บทที่ 182 ความเร็วใต้น้ำ
ถึงแม้เดิมทีผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้นต้องการจะแย่งชิงปะการังราชันย์จากคนอื่น แต่เมื่อเหตุการณ์เปลี่ยนไป ปะการังราชันย์ได้ตกไปอยู่ในมือของเย่เฟิงที่ไร้ซึ่งกองกำลัง ทุกๆคนจึงไม่ลังเลที่จะร่วมมือกันเพื่อชิงปะการังราชันย์คืนมา
มันคนนั้นคือชายสวมหน้ากาก!
ภายใต้แสงไฟส่องสว่างอันเข้มข้น ร่างโปร่งแสงของเย่เฟิงปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าทุกคน!
เพราะไหล่ของชายหนุ่มถูกกระแทกอย่างรุนแรงจากกำปั้นของผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงแห่งหมัดเทพทวารา เขาจึงประสบปัญหาเล็กน้อยในเรื่องการหายใจ นอกจากนี้ เมื่อเลือดไหลรินออกมาจากไหล่ที่แตกหัก ทักษะล่องหนจึงไร้ผลทำให้ร่างของเขาโผล่ออกมาครึ่งหนึ่ง
“เจ้านั่นมันตัวอะไร ทำไมถึงดูเหมือนผีอย่างนั้น?”
“มันไม่ใส่ชุดดำน้ำด้วยซ้ำไป!”
“จะอะไรก็ช่าง ฆ่ามันเดี๋ยวนี้!”
กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์เริ่มกระซิบคุยกัน พวกเขาไม่อยากจะคิดอะไรให้มากความอีกจึงไปพุ่งตัวเขาหาเย่เฟิง ทุกๆคนต่างเร่งความเร็วเพื่อต้องการจะจัดการชายหนุ่มให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!
ใต้ก้นทะเลอันหนาวเย็น กลุ่มเสือที่แสนหิวโหยพลันพร้อมใจกันพุ่งเข้าไปเพื่อสังหารเย่เฟิง แต่ชายหนุ่มไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่นิด เขาเก็บปะการังราชันย์มาใส่ไว้ในเสื้อพร้อมกับปะการังต้นเล็กอีก 12 ต้น
หลังจากนั้น ชายหนุ่มจึงว่ายอย่างรวดเร็วด้วยขาทั้งสองข้างราวกับปลาในน้ำ ทั้งยังอาศัยกระแสน้ำในการช่วยส่งตัว ทำให้พุ่งไปไกลกว่า 10 เมตรในเสี้ยววินาที
ความเร็วใต้ผืนน้ำของเขานั้น เร็วยิ่งกว่าคนอื่นๆเป็นเท่าตัว!
แต่น่าเสียดายที่ไหล่ของเย่เฟิงได้รับบาดเจ็บอย่างมาก แรงปะทะจากกำปั้นนั้นเกือบทำให้แขนของเขาขาดไปทั้งข้าง มันเหลือเพียงแค่กล้ามเนื้อน้อยนิดที่เชื่อมต่อติดกับไหล่เอาไว้อยู่
อาการบาดเจ็บนี้ส่งผลต่อความเร็วของเย่เฟิงอย่างมาก และเพื่อไม่ให้ถูกจับตัวได้ เขาต้องสร้างระยะห่างระหว่างตัวเองกับคนอื่นๆให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่ตอนนี้ ชายหนุ่มไม่อาจทนได้ต่อไปอีก เข้าจึงใช้มืออีกข้างเพื่อแสดงทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมารักษา!
ก่อนหน้านี้ เย่เฟิงเพิ่งดูดซับปะการังต้นเล็กและใช้พลังวิญญาณส่วนเกินเพื่อฟื้นฟูเจินชี่ในร่าง แต่มันก็แห้งเหือดไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไหล่ของเขาเพิ่งฟื้นฟูได้เพียง 50% อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็สามารถเคลื่อนไหวแขนข้างนี้ได้อย่างอิสระแล้ว
เมื่อเห็นประกายแสงสีทองซึ่งสามารถรักษาบาดแผลที่ไหล่ได้อย่างรวดเร็ว เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายที่ไล่ตามมาก็พากันตื่นตะลึง ความสามารถของเจ้าหน้ากากนั่นน่ากลัวเกินไปแล้ว
“เพลงกระบี่พร่ำเพ้อ – รังสีกระบี่ทลายเมฆา!”
