บทที่ 152: พื้นที่หนึ่ง (2)
เซบาสเตียนกัดฟันกรอดขณะที่เธอมองไปยังความมืดมิดที่ฮันซูกระโดดลงไป
‘ทำไมกัน? ทำไมเขาถึงลงไป? เขารู้อะไรบางอย่างรึเปล่า?’
แต่เธอไม่มีเวลามาคิดเรื่องนั้น
ในเมื่อคาร์ฮาลและคนอื่นๆ กำลังมาจากปลายสายตา
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เอ่อ…”
คาร์ฮาลผงกศีรษะขณะที่เขาฟังสถานการณ์จากเซบาสเตียนนี่
‘ฉันเดาว่าฉันคงหยุดเขาไม่ได้อยู่ดี’
มันมีตัวเลือกสองอย่างสำหรับเขาที่เป็นหัวหน้าหน่วย
รออยู่ที่นี่จนกว่าหมอนั่นจะออกมาและลงโทษเขา
‘หรือตามเขาไป’
เซบาสเตียนนี่เอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็กๆ
“หัวหน้าหน่วย? คุณจะเข้าไปเหรอ? การเข้าไปในนั้นก็ถือเป็นการละเมิดกฎสำหรับพวกเราเหมือนกัน”
ไม่สิ แม้ว่าจะไม่มีกฎ การเข้าไปในนั้นก็ค่อนข้างจะน่ารำคาญอยู่ดี
ความมืดมิดอย่างสมบูรณ์ที่ไม่มีสิ่งใดทำงานได้รวมทั้งสกิลตรวจจับ
พวกเขาไม่แม้แต่จะรู้ว่าอะไรอยู่ในนั้น ทำไมพวกเขาจะต้องลงไปด้วย?
พวกเขาได้เรียนรู้บางอย่างอย่างชัดเจนในระหว่างที่อาศัยอยู่อีกโลก
ว่าความอยากรู้อยากเห็นจะเพิ่มโอกาสตาย
มีเพียงการเคลื่อนไหวในระดับที่สมควรคือสิ่งที่จะทำให้มีชีวิตยืนยาว
เอไทนอล หนึ่งในสมาชิกหน่วยพื้นที่หนึ่งที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ พึมพำเสียงเบา
“เราต้องเข้าไปในนั้นจริงๆ เหรอ? ไม่มีใครที่ถูกโยนลงไปในนั้นแล้วมีชีวิตรอดออกมาซะหน่อย”
“…อะไรนะ?”
เซบาสเตียนนี่แสดงสีหน้างุนงงออกมา
มีคนอื่นเข้าไปในนั้นด้วย?
เครอนและคาร์ฮาลเดาะลิ้นขณะที่พวกเขามองไปยังเอไทนอล
‘ชิ เขาไม่ควรพูดไอ้คำพูดไร้ประโยชน์นั่นออกมา’
สมาชิกในหน่วย 40 คน
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับข้อมูลเท่าเทียมกัน
และเซบาสเตียนนี่ที่เพิ่งจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยพื้นที่หนึ่งก็ไม่รู้เกี่ยวกับเกมประจำหน่วยที่คาร์ฮาล เครอน และเอไทนอลเล่น
‘เอาเถอะ’
เกมประจำหน่วยของพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่จะให้หัวหน้าหมู่บ้านรู้ได้
คาร์ฮาลยืนยันกับเครอนและเซบาสเตียนนี่อีกครั้ง
“ฉันเข้าใจว่าเขาแข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก แต่ความแตกต่างมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เครอนและเซบาสเตียนนี่ครุ่นคิดไปชั่วขณะก่อนจะส่ายศีรษะ
ฮันซูแข็งแกร่งอย่างแน่นอน
แค่เรื่องนั้นอย่างเดียวก็ไม่สมเหตุสมผลแล้ว
ในเมื่อเด็กใหม่สามารถเอาชนะเครอนที่อยู่ที่นี่มาเกือบปีได้
แต่เขาไม่ได้อยู่ในระดับที่สามารถเผชิญหน้ากับคนทั้งหน่วยได้อย่างแน่นอน
“ไม่ เขาไม่ได้อยู่ในระดับนั้นหัวหน้า พวกเราแน่ใจ”
‘เขาไม่ควรจะสามารถปิดบังความสามารถของเขาหรืออะไรแบบนั้นได้… บางทีน่ะนะ’
คาร์ฮาลผงกศีรษะเมื่อได้ยินคำพูดของเครอน
“อืม การลาดตระเวนของพวกเราวันนี้ก็เสร็จแล้วอยู่ดี ดังนั้นตอนนี้… เราจะไปจับเจ้าผู้ร้ายที่ละเมิดกฎกัน”
“… มันจะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ?”
