บทที่ 152 มุ่งสู่ทะเลจีนตะวันออก

ทันทีที่เซี่ยผิงฮุยหมดสติและล้มลง สถานการณ์ของฝูงชนในบริเวณนี้ก็กลายเป็นปั่นป่วนทันที

เมื่อเห็นดังนั้น เย่เฟิงดึงแขนซูเหมิงหานและเรียกหน้าบากให้พาพวกเขาไปจากที่นี่

ในขณะเดียวกัน หลินชื่อฉิงและเสี่ยวฉีที่เห็นเย่เฟิงกำลังจากไปก็พยายามฝ่าฝูงชนเข้าไปหา แต่ก่อนจะถึงตัวเย่เฟิง รถBMWสีเงินก็ได้ขับออกไปเสียแล้ว ทิ้งให้สองสาวได้แต่ขยี้เท้าด้วยความโมโห

“เย่เฟิงคนนี้ ฉันต้องหาความจริงเกี่ยวกับเขาให้ได้เลยค่อยดู”

หลินชื่อฉิงเอ่ยขึ้นอย่างมีน้ำโหเล็กน้อย เด็กคนนี้ไม่เคยเคารพหรือเห็นเธออยู่ในสายตาเลย

“ฉันเอาด้วย”

เสี่ยวฉีพลันเอ่ยอาสาขึ้นมา หญิงสาวคนนี้สนใจในตัวชายสวมหน้ากากอย่างมากมาตลอด และเบาะแสเดียวที่สามารถพาเธอไปหาชายคนนั้นได้ก็คือเย่เฟิง

หลินชื่อฉิงหันมามองเพื่อนสาวของเธอ ก่อนจะส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้

………….

เย่เฟิงและซูเหมิงหานได้กลับมาถึงที่บ้านแล้ว หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ ซูเหมิงหานก็ได้เสนอตัวช่วยนวดไหล่ให้แก่เย่เวิ่นเทียน

เมื่อเห็นดังนั้น ชายชรารู้สึกว่าหลานสะใภ้คนนี้ ช่างรู้จักเอาอกเอาใจเสียจริง ดังนั้นเขาจึงตอบรับไป

ตามขั้นตอนที่เย่เฟิงได้สอนไว้ เด็กสาวเริ่มโคจรเจินชี่มาไว้ที่มือน้อยๆสองข้าง จากนั้น เธอจึงเริ่มนวดและกดลงในจุดสำคัญที่ทำให้ชายชราค่อยๆผลอยหลับไปบนโซฟา

เมื่อเห็นดังนั้น เย่เฟิงที่คอยจ้องมองอยู่บนชั้นสองเงียบๆ จึงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาทันที!

ร่างของเขาพลันเข้าสู่สภาพล่องหน จากนั้นจึงพุ่งออกจากบ้านไปยังตึกสำนักงานที่อยู่ตรงข้ามกับหมู่บ้านชิงเฟิง ซึ่งที่นั่น ชายหน้าบากได้เตรียมรถยนต์เอาไว้รอแล้ว เมื่อเย่เฟิงมาถึง พวกเขาจึงเริ่มออกเดินทางกันทันที!

เย่เฟิงได้กำหนดเส้นทางเอาไว้แล้ว ขั้นแรกคือการมุ่งหน้าไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้จากเหยียนจิง จากนั้น พวกเขาจะไปที่ตัวเมืองตามเขตชายฝั่งที่ตั้งอยู่ในแถบทะเลจีนตะวันออกตามข่าวที่ได้ยินมา ในช่วงนี้ เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มากมายได้มารวมตัวกันแล้วในเขตตามแนวชายฝั่งที่รู้จักกันในชื่อ เมืองเซี่ยงซาน!

ด้วยเพราะห่วงในความปลอดภัย เย่เฟิงจึงไม่ได้พาซูเหมิงหานมาด้วย เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยผู้ฝึกวรยุทธ์มากมาย หากต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เขาอาจจะพลาดจบชีวิตง่ายๆเลยก็ได้!

ถึงแม้ในตอนนี้ ซูเหมิงหานจะมีทักษะย่างก้าวไร้เงาแล้ว แต่มันก็เป็นเพียงแค่ขั้นแรกซึ่งยังอันตรายเกินไปสำหรับเธอ ในกรณีที่เด็กสาวเผชิญหน้าพวกคนชั่วอย่าง ‘คู่รักสุขสรรค์แห่งวังกระบี่’ แน่นอนว่าเธอย่อมไม่สามารถหลบหนีได้ทัน

รถยนต์ BMW สีเงินเปรียบเหมือนกับลำแสงสีเงิน มันวิ่งออกจากเมืองเหยียนจิงไปยังทิศใต้ด้วยความเร็วสูงสุด

“หน้าบาก การฝึกเป็นไงบ้าง?”

