บทที่ 181: ข้อเสนอ (1)
ดาร์ลตันหัวเสียขณะที่เขามองไปยังผู้คนที่เดินเข้ามาหาเขา
ทว่าเขาไม่อาจหนีไปทั้งๆ แบบนี้ได้
ในเมื่อเขาต้องจับพวกนั้นให้ได้
‘ฉันต้องตื่นตัว’
ในเมื่อมันยังไม่จบ
ตึก!
ดาร์ลตันตวาดเสียงดังพร้อมกับล่าถอยสร้างระยะห่างขึ้น
“เฮ้ พวกนายตรงนั้นน่ะ! ฟังให้ดี! พวกนายรู้ไหมว่าใครกำลังตามล่าไอ้เวรตรงนั้นอยู่ตอนนี้? อารูคอนกำลังตามล่ามันอยู่!”
“… มันพูดบ้าอะไร”
ทุกคนขมวดคิ้ว
อารูคอนจะมาที่นี่ทำไม?
ที่นี่คือเขตพักรบ
มันไม่มีทางที่อารูคอนจะมาเพียงเพื่อจับมนุษย์แค่คนเดียว
และเพราะแบบนั้น
หนึ่งในนักล่าจึงตะโกนออกไปเสียงดัง
“แกพูดบ้าอะไรของแก! แกคิดจริงๆ เหรอว่ามันดูมีเหตุผลน่ะ? ดูสิ เจ้าหมอนี่เริ่มพล่ามไร้สาระเพราะกำลังจะถูกกระทืบ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ทุกคนหัวเราะใส่ดาร์ลตัน
จริงๆ แล้วมันยังมีเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนหัวเราะ
แม้ว่าพวกนั้นจะถอยไปเป็นร้อยก้าวและพูดว่าอารูคอนกำลังตามล่าฮันซูอยู่ มันก็ไม่มีทางที่อารูคอนที่มีป้อมปราการดาวเทียมจะใช้วิธียากๆ อย่างการปล่อยสุนัขล่าเนื้อออกมาเพื่อจับฮันซู
ในเมื่อมันไม่มีทางที่มนุษย์คนหนึ่งที่อารูคอนตามล่าจะสามารถมีชีวิตรอดมาได้จนถึงที่นี่
ดาร์ลตันตะโกนออกไปอย่างหัวเสีย
“ดูเจ้าพวกโง่นี่สิ! พวกแกไม่เห็นไอ้ของที่อยู่บนคอฉันเหรอ?”
จากนั้นดาร์ลตันจึงยกหยกฟ้าที่อยู่ใต้เกราะของเขาขึ้นสูง
แสงสีฟ้าสว่างสาดส่องไปทั่วภายในเขาวงกต
ผู้คนขมวดคิ้วเมื่อพวกเขาเห็นสร้อยคอนั้น
พวกเขารู้ว่ามันคืออะไร
ปลอกคอสุนัขของเผ่าพันธุ์ชั้นสูง
‘บัดซบ… มันเป็นความจริงเหรอ?’
ดาร์ลตันเห็นว่าผู้คนชะงักและถอยหลังไปขณะที่เขายังคงตะโกนต่อไป
“อารูคอนสัญญาว่าจะปล่อยคนที่จับหมอนั่นเป็นๆ ได้ไป! เขาบอกว่าเขาจะพาเราไปที่ปลายทางของถนนสีเขียว! เราใส่ปลอกคอพวกนี้เพราะว่าสัญญาพวกนั้น”
แน่นอนว่ามันคือเรื่องโกหกทั้งหมด
แต่ดาร์ลตันต้องซื้อเวลาเอาไว้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
‘เวรเอ้ย ฉันไม่มีเวลามามัวคิดเรื่องแบบนั้น!’
