บทที่ 167 หลงโม่หรันปรากฏตัว!
ประกายฟ้าแลบเกิดขึ้นใกล้กับหมู่บ้าน ทำให้ทั่วทั้งหมู่บ้านพลันสว่างอยู่ครู่หนึ่ง
เวลานี้ในหมู่บ้าน ผู้ฝึกยุทธ์เกือบทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ สายตาพวกเขาจับจ้องไปที่เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อ เย่เฟิงค่อยๆคลายวงแขนที่โอบร่างหญิงสาวไว้ จากนั้น ทักษะย่างก้าวไร้เงาขั้นสองก็พลันปะทุขึ้น
ในชั่วพริบตา ชายหนุ่มพุ่งไปยืนอยู่หน้าบ้านที่ดูธรรมดาหลังนั้นที่ห่างออกไปเกือบ 100 เมตร ทิ้งไว้เพียงภาพติดตาที่อยู่เบื้องหลังแก่ฝูงชน
ตู้ม!
ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ กระบี่สีทองพลันปรากฏขึ้นมาในมือเย่เฟิง จากนั้นชายหนุ่มจึงใช้มันกวัดแกว่งออกไป โดยไม่นาน หลังคาของบ้านก็พลันกระเด็นออกไป ก่อให้เกิดเสียงดังลั่น
ในเวลานี้ ชายร่างอ้วนที่กำลังเตรียมตัวถอดกางเกง แต่เมื่อพลันเกิดระเบิดขึ้นต่อหน้าฝูงชน เศษฝุ่นและเศษทรายก็กระจายฟุ้งไปทั่ว ชายร่างอ้วนกวาดสายตามองไปรอบๆด้วยใบหน้าที่ดูโง่งม
เกิดอะไรขึ้น? เขากำลังเตรียมพร้อมจะทำเรื่องสนุกแล้ว แต่ไอ้เวรตัวไหนมันกล้ามาพังบ้านหลังนี้?
ในทันที ชายร่างอ้วนเต็มไปด้วยความโมโหและเกรี้ยวกราด เขาถือเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของตระกูลหลง ใครที่มันทำให้เขาโมโห มันคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว!
เคร้ง!
ชายร่างอ้วนดึงกระบี่ออกมาจากเอว จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองเย่เฟิง ผู้ที่ยืนอยากเยือกเย็นอยู่หน้าบ้านหลังนี้แม้จะถูกสายฝนสาดลงมาบนร่าง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย
“ระวังด้วยนะ!”
หลงหวางเอ๋อตะโกนบอกชายหนุ่มจากด้านหลัง เย่เฟิงรับรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวรู้สึกเกรงกลัวชายร่างอ้วนคนนี้ แต่นอกเหนือจากความกลัว น้ำเสียงของเธอมีร่องรอยของความรังเกียจ
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์โดยรอบก็พูดคุยกัน
“เฮ้ นั่นไม่ใช่หลงหวู่เหรินแห่งตระกูลหลงหรือไง?”
“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าเจ้าอ้วนนั่นหื่นกามเป็นที่สุด ดูสาวสวยที่นั่งอยู่มุมห้องนั่นสิ เฮ้ยเดี๋ยว เธอคนนั้นแต่งงานเข้าตระกูลหลงไม่ใช่รึไง?”
“นั่นมันชูชูไม่ใช่รึ? ฉันได้ยินมาว่า สามีของเธอตายไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน ดูร่างเล็กๆนั่นสิ ช่างงดงามและละเอียดอ่อนอะไรอย่างนี้ ฉันละอยากลิ้มรสเธอจริงๆ……..”
ในบ้านหลังที่พังทลาย เรือนร่างของชูชูเต็มไปด้วยเสน่ห์ของหญิงสาวที่โตแล้ว เวลานี้ เธอเกือบจะละทิ้งความหวังไปแล้ว แต่ทันใดนั้นเมื่อบ้านหลังนี้พังทลายลงมา เธอก็เงยหน้าขึ้นมองคนผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ต่อหน้า ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความตกใจ
ถึงแม้ว่ารูปร่างภายนอกจะต่างออกไป แต่ชูชูยังคงรู้สึกคุ้นเคย และคิดว่าชายสวมหน้ากากคนนั้นต้องเป็นคนที่ใกล้ชิดกับหลงหวางเอ๋อแน่ เขาคนนั้นกลับปรากฏตัวขึ้นมาช่วยไว้อย่างไม่คาดคิด หัวใจของเธอพลันรู้สึกถึงความเมตตาและความจริงใจที่เขามี
“น้าคะ!”