ในเวลานี้ เสียงตะโกนได้ดังขึ้นมาจากด้านหลังของฝูงชน ตามมาด้วยรังสีกระบี่ที่พุ่งทะลวงกระแสน้ำตรงเข้าใส่เย่เฟิงด้วยความเร็วสูงสุด!
มันเป็นของหลงโม่หรัน หลังจากได้รับการคุ้มครองจากคนตระกูลหลงแล้ว ในที่สุดเขาก็ว่ายน้ำไล่ตามมา แต่ทันทีที่มองเห็นเย่เฟิง เขาก็ปลดปล่อยรังสีกระบี่ออกมาทันที
ในชั่วขณะนี้ ทักษะสัมผัสวิญญาณของเย่เฟิงรับรู้สถานการณ์ทั้งหมดโดยรอบได้อย่างชัดเจน เขาตัดสินใจว่าไม่ควรหลบการจู่โจมนี้ไปอีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะดำน้ำลงไปใต้ก้นทะเลที่มืดมิดแทน
ทิศทางที่เขาเลือกที่จะมุ่งหน้าไปนั้นเต็มไปด้วยจำนวนเศษน้ำแข็งที่กระจัดกระจายมากมายมหาศาล ด้วยที่มีทักษะเต่ามังกรกลั้นใจและทักษะสัมผัสวิญญาณ การเคลื่อนที่ผ่านสภาพแวดล้อมเช่นนี้ไปถือเป็นเรื่องง่ายอย่างยิ่ง
“บัดซบ เจ้านั่นมันอยากจะหาที่ตายรึไง?”
รังสีกระบี่ของหลงโม่หรันพุ่งไปอีกด้านหนึ่งด้วยผลของกระแสน้ำที่ปั่นป่วน สิ่งนี้ทำให้รู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง เขาคิดว่าเจ้าหน้ากากนั่นช่างโง่เง่าจริงๆ เพราะมันไม่ใช่แค่ไม่สวมชุดดำน้ำหรืออุปกรณ์ดำน้ำใดๆ แต่ยังกล้าเข้าไปก้นทะเลที่มีสภาวะแวดล้อมเช่นนั้นอีกด้วย
“มันกำลังดำน้ำลงไปอีก”
สีหน้าของหลงโม่หรันพลันเข้มขึ้น
“มันคิดจะฆ่าตัวตายหรือไง แต่พวกเราจะเสียปะการังราชันย์ไปไม่ได้ รีบตามไปเร็ว!”
หลงโม่หรันออกคำสั่งโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ในเวลาเดียวกัน เขาก็กระอักเลือดออกมาอีกสองที แต่แม้จะอยู่ในสภาพเช่นนี้ ชายวัยกลางคนก็ยังคงเลือกจะไล่ตามเย่เฟิงไป
เย่เฟิงค่อยๆดำน้ำลึกมากลงไปอีกจากผิวทะเล ยิ่งดำลงไปลึกเท่าไหร่ กระแสนน้ำก็ยิ่งปั่นป่วนมากเท่านั้น ทั้งอุณหภูมิก็ลดลงไปมากเช่นกัน ในตอนนี้ เศษน้ำแข็งได้ปรากฏออกมามากมายราวกับพวกมันกระจายออกมาจากที่ใดสักแห่ง
แต่ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม มันก็ไม่มีใครที่คิดยอมแพ้
ถึงแม้ใครหลายคนจะได้รับปะการังต้นเล็กจำนวนหนึ่งไปแล้ว แต่ปะการังเหล่านั้นก็ช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้เพียงแค่ 2 ปี ซึ่งมันต่างจากปะการังราชันย์อย่างมาก
แต่ไม่นานนัก ดูเหมือนพวกเขาจะประเมิณความเสี่ยงและอันตรายของก้นทะเลนี้ต่ำไป นอกจากจะไม่อาจไล่ตามเย่เฟิงได้ทัน ผู้โชคร้ายบางคนก็พลันถูกดึงเข้าไปในกระแสน้ำวนที่ปั่นป่วน ซึ่งแม้จะพยายามมากเพียงใดก็ไม่อาจหลบหนีออกมาได้!
