื้น หมดสิ้นลมหายใจ