บทที่ 25

 

“มีดนี้บางและเรียวมาก แทนที่จะเรียกว่ามีด สมควรเรียกว่ากระบี่สั้นจะเหมาะสมกว่า”

 

หลังจากชายชุดดำฆ่าตัวตายและกลายเป็นแอ่งเลือด ฉินห่าวหยิบอาวุธอีกฝ่ายขึ้นมาและศึกษาดู

 

เขาพบว่ามีชนิดนี้จริงๆแล้วค่อนข้างคล้ายกับมีดผ่าตัดในชีวิตก่อน ที่คมแต่บางมากๆ เพียงแค่มันยาวกว่าและมีสองคมก็เท่านั้น

 

“มีดนี้น่าสนใจมาก ขอเก็บไว้แล้วกัน”

 

ฉินห่าวไตร่ตรองพักหนึ่ง จากนั้นก็เก็บมันด้วยความพอใจ ชายชุดดำขอบเขตแก่นทองคำคราวก่อนตอนฆ่าตัวตาย มีดเขาละลายไปพร้อมศพ ไม่เหลือทิ้งไว้กระทั่งเส้นผม

 

“เจ้าพอจะระบุที่ซ่อนของพวกมันได้ไหม?” ฉินห่าวหันไปถามแพนด้า

 

“ไม่ได้เป๊ะๆ แต่ที่แน่ใจก็คือน่าจะอยู่ใกล้ๆ เพราะมีร่องรอยของค่ายกลอยู่ เราอสูรเทพคิดว่าแถวๆนี้ไม่น่าใช่แค่ที่ซ่อน แต่เป็นฐานที่มั่นของพวกมัน ” แพนด้าส่ายหัวและวิเคราะห์

 

“ได้ยินว่าจมูกของสัตว์ดีมาก ทำไมเจ้าไม่ลองดมไปตามพื้นดู?” ฉินห่าวพูดไม่ออก อันที่จริงเขาก็สังเกตเห็นร่องรอยของค่ายกลที่นี่แล้วเช่นกัน เพราะตัวเขาก็มีความสามารถด้านค่ายกลที่ระบบแจกให้ ไม่งั้นจะหยุดยืนอยู่แถวนี้ทำไม? 

 

“เราอสูรเทพไม่ใช่เจ้าหมาโง่ ทำไมต้องใช้จมูกแบบมันด้วย?” แพนด้าทำหน้าเคลือบแคลงใจ

 

“ไม่ก็ไม่ เจ้าอย่าอารมณ์เสีย เอาเป็นพวกเราช่วยกันหาทางเข้าแล้วกัน” ฉินห่าวส่ายหัวและเปลี่ยนเรื่อง  

 

น่าเสียดายที่แพนด้าผนึกฐานบำเพ็ญเพียรตัวเองถึงสองรอบ จนตอนนี้มันแทบใช้พลังที่มีช่วยค้นหาไม่ได้เลย

 

“สมควรอยู่ตรงนี้”

 

แพนด้ายืนอยู่ในป่าหญ้าและพยักหน้า “แต่พวกเราไม่มีวิธีย้อนกระบวนการมัน ถ้ายังถอดรหัสไม่ได้ ก็ไม่สามารถเข้าไปได้”

 

“ไม่จำเป็นต้องถอดรหัส แค่ใช้กำลังบุกเข้าไปก็เพียงพอแล้ว” ฉินห่าวสะบัดค้อนเหล็กในมือ ตอนนี้เขาอยู่ในขอบเขตขจัดสิ่งโสมม บวกกับอาวุธได้รับการอัพเกรด ดังนั้นไม่เชื่อว่าจะเปิดมันไม่ได้

 

“เอ่อ … ที่นี่สมควรเป็นฐานที่มั่นขนาดเล็กก็จริง และค่ายกลที่ติดตั้งไว้ก็เป็นแค่ค่ายกลระดับสามเท่านั้น แต่ถึงมันจะเป็นแค่ค่ายกลระดับสาม …. ”

 

ปัง!