มันมีเศษน้ำแข็งมากมายในกระแสน้ำวน แต่ละอันนั้นแหลมคมราวกับใบมีด ในช่วงเวลาสั้นๆหลังจากถูกดึงเข้าไป คนผู้นั้นก็ถูกเศษน้ำแข็งเฉือนร่างจนขาดกระจายเป็นชิ้นๆ
สำหรับเย่เฟิงที่มีทักษะสัมผัสวิญญาณนั้น เขาสามารถรับรู้ตำแหน่งของกระแสน้ำวนได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับคนอื่น ถึงแม้จะมีไฟฉายใต้น้ำ แต่กระแสน้ำวนเหล่านี้ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
เย่เฟิงค่อยๆดำน้ำลึกลงไปอีก เขาเคลื่อนที่ผ่านกระแสน้ำวนมากมาย พร้อมกับหลบหลีกเศษน้ำแข็งที่กระจัดกระจายได้อย่างราบรื่น
แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นนั้น พวกเขาตัวสั่นไปด้วยความกลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้
ไม่นานนัก ในที่สุดเย่เฟิงก็สามารถหลุดจากการไล่ตามของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ได้
ในเวลานี้ หลงโม่หรันแลดูคับข้องใจอย่างยิ่ง เขาจึงรีบออกคำสั่ง “เปิดใช้งานเครื่องพ่นใบพัดแล้วรีบตามไป!”
“แต่ท่านผู้นำ การใช้เครื่องพ่นใบพัดในก้นทะเลที่ปั่นป่วนแบบนี้ ผมกลัวว่ามันจะไม่เหมาะสม…..”
หนึ่งในผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงของตระกูลหลงตอบกลับด้วยความลังเล
เครื่องพ่นใบพัดเป็นหนึ่งในตัวอย่างการวิจัยและพัฒนาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศ ถ้าใช้งานมันในน้ำทะเลที่นิ่งสงบแล้วละก็ มันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ใต้น้ำได้หลายเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ในก้นทะเลที่มีกระแสน้ำปั่นป่วนเช่นนี้ หากใช้งานมันอย่างไม่ระวัง ผลสุดท้ายเครื่องพ่นใบพัดนี้อาจพาพวกเขาไปยังที่ที่ไม่สามารถย้อนกลับคืนได้อีก
อย่างเช่นการพุ่งเข้าไปในกระแสน้ำวนแล้วต้องเจอกับเศษน้ำแข็งอันแหลมคมมากมายเป็นต้น ความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ถือว่าสูงอย่างยิ่ง
“ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม ใช้งานมันซะ!”
หลงโม่หรันไม่ต้องการจะคิดเกี่ยวกับเหตุผลใดๆ เขารีบกดปุ่มชุดดำน้ำทันที
ชุดดำน้ำที่พวกเขาใช้อยู่ถือว่าเป็นสินค้าไฮเทค เมื่อกดปุ่มใช้งานแล้ว แก๊สจะปะทุออกมาจากเครื่องพ่นทั้งสองข้างพร้อมกับเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนไหวใต้น้ำขึ้นหลายเท่าตัว!
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ของตระกูลหลงอีกสองคนที่เหลือมองหน้ากันอย่างไร้หนทาง เพราะตอนนี้พวกเขาต้องทำตามเช่นเดียวกัน เมื่อพวกเขาเปิดใช้งานเครื่องพ่นใบพัดแล้ว ความเร็วก็เพิ่มสูงขึ้นทันที!
