บทที่ 131: มงกุฎแห่งหนาม (5)
ฮันซูขมวดคิ้วเมื่อเขารู้สึกได้ถึงตัวตนของคนจำนวนหนึ่งที่แล่นผ่านมาตามพื้น
แม้ว่ามันจะค่อนข้างห่างออกไป พวกเขาก็จะมาถึงในเวลาไม่นาน
‘แต่ฉันยังออกจากตรงนี้ไม่ได้’
ฮันซูหยุดคิดและฟาดหอกสายฟ้าของเขาไปยังอคาดัสที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเข้า
ตูมมม!
อคาดัสสีเงินนับหมื่นที่ป้องกันโรงงานได้พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งและถูกหั่นเป้นสองท่อนโดยอคารอน
“อ๊ากกกก!”
“กร๊าซซซ!”
โรงงานยักษ์ที่ได้หยุดสร้างอคาดัสมาเป็นเวลานานเพราะขาดแคลนวัตถุดิบได้พังทลายลงจากคลื่นกระแทกและคลื่นเสียงจากการต่อสู้
และบางอย่างที่มีรูปลักษณ์เป็นแคปซูลได้ตั้งอยู่ที่ใจกลางของโรงงานนี้
<เครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ>
และมงกุฎสีดำที่ดูเหมือนสร้างขึ้นจากไม้หนามได้วางอยู่ด้านในของมัน
‘ข้ากำลังสงสัยว่ามันอยู่ที่ไหน… มันอยู่ที่นี่เองเหรอ’
โอเทออนกัดฟันกรอดขณะที่เธอมองไปยังเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณ
พวกเธอต้องไปที่นั่นเพื่อที่จะนำมงกุฎสีดำนั้นมา
“ยอดผู้นำเมคิโด้จะปกป้องพวกเรา! สู้!”
โอเทออนตะโกนเสียงดังและรีดเค้นพลังที่หลงเหลืออยู่ของศาสตร์ต้องห้ามออกมาขณะที่พวกเธอพุ่งไปยังอคาดัส
แคร่ก!
มันไม่แม้แต่จะถึงชั่วโมงตั้งแต่ที่พวกเธอเริ่มสู้กับอคาดัสที่ป้องกันโรงงาน
แม้ว่าพวกเธอจะสามารถเข้าไปใกล้โรงงานได้ อคารอนเกือบครึ่งก็ตายไป
และคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้มีสภาพดีเช่นนั้นด้วย
“อึกกก…”
“อ๊ากกกก!”
อคารอนที่ร่างกายเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บกำลังแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาและกลิ้งไปมาบนพื้น
วินาทีที่ศาสตร์ต้องห้ามหมดผลลง ความเจ็บปวดมหาศาลได้แล่นพล่านไปทั่วร่างของพวกเขา
แต่แม้ว่าจะกำลังทรมาน ดวงตาของเหล่าอคารอนก็เพ่งมองไปยังมงกุฎแห่งหนามที่อยู่ห่างออกไป
ทารูโฮลอดกลั้นความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วร่างของเขา
‘สุดท้ายแล้วผลข้างเคียงก็จะหายไป’
สิ่งที่สำคัญคือการใช้มงกุฎนั่นและหยุดอคาดัส
ทารูโฮลฟาดหมัดของเขาลงบนอกของอคาดัส
ตูมมมมม!
อคาดัสที่ยังคงเคลื่อนไหวแม้ว่าหัวของมันจะได้รับความเสียหายหยุดเคลื่อนไหวเมื่อแกนกลางของมันถูกทำลาย
กิ้งงง
ทารูโฮลกัดฟันเพื่อที่จะอดกลั้นความเจ็บปวดก่อนจะตะโกนไปยังฮันซูที่กำลังสู้อยู่ข้างๆ เขา
“ข้าต้องสวมมงกุฎนั่นใช่ไหม?”
