บทที่ 69: หายนะ (2)
ซ่า ซ่า ซ่า
ท้องทะเลรอบรากกำลังปั่นป่วนรุนแรง
มิเกล คริสโตเฟอร์ ผู้นำแห่งอาคารแสง หนึ่งในหกขั้วอำนาจ แสดงสีหน้าเหลือเชื่ออกมาขณะที่มองภาพเบื้องหน้า
“… มันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเสียงดีดดิ้นของมัจฉาภัยพิบัติในเวลากว่า 20 ปี”
สึนามิที่ถูกสร้างขึ้นโดยมัจฉาภัยพิบัติกำลังกวาดออกไปทั่วทุกทิศทาง
นักผจญภัยคนอื่นๆ แห่งเขตสีแดงก็แสดงสีหน้าคล้ายคลึงกันออกมาเช่นกัน
ในเมื่อการที่สิ่งนั้นดีดดิ้นเช่นนั้นได้สร้างบางอย่างอย่างเฮอร์ริเคนและสึนามิมายังดินแดนของพวกเขา
มันหมายความว่ามีบางสิ่งที่ส่งผลกับสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์ไม่อาจเอื้อมต่อต้านได้
‘เกิดบ้าอะไรขึ้นในท้องของมัน…’
คริสโตเฟอร์มองไปยังท้องทะเลที่ห่างไกลด้วยสีหน้าเยือกเย็น
ปึด ปึด
เส้นเลือดกำลังสั่นสะท้านอย่างบ้าคลั่ง
พิษที่ไหลเวียนอยู่ภายในเส้นเลือดนั้นร้ายแรงถึงตายด้วยตัวมันเอง ทว่าน่าประหลาดใจที่ร่างกายที่สมดุลอย่างสมบูรณ์แบบของเผ่าพันธุ์มังกรสามารถต่อต้านและผลักยันมันกลับไปได้เรื่อยๆ
ฮันซูอุทานอยู่ภายใน
‘อย่างที่ฉันคิด’
จากนั้นเขาจึงคิดกับตัวเอง
ว่าร่างของมนุษย์นั้นช่างอ่อนแอโดยแท้
การที่พวกเขาได้มีชีวิตรอดในอบิสกว่า 50 ปีด้วยร่างกายแบบนั้นแทบจะเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์
ไม่สิ มันไม่ใช่แค่ทางกายภาพ มันมีหลายสิ่งที่พวกเขาขาด
ถ้ามองถึงอัตราการแพร่พันธุ์ของคาคิลัส เช่นนั้นคนคนหนึ่งก็ต้องฆ่าอย่างน้อยหนึ่งหมื่นถึงจะเหมาะสม และความสามารถในการทำงานร่วมกันของพวกเขาก็ไม่มีอะไรที่จะเทียบเท่าได้กับเผ่าเรปพอนที่ใช้ประสบการณ์และความรู้สึกร่วมกัน
พวกมันอาจไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับมังกรหรือปีศาจ แต่มันก็ไม่มีแม้แต่เผ่าพันธุ์เดียวที่อ่อนแอกว่ามนุษย์
‘นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องทำให้ดี’
ฮันซูที่คิดเช่นนั้นขบฟันแน่นขณะมองไปยังหนวดที่พุ่งเข้ามาหาร่างของเขา
<การดัดแปลง> เป็นสิ่งที่เขาจะเริ่มทำจากเขตสีส้ม
ตอนนี้เขาแค่ต้องเพ่งความสนใจไปยังงานในเขตสีแดง
ฉัวะ ฉัวะ
ชายหนุ่มฟันหนวดพวกนั้นอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมกับเทน้ำยาหินจากภายในถุงของเขาออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด
น้ำยาหินเริ่มไหลไปตามเส้นเลือดราวกับเรือกระดาษลำน้อยในกระแสน้ำเชียวกราก
กรี๊ซซซซ!
