บทที่ 266 สังหารฉีหลินจื่อ
กระบี่เริงระบำ เมื่อเย่เฟิงใช้ทักษะนี้ มิติรอบตัวก็พลันเกิดการบิดเบี้ยว ร่างของชายหนุ่มเลือนหายไป เหลือเพียงคมกระบี่ที่คงอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเท่านั้น
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เวลานี้ เย่เฟิงอยู่ในสภาพไร้ตัวตน ไม่มีใครสามารถโจมตีใส่เขาได้
ประกายกระบี่สีเขียวเข้มต่างเคลื่อนไหว พุ่งเข้าหาร่างของฉีหลินจื่อจากทุกทิศทาง รูปแบบการเคลื่อนไหวนี้ เย่เฟิงได้มาจากจิตวิญญาณกระบี่ในแหวนกระบี่มังกรโบราณ
“คิดว่าแค่นี้จะโค่นฉันได้เรอะ!”
ฉีหลินจื่อคำราม พร้อมกับควบแน่นพลังชี่ภายในออกมาปกคลุมรอบร่างกายอีกครั้ง ชายชรามั่นใจมากว่า ด้วยพลังชี่อันมหาศาลของเขา กระบี่ของเย่เฟิงไม่มีวันจะทะลวงผ่านการป้องกันนี้ไปได้
ถึงอย่างนั้นไม่นาน ฉีหลินจื่อก็พบว่าเขาตัดสินใจผิดพลาด
เมื่อเย่เฟิงใช้ทักษะกระบี่เริงระบำนี้ รังสีกระบี่ของเขาเข้มข้นกว่าในยามที่ใช้ทักษะกระบี่ผ่ามิติมาก รังสีกระบี่ที่พุ่งเข้าหาชายชราร่างค่อมจำนวนมากทำให้เขาประเมินความร้ายกาจของมันผิดไป
เมื่อฉีหลินจื่อรวบรวมพลังชี่เข้าต้านทานรังสีกระบี่ที่โจมตีเข้ามาบริเวณลำคอ รังสีกระบี่เล่มอื่นก็ถือโอกาสนี้โจมตีเข้าใส่ตำแหน่งที่มีการคุ้มกันต่ำอย่างต้นขา พาให้โลหิตสดๆต้องรินไหลออกมา
แต่การโจมตียังไม่จบสิ้นแค่นี้ รังสีกระบี่ของเย่เฟิงยังคงโหมกระหน่ำเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ราวกับการเริงระบำ
ฉีหลินจื่อยืนหยัดต้านทานได้อีกไม่นานนัก สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียม พร้อมกับขยับกลไกใต้ฝ่าเท้า เมื่อยามที่พลังชี่ของชายชราอ่อนแรงลง เย่เฟิงจึงสามารถทะลวงผ่านเกราะคุ้มกันของอีกฝ่ายเข้าไปได้
ภายในแสงจันทร์ดวงนี้ เหนือขึ้นไปยังหอคอยของตำหนัก รังสีกระบี่ก่อให้เกิดสายโลหิตที่สาดกระจายไปทั่ว!
ร่างค่อมของฉีหลินจื่อถูกฟันจนขาดกระจายเป็นชิ้นๆไปต่อหน้าต่อตาทุกคนที่มองดูอยู่ที่นี่ ดวงตาของจื่อเจี้ยนหลานเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง ทำไมเย่เฟิงถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
เหล่าศิษย์สำนักเซียนเร้นลับแต่ละคนที่ดักซุ่มอยู่ ต่างเหม่อมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เหตุใดเจ้าสำนักฉีหลินจื่อที่มีระดับวรยุทธ์ถึง 70 ปี ถึงถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งสังหารได้แบบนี้กัน?
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
รังสีกระบี่จำนวนมากสลายหายไป พร้อมกับร่างของเย่เฟิงที่ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งบนระเบียงชั้นสามของตำแหนัก เขายืนแทนที่ตำแหน่งที่ฉีหลินจื่อเคยยืนอยู่ ขณะกำลังดูดซับพลังจากน้ำแข็งพันปีเพื่อฟื้นฟูเจินชี่
การโจมตีด้วยเพลงกระบี่เริงระบำนี้บริโภคเจินชี่มหาศาล รีดเค้นเจินชี่ในร่างเย่เฟิงไปจนแทบหมดสิ้น
“เย่เฟิง!”
