บทที่ 263 กระบี่พิฆาตมังกร
คนของสำนักเซียนเร้นลับนั้น ความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดนั้นจัดว่าด้อยมาก หากเปลี่ยนเป็นสี่ผู้อาวุโสแห่งหมัดเทพทวารา เย่เฟิงย่อมไม่มีความสามารถจะลอบสังหารพวกเขาได้ทั้งหมดแน่ ก่อนหน้านี้ในตอนที่ลอบจู่โจมเพื่อช่วงชิงปะการังราชันย์ เขาถูกคนพวกนั้นโจมตีใส่จนไหล่เกือบหัก ซึ่งนั่นเป็นเพียงคนของหมัดเทพทวาราที่มีระดับวรยุทธ์เพียง 50 ปีเท่านั้น
ด้วยที่ด้อยในการต่อสู้ระยะประชิดนี้เอง ทำให้ชายชราทั้งสองตัดสินใจจะใช้กลไกกับดักเพื่อเอาชนะ
น่าเสียดายที่ความสามารถในการเคลื่อนไหวนั้น เย่เฟิงก็ไม่ด้อยไปกว่าคนเหล่านั้น ส่วนพวกกลไกกับดัก ภายใต้การรับรู้ของทักษะสัมผัสวิญญาณ พวกมันย่อมทำอะไรเขาไม่ได้มาก
ชายหนุ่มวางร่างของจื่อเจี้ยนหลานลง จากนั้นจึงไล่ตามศัตรูไปยังลานหินอ่อน เขามองเห็นชายชราทั้งสองยืนอยู่ใจกลางของลานอย่างท้าทาย
เย่เฟิงกระจายทักษะสัมผัสวิญญาณออกไปรอบๆ และค้นพบว่าที่ลานหินอ่อนแห่งนี้ซ่อนกรงเหล็กไว้ ซึ่งสามารถพุ่งขึ้นมาดักจับผู้คนไว้ด้านในได้ น่าเสียดายที่เย่เฟิงมีกระบี่เจินชี่อยู่กับตัว กรงเหล็กประเภทนี้ กระบี่ของเขาสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย
แม้แต่เหล็กชั้นดีที่ใช้ทำผิวของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ เขายังทำลายมันมาแล้ว ฉะนั้น ยังจะต้องเกรงกลัวอะไรกับกรงเหล็กพวกนี้?
นอกจากนั้นในลานหินอ่อน ศิษย์รุ่นเยาว์คนอื่นๆของสำนักเซียนเร้นลับต่างนั่งยองๆอยู่ในห้องควบคุมใต้ดิน และกำลังควบคุมกลไกกับดักด้านบนนี้
ทักษะเซียน – ร่างวิญญาณหยินเทียม!
เย่เฟิงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับร่างเทียมนี้ และสามารถใช้มันวิ่งไปวิ่งมาได้ไปทั่ว ส่วนร่างจริงของเขาก็หลบซ่อนอยู่ในที่ลับ รอคอยเวลาที่จะพุ่งเข้าใส่ชายชราทั้งคู่จากอีกทิศทางหนึ่ง
ภายในลานหินอ่อน หลี่เทียนและชายชราจมูกโตยืนแยกกันด้วยระยะห่างประมาณ 10 เมตร พวกเขายืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ดูหนักแน่น ราวกับรู้ว่าตอนนี้ อยู่ในช่วงเวลาวิกฤตแล้ว
หากมีใครลอบโจมตีเข้ามา พวกเขาพร้อมจะตอบสนองด้วยมีดบินกลับไปอย่างรวดเร็ว! ตราบเท่าที่ล่วงเย่เฟิงเข้ามาในบริเวณนี้ได้ กรงเหล็กก็จะยกขึ้น ขังมันไว้ภายในทันที!
ซวบ! ซวบ!
ทันใดนั้น เสียงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจากก็ระยะไกลก็ใกล้เข้ามา มันคือร่างเทียมของเย่เฟิงนั้นเอง! ร่างเทียมนี้ไม่สามารถเปล่งเสียงใดๆได้ ทำได้เพียงดึงดูดความสนใจของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น
อะไรกัน เจ้าเด็กนี้ไม่คิดจะลอบโจมตี?
ในใจของชายชราทั้งสามเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าความสามารถในการลอบโจมตีของเจ้าเด็กนี่จะมีขีดจำกัด ไม่ได้เหนือล้ำอย่างที่คาดคิดไว้ทีแรก
“ยกกรงขึ้น!”
หลี่เทียนตะโกนออกคำสั่งเสียงดังลั่น เกือบจะในเวลาเดียวกัน กรงเหล็กที่กว้างและสูงเกือบ 2 เมตรก็โพล่ขึ้นมาจากลานหินอ่อน ซี่กรงแต่ละเส้นถูกสร้างขึ้นด้วยเหล็กหนา กักขังร่างเทียมของเย่เฟิงไว้ภายในอย่างรวดเร็ว
สำเร็จ!