“ใช่ อคารอนที่มีร่างกายแข็งแกร่งที่สุดต้องเป็นคนสวมมัน!”
มงกุฎแห่งหนามไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อมนุษย์
เมื่อเขาเห็นทารูโฮลได้รับมงกุฎแห่งหนามและใช้มันอย่างเหมาะสม เขาจะใส่เศษเสี้ยววิญญาณลงไปที่อีกฝ่าย
จากนั้นจึงสร้างพันธมิตรระหว่างมนุษย์และอคารอนขึ้น
ในเมื่อมนุษย์จะทำอะไรอคารอนไม่ได้มากหากอีกฝ่ายมีอคาดัสและมงกุฎแห่งหนามที่ควบคุมพวกมัน
‘และฉัน… จะได้รับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเมคิโด้ ดาบแก่นแท้มังกร’
มันถูกเขียนลงในผลึกความทรงจำว่าดาบแก่นแท้มังกรนั้นจะออกมาเมื่อพวกเขาได้ครอบครองมงกุฎแห่งหนาม
เมื่อทารูโฮลได้ยินคำพูดของฮันซู เขาก็กระทืบเท้าเสียงดังและพุ่งตรงไปยังเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง
“ป้องกันเขา!”
“ช่วยเหลือเสาที่หนึ่งให้เขาไปถึงได้อย่างปลอดภัย!”
อคารอนจำนวนมากที่กำลังกรีดร้องอย่างทรมานดึงพลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดของพวกเขาออกมาและถ่วงเวลาพวกอคาดัสเอาไว้
และทารูโฮลก็ยิ่งรีบวิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเห็นภาพนั้น
ปริมาณความสูญเสียจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลหากเป็นเช่นนี้ต่อไป
เขาต้องได้มงกุฎแห่งหนามให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่ความสูญเสียจะเพิ่มขึ้นมากเกินไป
ตูมมมม!
ในขณะที่พวกเขากำลังเดินหน้าไม่หยุดนั้นเอง
ฮันซูพลันหยุดสู้และถอยออกไป
โอเทออนที่กำลังสู้อยู่ใกล้ๆ อุโมงค์ร่วมกับอคารรอนอีกนับร้อยตะโกนไปยังฮันซู
“เจ้าจะไปไหน!”
แนวรบจะพังลงและความสูญเสียจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นหากฮันซูไป
ฮันซูตะโกนตอบโอเทออน
“รอฉัน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการ”
จากนั้นฮันซูจึงสัมผัสถึงมนุษย์ที่เข้ามาค่อนข้างใกล้แล้วและทะยานไปหาคนเหล่านั้น
“รีบเข้าไปกันเถอะ! เราไม่รู้เลยว่าพวกนั้นจะทำอะไร!”
หลงเฉี่ยนคนร่องรอยของคนเหล่านั้นอย่างสมกับตำแหน่งที่เขาได้รับขณะที่เขาตะโกนขึ้น
อุโมงค์ที่ดูไม่ธรรมดาตั้งแต่แรกเห็น
และร่องรอยของอคารอนได้ปรากฏขึ้นทั่วตลอดทั้งอุโมงค์
หลงเฉี่ยนรู้สึกเร่งร้อนหลังจากที่ตระหนักได้ว่ามันเป็นเวลาสักพักแล้วตั้งแต่ที่คนเหล่านั้นเข้าไป
‘มันจะกลายเป็นหายนะถ้าพวกนั้นหนีไปผ่านประตูมิติ!’
