บทที่ 181 เวทีของเย่เฟิง!
ใต้ก้นทะเลที่มืดมิด ไม่มีใครกล้าเปิดไฟฉายใต้น้ำของตัวเอง ไม่เช่นนั้นอาจจะตกเป็นเป้าหมายของผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นได้
สภาพแวดล้อมแบบนี้ถือว่าเอื้ออำนวยต่อเย่เฟิงอย่างยิ่ง บางทีเขาอาจจะมีโอกาสสังหารหลงโม่หรันที่นี่เลยก็ได้!
เย่เฟิงปลดปล่อยทักษะสัมผัสวิญญาณออกไปและพบว่าปะการังราชันย์นั้นอยู่ในตัวของผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงคนหนึ่งของสำนักหมัดเทพทวารา และคนผู้นั้นกำลังพยายามว่ายน้ำอย่างรวดเร็วไปยังชายฝั่ง แม้จะมีกระแสน้ำที่รุนแรงและเศษน้ำแข็งอันแหลมคมมากมาย ชายคนนั้นก็สามารถเคลื่อนไหวหลบหลีกมันได้
‘ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสามารถรับรู้อันตรายต่างๆที่เข้ามาใกล้ได้สินะ’
เย่เฟิงเข้าใจเรื่องนี้ดี
ด้วยการรับรู้ของทักษะสัมผัสวิญญาณ เขาพบว่าทุกๆคนล้วนอาศัยการเคลื่อนที่ของกระแสน้ำที่ไล่ล่าผู้ฝึกยุทธ์จากสำนักหมัดเทพทวาราคนนั้น โดยในกลุ่มพวกเขา มีหลงโม่หรันที่พุ่งอย่างรวดเร็วนำหน้าคนอื่นๆไป
อย่างไรก็ตาม เย่เฟิงตัดสินใจไม่ไล่ล่าเขา ชายหนุ่มเลือกจะซ่อนตัวและรีบเข้าไปหาเหล่าปะการังต้นเล็ก และเก็บพวกมันทั้งหมดมาซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 12 ต้น
หลังจากเก็บปะการังต้นเล็กมาหมดแล้ว เขาเก็บพวกมันไว้ด้านหลัง จากนั้นจึงเคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบเข้าไปยังที่ซึ่งผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงทั้งหลายกำลังแย่งชิงปะการังราชันย์กันอย่างดุเดือด
‘หลงโม่หรันถูกขวางแฮะ ช่างน่าตกใจจริงๆ’
เย่เฟิงคิดอยู่ในใจเมื่อรับรู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เมื่อหลงโม่หรันต้องการจะไล่กวดผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงจากสำนักหมัดเทพทวาราคนนั้น ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงอีกคนของสำนักเดียวกันก็ได้เข้ามาขวางทางเขาไว้พร้อมกับเริ่มจู่โจมด้วยกำปั้นทันที!
หลงโม่หรันไม่กล้าประมาทกำปั้นนั้น เขาหยุดไล่ตามและรับมืออย่างระวัง ในสภาพแวดล้อมที่มืดมิดแห่งนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายต่างเคลื่อนที่โดยอาศัยสัญชาตญาณ ซึ่งมันไม่อาจเทียบการการเคลื่อนไหวของเย่เฟิงได้
ในเวลานี้ เย่เฟิงใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณจดจ่อไปทางหลงโม่หรันพร้อมกับพุ่งตัวอย่างรวดเร็วไปยังทิศทางนั้น ด้วยผลของทักษะเต่ามังกรกลั้นใจรวมทั้งรูปร่างที่ปราดเปรียวดั่งปลาในน้ำ ทำให้เขาเร็วยิ่งกว่าคนอื่นๆ
ใกล้แล้ว!
เย่เฟิงรักษาระยะห่างจากหลงโม่หรันไว้ 10 เมตรเพื่อความปลอดภัย เพราะด้วยการสังเกตของเขาก่อนหน้านี้ ระยะการรับรู้ที่แม่นยำของผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายรวมทั้งหลงโม่หรันจำกัดเพียงแค่ 5 เมตร หากอยู่ห่างเกิน 10 เมตร คนพวกนั้นก็ไม่มีทางรับรู้อะไรได้
หากเป็นในสภาพแวดล้อมทั่วไป ก็อาจเป็นไปได้ว่าฝ่ายตรข้ามจะรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขา แต่ในก้นทะเลที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายนี้นั้นถือว่าต่างออกไป
เย่เฟิงรอคอยจนได้โอกาสเหมาะๆ เมื่อเขาพบว่าหลงโม่หรันและผู้ฝึกยุทธ์แห่งหมัดเทพทวารากำลังเข้าปะทะกัน ในชั่วพริบตา เจินชี่ในร่างพลันเข้าไปควบแน่นในแหวนกระบี่มังกรโบราณ ก่อให้เกิดประกายแสงรางๆขึ้นมาในน้ำทะเลที่ขุ่นมัว
รังสีกระบี่สีน้ำเงินพุ่งเจาะทะลวงกระแสน้ำที่ปั่นป่วนอย่างรวดเร็วเข้าหาหลงโม่หรัน โดยเล็งไปที่ตำแหน่งส่วนหัว
กระบี่ของเย่เฟิงนั้นเจ้าเล่ห์เป็นอย่างยิ่ง!