ถ้าเขาไม่อาจรั้งพวกนั้นเอาไว้ที่นี่ได้ งั้นเขาก็จะตายด้วยน้ำมือของอารูคอน
แต่ถ้าเขาสู้กับพวกนั้นที่นี่ งั้นเขาและอีกสามคนก็มีแต่จะตาย
พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถฆ่าสัตว์อสูรขั้นหนึ่งได้ด้วยตัวพวกเขาสี่คน
แต่เจ้าหมอนั่นที่อยู่ตรงนั้นกระทืบสัตว์อสูรขั้นหนึ่งจนน่วมด้วยมือเปล่า
พวกเขาอาจจะสามารถถ่วงเวลาฮันซูคนเดียวเอาไว้ได้ แต่นักล่าคนอื่นๆ ที่มีจำนวนเกือบร้อยคือปัญหา
พวกเขาต้องดึงพวกนักล่ามาอยู่ฝั่งพวกเขาและถ่วงเวลาเอาไว้จนกว่าอารูคอนจะมา
ไม่สิ ถ้านักล่าช่วยพวกเขา งั้นพวกเขาก็อาจจะกระทั่งสามารถฆ่าฮันซูได้
“… ฉิบหายเอ้ย”
ทุกคนพึมพำขณะที่พวกเขาถอยหลังออกห่างจากฮันซู
ในเมื่อมันให้ความรู้สึกเหมือนการโจมตีจากป้อมปราการดาวเทียมจะพุ่งลงมาที่ศีรษะของพวกเขาได้ตลอดเวลา
ภาพของผู้คนที่ถูกลบไปโดยการโจมตีของผู้เก็บเกี่ยวยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของพวกเขา
ผู้คนที่รวมกลุ่มกันเริ่มที่จะออกห่างจากฮันซูและล้อมเขาเอาไว้
และพวกเขาต่างกลืนน้ำลายขณะที่พวกเขามองไปยังฮันซูที่อยู่ตรงกลาง
จุงฮวานแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมาเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากสิ่งมีชีวิตที่สูงห้าเมตร
“… คุณบอกว่าดาคิดัสถูกฆ่า?”
“ใช่ และไอ้สารเลวนั่นก็หนีไปแล้วมุ่งหน้าเข้าไปในเขาวงกตของพวกแก”
“ให้ตายเถอะ แล้วคุณกำลังจะขอให้พวกเราช่วยอะไรกันแน่?”
เจ้าหมอนั่นหนีเข้าไปในเขาวงกต
มันดูเหมือนว่าสุนัขล่าเนื้อหาเขาเจอแล้ว แล้วมันจะมีปัญหาอะไร?
เจ้านี่สามารถเข้าไปข้างในด้วยตัวเองและเผาหมอนั่นด้วยหอกได้ด้วยตนเอง
อคิทรัสเอ่ยตอบคำพูดของจุงฮวาน
“ในเมื่อที่นั่นก็เหมือนกับบ้านของพวกแก มันคงจะหยาบคายเกินไปหน่อยในการที่ฉันจะเข้าไปและทำเรื่อง จับพวกมันให้ฉัน ฉันจะจัดการมันที่นี่”
“…”
จุงฮวานขมวดคิ้วไปยังอคิทรัสที่โยนงานน่าเบื่อมาให้เขา
ในเมื่อเขารับรู้ถึงเจตนาของอคิทรัสได้ในที่สุด
‘หมอนี่กำลังสงสัยพวกเรางั้นเหรอ’
เจ้าอคิทรัสนี่ไม่เข้าไปในเขาวงกตเพราะว่ามันกำลังสงสัยพวกเขา
และเมื่อจุงฮวานคิดถึงเรื่องนี้ หอกในมือของอคิทรัสก็พลันดูน่ากลัวขึ้น
ในเมื่อความสงสัยนั้นเป็นเหมือนประกายไฟแห่งความขัดแย้ง
‘ชิ ถ้าฉันปฏิเสธมันที่นี่ งั้น…’
อคิทรัสจะสามารถไปที่ไหนก็ได้ตามแต่เขาต้องการจากข้ออ้างที่ว่าต้องการจับคนคนหนึ่งนั่น