คนที่หลบหนีมาพร้อมกับหลงเฉี่ยนเริ่มที่จะวิ่งอย่างบ้าคลั่ง
และพวกเขาก็มองไปรอบๆ อุโมงค์ขณะที่พวกเขาวิ่ง
อุโมงค์แปลกประหลาดที่ดูเหมือนสิ่งสังเคราะห์แม้ว่าจะมองแบบผ่านๆ
และความรู้สึกตื่นเต้นเล็กๆ ได้ปรากฏขึ้นท่วมสมองของเหล่านักผจญภัย
มันดูเหมือนกับขุมสมบัติอีกแห่งของอคารอน รางวัลอีกอย่างอาจจะถูกเตรียมไว้ในสถานที่เช่นนี้
แต่สีหน้าของพวกเขาก็เลวร้ายลงหลังจากที่วิ่งไปอีกหน่อย
คลื่นกระแทกรุนแรงและเสียงการต่อสู้ดังขึ้นมาจากภายในอุโมงค์และพุ่งเข้าไปในศีรษะของพวกเขา
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ค่อนข้างห่างออกมาจากสนามรบ
พวกเขาไม่รู้ว่าอะไรอยู่ด้านใน แต่มันกำลังบอกพวกเขาว่ามันคืออันตราย
“… เราต้องไปต่อไหม?”
“นายจะทำยังไง หลงเฉี่ยน ตรงนั้นก็ดูไม่ง่ายเหมือนกัน เราจะกลับไปไหม?”
หลงเฉี่ยนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่เมื่อได้ยินคำพูดของมาเทล กัปตันหน่วยสอดแนมอีกคนที่มีความคิดแบบเดียวกับเขา
มันจะอันตรายถ้าพวกเขายังเข้าไปต่อ
แต่ว่าทั้งสนามรบที่พวกเขาจากมาและสนามรบที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปก็ล้วนแล้วแต่อันตราย
‘ฉันควรจะดูหน่อย’
หลังจากที่หลงเฉี่ยนตรวจสอบการต่อสู้ด้วยสกิลของเขา <ดวงตาสอดแนม> ก็ตัดสินใจได้
“รออยู่ตรงนี้เถอะ เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปเสี่ยงอันตราย และมันดูเหมือนว่ายังไงพวกนั้นก็จะชนะอยู่ดี”
ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย พวกเขาก็จะตายกันหมด
งั้นพวกเขาก็จะกลับไปถ้ามันเป็นแบบนั้น แต่พวกเขาไม่ได้จำเป็นถ้าหากคนพวกนั้นจะไม่แพ้
‘ยิ่งคนตายเยอะยิ่งดี’
หลงเฉี่ยนหัวเราะ
บาปของผู้หลบหนีนั้นยากที่จะได้รับการอภัยไม่ว่าจะเป็นเมื่อใด
มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาในการหลบเลี่ยงความโกรธแค้นที่พวกเขาจะได้รับหลังจากที่การต่อสู้นี้จบลง
ซึ่งหมายความว่า ยิ่งทั้งสองฝ่ายมีคนตายเยอะมากแค่ไหน มันก็ยิ่งดีสำหรับพวกเขา
ในตอนนั้นเอง สิ่งแปลกประหลาดบางอย่างก็ได้ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
แสงสีทองเจิดจ้า
‘มันคืออะไรกัน?’
หลงเฉี่ยนผวาไปขณะที่เขามองไปยังผู้ที่มาถึงยังเบื้องหน้าเขา
สิ่งมีชีวิตที่เป็นสีทองไปทั้งตัวนั้นดใกล้เคียงกับมังกรมากกว่ามนุษย์
‘หมอนี่…’
มันคือชายผู้ที่สร้างชื่อเสียงขึ้นในเวลาไม่กี่วันเมื่อไม่นานมานี้
หลงเฉี่ยนสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนจะหันตัวกลับไป
ผู้ที่มักจะได้เปรียบไม่ใช่ฝั่งที่กำลังเข้าตาจน แต่เป็นฝั่งที่กำลังผ่อนคลาย
และพวกเขา ผู้ที่กำลังพักผ่อนและเติมพลังมีความผ่อนคลายมากกว่าผู้ที่กำลังสู้อยู่มาก
‘ฝั่งนั้นก็กำลังรีบอยู่ด้วย เขาไม่ควรจะพยายามจะทำให้พวกเราเป็นศัตรูในสถานการณ์แบบนี้’
สมองของเขากำลังผ่อนคลายขณะที่เขามองไปยังนักผจญภัยนับร้อยที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่
หลงเฉี่ยนยักไหล่ขณะที่เขาเอ่ย
“ดูเหมือนว่านายจะอยู่นะ ทำไมถึงได้มาที่นี่ล่ะ?”
