บทที่ 40: ปราสาทจอมมาร (7)
แม้ว่าลักษณะพิเศษของลอร์ดจะดูทรงพลังอย่างมาก มันก้ยังคงมีข้อจำกัดอยู่เล็กน้อย
พวกเขาสามารถให้คำสั่งได้อย่างจำกัดต่อลูกกิลด์ที่แข็งแกร่งที่พวกคุณได้มอบสัญลักษณ์ให้ เมื่อหากคำสั่งนั้นเกินไป กลไกการปกป้องตนเองของคนเหล่านั้นก็จะทำงานขึ้นและทำลายสัญลักษณ์ลง ทั้งมันยังมีขีดจำกัดด้านจำนวนอีก
เนื่องจากข้อจำกัดอื่นๆ อีกสองสามข้อนอกเหนือไปจากนี้ กระทั่งลอร์ดก็ไม่สามารถแสดงความสามารถที่ราวกับราชาได้ต่อหน้าผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา
แต่เหมือนกับสกิลอื่นๆ หรือพลังจิต ระดับของลักษณะพิเศษนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และลอร์ดจำนวนหนึ่งที่มีความสามารถยอดเยี่ยมได้ปรากฏตัวขึ้นครั้งแล้งครั้งเล่า
ผู้คนที่ผลิบานลักษณะพิเศษของเขาออกอย่างรวดเร็ว และใช้มันเป็นฐานในการเริ่มต้นจะสามารถเริ่มต้นได้ยิ่งใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ
<ลอร์ดวิปลาศ> เองก็เป้นหนึ่งในนั้น
ในขณะที่คนอื่นๆ ควบคุมคนร้อยคนได้อย่างกล้ำกลืน เขามีพลังที่จะควบคุมคนกว่าสองร้อยคนได้จนถึงจุดที่เขาสามารถสั่งให้คนเหล่านั้นฆ่าตัวตายได้ และได้โดดเด่นออกมาจากในบทฝึกซ้อม
แม้ว่าเขาจะเป็นไอ้บ้าเสียสติก็ตาม
และสิ่งที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือไอ้หมอนี่เป็นหนึ่งในกลุ่มเดียวกับเขาในบทฝึกซ้อม
ในบรรดาคน 9,000 คนที่ได้เข้าไปยังพื้นที่ฝึกซ้อมที่สอง มีคนเพียง 300 คน ไม่นับคน 200 คนที่เป็นลูกกิลด์ของหมอนั่น มีชีวิตรอด และทั้งหมดเป็นเพราะหมอนี่
เมื่อหมอนี่ฆ่าทุกคน
และด้วยปรัชญาที่เรียบง่ายเป็นพื้นฐาน
<คู่แข่งที่มีความสามารถ หากฉันฆ่าคนที่มีพลังจิตใกล้เคียงกับฉันตอนที่พวกนั้นอยู่แยกกันและได้รับข้อได้เปรียบที่พวกนั้นจะได้ในบทฝึกซ้อมทั้งหมดไว้คนเดียว งั้นฉันก็จะสามารถสร้างคน 200 คนที่แข็งแกร่งกว่าที่ฉันสามารถควบคุมได้ขึ้นได้ และจากนั้นก็ผ่านบทฝึกซ้อมไปได้อย่างง่ายๆ มันจะแข็งแกร่งกว่าคน 1,000 คนที่ฉันไม่สามารถเชื่อได้>
ผลลัพธ์ที่ออกมาจากบุคลิกที่ไม่อาจเชื่อใจผู้อื่นได้ ความสามารถที่ยอดเยี่ยมและโหดเหี้ยม
หมอนั่นคิดว่าศัตรูที่แท้จริงในบทฝึกซ้อมนั้นไม่ใช่สัตว์อสูร แต่เป็นมนุษย์ที่มีโอกาสที่จะสร้างความวุ่นวาย หมอนั่นใช้มันเป็นพื้นฐานและคิดที่จะฆ่าคู่แข่งที่มีความสามารถทุกคน
โดยปกติแล้ว ผู้คนจะเตรียมตัวและรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ๆ หลังจากที่คำนวณแล้วว่าพวกเขาต้องต่อสู้กับผู้ที่ได้หายไปก่อนหน้า แต่ไอ้หมอนี่ไม่ใช่แบบนั้น
<ทุกคนที่เข้าร่วมในบทฝึกซ้อมจะสามารถมีชีวิตรอดได้เมื่อออกไปก็ต่อเมื่อรวมพลังกัน? มันไม่มีทางที่มันจะเกิดขึ้น>
ทำให้พวกเขาไม่อาจที่จะแข่งขันกับคนอื่นๆ ได้โดยตรงเพราะพวกเขาไม่อาจรวมพลังกันได้? พวกมันจะทำแบบนั้นเพื่อให้พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดได้เมื่อพวกเขารวมกลุ่มกันเป็นก้อนกว่า 3,000 คนแต่จะฆ่าพวกเขาเมื่อพวกเขาอยู่คนเดียวหรือ?
