บทที่ 235 ครอบครัวผมมีอีกคนหนึ่ง
เมื่อเห็นสีหน้าของหลงหวางเอ๋อ เย่เฟิงก็อดยิ้มไม่ได้ เขาหยิกแก้มหญิงสาวเบาๆ “ไม่ต้องห่วงหรอก ก็แค่ขีปนาวุธเอง ต่อให้เป็นระเบิดนิวเคลียร์ก็ทำอะไรอาจารย์ไม่ได้หรอก”
“ห๊า?”
หลงหวางเอ๋อถึงกับผงะ เธอรู้ดีว่าอาจารย์ของเย่เฟิงนั้นแข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งถึงขั้นนั้น ถึงกับไม่กลัวระเบิดนิวเคลียร์เลยหรอ?
ความจริงแล้ว เย่เฟิงก็ไม่รู้หรอกว่าซูเฟยหยิ่งที่มีวรยุทธ์ระดับ 100 ปี ต้องเกรงกลัวระเบิดนิวเคลียร์หรือไม่ แต่เธอย่อมหาวิธีจัดการได้แน่
ตราบเท่าที่มีทักษะดวงเคลื่อนดาราคล้อย การจะหลบออกไปจากรัศมีของระเบิดนิวเคลียร์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากนี่จริงไหม?
ซูเฟยหยิ่งนั้นโบยบินอย่างรวดเร็ว แต่จรวดขีปนาวุธทั้งสองลูกนั้นเร็วกว่า เมื่อมันเข้ามาใกล้ หญิงสาวเพียงแค่หันไปมองด้านหลัง จากนั้นความเร็วของเธอก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า!
ราวกับแสงสีขาวบนฟ้า หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ซูเฟยหยิ่งก็เหาะลงมาบนเรือสปีดโบทที่เย่เฟิงยืนอยู่ แต่เนื่องจากจรวดขีปนาวุธทั้งสองลูกยังลอยตามมา ซูเฟยหยิ่งจึงยกมือขึ้นในแนวราบ จากนั้นขีปนาวุธทั้งสองลูกก็หันมาชนกันเอง
ตู้ม!
ขีปนาวุธทั้งสองลูกชนกันจนระเบิดขึ้นเหนือผิวทะเล ในไม่ช้า กลุ่มควันที่เกิดจากการระเบิดจึงลอยกลบวิสัยทัศน์การมองเห็นในบริเวณนี้ไปทันที
ถึงแม้ซูเฟยหยิ่งจะไม่คุ้นเคยกับโลกใบนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะหาวิธีจัดการไม่ได้ เมื่อกลุ่มควันปกคลุมไปทั่วเช่นนี้ ทางกองทัพจึงสูญเสียเป้าหมายไปทันที แม้จะใช้เรดาร์ค้นหา หรือแม้แต่ติดต่อไปยังกองบัญชาการเพื่อขอใช้ดาวเทียมแบบ real-time พวกเขาก็ไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อย!
ด้วยที่มีคลื่นรบกวนจากชิ้นส่วนน้ำแข็งพันปี เทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆจะไร้ประสิทธิภาพไปในทันที
“เฟิงเอ๋อ ไปกันเถอะ เราจะมุ่งหน้าไปทางตะวันตก”
เมื่อซูเฟยหยิ่งลงมายืนบนเรือแล้ว ปีกสีขาวบริสุทธิ์ด้านหลังของเธอจึงสลายไป
ไปทางทิศตะวันตก?
‘ผมขับเรือไม่เป็นสักหน่อย!’
เย่เฟิงทำหน้าเหวอไปในทันที
ซูเฟยหยิ่งเห็นดังนั้นก็พอเดาได้ เธอจึงโบกมือเล็กน้อย ทันใดนั้นเรือลำนี้ก็เริ่มเคลื่อนที่ทันที มันเคลื่อนที่ด้วยพลังงานจากเจินชี่!
เย่เฟิงยอมรับว่าวิธีนี้เป็นความคิดที่ดี แต่มันคงมีแต่ผู้ฝึกเซียนระดับ 100 ปีอย่างซูเฟยหยิ่งเท่านั้นแหละที่ทำได้ การจะเคลื่อนเรือสปีดโบทไปข้างหน้า ด้วยวรยุทธ์ระดับ 15 ปีแบบเขานี้ ให้ว่ายน้ำแล้วลากไปเองยังไปได้ไกลกว่า
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
อาจารย์ ทำไมอาจารย์ถึงได้ขับเรือถอยหลังแบบนี้เนี่ยยยยย?
เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อรู้สึกอยากจะร้องไห้
ซูเฟยหยิ่งไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดไปจากที่ควรจะเป็น หลังจากถ่ายเทเจินชี่ไปยังเรือสปีดโบทเพื่อให้มันเคลื่อนที่ถอยหลังไปทางทิศตะวันตกแล้ว หญิงสาวจึงปัดฝุ่นที่เก้าอี้และนั่งลงอย่างสง่างาม
“เฟิงเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ซูเฟยหยิ่งจึงเอ่ยถามสถานการณ์ของเย่เฟิง
เขามาที่โลกใบนี้ได้อย่างไร? สาวน้อยคนนี้เป็นใคร? แล้วชายในชุดคลุมสีขาวที่มีแขนข้างเดียวก่อนหน้านี้คือใคร?
แต่คำถามสำคัญที่สุดคือ แหวนกระบี่มังกรโบราณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
เย่เฟิงดึงหลงหวางเอ๋อลงมานั่งตรงข้ามกับซูเฟยหยิ่ง จากนั้นจึงเริ่มเล่าประสบการณ์ที่เขาได้พบเจอมาในเร็วๆนี้ให้ฟัง แต่เขาข้ามเรื่องที่ตัวเองมาอยู่ในร่างของเย่เฟิงคนเดิมในโลกใบนี้ไป
เพราะว่าหลงหวางเอ๋อยังอยู่ที่นี่ การยังไม่ให้หญิงสาวได้รู้เรื่องของโลกเทวะตอนนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ซูเฟยหยิ่งได้เห็นความกังวลใบบนหน้าเย่เฟิงก็พยักหน้าเงียบๆด้วยความเข้าใจ เมื่อได้รับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างลูกศิษย์คนนี้กับหลงหวางเอ๋อ เธอก็ไม่ได้คัดค้านอะไร หญิงสาวเพียงดึงสิ่งของหลายอย่างจากแหวนมิติออกมา
“นี่คือโสมหุบเขาวิญญาณ ถ้าได้ดูดซับมันจะช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้ 4 เดือน”
“นี่คือหินหยวนสือ ช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้ 8 เดือน”
“ส่วนนี่คือผลหมื่นโคจร ช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้ 6 เดือน”
สมบัติสวรรค์มากมายถูกกองในมือหลงหวางเอ๋อชิ้นแล้วชิ้นเล่า ขณะที่หญิงสาวได้แต่จ้องมองตาปริบๆ
หลงหวางเอ๋อกำลังตกอยู่ในความมึนงง อาจารย์เอาของเหล่านี้มาจากไหนกัน? นั่นคือแหวนเก็บของหรอ? เดี๋ยวสิ แล้วทำไมอาจารย์ถึงได้มีสมบัติสวรรค์มากมายแบบนี้!
“อาจารย์ครับ หวางเอ๋อมีร่างชีพจรเทวะด้วย”
เย่เฟิงกล่าวเมื่อเห็นซูเฟยหยิ่งหยิบแต่ของระดับทั่วไปออกมา
ด้วยที่ซูเฟยหยิ่งมีวรยุทธ์ระดับ 100 ปี การได้มายังที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสมบัติสวรรค์มากมายอย่างโลกใบนี้ เธอต้องเก็บเกี่ยวพวกมันมาได้มากมายแน่
เมื่อได้ยินคำว่า “ร่างชีพจรเทวะ”จากเย่เฟิง ซูเฟยหยิ่งก็ไม่สงสัยและหยิบของออกมาจากแหวนมิติอีกมากมาย
“อันนี้ผลโลควอทเทวะ ช่วยเพิ่มวรยุทธ์ได้ 2 ปี”
“ส่วนอันนี้ หญ้าใบทองอายุ 19 ปี ช่วยเพิ่มวรยุทธ์ได้มากกว่า 1 ปี”
“แล้วก็อันนี้ หินแสงจันทร์ ช่วยเพิ่มวรยุทธ์ได้มากกว่า 1 ปี”
ซูเฟยหยิ่งหยิบของมากองเต็มอกหลงหวางเอ๋อจนแทบจะถือไม่ไหว หญิงสาวรู้สึกกระอักกระอวนเป็นอย่างยิ่งที่จะรับสิ่งของเหล่านี้
ของพวกนี้มันล้ำค่าเกินไปแล้ว!