ความคิดนั้นมั่นคงยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาเห็นฮันซูที่ทั้งร่างอาบไปด้วยเลือดทั้งแต่หัวจรดเท้า
เสียงของเขาดูเหนื่อยล้า และตรงนั้นก็ดูจะโหดร้ายเกินกว่าที่จะทำตามคำพูดของหมอนี่แล้วสู้
ฮันซูทำเพียงพ่นประโยคสั้นๆ ออกไป
“รีบๆ เลือกว่าพวกนายจะทำยังไง”
“… อะไรนะ?”
“น่าเศร้าสำหรับพวกนาย… พวกนายมีแค่สองตัวเลือก มากับฉันหรือว่าอยู่ที่นี่”
คนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเหยียดๆ
“ไม่ใช่ว่านายจะเย็นชาไปหน่อยเหรอ? เราแค่สู้กับพวกทิราดัสสีเงินได้ถ้าพวกเรากลับไปไม่ใช่รึไง? เราไม่ได้ไม่เป็นมิตรขนาดนั้น นายก็รู้”
“พวกนายเสียโอกาสนั้นไปแล้ว”
ฮันซูเอ่ยอย่างเย็นชา
เขาไม่ได้เป็นคนพาอคารอนมาที่นี่
อคารอนเสี่ยงชีวิตและมาที่นี่ด้วยความต้องการของพวกเขาเอง
มายังที่ที่โหดร้ายยิ่งกว่าสนามรบสีเงินข้างบนนั้น
มันสายเกินไปสำหรับคนเหล่านี้ที่จะกลับไปแล้ว
“ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดอะไร… ฉันคิดว่าเราคงจะอยู่ที่นี่แหละ”
หลงเฉี่ยนรู้สึกไม่สบายใจจากคำข่มขู่ ทว่าเขายังคงแย้มยิ้มและปฏิเสธข้อเสนอ
เมื่อฮันซูได้ยินคำพูดนั้น เขาก็มองไปรอบๆ
มันดูเหมือนว่าทุกคนจะเห็นด้วย
ไม่สิ พวกเขาหลบหนีมาจกาสนามรบสีเงินเพราะพวกเขาเห็นด้วยกับหมอนี่อยู่แล้ว
ทำไมคนอื่นๆ ถึงไม่หนีมาทั้งๆ ที่มีความสามารถเหมือนกัน
‘งั้นนี่ก็คือจุดจบของพวกนาย’
ฮันซูพึมพำอย่างเงียบงันขณะที่เขาส่งพลังของเขาไปในหอก
หลงเฉี่ยนยกอาวุธของเขาขึ้นด้วยสีหน้ากระวนกระวายจากการกระทำนั้น
“นายจะเอารึไง?”
ในตอนนั้นเอง
ฮันซูใช้พลังมหาศาลและขว้างหอกออกไป
ตูมมมม!
หลงเฉี่ยนผวาไป ทว่าเขาก็หัวเราะออกมาขณะที่เขามองไปยังเบื้องหลังของเขา
“นายนี่ค่อนข้างขี้ขลาดเลยไม่ใช่รึไง?”
ฮันซูไม่ได้ขว้างหอกมาที่พวกเขา
ความจริงแล้ว เขาขว้างหอกไปยังสถานที่ที่เขาจากมา
“แค่บอกว่านายกลัวถ้านาย…”
ตูมมมม!
ในตอนนั้นเอง
เสียงดังสนั่นได้ดังขึ้นจากทางสนามรบที่อยู่ห่างออกไป จากที่ที่ฮันซูขว้างหอกไป
“บ้าเอ้ย…”
ตูมมมมม!