หลังจากที่กำหนดบทฝึกซ้อมขึ้นมาแบบนี้น่ะนะ?
หากการกระทำของแฟรี่มันค่อนข้างแน่นอน เช่นนั้นเหตุการณ์แบบนั้นย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น
มันอาจมีสถานที่ที่ผู้คนได้ไปถึงก่อนหน้าไม่อาจยื่นมือมายังพวกเขาได้โดยตรง หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกนั้นทำเช่นนั้นเป็นเวลาพักหนึ่ง
สถานที่ที่จะทำให้มันเป็นไปได้สำหรับผู้มาใหม่ที่จะแข่งขันกับคนอื่นๆ ตรงๆ
และหมอนั่นเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ หมอนั่นได้ทำตามเหตุผลด้านบนและประสบความสำเร็จในการกำจัดคู่แข่งของเขาด้วยพลังของเขาเอง
และการคำนวณของหมอนั่นก็ไม่ได้ผิดพลาด หมอนั่นได้รับฉายาเลวร้ายเมื่อยามที่เขาไปถึงยังเขตสีม่วงด้วยเวลาเพียง 5 ปีหลังจากออกจากพื้นที่ฝึกซ้อม
<ลอร์ดนักเชือด>
ฉายาเลวร้ายที่ได้รับหลังจากที่หมอนั่นได้ตามล่าลอร์ดอย่างรุนแรงด้วยบุคลิกของเขา ที่เกลียดชังลอร์ดเสียจนถึงจุดที่แปลกประหลาดแม้ว่าเขาจะเป็นเอง เช่นเดียวกับคติในการทำลายผู้ที่จะสามารถเป็นคู่แข่งในอนาคตได้
และเพราะไอ้หมอนี่ ลอร์ดส่วนมากในกลุ่มเดียวกับเขาถึงตายลง
หมอนั่นกระทั่งฆ่านักผจญภัยทั่วไปเมื่อเขาพบว่าคนคนนั้นมีความสามารถที่จะกลายเป็นอันตรายเช่นกัน
<มันคงค่อนข้างที่จะเหนื่อยถ้านายมาถึงที่นี่ เมื่อลอร์ดวิปลาสจะเริ่มลงมือ และนายจำเป็นต้องเคลียร์ดันเจี้ยนสุดท้ายด้วย แต่จำเอาไว้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในบทฝึกซ้อมคือดันเจี้ยนสุดท้าย เตรียมตัวสำหรับดันเจี้ยนสุดท้ายให้ดี ไอ้หมอนั่นมาทีหลัง>
คำพูดของเคลเดียนปรากฎขึ้นในศีรษะของเขา
‘ชิ ถึงมันจะดีกว่าหากเราสู้กันตอนนี้’
แต่มันจะมีความสูญเสียอย่างมากหากเขาไม่ได้สิ่งที่เขามาเอาขณะที่ติดตามหมอนั่นไป เขาอาจจะค่อยๆ เฉือนเนื้อของหมอนั่นออกอย่างช้าๆ เหมือนปอกเปลือกแอปเปิ้ล และทำลายหมอนั่นหากไม่เป็นเพราะโครงสร้างของเกาะ แต่มันเป็นไปไม่ได้เมื่อมันมีลำดับของเกาะที่เขาต้องไป
เขาได้แบ่งแยกระหว่างภารกิจหลักและภารกิจรองของเขาอย่างชัดเจน
และเส้นทางของหมอนั่นเองก็ไม่ชัดเจนเท่าใด เมื่อมันแทบจะไม่มีผู้รอดชีวิตเลย
เมื่อทุกคนที่พบกับลูกกิลด์ของหมอนั่นตายหมด
ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องให้ความสนใจกับดันเจี้ยนก่อน
แต่มันมีสถานที่หนึ่งที่จุดมุ่งหมายของดันเจี้ยนสุดท้ายและเส้นทางของหมอนั่นตัดผ่านกันอย่างแน่นอน
<เกาะกลาง>
สถานที่ที่หมอนั่นจะสามารถฆ่าล้างลอร์ดจำนวนมากได้หากใช้ลอร์ดปลอม
หากหมอนั่นมีเหตุผลอยู่บ้าง หมอนั่นก็คงจะจับลอร์ดเป็นตัวประกันและใช้กองกำลังของพวกนั้น แต่ไอ้หมอนี่จะฆ่าพวกเขาทั้งหมดเมื่อมันเกลียดพวกเขาเสียจนไร้ที่สิ้นสุด
ฮันซูไม่เคยลดความระมัดระวังต่อหอคอยแม้ว่าเขาจะกำลังล่าอยู่
เขาได้ตั้งระบบขึ้นเพื่อที่พวกนั้นจะได้รวมกลุ่มกันและระแวงกันเอง และเขามักจะล่าอยู่ใกล้ๆ หอคอยเพื่อที่เขาจะได้สามารถพุ่งกลับไปได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าคนใดในสิบสองคนคือลอร์ดปลอม
เมื่อความแข็งของคริสตัลนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาๆ จะสามารถทำลายได้ มันเป็นเพียงเพราะเขาคือเขา เขาจึงสามารถทำลายมันได้
‘ฉันคิดว่ามันไม่มีอยู่เพราะมันไม่ได้ออกมา…’
<หากฉันเป็นหมอนั่น… ฉันอาจจะโจมตีจากด้านหลังในเวลาอันตราย เมื่อมันเป็นทางเดียวที่จะฆ่าทุกคนหากมันมีกิลด์จำนวนมาก>
มันดูเหมือนว่ามันจะมองหาโอกาสสุดท้ายอย่างที่เคลเดียนเอ่ยไว้
และเพราะแบบนี้ ฮันซูจึงไม่เคยสร้างสถานการณ์อันตรายขึ้น
เมื่อมันเป็นไปไม่ได้สำหรับมันในการกระทำการใดๆ เมื่อไม่มีสถานการณ์อันตราย
‘แต่มันยากเกินไปหน่อยในในระหว่างที่สู้กับจอมมาร’
เขาไม่มั่นใจเพราะการตัดสินใจในการใช้คริสตัลเล็กทั้งหมดนั้นเป็นวิธีที่มีเหตุผลอย่างมาก แต่กั๊กแตกลับเป็นลอร์ดปลอม
‘ไหนดูสิ ฉันจะรับมือเรื่องนี้ยังไงดี’
เขาไม่อาจออกห่างจอมมารได้เป็นระยะเวลานาน
ถ้าไอ้ตัวนี้ถูกปล่อย กองกำลังพิเศษทั้งหมดก็จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
และหากเขาพุ่งไปทางนั้น พวกนั้นก็ต้องทำเพียงแค่อย่างเดียว
พวกนั้นจะทำให้ลูกกิลด์คนอื่นๆ โจมตีเขาด้วยการข่มขู่ลอร์ดที่ถูกจับเป็นตัวประกับ
‘มันค่อนข้างจะน่ารำคาญถ้าเป็นแบบนั้น อย่างแรก… ฉันจะเปิดโอกาสให้นายมีชีวิตอยู่’
ฮันซูแย้มรอยยิ้มขณะที่เขาตะโกนเสียงดังขณะที่ยังคงต่อสู้กับจอมมาร
“โว้ว อย่าตื่นเต้นเกินไป ใจเย็นลงสักแปป”
“…?”