ถ้าเขาสร้างรูขึ้นในเขาวงกต งั้นจุงฮวานและคนอื่นๆ ก็จะไม่มีทางหยุดหมอนี่ได้ และไม่ช้าก็เร็ว อคิทรัสจะไปถึงยังห้องที่มมีสัตว์อสูรสามสายพันธุ์อยู่ที่ส่วนลึกได้
อคิทรัสแย้มยิ้มขณะที่เขามองไปยังจุงฮวานที่กำลังขมวดคิ้วใส่เขา
“โอ้ อย่ากังวลเกี่ยวกับมันนักเลย ฉันปล่อยสุนัขล่าเนื้อไปบางส่วนแล้ว ถ้าเจ้าพวกนั้นเจอเจ้านั่นก่อน งั้นพวกนายก็ไม่จำเป็น”
“…”
มันให้ความรู้สึกเหมือนอคิทรัสต้องการจะสำรวจทั่วทั้งเขาวงกตด้วยโอกาสนี้ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรให้จุงฮวานปฏิเสธ
“งั้นเขาคงจะถูกจับในไม่ช้า มันคงไม่มีเหตุผลอะไรให้พวกเราเข้าไปแทรกแซง แต่เราจะเตรียมตัวเผื่อเอาไว้”
“ฮ่าฮ่า งั้นฉันก็ควรจะรออยู่ที่นี่”
จุงฮวานหมุนตัวเดินห่างจากอคิทรัสที่กำลังรวบรวมสุนัขล่าเนื้อไว้ที่เดียวกันด้วยหยกฟ้าและจากนั้นจึงมุ่งหน้าเข้าไปในเขาวงกต
ตึกตึกตึก!
ทว่าไม่เหมือนกับสีหน้าหงุดหงิดเบื่อหน่ายก่อนหน้าของจุงฮวาน สีหน้าของเขาในตอนนี้เคร่งเครียดอย่างมาก
‘ปล่อยภูเขาเหลียงทั้งหมด’
จุงฮวานที่ถือหยกแดงอยู่เข้าไปในเขาวงกตผ่านประตูเขาวงกตที่ถูกทำลายและเริ่มมุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึก
ผู้คนที่ยืนอยู่ใกล้ฮันซูมองไปยังฮันซูและพวกของเขาด้วยท่าทีสับสน
‘…ถ้าเขาถูกตามล่าโดยอารูคอน งั้นเขาก็ไม่มีทางมีชีวิตรอด’
หากจะพูดตามหลักเหตุผลแล้ว พวกเขาควรจะออกไปให้ห่างจากคนคนนี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ปัญหาของโลกใบนี้คือการเป็นผู้ชมนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
จะเป็นศัตรู
หรือมิตร
ถ้าพวกเขาอยู่ที่นี่ งั้นพวกเขาก็จะตายด้วยน้ำมือของอารูคอนที่จะตามมาหลังจากนี้
แต่ฮันซูนั้นน่ากลัวเกินกว่าที่พวกเขาจะโจมตี
ฮันซูจะทำแค่พูดว่า <ฮ่าฮ่า ในเมื่อพวกเราสู้ร่วมกันมาก่อนหน้า ฉันจะยกโทษให้พวกนาย> ตอนที่พวกเขาโจมตีอีกฝ่ายรึไง?
“เวรเอ้ย… เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาสักสิบปีหรือไง?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความคิดของตนเอง
ฮันซูตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว
‘มันปล่อยสุนัขล่าเนื้อมา แต่พวกมันไม่มา… ยังไม่มา’
พวกมันอาจจะสงสัยพวกลูกน้องของคลีเมนไทล์ด้านนอก
มันไม่มีเหตุผลอื่นให้มันไม่เข้ามา
ซึ่งหมายความว่ามันมีชุดการเคลื่อนไหวแบบเดียวนับจากนี้
‘สุนัขล่าเนื้อกับภูเขาเหลียงจะไหลมาที่นี่’
ซึ่งหมายความว่าเขาไม่มีเวลาจะเสียที่นี่
ตูมมมม!
ทันทีที่ฮันซูขยับ
ฟึ่บ!