ด้านล่างของตำหนัก จื่อเจี้ยนหลานป้องปากตะโกนอย่างดีใจ
เย่เฟิงได้ยินน้ำเสียงดีใจนั้นก็หันไปโบกมือให้หญิงสาว เขายังไม่ลืมว่าต้องทำสิ่งใดต่อหลังจากสังหารฉีหลินจื่อแล้ว
เมื่อกระจายทักษะสัมผัสวิญญาณออกไป เย่เฟิงพบว่ามีถุงผ้าที่อยู่ใกล้ฝ่าเท้าของเขาซึ่งเป็นถุงที่ฉีหลินจื่อแขวนไว้ที่เอว ภายในถุงนี้มีขวดยาหลายขวด ยาถอนพิษของผลทลายใจก็คงอยู่ในนี้ด้วยสินะ? เย่เฟิงหยิบถุงผ้านั้นขึ้นมา
ด้านล่างตำหนักนั้น เมื่อศิษย์สำนักเซียนเร้นลับเห็นฉีหลินจื่อถูกสังหาร ก็ต่างพากันยืนนิ่งอย่างคนโง่งม
“เจี้ยนหลาน!”
น้ำเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้นมา ตามมาด้วยชายหนุ่มที่วิ่งเข้าหาจื่อเจี้ยนหลาน ชายหนุ่มคนนี้สวมชุดท่องราตรีและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ดักซุ่มโจมตีเย่เฟิง
ในกลุ่มชายหนุ่มประมาณ 7-8 คน มีคนผู้หนึ่งที่ใบหน้าระรื่นขณะมองไปยังจื่อเจี้ยนหลานด้วยความปรารถนา เขากล่าวขึ้นมาว่า “เยี่ยมเลย ตาเฒ่านั่นตายแล้ว เธอก็ไม่ต้องถูกบังคับให้แต่งงานแล้ว!”
เขาคือศิษย์สำนักเซียนเร้นลับรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ นามว่าเจี้ยนอี้เซิง ชายหนุ่มคนนี้ชื่นชอบจื่อเจี้ยนหลานมาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว และเปิดเผยความรู้สึกออกมาอยู่หลายครั้ง
แต่เมื่อฉีหลินจื่อกลับมาจากการปิดด่านฝึกตนและประกาศแต่งงานกับจื่อเจี้ยนหลาน เจี้ยนอี้เซิงคนนี้ก็รีบทำเป็นไม่ข้องเกี่ยวกับหญิงสาวทันที แน่นอนว่าเป็นเพราะเขาเกรงกลัวฉีหลินจื่อ
ในเวลานี้เมื่อฉีหลินจื่อสิ้นชีพลงแล้ว เจี้ยนอี้เซิงก็รีบกระโดดเข้ามาหาจื่อเจี้ยนหลานทันที
“แกอกหักแล้วเจี้ยนอี้เซิง”
ใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างรีบเอ่ยเยาะเย้ย และเริ่มกล่าวประจบประแจงเย่เฟิง “ตอนนี้เจ้าโจรชั่วช้าฉีหลินจื่อตายแล้ว ศิษย์น้องเจี้ยนหลานก็ย่อมกลายเป็นผู้หญิงของเย่เฟิง แกยังจะมีโอกาสอีกหรือไง? ยอมแพ้เสียเถอะ”
ทุกคนต่างรู้ว่าเมื่อเย่เฟิงสังหารฉีหลินจื่อแล้ว เขาย่อมกลายเป็นผู้นำสำนักเซียนเร้นลับคนใหม่ไปโดยปริยาย ยิ่งกว่านั้น การสังหารฉีหลินจื่อยังเป็นไปด้วยความชอบธรรม เพราะเป็นการฝากฝังจากผู้อาวุโสกู้หยิง สำนักเซียนเร้นลับของพวกเขากลับมามีความหวังอีกครั้งแล้ว!
“หึ”
เจี้ยนอี้เซิงเค้นเสียงด้วยใบหน้าที่แสดงความเหยียดหยาม พร้อมกับคิดในใจว่าเจ้าคนพวกนี้ช่างไม่รู้อะไรเลย “นายท่านเย่เฟิงจัดการคนชั่วช้า แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นฮีโร่ของสำนักเซียนเร้นลับเรา แต่นายท่านเย่นั่นมีสาวงามในครอบครองหลายคนแล้ว เหตุใดเขาจะมาต้องตากับศิษย์น้องเจี้ยนหลานของเราอีก?”