หนวดที่สัมผัสโดนกับน้ำยาหินได้กรีดร้องออกมาขณะที่มันบิดตัวของมันไปมา
หนวดนับหมื่นที่พุ่งเข้ามาหาเขาต่างกลายเป็นหินไปทันทีที่มันสัมผัสเลือดของมัจฉาภัยพิบัติที่มีน้ำยาหินปะปน ถูกบดขยี้และร่วงหล่นลงทับถมกับเศษฝุ่นของหนวดอื่นๆ
ฉัวะ
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น หนวดเหล่านี้ต่างก็กระทำตัวราวกับว่าพวกมันไม่อาจที่ปล่อยผู้บุกรุกไปได้และทิ่มแทงร่างของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง
กร๊อบบ
เกล็ดและกระดูดของมังกรได้ถูกกระหน่ำโจมตีอย่างรุนแรงโดยหนวดเหล่านั้นและเริ่มที่จะแตกหัก
“อั่ก!”
ฮันซูกัดฟันกรอดกับความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วร่างของเขา
จากนั้นเขาจึงใช้รูนฟื้นฟูที่เขาได้ขโมยมาจากมนุษย์คนอื่นๆ ก่อนหน้าอย่างบ้าคลั่ง
‘เวรเอ้ย… นี่คือส่วนแย่ของการที่ความสามารถของฉันเพิ่มสูงขึ้น’
รูนฟื้นฟูนั้นเป็นบางสิ่งที่ถูกกำหนดให้อยู่ในระดับของมนุษย์ ดังนั้นมันจึงไม่อาจที่จะตามทันกับพลังชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากเผ่าพันธุ์มังกรปีศาจได้
หนึ่งในสองหัวใจที่ถูกบดขยี้ได้ถูกฟื้นฟูขึ้นแล้ว ทว่าอีกหัวใจที่ถูกหนวดทะลวงไปนั้นได้ติดคำสาปและไม่ฟื้นฟู
แต่มันดีกว่าที่จะเหวี่ยงดาบของเขาเพิ่มอีกครั้งแทนที่จะมัวแต่บ่น
ฮันซูเหวี่ยงรีลิคของกาลาเดรียงอย่างรุนแรงและผ่าเส้นเลือดออก
ชายหนุ่มทรงร่างที่ไหลตามกระแสเลือดเชี่ยวกรากอย่างรุนแรงด้วยอาการกัดฟันแน่นหลังจากมองไปยังแสงสว่างที่อยู่ห่างออกไป
‘ฉันมาถึงแล้ว!’
การที่มันมีแสงหมายความว่าเขาเกือบจะไปถึงยัง <สะเก็ดศิลาศักดิ์สิทธิ์> ที่อยู่ภายในหัวใจแล้ว
แต่แสงนั้นได้ถูกปกคลุมอย่างรวดเร็ว
ด้วยหนวดจำนวนมหาศาลที่ได้รวมตัวกันภายในหัวใจ
‘ไอ้เวรบัดซบ มันไม่เป็นโรคหัวใจได้ยังไงทั้งๆ ที่มีไอ้ของแบบนี้อยู่ในเส้นเลือด’
ขนาดของหัวใจนั้นเหมาะสมกับขนาดตัวของมัจฉาภัยพิบัติด้วยขนาดที่เทียบเท่ากับสนามกีฬาสองสนามรวมกัน
และหนวดนับแสนกำลังเคลื่อนไหวไปมาอยู่ภายในพื้นที่ใหญ่โตนั้น
หัวใจได้เตรียมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้วระหว่างที่คอร์กำลังถูกโจมตี
‘เวรเอ้ย มันมีมากกว่าที่ฉันคิดไว้’
เขากลัวไปชั่วครู่
จนถึงจุดที่เขาคิดที่จะถอยไปชั่วขณะ
หนวดที่รวมตัวกันกำลังส่งแรงกดดันออกมา
ทว่าฮันซูกัดฟันกรอด
‘ไร้สาระ!’