ขณะนั่งอยู่ในรถ เย่เฟิงเอ่ยถามขึ้นมา

“วิถีอสุรานั่นผมสามารถโคจรได้อย่างไม่ติดขัด แต่เมื่อคืน ผมลองพยายามฝึกทักษะย่างก้าววิญญาณเงาภูติ น่าเสียดายที่ระดับวรยุทธ์ของผมยังต่ำเกินไป ความเร็วในการออกตัวจึงยังไม่มากพอ”

ชายหน้าบากตอบขณะกำลังขับรถอยู่

“อืม ดี”

เย่เฟิงพยักหน้า การฝึกทักษะย่างก้าววิญญาณเงาภูติได้ในระยะเวลาครึ่งเดือนถือว่ายอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ไม่เคยฝึกฝนวรยุทธ์ใดเลยมาก่อน อย่างไรก็ตาม มันยังไม่อาจเทียบได้กับซูเหมิงหาน เด็กสาวคนนั้นมีพรสวรรค์อย่างยิ่ง เพราะในช่วงเวลาแค่ครึ่งเดือน เธอสามารถบรรลุทักษะย่างก้าวไร้เงาได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่าย่างก้าวไร้เงา ต่างจากย่างก้าววิญญาณเงาภูติค่อนข้างมาก มันจึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าพรสวรรค์ของซูเหมิงหานสูงยิ่งกว่าชายหน้าบาก

“อีกอย่าง ผมได้เลือกคนมาทั้งหมด 8 คน และให้ฝึกพร้อมกัน พวกเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้ ส่วนคนอื่นๆ ผมก็ให้แยกย้ายกันไป”

ชายหน้าบากรายงานสถานการณ์ต่อไป “ในตอนนี้ พวกเขาเริ่มฝึกการโคจรตามวิถีอสุรา แต่ยังไม่มีใครเลยที่สามารถทำได้สำเร็จ”

“อืม ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้มาก”

เย่เฟิงตอบไปตามความคิด “ถ้าพวกเขายังคงฝึกวรยุทธ์ในเมืองเหยียนจิง มันอาจจะทำให้ใครบางคนระแคะระคายเอา เพราะงั้นเอาแบบนี้ ให้แต่ละคนหาที่ซ่อนตัว แล้วเราจะส่งเงินไปให้คนละล้าน”

“ล้านนึงเลยหรือครับพี่เย่ แบบนี้มัน……”

ชายหน้าบากรู้สึกอึดอัดใจ ทั้งหมด 8 คน ถ้าส่งให้คนล่ะล้าน นั่นหมายความว่ารวมแล้วทั้งหมด 8 ล้าน นี่มันไม่มากเกินไปหรือ?

“ยังไงทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรือ? ถ้าเป็นแบบนี้พวกเขาจะได้ไร้กังวลกับเรื่องอื่นๆด้วย”

เย่เฟิงยิ้ม “ส่วนเรื่องเงินไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวอีกไม่นาน พวกเราก็จะได้เงินมาก้อนใหญ่แล้ว”

ไข่มุกเรืองแสงในตำนานเม็ดนั้น เย่เฟิงให้อู๋บีนำไปให้ลุงอู๋ประเมิณราคาแล้ว โดยในช่วงปิดเทอมใหญ่นั้น จะมีงานจัดแสดงเครื่องประดับครั้งใหญ่ในเมืองเหยียนจิง และลุงอู๋ได้ตัดสินใจจะขายมันในงานนั้น แน่นอนว่ามันต้องขายได้เงินมหาศาล

ด้วยที่เป็นไข่มุกเรื่องแสงในตำนานแห่งสุสารโบราณ เมื่อประเมิณจากลายมังกรบนผิวแล้ว เย่เฟิงมั่นใจว่ามันเป็นของเก่าแก่อย่างมาก มูลค่าของมันย่อมถือว่าเป็นของชั้นหนึ่ง! ประมาณได้หยาบๆว่ามันน่าจะขายอย่างต่ำ 5-6 ล้าน แต่หากเป็นการประมูล มันอาจจะขายได้ถึง 10 ล้าน หรือมากกว่านั้นเลยก็ได้!

“ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหาครับ ผมจะดำเนินการไปตามนั้น”

ชายหน้าบากพยักหน้า

เพราะการช่วยเหลือเย่เฟิง ทำให้ในที่สุด เขาก็ได้มีโอกาสฝึกวรยุทธ์ตามที่หวังเอาไว้ แล้วแบบนี้เขาจะไม่เชื่อฟังเย่เฟิงได้หรือ? อีกอย่าง เงินตราเป็นเพียงสิ่งภายนอก เขาเชื่อว่าด้วยความสามารถของเย่เฟิง การหาเงินย่อมไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับชายคนนี้

ด้วยเทคนิคการนวดที่เย่เฟิงได้สอนไว้ เย่เวิ่นเทียนจึงยังคงหลับใหลไปอีกหลายชั่วโมง

ในระหว่างนี้ ซูเหมิงหานได้โทรศัพท์มาหาเย่เฟิง น้ำเสียงของเด็กสาวดูแง่งอนเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มไป แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็รู้ว่าสำหรับเย่เฟิงแล้ว การไปตามหาอาจารย์เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่อาจรีรอได้ เด็กสาวจึงทำได้เพียงแค่รอคอยด้วยความกังวลอยู่ที่เมืองเหยียนจิงเพราะเธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้แก่ชายหนุ่ม

