บทที่ 171 ร่างชีพจรเทวะ จงตื่นขึ้น!
เปรี้ยง!
ท้องฟ้าร้องคำรามด้วยความรุนแรง
ใกล้กับชายฝั่งทางตะวัน พายุที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆมาพร้อมกับสายฟ้าที่ดูบ้าคลั่ง ประแสงส่องสว่างอย่างต่อเนื่องอยู่บนท้องฟ้า ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตรในทะเล คลื่นสมุทรลูกแรกก่อกำเนิดขึ้นอย่างน่ากลัว และเคลื่อนที่เข้าใกล้กับชายหาดของหมู่บ้านขึ้นเรื่อยๆ
บางที คลื่นลูกนี้คงทำให้ทั่วทั้งหมู่บ้านต้องจมอยู่ใต้น้ำ!
เมื่อหลงหวางเอ๋อได้ลงมือทำลายจุดตันเถียนของตัวเองต่อหน้าต่อตา หลงโม่หรันก็พลันเดือดดาลจนเส้นเลือดปูนโปนบนหน้าผาก เขากำกระบี่ในมือไว้แน่น
เขาจะไปคิดได้อย่างไรว่าลูกคนนี้จะกล้าทำลายตันเถียนของตัวเองเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้ากากคนนั้น!
ชิ้ง!
ทันใดนั้น หลงโม่หรันชี้กระบี่ไปยังหลงหวางเอ๋อแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมน “ดี ดีมาก! แกทำให้ฉันเดือดดาลได้สำเร็จแล้ว พวกแกทั้งสี่คน อย่าหวังเลยว่าวันนี้จะรอดชีวิตไปได้!”
ชายวัยกลางคนกวาดสายตามองไปยังหลงหวางเอ๋อ เย่เฟิง ชูชู และเด็กหนุ่มสวมหน้ากากที่ไร้สติอยู่ ทีละคน ทีละคน
หลังจากกระอักเลือดออกมา ร่างบางของหลงหวางเอ๋อก็ไร้เรี่ยวแรงและเริ่มทรุดลง นอกจากนี้ สีหน้าของเธอยังซีดลงไปอีกเมื่อได้ยินคำพูดของหลงโม่หรัน
หลงโม่หรันมันคิดจะกลับคำพูด!
เมื่อชายวัยกลางคนชูกระบี่ขึ้นมา แววตาที่เย็นเยียบปรากฏอยู่บนหน้าภายใต้ฝนพายุที่โหมกระหน่ำ มันทำให้ทุกคนที่นี่รู้สึกหวาดผวาไปถึงขั้วหัวใจ
ดูจากอารมณ์ของหลงโม่หรันแล้ว ทุกๆคนโดยรอบรู้สึกว่าเขากำลังโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด แล้วถ้าหากพวกเขายังคงจ้องมองอยู่ที่นี่ต่อไป ก็คงได้โดนลูกหลงด้วยเป็นแน่ แล้วอีกอย่าง ความรุนแรงของคลื่นน้ำที่กระหน่ำเข้าสู่ชายฝั่งก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าอีกไม่นานคงมีคลื่นยักษ์ที่สาดเข้าใส่หมู่บ้าน ทำให้พวกเขาต้องรีบหาทางออก
แน่นอนว่ามันคือการหนีไปจากที่นี่!
แม้สถานการณ์ที่นี่จะดูน่าตื่นเต้นและน่าติดตาม แต่มันก็ยังคงเทียบไม่ได้กับชีวิตของพวกเขาเอง
ทันใดนั้น ผู้คนบางส่วนก็พลันวิ่งออกจากหมู่บ้านและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น คนที่เหลืออยู่ก็ค่อยๆทยอยจากไปบางเช่นกัน
“หึ มันคิดจะกลับคำจริงๆสินะ”
เย่เฟิงเค้นเสียงราวกับเดาความคิดของหลงโม่หรันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย เวลานี้เมื่อหลงโม่หรันบังคับให้ลูกสาวทำลายจุดตันเถียนของตัวเอง แม้มันคิดจะกลับคำ เขาก็มีแผนที่จะใช้หลบหนีไปจากที่นี่แล้ว
ภายใต้ฝนพายุลูกนี้ ร่างของชายหนุ่มที่สวมหน้ากากไว้สงบนิ่งอย่างน่าเหลือเชื่อ ต่างกับกลุ่มผู้ฝึกยุทธ์คนที่ตื่นกลัว และรีบหนีออกไปจากหมู่บ้าน
วืด!