เซบาสเตียนนี่เอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
สิ่งที่เธอรู้สึกไม่สบายใจนั้นไม่ใช่แค่เพราะกฎ
มันยังคงมีร่องรอยที่หมู่บ้านที่เกือบจะถูกทำลายที่ใจกลางหมู่บ้านอยู่
บางอย่างที่ทำให้พวกเขาไม่ล้ำเส้นในขณะที่ลาดตระเวนไปในพื้นที่หนึ่ง
ความกังวลของเซบาสเตียนนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ไม่มีเหตุผลเมื่อเธอเห็นร่องรอยพวกนั้นทุกวัน
แต่คาร์ฮาลทำเพียงแค่ส่ายศีรษะ
“มันก็เหมือนกันเมื่อมีคนคนหนึ่งเข้าไปและทำทุกอย่างวุ่นวายอยู่ดี มันอาจจะปลอดภัยกว่าในการที่ให้พวกเราเข้าไปและหลีกเลี่ยงไม่ให้มันเกิดขึ้น”
คนคนหนึ่งสร้างความวุ่นวายหรือคนสี่สิบคนสร้างความวุ่นวายก็เหมือนกัน
และคาร์ฮาลไม่ได้คิดเลยว่ามันจะมีสิ่งมีชีวิตลึกลับซ่อนอยู่ด้านใต้นั้น
‘ถ้ามีอะไรอยู่ข้างล่างนั่น งั้นมันก็คงออกมาแล้ว’
แต่คาร์ฮาลกำลังกังวลถึงสิ่งที่แตกต่างออกไป
‘ถ้าเขาลงไปแล้ว… เห็นไอ้นั่นล่ะ?’
ถ้าเจ้าหมอนั่นลงไปและเห็นร่องรอยของการเล่นสนุกของพวกเขาล่ะ?
และบอกหัวหน้าหมู่บ้านหลังจากที่ออกไปโดยเส้นทางอื่น?
มันจะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม
คาร์ฮาลจัดระเบียบความคิดของเขาและตะโกนไปยังคนรอบๆ
“เราจะลงไป! ถ้าเขาไปแตะอะไรที่ไม่ควรเขา หายนะจะเกิดขึ้นกับหมู่บ้าน! เราต้องป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซบาสเตียนนี่และคนอื่นๆ อีกสองสามคนก็แสดงสีหน้าย่ำแย่ออกมาในขณะที่เครอนและพวกมือเก่าคนอื่นๆ ผงกศีรษะแล้วเตรียมตัวจะลงไปด้วยสีหน้าหนักอึ้ง
ฉึกก
ฮันซูที่ทิ้งตัวลงไปแทงหอกสายฟ้าเข้าไปในกำแพง
หอกสายฟ้าเสียบเข้าไปในกำแพงที่ดูเหมือนถูกหลอมละลายจากการโจมตีของบางอย่าง
ครืดดดดดด
ฮันซูที่ร่วงลงไปด้านล่างพร้อมกับประกายไฟที่เกิดขึ้นจากการเสียดสีได้ไถลลงไปอีกพักใหญ่จึงจะถึงพื้น
คว้างงงง
แสงสีทองที่ส่องประกายออกจากสกิลเสริมพลังมังกรปีศาจของฮันซูได้ทำให้ความมืดมิดหายไป
และภาพของใต้ดินได้เริ่มปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าเขาอย่างช้าๆ
มันมีสิ่งก่อสร้างที่ดูเหมือนถูกทำลายโดยบางอย่างพร้อมกับเศษซากก้อนหิน
ปริมาณของความมืดนั่นใหญ่โตพอๆ กับทะเลสาบแห่งหนึ่ง ทว่าใต้ดินนั้นใหญ่กว่านั่นมาก
เหมือนกับที่ประตูทางเข้าชั้นใต้ดินมันเล็กกว่าชั้นใต้ดินจริงๆ
‘ถึงที่นี่จะเป็นแค่ซากห้องใต้ดินก็เถอะ’
ฮันซูพึมพำขณะที่เขาสัมผัสไปยังกำแพงของสิ่งก่อสร้างที่ถูกทำลาย