เมื่อเขาถอยไปครั้งหนึ่ง งั้นเขาก็จะต้องถอยไปเรื่อยๆ
ถ้าเขาจะกลัวและถอยเพื่อที่จะเตรียมตัวอีกครั้ง งั้นเขาก็จะถอยหลังไปเรื่อยๆ
เวลาไม่กี่วันที่เขาใช้ในการเตรียมการก็น่าเศร้ามากพอแล้ว
เขาจะปีนขึ้นไปได้เมื่อไหร่ถ้าเขาจะถอยที่นี่
ทุกวินาทีนั้นล้ำค่า และยิ่งเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วมากเท่าใด โอกาสที่เขาจะชนะก็จะมากขึ้น รวมทั้งการที่เขาจะสามารถช่วยเหลือคนได้มากกว่าเดิมเช่นกัน
‘ไป’
หนวดเริ่มที่จะพุ่งเข้าไปหาร่างของชายหนุ่มที่ถูกดันเข้าไปหาพวกมันด้วยแรงของโลหิต
มันราวกับปลาเฮอร์ริ่งนับแสนกำลังพุ่งเข้าไปจับกุ้งตัวจิ๋วตัวหนึ่ง
ฮันซูมองไปยังพวกมัน จากนั้นจึงเปิดถุงที่อยู่ที่เอวของเขาจนสุด
มันไม่ใช่เวลาที่จะมาประหยัด
มันอาจจะไม่มีแม้แต่โอกาสใช้มันถ้าหากเขาพลาดที่นี่
ไม่ช้าน้ำยาหินที่เขาเตรียมไว้ก็ได้กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วด้วยการเต้นที่ราวกับแผ่นดินไหวของหัวใจของมัจฉาภัยพิบัติ
กรี๊ซซซซ!
เหล่าหนวดได้กลายเป็นหินไปอย่างรวดเร็ว
พวกมันกลายเป้นหินหลังจากสัมผัสโดนน้ำยาหินจำนวนมากเมื่อเทียบกับจำนวนก่อนหน้าก่อนที่จะแตกสลายลง
ฮันซูใช้ช่วงเวลานี้ในการมองหาทิศทางของแสงอย่างต่อเนื่อง
‘ศักดิ์สิทธิ์… สะเก็ดศิลาศักดิ์สิทธิ์!’
โรงไฟฟ้าที่เติมเต็มพลังงานทั้งหมดทั่วทั้งร่างกายของมัจฉาภัยพิบัติ
พูดอย่างมีเหตุผลแล้ว สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เช่นนี้จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินของพวกนั้นได้ยังไง
สิ่งนี้ไม่แม้แต่จะย่อยสิ่งที่มันกลืนเข้าไปเสียด้วยซ้ำ
มันแค่เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ภายในท้องที่ถูกคงสภาพไว้ด้วยคอร์
สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อกินบางอย่างและใช้สิ่งที่มันกิน
มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาเพียงเพื่อกลืนกินทุกอย่าง
และโรงไฟฟ้าที่ทำให้สิ่งมีชีวิตพิสดารเช่นนี้มีชีวิตอยู่ได้
<ศิลาศักดิ์สิทธิ์>
สิ่งที่ทำหน้าที่เหมือนกับต้นกำเนิดของต้นไม้โลก ทว่าตอนนี้ได้แตกกระจายเป็นเศษเสี้ยวจำนวนมาก หลบซ่อนอยู่ภายในร่างของภัยพิบัติทั้งห้า และทำตัวเสมือนแหล่งกำเนิดพลังงานที่ทำให้พวกมันมีชีวิตอยู่ได้
บางสิ่งที่ส่องแสงสว่างอยู่ที่ใจกลางของหัวใจ
สิ่งที่ให้แสงสว่างกับทั้งหัวใจแม้ว่าจะถูกปกคลุมด้วยเส้นเลือด เส้นเอ็น และเมือก
‘เจอแล้ว!’