ร่างของฮันซูได้หายไปจากสายตา
“หือ?”
เมื่อผู้คนรับรู้ถึงการหายตัวไปของฮันซูและอุทานออกมา
วูบบบ!
ร่างของฮันซูได้ทะลวงผ่านผู้คนรอบๆ และมุ่งตรงไปยังดาร์ลตันด้วยความเร็วสูง
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
มันก็แค่คนคนเดียวที่วิ่งบนพื้น แต่ทุกย่างก้าวของฮันซูได้สร้างเสียงที่เหมือนกับโลหะกระทบกันดังก้องไปทั่วทั้งอุโมงค์ของเขาวงกต
“ไอ้พวกเวรเอ้ย! ตอนนี้พวกนายตายหมดแน่! อีกไม่นานเพื่อนๆ ของฉันจะมา!”
ดาร์ลตันสบถไปยังผู้คนที่ยังไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไรและรีบล่าถอยออกไปพร้อมกับที่เขาสาดลูกธนูออกไปราวกับคนบ้า
ตูมมมมม!
ตูม!
มือของดาร์ลตันรวดเร็วยิ่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับที่ลูกธนูจำนวนมากขึ้นที่ถูกส่งออกไป
ลูกธนูที่มีพลังในการทะลุทะลวงน้อยลง ทว่ามีพลังทำลายรุนแรงมากขึ้น ลูกธนูที่ใช้ในการหยุดยั้งเป้าหมายที่เคลื่อนไหวเข้ามาใกล้
‘พวกนั้นกำลังมา!’
ดาร์ลตันได้ยินเสียงวิ่งที่ดังขึ้นห่างออกไปจากบริเวณที่เขาจากมา
ใบหูที่มีประสาทสัมผัสยอดเยี่ยมของเขาได้ถูกขัดเกลาจนแหลมคมในระหว่างที่เขาเป็นนักล่า เสียงฝีเท้าเหล่านั้นจึงดังราวกับฟ้าผ่า
ซึ่งหมายความว่าเขาแค่ต้องถ่วงเวลาเอาไว้
ถ้าพวกเขาสี่คนสามารถถ่วงเวลาพวกนี้เอาไว้ได้ ไม่ช้าพวกเขาก็จะมีคนเพิ่มเป็นแปด และอีกไม่นานจะกลายเป็นสิบหก
และมันจะกลายเป็นจุดจบของฮันซู แม้ว่าอารูคอนจะยังมาไม่ถึงที่นี่
ในเมื่อเขามีพลังใหม่ที่เขาไม่เคยมีมาก่อน
วูบบบบ!
ลูกธนูและสกิลระยะไกลกำนวนมากที่เต็มไปด้วยแสงสีฟ้าได้พุ่งออกมาจากร่างของดาร์ลตันและคนทั้งสามด้านหลังเขา
“ไอ้หนูสกปรกพวกนี้!”
คาร์ฮาลและเอคิดูส่งเสียงออกมาอย่างกราดเกรี้ยวไปยังพวกที่โจมตีฮันซูขณะที่พวกเขาเริ่มวิ่งไปยังฮันซู
ลูกธนูไม่ใช่ปัญหา
คาร์ฮาลและเอคิดูปัดลูกธนูจากด้านหลังฮันซูและพยายามย่นระยะระหว่างพวกเขาลง ทว่าระยะห่างไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
ในเมื่อปัญหาที่ใหญ่ที่สุดยังคงอยู่
‘เวรเอ้ย ฮันซูช้า!’
ขณะที่ศัตรูกำลังตั้งค่ายอยู่รอบกลุ่มพวกเขา พวกนั้นก็วิ่งวนไปทั่วทั้งเขาวงกตและสาดสกิลออกมา
‘ถ้าฉันจำไม่ผิด… เจ้าฮันซูนี่ไม่มีสกิลเคลื่อนไหว!’