ทารูโฮลกัดฟันและฟาดกำแพงที่อยู่เบื้องหน้าเขาหลังจากที่ไปถึงเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณแล้ว
ม่านพลังป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างมากได้ครอบเครื่องเคลื่อนย้ายวิญญาณเอาไว้อยู่
ทว่าทารูโฮลไม่ยอมแพ้ขณะที่เขายังคงฟาดมันต่อไป
ในเมื่อมันไม่ได้ไร้เทียมทานแม้ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน
ในตอนนั้นเอง
ทารูโฮลรู้สึกประหลาดใจขณะที่เขามองขึ้นไป
เคร้ง
วินาทีที่เขาฟาดกำแพงนั้นด้วยพลังของเขา เพดานที่อยู่ตรงกับตำแหน่งของแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ส่งเสียงแปลกประหลาดออกมาขณะที่มันเปิดออก
พร้อมกับเสียงบางอย่างที่เริ่มทำงาน
กี๊ซซซ
ทารูโฮลสบถออกมาเสียงดังอย่างไม่รู้ตัวหลังจากที่เห็นมัน
“ไอ้เหี้ยฉิบหาย…”
เขาไม่รู้ว่าอะไรกำลังลงมาภายในม่านพลังและแสงสีขาวนั้น
แต่เขารู้จากแค่กลิ่นอายของมัน
สิ่งที่กำลังลงมานั้นอันตรายอย่างมาก
มันจะไม่เป็นปัญหามากหากพวกเขาสู้กับมัน แต่พวกเขาจะถูกสังหารหมู่ในเมื่อพวกเขากำลังถูกไล่ต้อนโดยอคาดัสอยู่แล้ว
ในตอนนั้นเอง
แสงเส้นหนึ่งได้กระแทกไปยังสิ่งที่กำลังลงมาจากด้านบน
ตูมมมมม!
“หืออ?”
ทารูโฮลมองไปยังตำแหน่งที่แสงนั้นมา
มันไม่ได้มาจากท่ามกลางพวกอคารอน แต่มาจากอุโมงค์ที่พวกเขามา
หอกที่ทะยานผ่านอุโมงค์ ตัดผ่านอากาศ และกระแทกไปยังสิ่งที่อยู่ภายในลำแสง
กี๊?
ในเวลาเดียวกัน แสงสีทองสิบสองเส้นก็ระเบิดออกจากสำแง
ไปยังตำแหน่งที่หอกนั้นพุ่งมา
กิ้งงงง!
เสียงของบางอย่างที่กำลังเข้ามาใกล้พวกเขาด้วยความเร็วสูงดังขึ้น
“นี่นายเพิ่งจะทำบ้า…”
ขณะที่หลงเฉี่ยนแสดงสีหน้ากระวนกระวายออกมาเพราะสิ่งที่กำลังเข้าใกล้พวกเขา ฮันซูก็หัวเราะอย่างเงียบๆ
“ถ้าพวกนายไม่อยากทำงานในส่วนของพวกนาย ฉันก็จะบังคับให้พวกนายทำ”
“อะไรนะ…?”
ในตอนที่หลงเฉี่ยนกำลังจะเอ่ยตอบคำพูดนั้น
ฉัวะ!
บางอย่างได้บินมาจากภายในอุโมงค์และเปลี่ยนคนหกคนให้กลายเป็นเศษเนื้อ
คนที่กำลังพุ่งเข้าไปหามันผวาไปขณะที่พวกเขาหยุดนิ่งอยู่กับที่
“อะไรวะ! เชี่ยไรเนี่ย! นี่มันบ้าอะไรกัน!”
สิ่งมีชีวิตสีทองเจิดจ้าที่บินผ่านอุโมงค์มาเริ่มเปลี่ยนทุกคนให้กลายเป็นเศษเนื้อ
ฉัวะ
แคว่ก
“อ๊ากกกกก!”