สะเก็ดศิลาศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายใต้สิ่งนั้น
ฮันซูต้านทานการโจมตีของหนวดขณะที่เขาพุ่งตรงไปยังรังไหมแปลกประหลาดที่ครอบคลุมสะเก็ดศิลาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ
จากนั้นเขาจึงเริ่มฉีกกระชากรังไหมหนานับสิบเมตรที่ปกปิดสะเก็ดศิลาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ภายใน
‘ไอ้พวกปรสิตบัดซบนี่!’
ศิลาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้พลังงานกับไอ้ตัวพวกนี้
แต่พวกมันกำลังดูดพลังงานและใช้มันในการกินต้นไม้โลก
เส้นเอ็นและเมือกนั้นแข็งและเหนียวเสียจนรีลิคของกาลาเดรียงที่สามารถตัดได้ทุกสิ่งต้องฟันหลายครั้งเพื่อที่เขาจะสามารถไปข้างหน้าได้
หัวใจที่เหลืออีกสองดวงของฮันซูได้ปั้มเลือดไปทั่วร่างของเขาอย่างบ้าคลั่ง
ถ้าพลังเวทของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นสองสามเท่าตัวจากการแปลงร่างเป็นมังกรปีศาจ หรือหนวดไม่ได้ถูกกวาดไปโดยน้ำยาหิน ทั่วทั้งร่างของเขาก็คงถูกบดขยี้ไปแล้ว
ฉึก
ในตอนนั้นเองที่หนึ่งในหัวใจที่ชายหนุ่มฟื้นฟูขึ้นมาของลากเลือดได้ถูกทำลายลง
‘อ๊ากกกก!’
จำนวนของหัวใจที่เหลืออยู่ในตอนนี้คือหนึ่งดวง
ฮันซูรู้สึกได้ว่าเรี่ยวแรงกำลังจางหายไปจากร่างกายของเขา แต่ก็ยังคงฟาดฟันรังไหมอย่างบ้าคลั่งด้วยอาการขบฟันแน่นและหลบการโจมตีให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘ไอ้พวกบัดซบ มาดูกันว่าพวกมึงจะสู้กับกูได้อยู่ไหมหลังจากที่แบตมึงหมด!’
คอร์ หนวด และมัจฉาภัยพิบัติล้วนขยับเคลื่อนไหวได้ด้วยพลังจากศิลาศักดิ์สิทธิ์เป็นหลัก
ศิลาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่แบบนั้น
ในทางกลับกัน ไอ้พวกนี้ไม่อาจที่จะคงสภาพร่างอันใหญ่โตของพวกมันไว้ต่อไปได้เมื่อศิลาศักดิ์สิทธิ์ถูกดึงออกไป
ในวินาทีที่แขนซ้ายของเขาถูกทำลายเสียจนแทบไม่เหลือเค้าสภาพเดิมอีกต่อไป รังไหมที่ชายหนุ่มได้ฟาดฟันก็ส่งเสียงออกมาพร้อมกับที่มันฉีกขาด
ไม่ช้า แสงที่ดูราวกับดวงอาทิตย์ขนาดย่อมก็ได้ทิ่มแทงไปยังร่างกายของฮันซู
‘อั่กกก…’
เมื่อรังไหมถูกทำลายและไม่อาจใช้งานได้อีกต่อไป พลังงานทั้งหมดจากศิลาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้ถูกดูดกลืนไปโดยมัจฉาภัยพิบัติและเผาไหม้ทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มแทน
ฮันซูใช้พลังเวททั้งหมดภายในร่างเพื่อที่จะป้องกัน จากนั้นจึงกะซวกเส้นเอ็นและรังไหมรอบๆ ศิลาศักดิ์สิทธิ์อย่างรุนแรง
หนึ่งครั้ง สองครั้ง
ขณะที่เขาได้โจมตีรังไหมอย่างต่อเนื่อง เส้นเอ็นก็เริ่มที่จะฉีกขาดทีล่ะเส้น
พลั่ว!