 

ก่อนที่แพนด้าจะพูดจบ ฉินห่าวก็หวดค้อนศึกลงไปแล้ว

 

ก๊องงงงงง~

 

ทันใดนั้นเหนือพื้นดินเกิดระลอกคลื่นวงกลมที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ากระจายออกมา

 

พรวดดด!

 

ฉินห่าวถูกแรงสะท้อนของค่ายกล กระอักเลือดคำหนึ่ง แขนทั้งสองของเขาด้านชา แต่ดวงตาทั้งสองยังคงสว่างไสว เพราะนี่พิสูจน์ได้ว่าเขาค้นพบสถานที่ที่ถูกต้องแล้ว

 

“ลุยกันต่อ!”

 

ปังง ปังงง!

 

ฉินห่าวทุบค้อนศึกอีกครั้งและอีกครั้งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และทุกครั้งที่โจมตี เลือดจะพุ่งออกจากปาก กระนั้น ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเลย

 

แพนด้ารับชมฉากนี้ด้วยหนังศีรษะด้านชา มันเคยเห็นคนบ้ามาก็เยอะ แต่ไม่เคยเห็นคนที่ทารุณตัวเองขนาดนี้มาก่อน คล้ายกับว่าไม่รู้จักคำว่าเจ็บปวดคืออะไร

 

ปีศาจขนานแท้!

 

ในไม่ช้า ทั้งตัวฉินห่าวก็ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด แต่ดวงตายิ่งมายิ่งสว่างไสว ค่ายกลอย่างไรมีขีดจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายกลรูปแบบที่ซ่อนซึ่งไม่ใช่ค่ายกลป้องกัน ข้อจำกัดมันยิ่งมากขึ้น

 

ตึงงง!

 

กราว กราว …

 

ค้อนสุดท้ายฟาดลง ค่ายกลเกิดการสั่นสะเทือน เกิดเสียงราวกับแก้วแตก พลังงานปราณวิญญาณกระจัดกระจายไปทั่ว

 

แพนด้า “…”

 

ช่างอัศจรรย์! ฉินห่าวสามารถฝืนทำลายมันด้วยพละกำลังได้จริงๆ!

 

“ฮู่ว … ”

 

“เจ้ารอข้าเดี๋ยว ขอฟื้นพลังก่อน”

 

ฉินห่าวผ่อนลมหายใจยาว ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก แต่สถานะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมลุยอีกแล้ว

 

“ได้สิ” แพนด้าพยักหน้า ทุกคนเหนื่อยก็ต้องพักฟื้นพลัง นี่เป็นเรื่องเข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม เห็นเพียงฉินห่าวยกปลายมีดขึ้นจี้คอตัวเองแล้วแทงเข้าไปอย่างไม่ลังเล

 

“นี่เจ้า …!”

 

แพนด้าตกใจจนหน้าซีด แต่แล้วมันก็นึกขึ้นได้ว่าฉินห่าวไม่มีวันตาย บ่นงึมงำว่า “เจ้าจะทำอะไรก็พูดให้มันชัดๆ อย่าอ้อมค้อมแบบนี้ข้าหัวใจจะวาย”

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา ฉินห่าวกลับมากระกรี้กระเปร่าอีกครั้ง เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและพูดกับแพนด้าอย่างตื่นเต้น “ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่พอจะได้สู้ข้ามักตื่นเต้นทุกที ลงไปกันเถอะ”

 

ว่าจบ เขาก็กระโดดนำลงไปในช่องทางที่ก่อนหน้านี้มีค่ายกลซ่อนไว้อย่างไม่ลังเล

 

“เจ้ามนุษย์หยาบกระด้าง! เราอสูรเทพผู้มีอารยธรรมโชคไม่ดีจริงๆที่เลือกติดตามเจ้า!” แพนด้าบ่นที่ฉินห่าวไม่รู้จักวางแผนเลย แต่สุดท้ายมันก็ยอมกระโดดลงตามอย่างไม่เต็มใจ