เวลานี้ ร่างเทียมของเย่เฟิงพยายามใช้กระบี่ฟันซี่กรงเหล็กให้หักออก ดูราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกกักขังให้จนมุม
“ฮ่า ฮ่า ไอ้หนู แกตกอยู่ในมือของพวกเราแล้ว ยอมส่งตำราวรยุทธ์มีดบินปีศาจคำรามมาซะดีๆ”
ผู้อาวุโสคุมกฏหลี่เทียนเห็นดังนั้นก็หัวเราะร่าด้วยใบหน้าที่เบิกบานใจ แบบนี้ ไม่เพียงจะได้ตำราวรยุทธ์คืนมา แต่ยังได้แก้แค้นให้หลี่จวิ้นหลงบุตรชายบุญธรรมของเขาด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว!
นอกจากนั้นแล้ว การได้สังหารเย่เฟิงจะทำให้ชื่อเสียงของสำนักเซียนเร้นลับดังก้องไปทั่วโลกยุทธภพแน่นอน
ส่วนเรื่องล่วงเกินเย่เวิ่นเทียนน่ะหรือ? เขาไม่เกรงกลัวใครอีกแล้วนอกจากเย่เฟิง แต่เมื่อมันอยู่ในสภาพเช่นนี้ ตามประวัติศาสตร์ของสำนักเซียนเร้นลับนั้นไม่เคยมีศัตรูคนใดหลบหนีไปจากลานหินอ่อนนี้ได้ พวกมันล้วนต้องสิ้นชีพอยู่ในที่แห่งนี้
นี่ทำให้หลี่เทียนมั่นใจว่าเย่เฟิงต้องกลายเป็นผีเฝ้าที่นี่แน่นอน นอกจากนั้น แนวโน้มที่จื่อเจี้ยนหลานจะหนีไปจากหุบเขานี้ได้ก็กลายเป็นศูนย์ นี่ทำให้หลี่เทียนรู้สึกโล่งใจ เพราะไม่เช่นนั้น ต่อให้ส่งนักฆ่าไปมากเท่าใด ก็ไม่มีทางสังหารเย่เฟิงได้แน่
แต่ไม่นาน พวกเขาก็พบว่า “เย่เฟิง”ที่ถูกขังอยู่ในกรง ไม่กล่าวอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว นี่ทำให้ต่างคนต่างรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล
เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?
ขณะเดียวกัน ประกายกระบี่สีเขียวเข้มก็สว่างวาบผ่านลำคอของผู้อาวุโสจมูกโตไป “ฉัวะ!” ศีรษะของชายชราขาดกระเด็นออกจากลำคอ เย่เฟิง“อีกคน”ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเขาอย่างไม่มีใครคาดคิด!
แน่นอนว่านี่ต้องเป็นร่างจริงของเย่เฟิงที่เคลื่อนที่เข้าประชิดเพื่อลอบสังหารโดยใช้ร่างเทียมเป็นเหยื่อล่อเพื่อดึงดูดความสนใจ วิธีการนี้ เขาเคยใช้กับหลงโม่หรันเมื่อยามที่อยู่ที่ทะเลจีนตะวันออกมาแล้ว น่าเสียดายที่มันพลาดเป้าไปเพียงครึ่งนิ้ว
และเพราะเหตุการณ์ในตอนนั้นเอง ทำให้เย่เฟิงไม่คิดที่จะลอบสังหารใครด้วยการแทงกระบี่เข้าที่หัวใจอีก แต่จะฟันหัวมันตรงๆนี่ล่ะ!
(เฮียน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วนะ โดนคนอ่านด่าไปซะเยอะเลยคราวนั้น55)
“ยกกรงขึ้นอีก!”
หลี่เทียนหนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจจากเหตุการณ์นี้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีเย่เฟิงถึงสองคน? เขารีบออกคำสั่งให้ผู้ควบคุมกลไกทันที!
กรงเหล็กอีกกรงกักขังเย่เฟิงไว้ภายในอย่างรวดเร็ว โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อเห็นเย่เฟิงถูกขังไว้ภายในกรงแบบนี้ หลี่เทียนย่อมรู้สึกโล่งใจ แต่คราวนี้เขารู้สึกหวั่นกลัว กลัวว่าจะมีเย่เฟิงคนที่สามโผล่ขึ้นมาอีก
ความสามารถของเจ้าเด็กนี้แปลกประหลาดเกินไป ไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดหลงโม่หรันแห่งตระกูลหลงถึงถูกฟันแขนขาดในการต่อสู้กับเจ้าเด็กนี่ที่ทะเลจีนตะวันออก มันต้องซ่อนความลับอันล้ำค่าไว้อย่างแน่นอน
“ไอ้หนู บอกความลับของแกมา ไม่เช่นนั้นฉันคนนี้จะทำให้แกต้องตายอย่างทุกข์ทรมาณ แล้วยังจะเอาพวกผู้หญิงของแกมาย่ำยีให้เลวร้ายอย่างถึงที่สุด!”