พวกเขาไม่รู้ในเมื่อความเร็วที่มาจากร่างกายของอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียวก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับพวกเขาตอนที่ใช้สกิลเคลื่อนไหวแล้ว
และในเมื่อฮันซูที่ทำตัวเหมือนโล่ไม่สามารถขยับลดระยะห่างลงได้ พวกเขาเองก็ไม่อาจที่จะลดระยะห่างลงได้เช่นกัน
แม้ว่าคาร์ฮาลและเอคิดูจะใช้สกิลถ่วงการเคลื่อนไหวใส่พวกนั้น พลังเวทของพวกเขาก็แตกต่างกันเกินไป
สกิลถ่วงการเคลื่อนไหวได้ถูกทำลายจากสกิลจำนวนมากที่ไหลออกมาจากสร้อยคอของพวกนั้นและโอบล้อมร่างของพวกนั้นเอาไว้ราวกับพายุมานา
สกิลเล็กน้อยที่พวกเขาใช้มันไร้ความหมาย
‘เวรเอ้ย! ถ้าแค่พวกนั้นช่วย!’
ทันทีที่คาร์ฮาลเหลือบมองไปยังด้านหลัง
เสียงตะโกนก็ดังขึ้น
“ขอฉันถามอย่างหนึ่ง! ทำไมพวกนายถึงถูกตามล่า!”
คำถามที่พวกเขาไม่อาจตอบเพราะสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเกินไป
‘ไอ้เวรพวกนี้… นี่ไม่ใช่เวลามาถามเรื่องนั้นซะหน่อย!’
ในขณะที่คาร์ฮาลกำลังขมวดคิ้วกับพายุสกิลที่พุ่งมาหาเขา
ฮันซูครุ่นคิดไปชั่วขณะก่อนจะพูดขึ้นกับคาร์ฮาลและส่งบางอย่างจากกระเป๋าของเขาให้
“โยนไอ้นี่ให้พวกนั้น”
คาร์ฮาลชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นมัน ทว่าจากนั้นก็หันหลังกลับและโยนของในมือของเขาออกไป
“เวรเอ้ย! นี่คือสาเหตุ!”
วูบบบบ!
ของชิ้นหนึ่งลอยผ่านอากาศและร่วงลงที่หน้านักล่า
มันคือสิ่งที่ดูคุ้นเคยอย่างมาก ทว่าแตกต่างออกไปจากที่อยู่ในความทรงจำของพวกเขาเล็กน้อย
อันที่พวกเขาจำได้มันใหญ่กว่าอันที่อยู่ด้านหน้าพวกเขามาก และมันยังส่องแสงสีฟ้าสว่างอย่างงดงาม
มันไม่ใช่มงกุฎที่มีสีหม่นหมองและสามารถสวมใส่บนศีรษะมนุษย์ได้
แต่พวกเขารู้โดยสัญชาตญาณ
“โอ้พระเจ้า นี่มันคือของดาคิดัส…”
นักล่ามองหน้ากันด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ในเมื่อพวกเขาตระหนักได้ในที่สุดว่าทำไมเจ้าฮันซูนั่นถึงถูกตามล่า
‘เขาฆ่าเทพ? ได้ยังไง?’
นี่มันเกินกว่าคำว่าพอในการที่ทำให้อารูคอนพวกนั้นไล่ล่าเขา
ผู้คนเหม่อมองไปยังมงกุฎด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนจะมองไปยังฮันซูที่วิ่งห่างออกไป
และพวกเขากำหมัดแน่นขณะที่มองไปยังแผ่นหลังของอีกฝ่าย
‘เวรเอ้ย… ในเมื่อมันกลายเป็นแบบนี้’
นักล่ามองหน้ากันและผงกศีรษะ
ราวกับว่าพวกเขาตัดสินใจแล้ว
และตอนที่พวกเขาทั้งหมดผงกศีรษะนั้น
วูบบบบบ!
วูบบบบ!
พวกเขาก็เริ่มที่จะสาดสกิลออกไปอย่างบ้าคลั่ง
มุ่งตรงไปยังดาร์ลตันและอีกสามคน
ตูมมมมม
โครมม!