พิษของผงทลายใจในร่างจื่อเจี้ยนหลานยังไม่ได้ถอน ทำให้หญิงสาวค่อนข้างอ่อนเพลีย เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบของผู้คนที่พูดถึงตัวเธอก็เกิดความรำคาญใจเล็กน้อย แต่หญิงสาวไม่ใจคนที่ชอบแสดงความรู้สึกออกมา จึงเพียงแค่ยืนอยู่ที่เดิมและจ้องมองไปยังเย่เฟิงที่ยืนอยู่บนยอดตำหนัก
ตอนนี้ในใจของเธอ เย่เฟิงคือฮีโร่ตัวจริง ไม่ใช่เจี้ยนอี้เซิงที่ใช้แค่ลมปาก
เย่เฟิงที่ยืนอยู่บนยอดตำหนัก ล้วงเอาถุงผ้าของฉีหลินจื่อ จากนั้นจึงตั้งใจจะกระโดดลงจากตำหนักและจัดการเหลือที่เหลือต่อ
แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็พลันรู้สึกถึงการสั่นไหวของตำหนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ว่าก่อนที่ฉีหลินจื่อจะตาย มันอาจไปเหยียบกลไกบางอย่าง
เย่เฟิงเริ่มรู้สึกไม่ดี เขาตั้งใจจะรีบกระโดดหนี แต่ในเวลานี้ มันช้าไปเสียแล้ว
ตู้ม!
เกิดการระเบิดเสียงดังลั่นไปทั่วบรเวณ พร้อมกับเปลวเพลิงทะยานขึ้นสูงเสียดฟ้า!
ฉีหลินจื่อกลับซ่อนระเบิดไว้ในตำหนักนี้ และจุดชนวนก่อนตายอย่างไม่มีใครคาดคิด!
ตำหนักทั้งหลังถล่มลงมาทันที พร้อมกับแปรเปลี่ยนกลายเป็นทะเลเพลิง สะท้อนแสงสีแดงไปทั่วบริเวณ ดวงตาของแต่ละคนปรากฏร่องรอยของความตกใจ เศร้าใจ หวั่นเกรง สาแก่ใจ และความยินดี แตกต่างกันออกไป
ทุกๆคนที่กำลังพูดคุยกันอย่างออกรสเมื่อครู่นี้ต่างพากันเงียบกริบ
“เย่เฟิง!”
จื่อเจี้ยนหลานหัวใจบีบรัด ใบหน้ายินดีเมื่อครู่พลันแปรเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า ฉีหลินจื่อก็ถูกสังหารแล้วเมื่อครู่นี้ แล้วมันเกิดระเบิดขึ้นได้อย่างไรกัน? แล้วเย่เฟิง ทำไมเขาถึงไม่ใช้ทักษะแบบเดียวกับก่อนหน้านี้เพื่อหลบหนี ทำไม? ทำไมกัน?
แต่ในกลุ่มคนที่ยืนอยู่ในบริเวณนี้ เจี้ยนอี้เซิงกลับเป็นคนที่รู้สึกยินดีมากที่สุดที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
เย่เฟิงตายไปพร้อมกับการระเบิดแล้ว!
เยี่ยม!
ตอนนี้ พวกระดับสูงในสำนักเซียนเร้นลับต่างก็ตายหมดแล้ว มาถึงตอนนี้เย่เฟิงก็สิ้นชีพไปอีกคน ไม่มีอะไรจะเยี่ยมไปกว่านี้อีกแล้ว
ในกลุ่มศิษย์สำนักเซียนเร้นลับที่มีอยู่ตอนนี้ เขา เจี้ยนอี้เซิง ถือว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะได้รับตำแหน่งเจ้าสำนัก! เขาไม่คิดเลยว่าสวรรค์จะประทานโอกาสอันเยี่ยมยอดมาให้เขาในวันนี้
ได้กลายเป็นผู้นำสำนัก!
เจี้ยนอี้เซิงชำเลืองมองไปยังจื่อเจี้ยนหลานที่ยืนอยู่ไม่ไกล ในใจก็คิดว่าเมื่อเป็นแบบนี้ หญิงสาวคนนี้ต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน
……………………
แปลโดย Solar Spark