โดยไม่สนใจผู้คนที่อยู่โดยรอบ หลงหวางเอ๋อรีบวิ่งเข้ามากอดชูชูไว้และช่วยพยุงให้ลุกขึ้น ด้วยที่สายฝนยังคงกระหน่ำลงมา หญิงสาวจึงพาน้าของเธอเข้าไปหลบในบ้านข้างๆที่มีหลังคา
ถึงแม้หลงหวางเอ๋อจะสวมหน้ากากไว้ แต่เมื่อชูชูได้ยินน้ำเสียงนั่น เธอก็จำได้ทันที
ชูชูเงยหน้าขึ้นมองเย่เฟิงที่ถือกระบี่ยาวไว้ในมือและเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับชายร่างอ้วน เมื่อเห็นดังนั้น หัวใจของเธอพลันบีบเกร็งพร้อมกับร่องรอยความกังวลที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าเนียน เธอได้ยินจากหลงหวางเอ๋อว่าโม่จิ่วเกอมีระดับวรยุทธ์แค่ 10 ปีเท่านั้น แต่เวลานี้ เขากำลังเผชิญหน้ากับหลงหวู่เหรินที่มีระดับวรยุทธ์ถึง 30 ปี ช่องว่างของระดับพลังมันต่างชั้นกันอย่างมาก!
แต่อีกด้านหนึ่งในตอนนี้ หลงหวางเอ๋อไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะว่าเธอเห็นตอนนี้เย่เฟิงต่อสู้กับหลัวเฟิงแล้ว เมื่อเทียบกับหลัวเฟิง หลงหวู่เหรินถือว่ามีฝึมือด้อยกว่า สิ่งที่หญิงสาวกังวลอย่างเดียวก็คือต่อหน้าฝูงชนมากมายแบบนี้ เย่เฟิงอาจจะไม่สามารถซ่อนความลับเรื่องทักษะพิเศษอย่างเช่นบอลไฟได้อีก
‘เราต้องรีบจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด’
เย่เฟิงกำกระบี่ในมือไว้แน่น เพราะเข้าใจชัดเจนถึงความรุนแรงของสถานการณ์ตอนนี้
หลงโม่หรันและชายชราเคราขาวกำลังค้นหาตัวเขาอยู่ แต่เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นที่หมู่บ้านแห่งนี้ นั่นหมายความว่าคนพวกนั้นต้องรีบกลับมาที่นี่แน่ ถ้าพวกเขากลับมาและเย่เฟิงยังไม่อาจจัดการชายร่างอ้วนลงได้ สถานการณ์จะกลายเป็นเลวร้ายอย่างที่สุด
ศัตรูของเขามีวรยุทธ์ระดับ 30 ปี ขณะที่ทักษะย่างก้าวไร้เงาของเขาอยู่ในขั้นสองที่มีความเร็วระดับสูง ในกรณีนี้ ระดับความเร็วของเขาสมควรจะใกล้เคียงกับฝั่งตรงข้าม แต่หากอาศัยทักษะอำพรางช่วย เขาน่าจะสามารถสังหารมันได้ในกระบี่เดียว
ในตอนนี้ หลงหวู่เหรินวางกระบี่ในแนวนอนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี ทันใดนั้น เขาก็เป็นฝ่ายเริ่มกระโดดเข้าไปจู่โจมก่อน
“ไอ้เด็กเวร แกวอนหาที่ตายแล้ว!”