ทันใดนั้น
ศิลาศักดิ์สิทธิ์ได้หลุดออกจากรังไหมและเริ่มจมไปตามกระแสเลือดที่เชี่ยวกรากของหัวใจอย่างรวดเร็ว
‘ไม่!’
ฮันซูรีบมัดศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดราวๆ ศีรษะของเขาด้วยเมือกของรังไหมที่เขาได้ตัดออกมาอย่างรวดเร็ว
หลังจากคลุมมันจนกระทั่งมีขนาดเทียบเท่ากับร่างของเขา แสงก็เริ่มที่จะจางหายไป
‘มันอาจเป็นเพราะการกระตุ้นของมัจฉาภัยพิบัติที่จะดึงพลังงานออกมาหายไป…’
จะอย่างไร ฮันซูก็รีบนำศิลาศักดิ์สิทธิ์ใส่เข้าไปในถุงของเขา
แม้ว่าศิลาศักดิ์สิทธิ์จะเป็นหินจริงๆ มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่เอลวินไฮลม์สร้างขึ้น
ดูเหมือนว่ามันจะสามารถใส่เข้าไปในถุงได้
วินาทีที่ชายหนุ่มดึงศิลาศักดิ์สิทธิ์ออกมา จังหวะเต้นของหัวใจขนาดยักษ์ก็เชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
กี๊ซซซซ
ในเวลาเดียวกัน พวกหนวดก็เชื่องช้าลง
เมื่อพวกมันไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้มากหลังจากที่ศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่เติมเต็มพลังงานให้พวกมันราวกับดวงอาทิตย์ได้หายไป
ทว่าราวกับพวกที่ยังคงหลงเหลืออยู่พยายามที่จะระบายอารมณ์กราดเกรี้ยวที่หลงเหลืออยู่ พวกมันบีบคั้นพลังที่หลงเหลือทั้งหมดและทิ่มแทงไปยังร่างของฮันซู
พลั่ก พลั่ก พลั่ก
‘อึ่ก!’
ชายหนุ่มครางเสียงดังจากการโจมตีที่ฟาดลงมาทั่วทั้งร่างของเขา
การโจมตีได้รุนแรงมากขึ้นเมื่อน้ำยาหินได้กระจายตัวออกไปค่อนข้างมากแล้ว
แต่เขายังไม่อาจออกไปได้
เป้าหมายของเขาคือมัจฉาภัยพิบัติ
แต่ในขณะที่เดียวกันก็ต้องฆ่าอีกตัวไปด้วย
เขาได้ฆ่ามัจฉาภัยพิบัติไปแล้ว แต่มันมีสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อคนอื่นๆ
‘ทายาทของมัจฉาภัยพิบัติ!’
แม้ว่ามัจฉาภัยพิบัติจะเป็นปลาแค่ในนาม มันก็ใกล้เคียงกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างวาฬ
และน่าประหลาดใจที่ทายาทของมันก็ได้เติบโตขึ้นที่หัวใจ
มันจะเติบโตอยู่ภายในหัวใจที่มีพลังงานจากศิลาศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก
‘มันอยู่ที่ไหน!’
ฮันซูถูกโจมตีทั่วทั้งร่าง ฟันหนวดไปพร้อมกับมองหาลูกมัจฉาภัยพิบัติ
และไม่ช้าเขาก็หามันเจอ
ลูกของมัจฉาภัยพิบัติที่พยายามจะหนีไปสักแห่งด้วยเส้นเลือดของหัวใจ
แม้ว่ามันจะเป็นลูก มันก็ตัวใหญ่มากเสียกว่าปลาวาฬเสียอีก
‘แกจะไปไหน แกต้องเอาหัวใจมาให้ฉัน’
ฮันซูแหวกว่ายผ่านเลือดไปขณะที่เขาไล่ล่ามัน
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะล่าสัตว์น้ำภายในเลือด แต่ความเร็วของอีกฝ่ายนั้นเชื่องช้าลงไปไม่น้อยราวกับว่ามันได้กลืนกินน้ำยาหินเข้าไปสักอึก
ลูกมัจฉาภัยพิบัติขยับไปมาๆ และเริ่มฟาดร่างของมันเข้ากับกำแพงเส้นเลือด
‘อั่กกกก!’