“กรี๊ดดดดด!”
มันเร็วเสียจนพวกเขาไม่อาจแม้แต่จะมองเห็นมัน
แต่เมื่อดวงตาของพวกเขาคุ้นชิน พวกเขาก้เห็นได้ว่ามันคืออะไร
สิ่งที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับทิราดัสสีเงิน
ทว่าสีและขนาดของมันแตกต่างออกไป
อคาดัสสีทองสิบสองตัวที่สูงห้าเมตร
คว้างงง
“ไอ้ฉิบหายย!”
นักผจญภัยเริ่มโจมตีอคาดัสที่บินมายังพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง ทว่ามันไร้ประโยชน์
พวกเขากำลังถูกล่าทีล่ะคน
หลงเฉี่ยนตะโกนออกไปอย่างหัวเสียจากภาพนั้น
“ไอ้เวรเสียสติ! ทำไมแกถึงเอาไอ้ตัวนี้มาที่นี่? นี่แกยังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า! ทุกคนที่นี่จะตายเพราะแก!”
ถ้าอีกฝ่ายปล่อยมันไว้ พวกมันก็จะโจมตีพวกอคารอนแทน
แต่อีกฝ่ายจงใจนำมันมาที่นี่
เพื่อที่จะให้พวกเขาสู้กับมันแทน
ฮันซูเอ่ยเสียงเย็น
“นี่คือตัวเลือกที่ดีกว่าแทนที่จะให้มันล้มเหลว”
“อะไรนะ?”
ฮันซูคิดถึงอดีต
พวกเขาคิดถึงหลายสิ่งและเอ่ยความคิดของตนเองให้คนอื่นๆ ฟัง
ความคิดของแอรีส คังเต้ เคลเดียน และของเขาแตกต่างกันทั้งหมด
แอรีสมักจะต้องการช่วยเหลือผู้คนตราบเท่าที่พวกเขาไม่ได้เสียสติไปทั้งหมด
ในเมื่อมนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้
เคลเดียนต้องการฆ่าทุกคนที่แม้จะมีโอกาสเพียงเสี้ยวเดียวในการเข้ามาขวางทางเขา
ค่อนข้างคล้ายคลึงกับสิ่งที่แอรีสคิด ในเมื่อเคลเดียนเองก็เชื่อว่ามนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
คังเต้จะตัดหัวคนพวกนั้นออกหากคนเหล่านั้นเข้ามาขวางทางเขา แต่โดยปกติแล้วเขาจะปล่อยคนเหล่านั้นไว้เฉยๆ และไม่สนใจ
ฮันซูอยู่ที่ระหว่างเคลเดียนและคังเต้ ทว่ายังคงเคารพในความคิดเห็นของแอรีสในเมื่อเป้าหมายของเขาคือการช่วยเหลือเผ่าพันธุ์มนุษย์
และเขาเองก็เห็นด้านดีของมนุษย์เช่นกัน
ฮันซูคิดถึงรายงานของเตกิลอนวัยหนุ่มที่กำลังดูแลเขตสีแดงอยู่
ทว่ามันถึงขีดจำกัดแล้วจริงๆ
‘แอรีส ดูเหมือนว่าเธอจะผิดไปหน่อยนะ ที่นี่… ไม่ได้สบายขนาดนั้น’
ถ้าพวกเขาล้มเหลวเพราะเรื่องนี้ล่ะ? พวกเขาทุกคนอาจจะตายเพียงเพราะเขาพยายามจะช่วยชีวิตคนสักพันคน
ไม่สิ เพื่อความสำเร็จแล้ว เขายอมที่จะเสียสละชีวิตมนุษย์สักหมื่น ไม่ก็สักแสนคน
ความคิดของเขาที่มักจะสอดคล้องไปกับแนวคิดของแอรีสได้กระโดดไปยังระดับของคังเต้และเคลเดียน
‘เปลี่ยนมาตรฐาน คนที่จะขึ้นไปและต่อสู้ไปกับพวกเราในอบิส… ต้องเป็นแค่พวกที่สมควรจะมีชีวิตอยู่เท่านั้น’
ถ้าคนพวกนี้ตัดสินใจสู้ไปกับเขา งั้นพวกเขาก็อาจจะลดความสูญเสียและได้รับมงกุฎแห่งหนามด้วยกัน
ทว่าในเมื่อคนพวกนี้ปฏิเสธ นี่คือตัวเลือกเดียวที่จะได้รับมงกุฎแห่งหนาม
ด้วยการล่อผู้พิทักษ์สุดท้ายของมงกุฎแห่งหนาม สิบสองผู้พิทักษ์ทอง
“อ๊ากกกก!”