กั๊กแตที่เกือบจะสั่งให้กองกำลังพิเศษตัดศีรษะของลอร์ดออกสะดุ้งขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
‘หมอนั่นจะทำอะไรได้อีกในสถานการณ์แบบนี้?’
กั๊กแตรู้สึกสงสัยขึ้นอย่างอัตโนมัติเพราะฮันซูนั้นเป็นคนที่พิเศษแบบนั้น
และคำตอบต่อมาเป็นสิ่งที่เหนือไปกว่าการคาดคำนวณของเขา
“มาแลกเปลี่ยนกัน นายเองก็ไม่ได้อยากตายเหมือนกันนี่”
กั๊กแตผงะไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ใครกันที่จะต้องการตาย
เขาทำแบบนี้เพราะเขาไม่อาจต่อต้านคำสั่งของลอร์ดได้
ฮันซูเอ่ยขึ้นขณะที่มองไปยังอีกฝ่าย
“มันยังเหลือผลึกอยู่ที่ฉัน ฉันจะให้พวกมันกับนาย”
“…”
‘หมอนี่บ้ารึเปล่า?’
นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?
ฮันซูเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
“ฉันไม่รู้ว่าลอร์ดของนายคือใคร แต่มันจะไม่ดีกว่าเหรอที่จะเอาลอร์ดพวกนั้นไปและใช้พวกนั้นแทนที่จะฆ่าทิ้งทั้งหมด?”
ทุกคนผงกศีรษะเมื่อได้ยินเช่นนั้น
หากพวกเขาเอาลอร์ดขึ้นไปเป็นตัวประกัน เช่นนั้นกองกำลังทั้งหมดของลอร์ดพวกนั้นก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของลอร์ดของกั๊กแต
เมื่อมันไม่มีใครที่จะไม่ทำตามเมื่อมีดาบจ่อคออยู่
ฮันซูเอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าอีกฝ่าย
“เรื่องมันก็ง่ายๆ อย่างแรก นายเอาลอร์ดขึ้นไปด้วยผลึก จากนั้นนายก็ข่มขู่พวกลอร์ดบนนั้นและสั่งให้กองกำลังพิเศษฆ่าจอมมารกับฉัน ง่ายใช่ไหมล่ะ? แล้วกองกำลังทุกกองกำลังที่นี่ก็จะสามารถผ่านผลึกนั่นไปได้และมีชีวิตรอด”
“…”
“จากนั้นลอร์ดของนายก็จะได้รับกองกำลังของลอร์ดเก้าคน และฉันก็ฆ่าจอมมารได้ คนที่เหลือมีชีวิตรอด มันเป็นเรื่องที่วิน-วิน กระทั่งนายก็มีชีวิตรอดได้ ยังไงมันก็เหนื่อยอยู่แล้วเพราะทุกคนพยายามรั้งกองกำลังของตัวเองไว้”
“…”
กั๊กแตเดาะลิ้นอยู่ภายใน
คำพูดของหมอนั่นมันผิด
เมื่อลอร์ดของเขาเกลียดลอร์ดเสียจนมันแปลกประหลาด
หากคนพวกนี้ขึ้นไป เช่นนั้นพวกเขาก็จะตายหมดอยู่ดี
แต่ความยั่วยวนของผลึกนั้นแข็งแกร่งเกินไป
และสิ่งอื่นเองก็กระทั่งดึงดูดกว่า
‘ถ้าฉันขึ้นไป ฆ่าจอมมารด้วยลูกกิลด์ของคนพวกนี้ และฆ่าเขาด้วยการโจมตีจากด้านหลังในวินาทีสุดท้าย?’