ขนาดของมันเป็นอาวุธร้ายแรง
ฮันซูส่งเสียงครางออกมาเมื่อเขาถูกบดขยี้เข้ากับกำแพงเส้นเลือดด้วยร่างของลูกมัจฉาภัยพิบัติ
แต่มือของเขาและดาบของเขาก็ยังคงตวัดฟันไปที่ร่างของมันอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน หนวดที่ติดตามทั้งสองไปก็ได้เค้นพลังเฮือกสุดท้ายออกมาขณะที่พวกมันโจมตีไปยังชายหนุ่ม
ฮันซูกัดฟันกรอดและกะซวกร่างของลูกมัจฉาภัยพิบัติลึกเข้าไป
กี๊ซซซซ!
ลูกมัจฉาภัยพิบัติส่งเสียงร้องอย่างสิ้นหวัง ทว่ามันไม่อาจที่จะทำอะไรกับผู้บุกรุกในร่างของมันได้
ฮันซูทะลวงเข้าไปภายในร่างของอีกฝ่าย จากนั้นจึงเริ่มตัดหัวใจของมัน
หรือจะพูดให้แม่นยำไปกว่านั้น เมล็ดของหัวใจที่สำคัญที่สุด
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเมล็ด มันก็ยังคงใหญ่เท่าศีรษะของเขา
ชายหนุ่มตัดมันออกก่อนจะหายใจอย่างหนักหน่วง
เขาลืมที่จะหายใจเพราะเขาต่อสู้อย่างหนักหน่วงเกินไป
‘เสร็จแล้ว!’
ในเมื่อเขาได้รับวัตถุดิบที่สำคัญที่สุดในการที่จะสร้างพิษ มันก็ถึงเวลาที่จะหลบหนีแล้ว
ฮันซูเก็บหัวใจที่เขาตัดออกมาและเริ่มที่จะแหวกว่ายอย่างรวดเร็ว
แต่ในเวลานั้นเองที่การโจมตีหนึ่งแหวกผ่านเลือดมาและโจมตีเข้าที่หัวใจที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวของชายหนุ่ม
ฉึกกก!
ฮันซูไม่อาจแม้แต่จะกรีดร้องออกมาและทำได้เพียงหายใจอย่างกระท่อนกระแท่น
เมื่อเขาหันกลับไป เขาสามารถเห็นหนวดสองสามเส้นที่กำลังแข็งค้างราวกับหินได้
การโจมตีสุดท้ายที่รีดเค้นออกมาจากพลังสุดท้ายของมันหลังจากที่ถูกตัดแหล่งพลังงานออก
คำสาปถูกถอนเพราะมัจฉาภัยพิบัติตายแล้ว ดังนั้นหัวใจจึงเริ่มฟื้นฟู แต่หัวใจทั้งสามของเขาในตอนนี้ได้รับความเสียหายเสียจนถึงจุดที่มันไม่อาจทำงานได้อย่างเต็มที่
‘เวรเอ้ย… มันต้องฟื้นฟูเพียงพอก่อนที่การแปลงร่างจะสิ้นสุดลง’
ชายหนุ่มจ้องไปยังหัวใจที่ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งและทำงานได้อย่างกระท่อนกระแท่นขณะที่เริ่มจะหมดสติด้วยอาการขบฟันแน่น
ไม่ช้า ร่างของชายหนุ่มก็ไหลลงไปด้วยสายเลือดเชี่ยวกรากและหายไปในร่างของมัจฉาภัยพิบัติ
TL: ปู๊! ปู่จะตายไม่ได้นะ ปู่มีสกิลพระเอกใช่ไหมม