ในทันที เย่เฟิงเคลื่อนไหวและใช้ทักษะกรงเล็บมังกรคว้าตัวหลงหวางเอ๋อเข้ามาใกล้เขา
ร่างบางของหญิงสาวเปียกโชกและอ่อนแรงจนไม่อาจยืนอยู่ได้ เมื่อเย่เฟิงดึงตัวเข้ามา เขาจึงใช้แขนโอบร่างเธอไว้
ในเวลานี้ หลงหวางเอ๋อทำได้แค่ลืมตาคู่สวยแต่แทบไม่อาจเคลื่อนไหวอันใดได้อีก เธอกลายเป็นคนธรรมดาอย่างสมบูรณ์ ซ้ำยังอ่อนแอกว่าคนทั่วไปเนื่องจากอาการป่วยในขั้นร้ายแรง
หญิงสาวอิงอยู่กับอกของชายหนุ่มโดยไม่เหลือบมองพ่อของเธอเลยสักนิด เธอเงยหน้าขึ้นและพยายามใช้มือข้างหนึ่งเพื่อจะถอดหน้ากากของเขาออก
ไม่ว่าอย่างไร ในเมื่อหลงโม่หรันคิดจะกลับคำสัญญาณ นั่นหมายความว่าพวกเธอคงต้องตายในวันนี้แล้ว แต่ก่อนที่จะตาย หญิงสาวอยากจะเห็นใบหน้าของเย่เฟิงครั้งสุดท้ายเพื่อสลักลึกลงไปในหัวใจของเธอตลอดกาล……
“ไม่ต้องห่วง ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”
เย่เฟิงกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล ทันใดนั้น แหวนกระบี่มังกรโบราณก็พลันเรืองแสงจ้า แม้จะมีสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมา ลำแสงก็ยังเปล่งรัศมีดึงดูดสายตาทุกคู่
ร่องรอยบางๆของไออากาศลึกลับหลั่งไหลออกมาจากแหวนและพุ่งเข้าสู่ร่างของหลงหวางเอ๋อ แหวนวงนี้ได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้งหนึ่ง
ภายในร่างของหญิงสาวตอนนี้ ไอลึกลับเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นแกนวรยุทธ์!
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเธอรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในร่างตัวเอง แม้จะเต็มไปด้วยความสงสัยและความกังวล หญิงสาวยกมือขึ้นลูบไล้หน้ากากของเย่เฟิงเบาๆแต่ไม่ได้ถอดมันออก
เพราะการทำลายจุดตันเถียนของตัวเอง ร่างกายของหลงหวางเอ๋อจึงได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ทำให้เธอไม่สามารถคงสติไว้ได้อีก ตาคู่สวยค่อยๆปิดลงพร้อมกับสติที่เลือนลางลงไป
ฝ่ามือที่เรียวยาวอันขาวเนียนของหญิงสาวทิ้งลงตามแรงดึงดูดของโลกอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่ใบหน้าอันงดงามยังคงแขวนไว้ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
เย่เฟิงยืนมือออกมากุมมือเธอไว้แน่น ประกายตาของการตัดสินใจฉายวาบขึ้นภายใต้หน้ากาก ผู้หญิงคนนี้ยอมทำลายจุดตันเถียนและวรยุทธ์ของเธอเพื่อช่วยเขา ในตอนนี้ เขาไม่มีสิ่งใดต้องลังเลอีกแล้ว
ในชั่วชีวิตของเย่เฟิง นับตั้งแต่นี้ต่อไป ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากแค่ไหน หรือสถานการณ์ที่ร้ายแรงเพียงใด เขาก็ยังคงต้องการพาเธอก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน!
ภายใต้ผลของไออากาศลึกลับจากแหวนกระบี่มังกรโบราณ ในที่สุดก็ก่อตัวขึ้นเป็นแก่นวรยุทธ์ในร่างของหลงหวางเอ๋อได้สำเร็จ และด้วยเหตุนี้เอง หญิงสาวได้ก้าวเข้าสู่โลกใหม่แล้ว โลกแห่งวรยุทธ์วิถีเซียน
“ตาย!”
สีหน้าของหลงโม่หรันเข้มขึ้น เขาเหวี่ยงกระบี่ในมือแล้วค่อยๆจู่โจมเข้ามา ทำให้เสื้อคลุมยาวสีขาวกระพือไปตามลมพายุ
หลงโม่หรันและกระบี่ในมือทำงานประสานกันได้อย่างยอดเยี่ยมราวกับทั้งคู่เป็นหนึ่งเดียวกัน มันพุ่งเข้าหาหลงหวางเอ๋อและเย่เฟิงอย่างรวดเร็วเพื่อหมายจะฟาดฟันพวกเขาโดยตรง!
ชูชูรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายถึงที่สุด แต่เธอก็ไม่อาจทำอะไรได้ แม้แต่สายฝนที่ตกลงมายังทำให้ดวงตาของเธอพร่ามัว ชูชูทำได้เพียงจ้องมองร่างอันเลือนลางที่พุ่งเข้าใส่เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อด้วยความรวดเร็วอย่างสิ้นหวัง
หนึ่งร้อยเมตร
แปดสิบเมตร
ห้าสิบเมตร!
“ถึงเวลาแล้ว ร่างชีพจรเทวะ จงตื่นขึ้น!”