สกิลนับสิบหลอมรวมกันและฉุดรั้งร่างของดาร์ลตันและอีกสามคนเอาไว้
ดาร์ลตันตื่นตระหนกเมื่อเห็นเช่นนั้นก่อนจะตะโกนออกไป
“ไอ้พวกเวรเอ้ย! พวกแกทำบ้าอะไรอยู่! อยากตายกันหมดรึไง!?”
ทันทีที่ดาร์ลตันตะโกนออกมาอย่างลนลานด้วยฮันซูที่กำลังเข้าใกล้เขา
หนึ่งในนักล่าที่กำลังใช้สกิลถ่วงการเคลื่อนไหว <ต้นเมอเร็ง> ก็ตะโกนออกไปเสียงดัง
“ไอ้เหี้ย! เราคำนวณทุกอย่างไว้แล้ว ดังนั้นแค่หุบปากแล้วตายๆ ไปซะ!”
“ไอ้พวกโง่นี่! อ๊ากกกกกกก!”
สกิลถ่วงการเคลื่อนไหวนับสิบแช่แข็งและทำให้พวกเขาเชื่องช้าลง
มานาปริมาณมหาศาลเริ่มที่จะทำลายสกิลลงทีล่ะสกิล ทว่ามันไม่อาจตามทันความเร็วของนักล่านับร้อยได้
ในตอนนั้นเอง
ดาร์ลตันที่กำลังสิ้นหวังพลันแสดงสีหน้าเจิดจ้าออกมาขณะที่มองไปยังฮันซู
ตูม! ตูม! ตูม!
เพราะบางอย่างกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขาจากอุโมงค์ที่เขาจากมา
ดาร์ลตันหยิบธนูออกมาและยิงการโจมตีรุนแรงออกไปก่อนจะตะโกนเสียงดังไปยังความมืดมิด
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! รีบๆ มาช่วยฉันเร็วเข้า!”
“เวรเอ้ย… มาแล้วเหรอ?”
ถ้ากำลังเสริมมาถึงจริงๆ งั้นมันก็จะกลายเป็นเรื่องที่น่ารำคาญขึ้นมาก
ในขณะที่เหล่านักล่ากำลังกัดฟันกรอด
วูบบบ
ชายคนหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นในอุโมงค์
“ดีมาก! รีบมา…”
ในตอนที่ดาร์ลตันที่กำลังเพ่งความสนใจไปยังฮันซูหันหลัง
ดาร์ลตันก็ตื่นตระหนก
“ใคร…”
ในเมื่อใบหน้าแปลกตาที่กำลังแย้มยิ้มให้เขานั้นท่วมไปด้วยเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้า
พร้อมด้วยลูกแก้วสีแดงแปลกประหลาดในมือของเขา
วินาทีที่ดาร์ลตันแสดงสีหน้างุนงงไปยังชายที่มองไปมาระหว่างเขากับฮันซู
ฉัวะ!
“อึก… ทำไมถึงเป็นฉัน”
แม้ว่าจะมีมานาสีฟ้ามันก็ไร้ประโยชน์
บาเรียมานาถูกทำลายกด้วยน้ำมือของชายคนนั้น และดาร์ลตันกรีดร้องออกมาเมื่อหัวใจของเขาถูกบดขยี้
“อ๊ากกกก!”
“อักกกก!”
เพื่อนทั้งสามคนของดาร์ลตันตื่นตระหนกขณะที่พวกเขาเห็นดาร์ลตันตายด้วยน้ำมือของชายคนนั้นและล่าถอยออกไป
“นายคงเป็นเขา ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันเจอนายก่อน”
จุงฮวานปรากฏตัวขึ้นด้วยร่างที่ท่วมไปด้วยเลือดของบางอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้าขณะที่เขาแย้มยิ้มให้กับฮันซูที่โดดเด่นออกมาจากคนอื่นๆ
TL: ถ้าครั้งนี้ยังมีคนเอาไปลง PDF อีกจะหยุดลงเรื่องนี้จนกว่า PDF จะหยุดเผยแพร่นะคะ//ยิ้มหวาน