พวกนั้นจะสามารถต่อต้านได้หรือหากมันเป็นคำสั่งของเขาโดยที่มีดาบจ่อคอหอยของพวกนั้นอยู่
นำกองกำลังของลอร์ดทั้งเก้าไป ใช้พวกนั้นสักพัก ฆ่าพวกมันทั้งหมด เก็บอาร์ติเฟคและรูนของพวกนั้น และนำมันให้วองยูงแล้วค่อยฆ่าลอร์ดเช่นกัน
‘มันสมบูรณ์แบบ’
แต่คนที่เคลื่อนไหวเป็นคนแรกคือแทจินที่ต่อสู้ไปพร้อมๆ กับฮันซู
“นายฮันซู นายจะเชื่อใจหมอนั่นได้ยังไง?”
กั๊กแตยักไหล่เมื่อได้ยินคำพูดนั้น
มันดูเหมือนว่าพวกนั้นจะมองทะลุผ่านความคิดของเขาแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นเวลาที่เขาต้องบีบพวกนั้นหนักๆ
“งั้นก็อย่าเชื่อใจฉัน ถ้านายไม่ต้องการแบบนั้นงั้นเราก็แค่ฆ่าทั้งเก้าคนตามแผน และฉันเองก็ตายแบบนั้นได้เหมือนกัน และคนที่เหลืออีก 1,000 คนที่นี่ก็จะตายหมด บางทีมันอาจจะไม่ถึง 1,000 ด้วยซ้ำ ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าพวกนายจะทนได้ไหม มันดูเหมือนว่าจะยังเหลือเวลาอีก 20 นาทีนะ”
“… ไอ้ลูก***นี่”
‘ไอ้พวกเวรฉิบหายนี่… ถูกจับเป็นตัวประกัน’
การกระทำของพวกนั้นไม่ใช่สิ่งที่แทจินชอบตั้งแต่ต้น แต่เขาไม่ได้ผิดหวังจนกระทั่งตอนสุดท้าย
ฮันซูหัวเราะใส่กั๊กแต
“งั้นฉันจะนับว่านายตกลงแล้วกัน เอาไป”
กั๊กแตที่ได้รับผลึกที่ฮันซูโยนมาอย่างระมัดระวังโดยใช้กองกำลังพิเศษได้รีบใช้ผลึกเหล่านั้น จากนั้นกองกำลังพิเศษทั้งสิบคน ลอร์ดเก้าคน และตัวกั๊กแตก็ได้เริ่มที่จะถูกครอบคลุมไปด้วยแสง
‘พระเจ้า… มันจบลงง่ายดายแบบนี้’
กั๊กแตยินดีอยู่ภายในใจขณะที่เขาเลือกจุดหมายปลายทาง
‘จุดหมายคือ… เกาะแห่งหอคอย!’
แสงที่ส่องออกมาจากผลึกเล็กได้ครอบคลุมร่างของทั้งยี่สิบคนในไม่ช้า และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ได้หายไปจากปราสาทจอมมาร
“…เวรเอ้ย งั้นฉันก็ไม่สนใจแล้ว”
“อย่ากังวลเกินไป หมอนั่นดูค่อนข้างสายตาคับแคบ เขาจะรักษาสัญญา”
ฮันซูที่ยักไหล่ได้มองตรงไปยังเกาะแห่งหอคอย จากนั้นจึงส่ายศีรษะ
‘มันจบแล้ว ดูเหมือนว่าหมอนั่นจะอยากมีชีวิตอยู่ หมอนั่นจะตระหนักได้ว่าทุกอย่างมันน่าสงสัยหากหมอนั่นคิดถึงมันสักหน่อย’
แต่เขาจัดการมันแล้ว
‘มันดูเหมือนว่าฉันจะมีสมาธิเพิ่มอีกหน่อยแล้ว ถ้ามันเป็นลูกน้องของหมอนั่น งั้น… หมอนั่นก็ควรจะไปที่เกาะแห่งหอคอย’
และมันไม่สำคัญเพราะเขาได้จัดการส่วนนั้นไว้แล้วต่างหาก