หลงหวู่เหรินตะโกนออกมาพร้อมกับความดุร้ายผสมกับความน่าเกลียดที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า เมื่อกระบี่ยาวสีขาวเงินในมือฉายประกายออกมา
กระบี่ของเขาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้ผลของพลังชี่ภายใน แม้สายฝนจะกระหน่ำเข้ามาเป็นคลื่นน้ำอย่างรุนแรงเหมือนออกมาจากสายดับเพลิง ประกายกระบี่เย็นเยียบก็ยังพุ่งเข้าหาเย่เฟิงโดยไม่ลดความเร็วลงแม้แต่น้อย
“เพลงกระบี่พร่ำเพ้อ กระบี่ทลายเมฆา!”
ชายร่างอ้วนรู้ถึงความแข็งแกร่งของเพลงกระบี่นี้ดี เขาจึงตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
ทักษะวรยุทธ์อันปราณีตของตระกูลหลง เพลงกระบี่พร่ำเพ้อถือว่าเป็นทักษะสังหารที่เฉียบคม แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีฝีมือธรรมดา แต่หากได้เรียนรู้เพลงกระบี่นี้แล้วใช้ออกมา มันก็ยังคงเป็นเพลงกระบี่ที่แสนจะอันตราย
“นี่คือเพลงกระบี่พร่ำเพ้องั้นรึ?”
เย่เฟิงรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจเมื่อคิดว่าหลงโม่หรันสำเร็จเพลงกระบี่นี้ในขั้นที่สาม หากมีเวลาให้มากพอ ตัวเขาเองย่อมสามารถเลียนแบบเพลงกระบี่นี้ได้ แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้ เขาไม่มีเวลามาเล่นกับชายร่างอ้วนอีก
แม้จะเป็นเพียงเพลงกระบี่ระดับแรก คมกระบี่ก็สามารถกวัดแกว่งทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้อย่างไม่ยากเย็น มันเหมือนดังลมกรดที่สามารถตัดผ่านเมฆหมอกได้อย่างง่ายดาย
นี่คือเพลงกระบี่ที่เรียบง่าย แต่รวดเร็ว แหลมคม และดุดัน!
ฝ่าเท้าของเย่เฟิงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วด้วยทักษะย่างก้าวไร้เงา เป็นอีกครั้งที่มันปะทุออกด้วยความเร็วระดับสูง ชายหนุ่มหันตัวหลบประกายกระบี่ที่ฟันเข้ามา แต่ถึงอย่างนั้น เขายังคงต้องรับแรงปะทะที่ทำให้ท้องใส่ปั่นป่วนจนแทบจะกระอักเลือด
ระดับความเร็วกระบี่ของชายร่างอ้วนนั้นสูงส่งอย่างมาก ถึงแม้เย่เฟิงจะใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณช่วย แต่เขาก็ยังมีวรยุทธ์เพียงแค่ระดับ 10 ปี ซึ่งยังไม่พอจะทำให้เขาสามารถหลบเพลงกระบี่ที่จู่โจมเข้ามาได้ทั้งหมด
เย่เฟิงหันกลับไปยังฝ่ายตรงข้ามและกวาดกระบี่ออกไป
เคร่ง!
ความเร็วในการตอบสนองของชายร่างอ้วนนั้นน่าเหลือเชื่อ ในชั่วพริบตา เขาเบี่ยงกระบี่ในมือเข้ามาป้องกันการจู่โจมของเย่เฟิงไว้ได้
ท่ามกลางสายฝน กระบี่สองเล่มเข้าปะทะซึ่งกันและกัน เย่เฟิงรู้สึกถึงพลังชี่ภายในที่น่าเกรงข้ามของฝ่ายตรงข้ามผ่านคมกระบี่ที่ปะทะกัน
เคร้ง! เคร้ง!
ชายหนุ่มถึงกับต้องถอยหลังไปสองก้าว ความแตกต่างของระดับวรยุทธ์นั้นทำให้เขาไม่อาจรับการปะทะกับอีกฝ่ายโดยตรงได้
“กระบี่บุบผาล่วงโรย”
หลงหวู่เหรินยิ้มมุมปากอย่างมีนัยแอบแฝง ในเสี้ยววินาที ชายร่างอ้วนปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเย่เฟิง พร้อมกับใช้กระบี่แทงเข้าใส่หน้าอกของเขา
“อย่าฝันไปหน่อยเลย!”