แน่นอนว่าหลงโม่หรันรับรู้ว่ามีกระบี่กำลังพุ่งเข้ามา แต่หากพยายามหลบหลีกกระบี่เล่มนี้ เขาย่อมถูกกำปั้นของคนจากหมัดเทพทวารากระแทกเข้าใส่อย่างแน่นอน
จริงอยู่ที่กำปั้นนั้นไม่อาจสังหารเขาได้ แต่มันก็ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ในชั่วขณะที่กระบี่เย่เฟิงกำลังพุ่งเข้ามา สีหน้าของหลงโม่หรันพลันเปลี่ยนไปเมื่อรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ชายสวมหน้ากากกำลังลอบจู่โจมเขาจากด้านหลัง! ในแถบทะเลจีนตะวันออกในตอนนี้ นอกจากเขากับชายสวมหน้ากากที่ชื่อโม่จิ่วเกอแล้ว ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์คนไหนอีกที่สามารถใช้รังสีกระบี่ได้ หลงโม่หรันเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าชายสวมหน้ากากคือผู้ลอบจู่โจมใส่เขา!
ในตอนนี้ หลงโม่หรันเหลือเพียงสองทางเลือกคือ เผชิญหน้ากับความตายหรือการได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยธรรมชาติแล้ว แน่นอนว่าเขาต้องเลือกได้รับบาดเจ็บสาหัสแทน
หลงโม่หรันเอียงหัวหลบรังสีกระบี่ในทันที อย่างไรก็ตาม ความเชียบคมของมวลอากาศอันหนาวเย็นได้เฉียดหัวเขาไป ทิ้งรอยบาดแผลลึกเอาไว้บนใบหน้า ในช่วงเวลาอันเอื้ออำนวยนี้ ผู้ฝึกยุทธ์จากหมัดเทพทวาราย่อมไม่ปล่อยโอกาสทองนี้ไป
หมัดเผ่าฉุย!
“ปัง” เสียงดังสนั่นเกิดขึ้นเมื่อกำปั้นนั้นที่ห่อหุ้มไว้ด้วยพลังอันร้ายกาจพุ่งทะลวงกระแสน้ำเข้าใส่หน้าอกของหลงโม่หรัน
พรวด!
วินาทีที่กำปั้นพุ่งเข้าใส่ หลงโม่หรันกระอักเลือดออกมาพร้อมกับร่างของเขาที่กระเด็นออกไปไกล
หากเป็นบนพื้นดินละก็ กำปั้นอันทรงพลังนี้มีความสามารถมากพอจะทะลวงหัวใจของหลงโม่หรันในทีเดียว! น่าเสียดายที่ในก้นทะเลแห่งนี้ พลังของกำปั้นถูกลดทอนลงไปจากผลของกระแสน้ำ หลงโม่หรันจึงยังมีชีวิตรอดอยู่ได้
ในโลกยุทธภพนั้น หนึ่งบวกหนึ่งอาจมีค่ามากกว่าสอง มันถือเป็นทฤษฏีทั่วไปในโลกแห่งนี้
หากเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว หลงโม่หรันย่อมเหนือกว่าทุกคนในที่นี้ไม่ว่าจะเป็นเย่เฟิงหรือคนของหมัดเทพทวาราก็ตาม แต่ในสภาพแวดล้อมอันเลวร้าย การเผชิญหน้ากับการจู่โจมทั้งสองด้านพร้อมๆกัน ทำให้หลงโม่หรันไม่อาจรับมือได้และได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
เย่เฟิงต้องการจะไล่ตามหลงโม่หรันที่บาดเจ็บเพื่อจัดการให้สิ้นซาก แต่ในเวลานี้ ผู้ฝึกยุทธ์จากหมัดเทพทวาราได้หันกลับมา พร้อมกับปล่อยกำปั้นอันทรงพลังเช่นเดียวกันกับก่อนหน้านี้มายังตัวเขา
ชัดเจนว่าชายคนนี้ก็รับรู้ตัวตนของชายหนุ่มแล้วเช่นกัน
สำหรับสำนักหมัดเทพทวารานั้น เย่เฟิงก็ถือว่าเป็นตัวตนแห่งความเคียดแค้นของพวกเขาเช่นเดียวกัน!
ร่างเย่เฟิงเคลื่อนที่หลบกำปั้นของฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงน้ำแข็งน้ำแข็งชิ้นยักษ์ที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง จึงเคลื่อนที่หลบหลีกมันด้วยเช่นกัน
น้ำแข็งยักษ์ทรงแบนเป็นรูปจานลอยผ่านเย่เฟิงไปและพุ่งเข้าหาผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นด้วยความเร็วสูง!