ในช่วงตอนเย็น รถ BMW สีเงิน ได้ขับผ่านมาหลายหัวเมือง และในที่สุดก็เข้าสู่เขตของเมืองเซี่ยงไฮ้ ด้วยความรีบร้อน เย่เฟิงตัดสินใจจะไม่หยุดพักที่เมืองนี้ และมุ่งหน้าต่อไปยังเขตเซี่ยงซานที่อยู่ติดริมชายฝั่งในแถบทะเลจีนตะวันออก ซึ่งไม่ได้ห่างไกลจากที่นี่มากนัก

ในเวลานี้ สิ่งที่ชายหนุ่มกลัวที่สุดคือการที่เย่เวิ่นเทียนตื่นขึ้น และไล่ตามเขามา นี่มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด……..

หลังจากเข้าสู่เขตเซี่ยงไฮ้ รถ BMW ได้วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดสู่เมืองเซี่ยงไฮ้

แต่ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเย่เฟิงก็ดังขึ้นมา เมื่อพบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย หรืออาจจะเป็นเย่เวิ่นเทียนที่รีบไล่ตามเขามาจากเมืองเหยียนจิง?

เย่เฟิงใช้มือถือค้นหาบางสิ่งในอินเตอร์เน็ต ซึ่งไม่นานก็พบว่าหมายเลขนี้เป็นหมายเลขที่มาจากแถบทะเลจีนตะวันออก

“ฮัลโหล?”

เย่เฟิงครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะโทรกลับไป

“ฮัลโหล เย่เฟิง!”

เมื่ออีกฝ่ายรับโทรศัพท์ น้ำเสียงหวานใสก็ดังขึ้นมาในสาย เธอคือหลงหวางเอ๋อนั่นเอง

“เป็นไงบ้าง? เธอทำฉันกลัวนะเนี่ย เธอไปที่ทะเลจีนตะวันออกหรือยัง?”

เย่เฟิงรู้สึกโล่งใจ แต่เขาก็พลันรู้สึกกังวลเมื่อคิดว่าหลงหวางเอ๋อถูกหลงโม่หรันกักบริเวณอยู่ในห้องของเธอเอง แล้วแบบนี้เธอจะไปยังทะเลจีนตะวันออกได้อย่างไร?

“พี่สะใภ้ช่วยพาฉันออกมา…….ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน? ฉันคิดถึง”

น้ำเสียงของหลงหวางเอ๋อเต็มไปด้วยความร่าเริง ทั้งยังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอคิดถึงเขาอย่างมาก นี่ทำให้หัวใจของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความอบอุ่น

“ฉันคิดถึงเธอเหมือนกัน อีกไม่นานก็จะถึงแถบทะเลจีนตะวันออก แล้วฉันจะไปหาเธอ รอฉันก่อนนะ”

เย่เฟิงตอบกลับไป

“อืมม ฉันพักอยู่ในโรงแรมใกล้กับทางด่วนเขตเซี่ยงซาน รีบมาเร็ว”

หลงหวางเอ๋อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอียงอาย จากนั้นจึงวางสายไป

ด้วยที่เป็นคนขับรถ ชายหน้าบากจึงได้ยินบทสนทนานี้อยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาลอบยกย่องเย่เฟิงอยู่ในใจ พี่เย่สมกับเป็นพี่เย่จริงๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาล้วนมีสาวสวยอยู่ข้างกาย แม้แต่ที่เขตเซี่ยงซาน ก็ยังมีสาวสวยเปิดห้องไว้รอเขาแล้ว!

ขณะที่ชายหน้าบากยุ่งอยู่กับความคิดนี้ ทันใดนั้น รถสปอร์ตสีแดงก็โผล่ออกมา ทำให้เขาต้องรีบเหยียบเบรกกระทันหัน

โชคไม่ดีที่เพราะความต้องการของเย่เฟิง รถ BMW จึงวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ซึ่งมันเกินกว่าที่ชายหน้าบากจะสามารถหยุดรถได้ทัน

ซี่ ซี่ (เสียงผิวรถเสียดสีกัน)

รถยนต์สองคันเสียดสีกัน แม้จะไม่ได้ประสานงากันโดยตรง แต่มันก็ยังคงฝากรอยที่ผิวรถยนต์เอาไว้ รวมทั้งกระจกข้างของรถสปอร์ตคันสีแดงได้หลุดกระเด็นออกไป

“หยุดรถเดี๋ยวนี้!”

รถสปอร์ดสีแดงหยุดลงทันที จากนั้นจึงมีเสียงไพเราะและน่าดึงดูดของหญิงสาวดังขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ

……………………….

แปลโดย Solar Spark

Solar Spark: พี่เย่นี่สมกับเป็นพี่เย่จริมๆ