บทที่ 25: ถนนท้องฟ้า (4)
ในขณะที่ฮันซูกำลังครุ่นคิดไปพร้อมกับเคลื่อนที่ไปเบื้องหน้า คนผู้หนึ่งก็ได้เอ่ยขึ้นอย่างคุมเชิงขณะที่พวกเขามองไปรอบๆ
“มันดูเหมือนว่าจำนวนงูกำลังลดลง?”
ทุกคนผงกศีรษะให้กับคำพูดนั้น
มันเป็นสิ่งที่พวกเขารู้สึกได้มาได้สักพักแล้ว
และเพราะเช่นนี้ ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขาเพิ่มขึ้นและสร้างระยะห่างกับส่วนที่พังทลายของเกาะได้จำนวนหนึ่ง
‘ดี’
ฮันซูผงกศีรษะอยู่ภายใน
เมื่อการที่อสรพิษรูนมีจำนวนลดลงหมายความว่าเขาเกือบจะถึงที่อยู่ของอสรพิษกลืนรูนแล้ว
ทันทีที่เหล่างูได้หายไป พวกเขาได้มองหน้ากันพร้อมกับพักหายใจ
ทั่วทั้งร่างของพวกเขาได้ถูกรักษาอย่างสมบูรณ์
เมื่อการรักษาของคังมินนั้นมีประสิทธิภาพแม้ว่าจะเกิดความขุ่นเคืองกัน
คังมินมองไปยังฮันซูด้วยสีหน้าลึกลับ
‘เขาไม่ได้รับการรักษาเลย…’
มันไม่มีทางที่จะไม่ได้รับบาดเจ็บไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งเพียงใด
และเหตุผลเดียวที่เขาสามารถมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ได้เป็นเพราะเขาได้สร้างสถานการณ์แบบนี้ขึ้น
ฮันซูเองก็เป็นแบบนั้น
ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยรอยบาดแผล
ทั้งว่ามันมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับชายที่ชื่อฮันซู
‘นี่เขามีค่าความอดทนมากแค่ไหนกัน’
คังมินหมุนลิ้น
มันไม่เร็วพอที่จะเห็นด้วยตา แต่อาการบาดเจ็บของเขามักจะหายไปในขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่
เขาคิดว่าเขาตาฝาดไปเมื่อเห็นครั้งแรก
และอีกฝ่ายได้หลบการโจมตีที่จะสร้างบาดแผลรุนแรงทั้งหมดในระหว่างการต่อสู้
เขาไม่มั่นใจเพราะเขาไม่ได้สังเกตอย่างตั้งใจ แต่เขาก็พอจะเดาได้
หมอนั่นทำให้มั่นใจว่าจะไม่บาดเจ็บที่ข้อต่อและกล้ามเนื้อ และหากเขาจะถูกกัด เขาจะสลับให้ร่างกายส่วนที่แม้จะถูกกัดก็จะไม่สร้างภาระให้กับเขาถูกกัดแทน
แม้ว่าเนื้อทั้งชิ้นจะถูกฉีกออก
มันจะเจ็บน้อยกว่ามากถ้าหากถูกกัดตรงเอวหรือสะโพก แต่หมอนั่นได้หลบการโจมตีในบริเวณที่สำคัญ ราวกับว่าทุกส่วนที่จะช่วยให้เขาต่อสู้ได้นั้นล้ำค่า
และหมอนั่นได้ทำแบบนั้นด้วยการรับการโจมตีทั่วร่างขณะที่หลบบาดแผลที่รุนแรง และรักษาตนเองด้วยค่าความอดทนที่สูงส่งของเขา
มองแว่บแรกชายหนุ่มเป็นเพียงนักศึกษามหาลัยธรรมดา แต่เขาได้ต่อสู้ราวกับสัตว์ร้าย
ราวกับว่าเขาได้ต่อสู้โดยที่บีบเค้นพลังงานจากตลอดทั้งร่างของเขา
‘… นี่เขาชอบทหารรับจ้างหรืออะไรแบบนั้นหรือไง?’
บาดแผลบนผิวหนังเหล่านั้นจะเจ็บมาก แต่มันจะฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง
แต่ตัวเลือกนี้เป็นเรื่องยากสำหรับคนธรรมดา แต่ไอ้หมอนั่นไม่กลัวที่จะเจ็บตัว
‘ดูเหมือนว่าการค้าจะไม่ดีขนาดนั้น’
คังมินขมวดคิ้วเล็กๆ
ยอดเยี่ยมก็คือยอดเยี่ยม อุปสรรคก็คืออุปสรรค
ถ้าไม่มีไอ้หมอนั่น คนอื่นๆ ก็คงจะบาดเจ็บมากกว่านี้ แต่เป้นเพราะหมอนั่นสู้ได้ดีเกินไป เขาเลยต้องตั้งราคารักษาให้ต่ำ
เมื่อหากไม่มีความต้องการ ราคาก็จะลดลง
แต่ในตอนนั้น บางสิ่งก็ได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคังมินที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อย
‘…นั่นมันอะไร?’