ฮันซูได้ยินมาเพียงแค่เรื่องราวของที่แห่งนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่นี่
สถาบันวิจัยของ <นักปราชญ์> ที่ถูกทำลายหลังจากได้รับการโจมตีจากเผ่าพันธุ์ชั้นสูง
ฮันซูสูดลมหายใจเข้าออกอย่างเงียบๆ ขณะที่ยกมือของเขาขึ้นไปยังหูข้างขวาเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมานาน
[คังฮันซู]
พลังกาย (เหลือง) : 1.1%
ความอดทน (เหลือง) : 1.0%
ความคล่องแคล่ว (เหลือง) : 1.2%
การรับรู้ (เหลือง) : 1.1%
มานา (เหลือง) : 1.1%
พลังเวท (เหลือง) 1.2%
พลังป้องกันกายภาพ (เหลือง) : 1.0%
พลังป้องกันเวทมนต์ (เหลือง) : 1.2%
<สกิล>
-สกิลเสริมพลังมังกรปีศาจ : 43.5%
-คมมีดระบาด : 21.5%
<อาร์ติแฟค>
-หอกสายฟ้า (เหลือง) 1.2%
-แหวนเนอร์มาฮา (เหลือง) 1.1%
-ทหารพันเกราะ (เหลือง) : 0.7%
-เมฆดำ (เหลือง) : 0.1%
-ดาบแก่นแท้มังกร: 1.7%
<ลักษณะพิเศษ>
-เจ็ดเสี้ยววิญญาณ (2/7)
-เจ็ดดารา (2/7)
‘เยี่ยม’
ฮันซูผงกศีรษะกับหน้าจอสถานะของเขาที่เขาไม่ได้เปิดมานาน
รูนได้เพิ่มขึ้นในระดับที่พอๆ กัน
และความเชี่ยวชาญสกิลของเขาเองก็เพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็วเช่นกัน
ฮันซูใช้เวลาไปราวๆ สี่เดือนในการขึ้นมาที่เขตสีเหลืองหลังจากที่ผ่านบทฝึกซ้อมมา
การเพิ่มความเชี่ยวชาญสกิลไปถึง 40% ภายในเวลาแค่ 4 เดือนเป็นบางอย่างที่ไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิงเมื่อนับจากมาตรฐานของเขตสีแดง
ในเมื่อการเชี่ยวชาญสกิลอย่างสมบูรณ์นั้นโดยปกติแล้วต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี
และสกิลนี้มันยิ่งยากเพราะยิ่งระดับของสกิลสูงเท่าใด มันก็ยิ่งเชี่ยวชาญได้ยากขึ้นเท่านั้น
มันจะเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีลักษณะพิเศษของเขา เจ็ดดารา
‘ฉันยังต้องมุ่งเป้าไปที่การเชี่ยวชาญเมฆดำและทหารพันเกราะอีกหน่อย’
ดาบแก่นแท้มังกรจะเติบโตขึ้นทุกครั้งที่ใช้เสริมพลังของร่างกาย มันเติบโตขึ้นได้ค่อนข้างรวดเร็วเมื่อเทียบกับอาร์ติแฟคชิ้นอื่นๆ
หอกสายฟ้าและแหวนเนอร์มาฮาที่เติบโตเมื่อใส่รูนเข้าไปในพวกมันเองก็เติบโตขึ้นในระดับที่ใกล้เคียงกับรูน
แต่เมฆดำที่จะเติบโตขึ้นรวดเร็วตามปริมาณของสิ่งที่มันปนเปื้อน หรือทหารพันเกราะที่จะเติบโตขึ้นเมื่อกินอาวุธและชุดเกราะมากกว่าเดิมไม่ได้พัฒนาขึ้นขนาดนั้น
‘เอาเถอะ ฉันจะแก้ไขเรื่องนั้นหลังจากที่ฉันออกจากที่นี่ จะยังไงก็เถอะ… มันใหญ่กว่าที่ฉันคาดเอาไว้’