ฮันซูคิดจบและหมุนตัวกลับ
จากนั้นเขาจึงเริ่มฉีกกระชากร่างของจามมารอย่างจริงจัง
คว้างงง
เหล่าลอร์ด กองกำลังพิเศษ และกั๊กแตที่หายไป ได้ปรากฏตัวขึ้นภายในที่ว่างสีดำขณะที่ถูกอาบย้อมด้วยแสง
สถานที่ที่พวกเขาได้เคลื่อนย้ายมาหากผลึกเล็กได้ทำงาน
‘สมบูรณ์แบบ’
ลอร์ดสองคนมีชีวิตรอด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกนั้นในการมีชีวิตรอดเช่นกัน
เมื่อเขาจะสั่งคำสั่งในตอนนี้
“มันดูเหมือนว่าพวกนายต้องเชื่อฟังในตอนนี้ รีบๆ สั่งคำสั่งไป อย่างแรกโจมตีจอมมาร และเมื่อฆ่ามันได้ให้โจมตีฮันซู”
กองกำลังพิเศษได้ยื่นดาบเข้าไปใกล้ลำคอของเหล่าลอร์ดมากขึ้น
“ชิ”
เหล่าลอร์ดผงกศีรษะแม้ว่าจะเดาะลิ้นออกมา
พวกเขาไม่อาจทำอย่างอื่นได้เพราะถูกจับเป็นตัวประกัน แต่มันดูเหมือนว่าหมอนี่จะไม่ฆ่าพวกเขา
พวกเขาสามารถมองหาโอกาสได้ตลอดตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่
‘ไอ้พวกโง่’
และนั่นเป็นเหตุผลที่ลอร์ดของเขาพยายามที่จะกำจัดพวกมันทั้งหมดทุกครั้งที่มีโอกาส
เขาสามารถได้ยินเสียงวางแผนของพวกมันได้เลย
ในขณะที่กั๊กแตกำลังแย้มยิ้มอยู่นั้น น้ำเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ได้ดังขึ้นเบื้องหลังพวกเขาที่อยู่บนพื้น
“หืม ดูไอ้พวกนี้สิ”
เมื่อพวกเขารีบหันหลังกลับไป คนคนหนึ่งพร้อมด้วยหน้ากากแปลกประหลาดได้เดินเข้ามาใกล้พวกเขา
“นายคือใคร?”
ชายคนนั้นแย้มยิ้มออกมาและเกือบที่จะเอ่ยชื่อของตัวเองออกมา ทว่ากลับชะงักไป
เพราะมันคงไม่มีประโยชน์ในการสวมหน้ากาก
เขาได้ปกปิดตนเองเพื่อที่จะไม่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับฮันซู
‘แต่พวกมันมาจริงๆ เหรอ? เขาบอกฉันว่าพวกมันจะมาถ้าฉันมารอที่นี่’
ชายคนนั้นเอ่ยออกมาหลังจากพึมพำอยู่ภายในใจชั่วครู่
มันไม่ได้ดูเหมือนว่าพลังจิตนั้นจะน่าเหลือเชื่อเพียงแค่ครั้งหรือสองครั้ง
เขาเพียงแค่ต้องทำในสิ่งที่เขาต้องทำ
“อืมม… ชื่อไม่จำเป็นหรอก เราจะไม่เจอหน้ากันนานอยู่แล้ว”
‘ฉันก็แค่ต้องตัดคอของพวกนี้และเอาสิ่งที่ดรอปไปใช่ไหม?’
ฉัวะ
“ไอ้เวรเสียสตินี่!”
ซังจินที่ตัดศีรษะของหนึ่งในลอร์ดด้วยการวาดดาบเพียงครั้งเดียวหัวเราะเสียงเย็นไปยังกั๊กแตที่กำลังกรีดร้องอยู่
TL: ซังจินออกมาแล้ว ค่าตัวแพงไปหน่อยสินะคะ//โบกป้ายไฟ