ต้นไม้ใหญ่ยักษ์ที่ไม่อาจเทียบกับต้นไม้ก่อนหน้าได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา
และต้นไม้รอบๆ ได้ถูกทำลายและล้มลงเป็นพื้นที่โล่ง
ในขณะที่ทุกคนกำลังมองไปยังรอบกายของพวกเขาด้วยท่าทีคุมเชิงในสถานที่ใหม่ที่อยู่ออกจากถนนไป ฮันซูได้มองขึ้นไปบนยอดต้นไม้
‘มันอยู่นั่น’
<อสรพิษกลืนรูน>
งูขนาดยักษ์ยาว 15 เมตรที่ขดตัวอยู่บนต้นไม้
มันกลายเป็นหัวหน้าของอสรพิษรูนได้ด้วยการกินพวกมันและกลืนกินรูนของพวกมัน
อสรพิษกลืนรูนกลายพันธุ์ส่วนมากแข็งแกร่งขึ้นได้แบบนั้น และทำตัวเป็นผู้ล่า
สัตว์ประหลาดที่ไม่อาจแม้แต่จะแยกแยะพวกพ้องได้และมองอีกฝ่ายเป็นเพียงอาหาร
และเพราะแบบนั้น อสรพิษรูนจึงไม่อยู่รอบๆ มัน
‘แต่ไอ้ตัวนั้นไร้ประโยชน์’
ตัวนั้นไร้ประโยชน์
เมื่อดูจากขนาดขจองมัน ถ้าคุณให้รูนมันสามอัน มันก็จะกินรูนทั้งสามอันไป
มันมีปะรโยชน์ในตอนที่มันยังเป็นลูกอยู่ ยามที่พวกมันไม่กินมากและจะคายออกมาสองอันเมื่อคุณให้ไปสามอัน แบบนั้นถึงจะมีประโยชน์
แต่เมื่อมันมีประโยชน์เพียงแค่สามเดือน เขาก็เพียงแค่ต้องปล่อยมันหลังจากนั้น
ฮันซูผงกศีรษะขณะที่เขาคิดถึงไข่ของอสรพิษรูนที่อยู่สักแห่งภายในต้นไม้
‘ลุยเลย’
เขาได้ต่อสู้ในสถานที่ที่อันตรายที่สุดมากว่า 50 ปี และไม่เคยพบกับศัตรูที่เขาสามารถหลบได้อย่างสบายๆ และส่งการโจมตีแบบงั้นงั้นมาทางเขา
เห็นการเคลื่อนไหวของศัตรูก่อน?
มันมีศัตรูจำนวนมากที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าการที่คนคนหนึ่งจะสามารถเห็นได้ก่อน
และเพราะเช่นนั้น รูปแบบการต่อสู้แบบเฉือนเนื้อแลกกระดูกจึงได้หลอมรวมลึกในตัวเขา
เมื่อตราบเท่าที่เขาสามารถฆ่าศัตรูได้ การฟื้นฟูก็เป็นไปได้
แต่เทคนิคของเขานั้นจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อได้รับการโจมตีของอีกฝ่ายจนเข้าสู่จุดจุดหนึ่ง แต่เป็นเพราะความต้านทานของเขานั้นต่ำอย่ามาก มันจึงรู้สึกเหมือนเขากำลังต่อสู้พร้อมด้วยโซ่ที่รั้งพันอยู่รอบกาย และเขาดูแข็งแกร่งในตอนนี้เพราะศัตรูหลังๆ จะรู้จักการใช้สกิลและลักษณะพิเศษของพวกมันจะปรากฏขึ้น
เขามีข้อได้เปรียบเล็กๆ ในด้านของค่าสถานะและอาร์ติเฟค แต่มันมีช่องว่างอย่างมากในพลังต่อสู้ที่มาจากสกิลและลักษณะพิเศษ
เมื่อผู้หญิงที่ชื่อจีมินนั่นได้สร้างรูปแบบการต่อสู้ของตัวเองออกมาแล้วเล็กน้อย
เขาต้องฉวยโอกาสก่อนที่เขาจะได้รับสกิล และเพื่อการนั้น อสรพิษกลืนรูนเป็นสิ่งจำเป็น
‘ถ้าฉันได้มัน ทุกสิ่งก็จะง่ายขึ้น’
ชายรักครอบครัว คยูชอล เอ่ยอย่างคุมเชิงเมื่อเขาเห็นฮันซูอบอุ่นร่างกาย
“นายต้องสู้กับไอ้นั่นจริงๆ เหรอ?”