ทั้งสามคนพุ่งตัวตามทิศทางของเย่เฟิงไป และไม่นานนักก็สามารถเข้าใกล้ชายหนุ่มได้
‘เจ้านั่นกล้ามายังสถานที่แบบนี้ได้ หมายความว่ามันมั่นใจในเส้นทางอย่างยิ่ง ถ้าเราไล่ตามเส้นทางนี้ไป เราก็จะไม่พบกับอันตรายใดๆ’
หลงโม่หรันคิดได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายสวมหน้ากากไม่พวกคนโง่ แต่สำหรับตัวตนของมัน นั่นทำให้เขายิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก ความสามารถของชายสวมหน้ากากกระตุ้นความอยากรู้ของหลงโม่หรันมากทีเดียว ในเมื่อมีระดับวรยุทธ์เพียง 10 ปี แต่กลับสามารถใช้รังสีกระบี่ และนอกจากนั้นยังรับมือกับกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงได้มากมายขนาดนี้
‘ตราบใดที่สามารถถอดหน้ากากมันได้ เราก็จะทรมาณเพื่อเค้นความจริงออกมา’
หลงโม่หรันตั้งมั่นในใจ ในที่สุด ระยะห่างระหว่างชายสวมหน้ากากกับเขาก็หดเหลือเพียง 10 เมตรแล้ว!
เมื่อผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นเห็นหลงโม่หรันเปิดใช้งานเครื่องพ่นใบพัดและไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะพวกเขาไม่มีความกล้าจะไล่ตามไปเช่นนั้น
ในที่สุด ผู้ฝึกยุทธ์บางคนก็เริ่มถอนตัวกลับ สำหรับพวกเขานั้นต่อให้ไล่ตามไป ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ปะการังราชันย์มาแน่นอน แล้วในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมพวกเขาต้องลงไปเสี่ยงชีวิตด้วย? การถอนตัวกลับไปคงจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า อีกอย่างพวกเขาก็ได้ปะการังต้นเล็กมาจำนวนหนึ่งแล้ว มันก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการสูญเสียมากเกินไป
เมื่อกลับไปแล้ว พวกเขาจะรีบดูดซับปะการังต้นเล็กเหล่านี้ทันที เพราะว่าการที่พวกมันถูกแยกออกห่างจากปะการังราชันย์ พลังวิญญาณที่มีจะเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว
………….
เย่เฟิงดำลงไปใต้ทะเลลึกและในเวลาไม่นาน เขาก็ออกห่างจากชายฝั่งทะเลเกินกว่า 10 กิโลเมตรแล้ว
การที่หลงโม่หรันและอีกสองคนไล่ตามมาจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว ทำให้มุมปากของชายหนุ่มโค้งขึ้น การที่เขาหนีมาเช่นนี้ นั่นก็เพื่อดูดซับพลังวิญญาณจากปะการังต้นเล็กเพื่อฟื้นฟูปริมาณเจินชี่ในร่าง พร้อมกับการรักษาบาดแผลที่ไหล่ ในเวลานี้ เจินชี่ในร่างกลับมาเต็มร้อยอีกครั้งหนึ่ง และบาดแผลที่ไหล่ก็ถูกรักษาไปเกือบ 80% แล้ว
สมบัติสวรรค์ใดๆก็ตาม มันจะช่วยเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้เพียงแค่การดูดซับในครั้งแรกเท่านั้น หากดูดซับสมบัติสวรรค์ชนิดเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง มันจะเป็นการฟื้นฟูพลังชี่ในร่างของคนๆนั้นแทน ในกรณีนี้ เย่เฟิงมีปะการังต้นเล็กอยู่มากมาย เขาจึงไม่คิดมากที่จะใช้มันเพราะต้องให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเองเป็นอันดับแรก
ขณะที่หลงโม่หรันไล่ตามมา เย่เฟิงก็พลันเกิดไอเดียขึ้นมาในใจ
ฉัวะ!
เย่เฟิงไม่คิดอะไรอีก ทันทีที่กระบี่สีทองปรากฏขึ้นมาในมือ ชายหนุ่มได้หันตัวกลับพร้อมกับปลดปล่อยรังสีกระบี่พุ่งเข้าใส่หลงโม่หรันทันที!
…………………….
แปลโดย Solar Spark