ชายหนุ่มสามารถรับรู้ได้จากทักษะสัมผัสวิญญาณว่าชายคนนี้เป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปี ที่ดูสามัญธรรมดาทั่วไป เพียงแต่มีระดับวรยุทธ์ค่อนข้างสูง
น่าเสียดายที่ถึงแม้ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงอย่างเขาจะรับรู้แล้วว่ามีน้ำแข็งยักษ์ชิ้นใหญ่กำลังพุ่งเข้ามา แต่ก็ไม่มีเวลาพอจะหลบหนีได้ทัน
ในเสี้ยววินาที ชายคนนั้นพยายามว่ายน้ำขึ้นไปข้างบน แต่ความเร็วนั้นไม่เพียงพอ ทำให้น้ำแข็งยักษ์รูปจานพุ่งเข้าใส่กลางลำตัวของเขา! ด้วยที่มันมีขนาดใหญ่และพุ่งมาด้วยความเร็วสูง ชายคนนั้นจึงถูกน้ำแข็งยักษ์ตัดร่างออกเป็นสองส่วนจากกลางลำตัวทันที!
กลิ่นของเลือดฟุ้งกระจายไปทั่วน้ำทะเลในบริเวณนี้
‘ไม่ใช่แค่น้ำทะเลที่หนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ แต่ชิ้นส่วนน้ำแข็งก็เพิ่มมากขึ้นด้วยแฮะ…….’
หัวใจของเย่เฟิงหนาวสั่นจากประสบการณ์เฉียดตายเมื่อครู่ เขากระจายทักษะสัมผัสวิญญาณออกไปและพบว่าคนของตระกูลหลง 2 คนได้เข้าไปคุ้มกันหลงโม่หรันที่เป็นผู้นำตระกูลของพวกเขาแล้ว
ดูเหมือนว่าในตอนนี้เย่เฟิงจะไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้แล้ว…….
ชายหนุ่มเข้าใจสถานการณ์ดีว่าหากเขาปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงทั้งสองของตระกูลหลงต้องเข้าสังหารเขาในชั่วพริบตาแน่นอน เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยในตัวเอง ในที่สุดเย่เฟิงจึงล้มเลิกความคิดที่จะสังหารหลงโม่หรันตอนนี้เสีย
ร่างของชายหนุ่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังอีกด้านหนึ่งที่ผู้คนกำลังต่อสู้เพื่อแย่งชิงปะการังราชันย์
เวลานี้ ปะการังราชันย์ยังคงอยู่ในมือของผู้ฝึกยุทธ์จากหมัดเทพทวาราคนเดิมที่กำลังมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งทะเล ขณะที่ผู้คนส่วนที่เหลือมากมายว่ายน้ำตามหลังมาติดๆเพื่อจะขัดขวางไม่ให้ชายคนนั้นได้ปะการังราชันย์ไป
เย่เฟิงใช้ทักษะล่องหนเพื่อพรางตัวเองจากสายตาของคนอื่นๆ พร้อมกับคว้าเอาเศษน้ำแข็งชิ้นใหญ่มาใช้มาเป็นตัวล่อ จากนั้นจึงพุ่งไปคนของหมัดเทพทวาราคนนั้นเพื่อลอบสังหารและนำปะการังราชันย์มา
ผู้ฝึกยุทธ์ของหมัดเทพทวาราพลันรับรู้ได้ถึงเศษน้ำแข็งที่กำลังพุ่งมาอย่างรวดเร็ว เขาจึงเบี่ยงตัวเพื่อหลบออกไป แต่ในเวลานั้น เย่เฟิงพลันโผล่ออกมาจากด้านหลังของเศษน้ำแข็ง และปล่อยหมัดอย่างรุนแรงเข้าใส่อกของเขา!
การจู่โจมอย่างฉับพลันนี้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามตื่นตะลึงไปในทันที!
ชายคนนั้นไม่คิดว่าจะมีใครบางคนซ่อนตัวอยู่ในด้านหลังของเศษน้ำแข็งแล้วโผล่ออกมาราวกับภูติผีแบบนี้!
มันไม่ใช่เหตุบังเอิญ เย่เฟิงปล่อยหมัดเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม ขณะที่อีกด้านหนึ่ง เขาควบแน่นเจินชี่เข้าไปในแหวนกระบี่มังกรโบราณ
ประกายแสงสีทองพลันฉายวาบออกมา!
ฉึก!
ในชั่วพริบตา กระบี่เจินชี่สีทองอันคมกริบได้แทงเข้าใส่หน้าอกของฝ่ายตรงข้าม!
ปัง!
อย่างไรก็ตามก่อนตาย ชายคนนั้นได้แกว่งหมัดเข้าใส่ไหล่ของเย่เฟิง พลังชี่ภายในอันเข้มข้นที่อยู่ในกำปั้นกระแทกเข้าใส่ไหล่ของชายหนุ่มอย่างแรง!
เย่เฟิงขบฟันพร้อมกับว่ายน้ำด้วยแขนข้างเดียวเพื่อคว้าปะการังราชันย์เอาไว้
“มันคือเจ้าหน้ากากนั่น!”
ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆพลันตระหนักได้ถึงเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป พวกเขาเปิดไฟฉายใต้น้ำขึ้นมาและพร้อมใจกันส่องแสงไปยังเย่เฟิง!
………………….
แปลโดย Solar Spark