หลี่เทียนขบกรามแน่นขณะมองไปยังเย่เฟิง การต่อสู้ในวันนี้ ต่อให้สำนักเซียนเร้นลับของเขาเป็นฝ่ายชนะ การที่ต้องสูญเสียหัตถ์มารทลายเทพและผู้อาวุโสอีกสามคนถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงของสำนัก เขาต้องเค้นเอาความลับอีกฝ่ายมาให้ได้เพื่อเป็นการเป็นชดเชย
“อย่าชักช้า ฉันให้เวลาแกแค่ครู่เดียวเท่านั้น”
หลี่เทียนกล่าวกดดันเย่เฟิงต่อไป แต่ทันใดนั้น เย่เฟิงก็ใช้กระบี่ตวัดเข้าใส่ซี่กรงเหล็ก
ฉัวะ!
ร่างเทียมของเย่เฟิงนั้นมีเพียงกระบี่ปลอม โดยธรรมชาติแล้วย่อมไม่อาจทำลายกรงเหล็กไปได้ แต่กระบี่เจินชี่ที่ก่อตัวขึ้นจากแหวนกระบี่มังกรโบราณของเย่เฟิงตัวจริง แหลมคมยิ่งกว่ากระบี่ของจริงเสียอีก!
กระบี่ในมือชายหนุ่มตัดผ่านซี่กรงเหล็กอย่างง่ายดายราวกับเต้าหู้ จากนั้น เย่เฟิงจึงก้าวเท้าออกมาจากกรง
“เดิมที ฉันก็ขี้เกียจจะจัดการพวกแกนะ แต่การที่แกส่งพวกนักฆ่ามาตามรังควานไม่เลิก ถ้าฉันไม่ตอบโต้ซะบ้าง ฉันจะไม่ถูกลูบคมอยู่ตลอดไปหรือไง?”
เย่เฟิงเค้นเสียงกล่าว จากนั้นเมื่อก้าวเท้าไปข้าง ทักษะย่างก้าวไร้เงาก็ปะทุขึ้น ส่งร่างชายหนุ่มพุ่งตรงเข้าหาหลี่เทียนอย่างรวดเร็วราวกับวิญญาณร้ายภายใต้แสงจันทร์
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
หลี่เทียนปาอาวุธลับโต้กลับไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกับเคลื่อนไหวหลบหนีไปในเวลาเดียวกันอย่างรวดเร็ว น่าตกใจที่ความเร็วของชายชรานั้น ไม่ด้อยไปกว่าเย่เฟิงเลย
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับวรยุทธ์ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ความเร็วเย่เฟิงนั้นไม่อาจไล่ตามฝ่ายตรงข้ามได้ทัน แม้เป็นอย่างนั้น กระบี่ของเขาก็ไม่ใช่ว่าใช้โจมตีได้ในระยะประชิดเท่านั้น ต่อให้อยู่ห่างออกไปกว่า 20 เมตร เขาก็สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน
เมื่อเห็นหลี่เทียนยังคงโจมตีด้วยอาวุธลับกลับมาอย่างต่อเนื่อง เย่เฟิงจึงเคลื่อนที่หลบหลีก หลบการโจมตีจากมีดบินพร้อมกับควบแน่นเจินชี่ไว้ในกระบี่
รังสีกระบี่ – กระบี่พิฆาตมังกร!
รังสีกระบี่สีน้ำเงินพลันปรากฏขึ้นมา และพุ่งตรงเข้าหาหลี่เทียนด้วยความเร็วสูง
ดวงตาของชายชราเบิกกว้าง เขาได้ยินว่าเย่เฟิงนั้นสามารถปลดปล่อยรังสีกระบี่ได้ แต่ไม่เคยคิดจะเชื่อเลยแม้แต่ครั้งเดียว เป็นไปได้อย่างไรที่คนอายุน้อยอย่างมันจะใช้รังสีกระบี่ได้?
ถึงอย่างนั้นตอนนี้เมื่อได้มาเห็นกับตา ต่อให้คิดจะหลบหลีก ก็ไม่มีเวลาเหลือพออีกแล้ว
“ยิงศร!”
หลี่เทียนคำรามเสียงดังก้อง ต่อให้ต้องตาย เขาก็ต้องลากเจ้าเด็กนี่ให้ตายไปด้วยกันให้ได้!
ฉัวะ!
ศีรษะของหลี่เทียนถูกรังสีกระบี่ตัดขาดกระเด็น แต่ในเวลาเดียวกัน ลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนก็ถูกยิงออกมาจากกำแพงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล มันมีจำนวนมากเสียงจนปกคลุมไปทั่วลานหินอ่อนแห่งนี้ราวกับห่าฝน
…………………
แปลโดย Solar Spark