“ไม่อยากได้งั้นหรอ งั้นก็ช่างมันเถอะ”
ซูเฟยหยิ่งกล่าวอย่างเย็นชา เธอรู้สึกรำคาญเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีลังเลของหลงหวางเอ๋อ
“รีบรับไปเถอะ เร็วเข้า”
เย่เฟิงรีบกล่าวย้ำ พร้อมกับหยิกแขนหญิงสาวเบาๆ
“ขอบคุณค่ะ”
เมื่อเห็นสีหน้าของซูเฟยหยิ่ง หลงหวางเอ๋อก็หน้าซีดลงเล็กน้อย หรือเธอจะทำให้อาจารย์โมโหเสียแล้ว?
มีเพียงเย่เฟิงเท่านั้นที่รู้ว่านี่แหละ คือท่าทีปกติของซูเฟยหยิ่ง
สำหรับคนอื่นๆแล้ว ซูเฟยหยิ่งจะแสดงท่าทีเย็นชาอย่างสมบูรณ์ แต่กับเย่เฟิง เธอจะแสดงความเย็นชาเพียงเปลือกนอกเท่านั้น ในตอนนี้ หลงหวางเอ๋อเป็นอีกคนที่เธอแสดงท่าทีเช่นเดียวกันกับเย่เฟิง
เมื่อคิดได้ดังนี้ เย่เฟิงก็เอ่ยขึ้นมาอีก “อาจารย์ ครอบครัวผมยังมีอีกคนหนึ่ง”
การที่เขาพูดแบบนี้ แน่นอนว่าย่อมหมายถึงซูเหมิงหาน
“หืม?”
ซูเฟยหยิ่งจ้องมองมา จากนั้นจึงกล่าวว่า “พาเธอมาเจอกับฉันด้วย”
เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็ได้แต่เกาหัวขณะนึกในใจ เดี๋ยววันหนึ่งก็ได้เจอเองแหละครับ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ สมบัตสวรรค์มากมายที่หลงหวางเอ๋อได้รับมา หากดูดซับพวกมันทั้งหมด ระดับวรยุทธ์ของหญิงสาวจะเพิ่มขึ้นถึง 25 ปี มันจะทำให้เธอสามารถฝึกฝนทักษะเซียนที่เป็นประโยชน์ได้อีกมากมาย
เย่เฟิงไม่ได้กังวลอะไรในเรื่องนี้ เส้นลมปราณของเขาในปัจจุบันมาถึงขีดจำกัดแล้ว เขาไม่สามารถดูดซับสมบัติสวรรค์เพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นได้อีก ซึ่งต่างจากหลงหวางเอ๋อที่ฝึกฝนวรยุทธ์มานาน การเพิ่มวรยุทธ์ขึ้นถึงระดับ 25 ปี ไม่เป็นปัญหากับเส้นลมปราณของเธอเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม ยิ่งมีระดับวรยุทธ์ที่สูงมากเท่าไหร่ การขยายเส้นลมปราณก็ยิ่งต้องใช้เวลามากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นซูเฟยหยิ่ง การจะขยายเส้นลมปราณเพื่อให้รองรับระดับวรยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นอีก 1 ปี เธอต้องใช้เวลา 1-2 เดือนเลยทีเดียว
ไม่นานนัก เรือสปีดโบทที่ ‘แล่นถอยหลัง’ ก็พาพวกเขามาถึงเกาะร้างแห่งหนึ่ง
………………..
น่าเหลือเชื่อ! ในแทบทะเลจีนตะวันออกนี้ กลับมีหญิงสาวคนหนึ่งที่โบยบินอยู่บนฟ้าได้!
ก่อนหน้านี้ เมื่อเรือ Destroyer ค้นพบซูเฟยหยิ่ง พวกเขาก็รีบรายงานไปยังกองบัญชาการ และได้รับคำสั่งให้ทำการจับกุมทันที
แต่น่าเสียดายที่ภารกิจล้มเหลว
กัปตันของเรือ Destroyer รายงานสถานการณ์กลับไปยังกองบัญชาการ จากนั้น ทางกองทัพก็รีบส่งเรือคุ้มกันอีกสามลำออกทำการค้นหาในทันที
หลังจากทำการค้นหาอยู่ตลอดทั้งวันจนพระอาทิตย์เกือบตกดิน ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบเป้าหมายบนเกาะแห่งหนึ่ง
เรือ Destroyer และเรือคุ้มกันอีกสามลำจึงทำการล้อมเกาะแห่งนั้นเอาไว้ทันที
……………………..
แปลโดย Solar Spark
(แปลจากเว็บ lnmtl.com และ Raw จีนโดยใช้โปรแกรมแปลภาษาช่วย)