ก๊อง ก๊อง
ฮันซูเคาะกำแพงด้วยหอกสายฟ้าก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเขาสามารถรับรู้ทิศทางได้ลางๆ
มันไม่ใช่ว่ามันแค่ขุดลงมาลึก
ความมืดมิดนี้เป็นบางอย่างที่ถูกสร้างขึ้นจากการจู่โจมของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่พยายามจะทำลายที่แห่งนี้อย่างสมบูรณ์
โชคดีที่ขนาดของพื้นที่ใต้ดินนี่มันใหญ่กว่าหลุมดำมาก
‘คงต้องใช้เวลาสักพัก’
ฮันซูพลักเศษหินที่หลอมละลายออกไปและเอาไปกองรวมกันพร้อมกับที่เขาเดินหน้า
แต่เป็นแค่ชั่วขณะเท่านั้น
ฮันซูรับรู้ได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระยะตรวจจับของเขาก่อนจะขมวดคิ้ว
สิ่งมีชีวิตที่ไม่ควรมาอยู่ที่นี่
‘… อะไรกัน? มนุษย์?’
นี่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งในแผนการของเดขา
ฮันซูขมวดคิ้วแน่นขึ้น
‘มันคือตัวแปรที่คาดการณ์ไม่ได้’
เขาต้องตรวจสอบดูว่ามันคืออะไร
กร๊อบ
ในวินาทีที่เท้าของฮันซูเหยียบลงบนพื้น
พื้นที่หลอมละลายได้ส่งเสียงร้าวออกมาก่อนที่มันจะแตกออก
และไม่ช้า
ตูมมมม!
ร่างของฮันซูหายไปพร้อมกับคลื่นกระแทกรุนแรง ปรากฏตัวขึ้นที่อีกแห่งหนึ่งและโจมตีคนที่อยู่เบื้องหน้าเขา
ผัวะ!
“โอ้ยยย!”
“หืม?”
ฮันซูขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปยังเด็กผู้ชายที่ดูจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นคนหนึ่งที่กระเด็นออกไปจากคลื่นกระแทก
เขาจะไม่ออมมือในอีกฝ่าย
ในเมื่อเขาต้องการจะจับอีกฝ่ายให้อยู่หมัดก่อนสิ่งอื่นใด
แต่กระทั่งก่อนที่เขาจะสามารถโจมตีได้อีกครั้ง
แสงสีฟ้าได้ส่องสว่างออกมาจากสร้อยคอของเด็กคนนั้นและทำให้การโจมตีส่วนมากของเขาอ่อนแรงลง
และฮันซูรู้ว่าของสิ่งนั้นคืออะไร
‘มันคือบางอย่างจากห้องวิจัย’
ทว่าฮันซูส่ายศีรษะ
ของจากห้องวิจัยไม่ได้สามารถใช้งานได้ฟรีๆ
และหลักฐานก็คือการที่เด็กนี่ที่ตั้งตัวได้หลังจากที่กระโดดห่างออกไป
“แฮ่กก… แฮ่ก”
เด็กผู้หญิงกำลังหอบหายใจด้วยสีหน้าราวกับหายใจไม่ทัน
เธอทำได้แค่นั้น
ในเมื่อของพวกนั้นต้องใช้มานาปริมาณมหาศาลในการใช้งาน
และท่าทีของเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อมานาทั้งหมดหายไปในเสี้ยววินาที
‘ฉันต้องฟังเรื่องจากเธอ’
วินาทีที่ฮันซูกำลังจะพุ่งออกไปอีกครั้ง
เด็กผู้หญิงคนนั้นพลันตะโกนออกมาเสียงดัง
“ฉุกเฉิน! ในที่สุดไอ้เวรนักล่าคนหนึ่งลงมาข้างล่างแล้ว!”