ด้วยที่มีทักษะสัมผัสวิญญาณ ชายหนุ่มจึงสามารถรับรู้ได้ถึงตำแหน่งของฝ่ายตรงข้ามได้ เขารีบควบแน่นเจินชี่เข้าไปในกระบี่ จากนั้นจึงหันตัวฟาดคมกระบี่กลับไป
เคร้ง!
แสงสีเงินกระจายออกมาพร้อมกับกระบี่สีขาวเงินของหลงหวู่เหรินที่หักลงครึ่งหนึ่ง กระบี่ด้านปลายกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นจึงล่วงลงมาปักบนทรายที่ชุ่มไปด้วยน้ำฝน
ฉึก!
ถึงอย่างนั้น หน้าอกของเย่เฟิงยังคงถูกแทงด้วยกระบี่ครึ่งด้ามของหลงหวู่เหริน พลังชี่ภายในของชายร่างอ้วนส่งผ่านเข้าไปในกระบี่จนเกือบเจาะทะลวงกระดูกของเขา
โลหิตหลั่งไหลออกมาจากบาดแผลอย่างรวดเร็ว ภาพนี้ทำให้หัวใจของหลงหวางเอ๋อบีบรัดแน่นและโดยไม่คิดอะไรอีก หญิงสาวพุ่งตัวเข้าไปใช้ทักษะมังกรฟาดหางเตะเข้าใส่กระบี่ส่วนปลายที่ปักอยู่บนพื้น
เคร้ง!
เรียวขาของเธอเตะใส่ปลายกระบี่จนมันพุ่งเข้าใส่หลงหวู่เหรินอย่างรวดเร็ว
ด้วยที่กระบี่ของหลงหวู่เหรินถูกฟันจนหักครึ่ง เขาก็ตกอยู่ในสภาพตื่นตะลึง ชายร่างอ้วนไม่คิดเลยว่ากระบี่ของเขาที่เป็นถึงอาวุธระดับสูงกลับแตกหักอย่างง่ายดายแบบนี้ เมื่อเห็นปลายกระบี่ที่พุ่งเข้ามาจากการจู่โจมของหลงหวางเอ๋อ ช่างร่างอ้วนตอบสนองอย่างรวดเร็วเพื่อหลบปลายกระบี่
เมื่อเห็นดังนั้น เย่เฟิงอดกลั้นความเจ็บปวด และอาศัยช่วงโอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ทันตั้งตัว ใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงาพุ่งตัวออกไปแล้วตวัดกระบี่เข้าใส่ลำคอของหลงหวู่เหริน!
ฉัวะ!
ถึงแม้หลงหวู่เหรินจะสามารถหลบกระบี่ส่วนปลายที่พุ่งเข้ามาจากฝีมือของหลงหวางเอ๋อได้ แต่ก็ต้องพลาดรับการจู่โจมของเย่เฟิงเข้าไปเต็มๆ หัวของเขาถูกตัดขาดจากคมกระบี่ ขณะที่ร่างอ้วนๆล้มลงบนพื้นอย่างรุนแรง ดวงตาของหลงหวู่เหรินเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อว่าเขาต้องมาจบชีวิตลงอย่างไม่คาดคิดแบบนี้
“นายเป็นอะไรไหม?”
หลงหวางเอ๋อรีบวิ่งเข้ามาพยุงตัวเย่เฟิง และตรวจสอบบาดแผลของเขา
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าร้องสะนั่นดังกึกก้องขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ห่างออกไปไม่ไกล เงาทั้งสามร่างพลันปรากฏตัวขึ้นมาบนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง หนึ่งในนั้นคือหลงโม่หรันที่มีสีหน้าน่าสะพรึงกลัว ด้านหลังของเขา ท้องฟ้าเกิดฟ้าแลบฟ้าร้องขึ้นสอดรับกับสีหน้าอันเยียบเย็นของชายวัยกลางคน
“แกสังหารสมาชิกตระกูลหลง รอดูได้เลยว่าฉันจะจัดการกับแกยังไง อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดไปได้อีก!”
น้ำเสียงอันโกรธเกรี้ยวของหลงโม่หรันดังสะนั่นพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง เป็นเหมือนกับลางร้ายที่แสนอันตราย!
………………
แปลโดย Solar Spark