“หืมมม?”
“ไม่ใช่ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่นายจำเป้นต้องฆ่ารึไง?”
ฮันซูผงกศีรษะเมื่อได้ยินเช่นนั้น
อสรพิษกลืนรูนนั้นเป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับคนที่ออกมาจากบทฝึกซ้อมแรกเพียงหนึ่งอาทิตย์
และงูที่กินรูนไปสามอันแต่คายออกมาสองอันนับเป็นการหลอกลวงสำหรับผู้ที่ต้องการรูนพลังกาย ความอดทน ความคล่องแคล่ว และความเข้าใจ
และเพราะแบบนี้เขาจึงต้องแยกออกจากทางนิดหน่อย
เมื่อมันจะไม่มีงู และตราบเท่าที่คุณระวังคุณก็จะไม่พบกับอสรพิษกลืนรูนหรืออสรพิษรูน
คนอื่นที่เห็นเช่นนี้ยืนห่างออกไปพร้อมด้วยสีหน้ากังวล
“พวกนายไม่จำเป็นต้องสู้ ฉันจะสู้คนเดียว เพราะงั้นไปอยู่ตรงนั้นที่มันปลอดภัย หรือไม่ก็ไปก่อนเลย”
คยูชอลส่ายศีรษะเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ไม่… ฉันกำลังบอกว่าไปด้วยกันเถอะ”
คยูชอลเกือบที่จะพ่นในสิ่งที่เขาคิดมาได้สักพักออกไป
‘เราจะไปต่อได้ยังไงถ้านายตาย’
เขารู้
ว่าเหตุผลที่มันยังไม่เป็นไรสำหรับเขาในการปกป้องเพียงแค่ภรรยาและลูกจากเบื้องหลังนั้นเป็นเพราะฮันซูที่อยู่ด้านหน้าสู้ได้ดี
เขารู้ ว่าถ้าคุณไม่สู้ด้วยตัวเองที่นี่ คุณก็จะตายในที่สุด
แต่แม้ว่าเขาจะรู้ถึงสิ่งนี้ แต่เขาจะส่งภรรยาและลูกสาวของเขาออกไปหลังจากเห็นว่าพวกเธอเลือดไหลเพราะต้องคมอาวุธได้ยังไง
มันอาจมีโอกาสที่จะมีสถานที่ที่ครอบครัวของเขาจะปลอดภัยปรากฏขึ้นหากพวกเขาไปต่อแบบนี้
และเพื่อแบบนั้น เขาจำเป้นต้องมีชีวิตอยู่นานอีกหน่อย
‘และเพราะแบบนั้น ฉันต้องไปกับหมอนั่น’
หากหมอนั่นตาย เขาก็ต้องเดินออกไปสู้
เพราะหากเขาไม่ทำแบบนั้น แนวป้องกันก็จะถูกทำลายและพวกเขาจะตายทั้งหมด
แต่หากเขาตายแบบนั้น ใครจะปกป้องครอบครัวของเขา
เขาไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะเสี่ยงอันตรายได้
‘แล้วมันไม่ใช่ว่าโลภมากไปหน่อยเหรอที่จะฆ่างูที่นายไม่จำเป็นต้องฆ่า ถึงกับออกไปคนเดียว?’
คยูชอลที่ไม่อาจเอ่ยเช่นนั้นได้พยายามฉีกยิ้มเป็นมิตรขณะที่เขาเอ่ยพูด
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้านายตายระหว่างสู้กับไอ้สิ่งนั้น แค่มองก็ดูอันตราแล้ว แค่ไปต่อและอย่าไปเสียงพลังของนายกับไอ้สิ่งนั้นเลย ไม่ใช่ว่าเราควรจะไปต่อในขณะที่ยังมีระยะห่างอยู่มากเหรอ”
ทุกคนมองไปยังฮันซูและคยูชอลเมื่อได้ยินเช่นนั้น
TL: เรื่องนี้เราจะเจอคนเห็นแก่ตัวจนน่าสะอิดสะเอียนไปเรื่อยๆ ค่ะ หัวร้อนวนไปปป
ติดตามข่าวสารที่รวดเร็วกว่าได้ทาง Facebook: Netear.ST นะคะ