เย่เฟิงกู้ร้องเสียงดังก้องและรวบรวมเจินชี่อันน้อยนิดที่หลงเหลืออยู่ จากนั้น เขาจึงส่งผ่านมันเข้าไปในจุดชีพจรลับทั้ง 7 จุดที่อยู่ในร่างหลงหวางเอ๋อ เมื่อพวกมันถูกเติมเต็มด้วยพลังวิญญาณจนเกือบถึงระดับ 20 ปี จุดชีพจรลับก็พลันเกิดปฏิกิริยาขึ้น พร้อมกับไหลเวียนพลังเข้าสู่ใจกลางของแกนวรยุทธ์
ซี่! ซี่! ซี่!
เส้นชีพจรในร่างหญิงสาวถูกเติมเต็มไปด้วยเจินชี่ที่ผลิตออกมาจากแกนวรยุทธ์ ผลการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่ง กระตุ้นให้เกิดการสั่นพ้องของธรรมชาติโดยรอบ!
เจินชี่นั้น เดิมทีคือสะพานที่ใช้เชื่อมต่อไปสู่การบ่มเพาะแห่งเซียนและโลกภายนอก
เมื่อร่างชีพจรเทวะเข้าสู่กระบวนการเปิดจุดชีพจร มันต้องการพลังวิญญาณที่มากและมากขึ้นเรื่อยๆ จึงกระตุ้นให้เกิดการสั่นพ้องของธรรมชาติ และในสภาพอากาศเช่นนี้ ผลของมันเป็นที่ชัดเจน
ด้วยพลังวิญญาณที่หลอมรวมเอาไว้ ก่อให้เกิดกระปะทุออกของกระแสอากาศจากร่างหลงหวางเอ๋อ!
เมื่อเห็นดังนั้น หลงโม่หรันพลันหน้าซีดด้วยความตื่นตกใจ
พลังงานมหาศาลขนาดนี้มันอะไรกัน ทำไมถึงได้รุนแรงขนาดนี้? แล้วในเมื่อเธอทำลายจุดตันเถียนของตัวเองไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำไมพลังงานอันแข็งแกร่งนั่นถึงกระจายออกมาจากร่างเธอได้?
สีหน้าของหลงโม่หรันเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นและเข้มขึ้นไปอีก วันนี้ เขาต้องจัดการพวกมันทั้งหมด ไม่เช่นนั้นก็คงเป็นเรื่องยากที่จะลบความโกรธเกลียดออกไปจากหัวใจของเขาได้!
ร่างของหลงโม่หรันที่ในชุดคลุมสีขาวพุ่งฝ่าพายุฝนเข้ามาถึงด้านหน้าของคนทั้งคู่
ในชั่วเวลานี้ เขารวบรวมพลังชี่ภายในไว้ที่ปลายกระบี่ ก่อกำเนิดเป็นรังสีกระบี่แล้วแทงลงไปสู่หน้าอกของหลงหวางเอ๋อ กระบี่นี้มีความแข็งแกร่งพอจะเจาะทะลวงขั้วหัวใจทำให้หญิงสาวสิ้นชีวิตไปในทันที!
อย่างไรก็ตาม ขณะที่หลงโม่หรันเกือบจะทำได้สำเร็จ พลังงานหมุนวนก็พลันปะทุออกมาจากร่างของหลงหวางเอ๋ออีกครั้ง ก่อกำเนิดเป็นมวลอากาศและสายลมอันรุนแรงที่ถึงขั้นเทียบได้กับพายุเฮอริเคนลูกใหญ่!
เปรี้ยง!
ประกายสายฟ้าสว่างวาบและลดตัวลงสู่แนวราบ หลอมรวมเข้าด้วยกันกับพายุเฮอริเคนเปลี่ยนโฉมหน้าของโลกทั้งใบไปในทันที!
ในที่สุด พลังวิญญาณที่หลอมรวมอยู่ในร่างหลงหวางเอ๋อก็เกิดการสั่นพ้องไปพร้อมกับธรรมชาติ การปะทุของพลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 7 ครั้ง!
ผลของมันทำให้การโจมตีด้วยปลายกระบี่ของหลงโม่หรันถูกเบี่ยงออกไปด้วยลมพายุเฮอริเคน แม้จะเป็นรังสีกระบี่ก็ไม่อาจเจาะทะลวงเข้ามาได้แม้แต่เพียงครึ่งนิ้ว
“ไปลงนรกซะ!”
อาศัยระดับพลังวรยุทธ์ที่มากกว่า 50 ปี หลงโม่หรันต้องการจะเจาะทะลวงพายุเฮอริเคนนี้ เขากวัดแกว่งกระบี่ในมืออีกครั้งเข้าใส่หญิงสาวด้วยใบหน้าที่แสนมืดมนราวกับปีศาจที่เต็มไปด้วยความแค้น
ในเวลาต่อมา พายุเฮอริเคนก็ได้ระเบิดขึ้นอีกครั้ง!
แต่คราวนี้หลงโม่หรันไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือไว้ ในชั่วพริบตา ความรุนแรงของพายุเฮอริเคนหอบเอาร่างของหลงโม่หรันพร้อมด้วยกระบี่ ส่งทั้งคู่ให้กระเด็นออกไปไกลโพ้น
…………………….
แปลโดย Solar Spark
Solar Spark : ลางไม่ดีอีกแล้วววววว อิอิ