“หืม?”
วินาทีที่เสียงตะโกนของเด็กคนนั้นดังก้องไปทั่วทั้งพื้นที่ใต้ดินขนาดยักษ์นี้
ความมืดมิดที่กว้างใหญ่
ภายในความมืดมิดนั้น แสงสีฟ้าสว้างนับสิบได้ปรากฏขึ้นจากทุกทิศทาง
‘นั่นมัน…’
ระยะคลื่นแสงเฉพาะ
มันคือแสงของสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสถาบันวิจัย
วินาทีที่ฮันซูขมวดคิ้วนั่นเอง
ฟุ่บ!
ลำแสงเลเซอร์นับสิบที่พุ่งออกมาจากกลุ่มแสงเหล่านั้นก็ได้โจมตีไปยังฮันซู
ชี่
ลำแสงสีฟ้านับสิบกัดกินสกิลเสริมพลังมังกรปีศาจและค่อยๆ ทะลวงผ่านเข้ามา
‘ฮี่ ดูนี่สิ’
ฮันซูหัวเราะเสียงเย็นขณะที่เขามองไปยังกลุ่มคนลึกลับที่จู่ๆ ก็โจมตีเขาโดยไร้เหตุผล
‘ฉันเดาว่าฉันคงจะหาสถาบันวิจัยเจอเร็วขึ้นมาแล้วตอนนี้’
วินาทีต่อมา
ตูมมมม!
หอกสายฟ้าในมือของฮันซูได้บินผ่านอากาศไป
ครืนนนน
“หืม?”
เสียงสั่นสะเทือนแผ่วเบาดังขึ้นจากด้านล่าง
คาร์ฮาลและลูกหน่วยที่กำลังลงไปยังความมืดอย่างระมัดระวังพลันขมวดคิ้วขึ้น
‘ฉิบหายเอ้ย เกิดอะไรขึ้นข้างล่างนั่น’
คาร์ฮาลที่กำลังไต่กำแพงลงไปข้างล่างอย่างช้าๆ ขมวดคิ้วแน่นขึ้น
เขาเองก็ไม่เคยลงไปด้วยตัวเองเช่นกัน
เขาทำเพียงแค่โยนคนลงไปข้างล่างก่อนหน้านี้
แน่นอนว่าแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นผ่านความมืดมิดนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดี
เซบาสเตียนนี่ที่กำลังปีนลงไปข้างๆ คาร์ฮาลเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง
“บ้าเอ้ย หัวหน้า เราต้องขอกำลังเสริมจากหมู่บ้านรึเปล่า?”