“กรี้ดดดด!”
ฮันซูได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังก้องจากรอบกายเขาขณะที่เขาโยนคนเหล่านี้ทิ้งไว้เป็นเหยื่อล่อและลอบกลับไปยังทางมงกุฎแห่งหนาม
“บ้าเอ้ย! มันยิ่งยากขึ้นเพราะไอ้เวรพวกนั้น!”
กวานแจกัดฟันกรอดขณะที่เขามองไปยังอคาดัสที่พุ่งเข้ามาจากทุกทาง
ช่องว่างของคนที่หนีไปไม่อาจสร้างความรู้สึกหนักอึ้งได้ไปมากกว่านี้แล้ว
‘บ้าเอ้ย… ฉันก็อยากหนีไปเหมือนกัน’
เขาอยากจะออกไปจากสถานที่บ้าๆ นี่พร้อมกับภรรยาของเขา
มนุษย์ส่วนมากจะตายเพราะอคาดัสสีเงิน ทว่าคนในระดับเขาจะสามารถมีชีวิตรอดได้
ไม่สิ คนระดับมาร์กอชส่วนมากก็อาจจะคิดเรื่องนี้อยุ่
ถ้าพวกเขาสามารถหนีออกไปและหลบซ่อนได้ พวกเขาก็จะสามารถหาประตูมิติได้ด้วยการกินศพมนุษย์คนอื่นๆ
พวกเขาต้องมีชีวิตรอดได้อย่างแน่นอนด้วยพลังระดับพวกเขา
แต่แล้วหลังจากนั้นล่ะ?
กวานแจคิดถึงภรรยาของเขา
‘เชี่ย… ฉันจะปล่อยให้ภรรยาฉันมีชีวิตแบบนั้นไม่ได้’
ชีวิตแบบสวะน่ะ แค่เขาก็พอแล้ว
‘ฮันซู ไอ้เวรเอ้ย รีบๆ เข้าสิวะ’
เจ้าหมอนั่นจะมีชีวิตรอดก็ต่อเมื่อเขาและคนอื่นๆ ยื้อไว้ที่นี่
กวานแจคิดถึงภาพที่ใหญ่กว่าที่ฮันซูกำลังวาดขณะที่เขากัดฟันและฟาดอคาดัสที่พุ่งเข้ามาหาเขา
ในตอนนั้นเอง
กุงงงงง
เสียงเสียงหนึ่งพลันดังขึ้นไปทั่วทั้งสนามรบพร้อมกับที่อคาดัสทั้งหมดหยุดเคลื่อนไหวลง
‘พวกเขาทำสำเร็จ…!!’
กวานแจแสดงสีหน้ายินดีออกมาขณะที่เขาทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น
“ฮู่วว… บ้าเอ้ย นี่มันยากชิบหาย”
กวานแจพึมพำขณะที่เขามองไปยังอคาดัสสีเงินที่ร่วงลงตรงหน้าเขา
TL: ถ้าเป็นทุกคนจะเห็นด้วยกับใครเหรอคะ? เคลเดียน คังเต้ แอรีส หรือว่าปู่ฮัน?