คาร์ฮาลครุ่นคิดไปชั่วครู่
ราวกับว่าเขาต้องทำแบบนั้นจริงๆ
‘นี่มันน่ารำคาญจริงๆ บ้าเอ้ย ทำไมไอ้เรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นในตอนที่ฉันกำลังจะออกไปจากที่นี่ในเวลาแค่อาทิตย์เดียวด้วย’
หมู่บ้าน
เขารู้สึกขอบคุณ
ในเมื่อเขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างปลอดภัยและมีช่วงเวลาที่ค่อนข้างสนุกสนาน
แต่เขาทำได้เพียงหัวเสียเมื่อเกิดบางอย่างแบบนี้ขึ้นในพื้นที่ที่เขาต้องรับผิดชอบ
ในเมื่อมันจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บในระหว่างจัดการปัญหา
คำแนะนำของเซบาสเตียนนี่ก็ค่อนข้างน่าดึงดูดใจเพราะว่าแบบนั้น
ทว่าเครอนส่ายศีรษะ
‘งั้น… สิ่งที่พวกเราทำก็จะถูกเปิดเผย’
ถ้าหัวหน้าหมู่บ้าน เอคิดู และนักล่าคนอื่นๆ ช่วยเหลือพวกเขา งั้นทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นมาก
แต่เขาก็จะไม่สามารถปกปิดคนด้านล่างนั่นได้
ถ้าเขาถูกจับหลังจากลักพาตัวชาวนาที่เป็นสมบัติของหมู่บ้าน และเล่นกับพวกนั้นตามที่พวกเขาต้องการ งั้นพวกเขาคงไม่มีจุดจบที่ดีนัก
‘เราก็ไม่ได้เล่นกับพวกนั้นดีๆ ซะด้วย ฉิบหายเอ้ย ถ้าฉันรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น งั้นฉันคงฆ่าพวกมันให้หมดแล้ว นี่มันน่ารำคาญชะมัด’
สำหรับการที่เกมของพวกเขาในการโยนคนพวกนั้นลงมาเป็นๆ เพื่อความสนุกสนานได้กลับมาแว้งกัดพวกเขาที่ก้นแบบนี้
“ถ้าเราทำแบบนั้น มันอาจจะสายเกินไป รีบๆ ลงไปเถอะ เราต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”
คาร์ฮาลเอ่ยขึ้นกับเซบาสเตียนนี่ หันหลังกลับ และกัดฟันกรอด
พวกเขา นักล่า ทำงานที่อันตรายขนาดนี้
และพวกเขายังแข็งแกร่งกว่าพวกชาวนานั่นอย่างไม่อาจจะเทียบได้
แต่ทำไมพวกเขาจึงไม่อาจเล่นกับพวกชาวนาได้ตามที่พวกเขาต้องการ?
พวกเขาลักพาตัวและบังคับเล่นกับพวกนั้นเพราะว่าความต้องการของพวกเขาถูกปิดกั้นเพราะพวกกฎเกณฑ์โง่ๆ นั่น
ถ้าทุกอย่างมันหย่อนยานกว่านี้หน่อย งั้นพวกเขาคงไม่ทำอะไรแบบนั้นที่เบื้องหลังเหมือนกัน
‘ใช่แล้ว มันเป็นความผิดของหมู่บ้านนั่นแหละ’
คาร์ฮาลพึมพำกับตัวเอง
แต่แม้ว่าหมู่บ้านจะผิด มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขาในการต่อต้านมัน
มันไม่มีเหตุผลให้ทำแบบนั้นในเมื่อเขาจะออกจากที่นี่ในอีกหนึ่งอาทิตย์เช่นกัน
เขาแค่ต้องจัดการเจ้าฮันซูนั่นอย่างลับๆ ในครั้งนี้เหมือนกัน
เหมือนกับที่เขาทำมาตลอด
แล้วเขาจะสามารถผ่านเรื่องทั้งหมดนี่ไปได้อย่างเงียบๆ
ในเมื่อจะไม่มีใครสงสัยว่าเด็กใหม่ดันเกิดเหตุไม่คาดฝันและตายในพื้นที่หนึ่งแสนอันตรายนี่
ประเพณีของหน่วยพื้นที่หนึ่งที่มีเพียงแค่พวกเขาที่รู้จะถูกเก็บไว้กับพวกเขา
“รีบๆ ลงไปกันเถอะ”
คาร์ฮาลหยุดคิดและมองลงไปด้านล่าง
หลุมสีดำที่ลึกมากๆ
คำพูดของฮันซูพลันปรากฏขึ้นภายในสมองของเขาขณะที่เขาจ้องไปยังหลุมยักษ์ที่ดูเหมือนกับสัตว์ประหลาดยักษ์กำลังอ้าปาก
ว่าพวกเขาจะเสียใจถ้าพวกเขาลงไป
‘มันไม่มีเหตุผลเลย’
หมอนั่นจะทำอะไรได้?
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก
คาร์ฮาลสลัดความคิดนั้นออกจากศีรษะก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้น
TL: คนร้อนตัว