บทที่ 125 การจู่โจมอันบ้าคลั่ง
รถบรรทุกลายพรางสองคัน แล่นตามทางมาเรื่อยๆโดยมีปลายทางคือโรงงานร้าง
“รายงานครับหัวหน้า ทหารของผม 450 นาย ได้กระจายกำลังล้อมรอบโรงงานร้างในระยะ 2 กิโลเมตรเอาไว้แล้วครับ!”
ไม่นานนัก ทหารจากกรมทหารรักษาความมั่นคงที่ 4 ได้รายงานผลการปฏิบัติงานแก่หลินเต๋อเทียน
“คุมเชิงเอาไว้ก่อน อย่างเพิ่งรีบร้อนทำอะไร”
หลินเต๋อเทียนตอบกลับไปอย่างรวดเร็วทางโทรศัพท์
จากนั้น สายตาของเขาจึงกวาดมายังเย่เฟิง “เย่เฟิง ถ้าเพื่อนของเธอคิดเล่นตุกติกกับเรา ฉันคงต้องขอล่วงเกินเธอหน่อยแล้วล่ะ”
เวลานี้ หลินเต๋อเทียนไม่มั่นใจพอที่จะเชื่อว่า จะมีสิ่งสำคัญอันใดปรากฏขึ้นมาที่โรงงานร้างแน่นอนตามที่เย่เฟิงได้บอกไว้ ตอนนี้ กำลังคนของเขามากมายได้ล้อมที่นั่นเอาไว้แล้ว แต่หากสุดท้ายพวกเขาต้องคว้าน้ำเหลว ถ้าเป็นเช่นนี้ เขาคงต้องเย่เฟิงรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเสียแล้ว
เย่เฟิงเพียงแค่ยิ้มบางๆ โดยไม่พูดอะไรออกมา
เขาเชื่อมั่นว่าการที่ชายหน้ากากโครงกระดูกนำทางพวกเขาไปยังโรงงานร้าง แสดงให้เห็นว่าที่นั่นต้องมีสิ่งสำคัญบางอย่างแน่นอน นอกจากนั้น ชายสวมหน้ากากยังนำเสี่ยวฉีไปซ่อนที่นั่นเพื่อรอให้ถึงช่วงเวลาที่กลุ่มทหารบุกเข้าไป เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะให้เสี่ยวฉีเปิดเผยแผนการอันชั่วร้ายของไซ่เชาหงออกมา
จากที่เย่เฟิงเคยร่วมงานกับชายหน้ากากโครงกระดูกมา เขามั่นใจเกือบ 90% ว่าจะต้องมีบางสิ่งซ่อนอยู่ที่นั่น
โรงงานร้างแห่งนั้น ตั้งอยู่ไม่ไกลมากนักจากเขตฉางผิง เสียงรถบรรทุกดังขึ้นประมาณ 10 นาที ก่อนที่รถทั้งสองคันจะมาถึงที่นี่
ภายใต้ความมืดยามค่ำคืน ทุกคนต่างสามารถมองเห็นกลุ่มทหารที่ยืนปิดล้อมโรงงานแห่งนี้ได้ลางๆ พวกเขาโอบล้อมเป็นรูปวงแหวนรัศมี 2 กิโลเมตรโดยมีโรงงานร้างเป็นจุดศูนย์กลาง
“หัวหน้าครับ”
หลินซิวหวู่เดิมเข้ามาที่หน้ารถบรรทุก เขาตะเบ๊ะเพื่อแสดงความเคารพต่อหลินเต๋อเทียน ซึ่งการกระทำนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้
อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น สายตาของหลินซิวหวู่ก็มองเห็นร่างอันคุ้นเคยที่นั่งอยู่ในรถบรรทุก ภายใต้แสงจันทร์อันสลัวดวงนี้ การปรากฏตัวของหลินชื่อฉิงดูงดงามยิ่งกว่าที่เคย หลินซิวหวู่ให้คำมั่นกับตัวเองอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมให้หญิงสาวคนนี้เป็นอันตรายใดๆเด็ดขาด เขาคิดว่าในวันข้างหน้า หากใครคนใดมีโอกาสได้แต่งงานกับเธอ คนๆนั้นคงเป็นผู้มีวาสนาอย่างใหญ่หลวง
แต่เหตุใดหญิงสาวจึงมายังที่อันตรายแบบนี้ เธอต้องการอะไรกัน?
“ซิวหวู่ นายคุมเชิงต่อไป ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ให้รีบแจ้งฉันทันที ธันเดอร์ พวกเราจะไปที่โรงงานกัน และจะหยุดอยู่ห่างจากที่นั่นในระยะ 1 กิโลเมตร”
หลินเต๋อเทียนสั่งการออกไป
“หัวหน้าครับ เข้าไปใกล้แบบนั้นมันอันตรายเกินไป ท่าน…..”
ธันเดอร์ลังเลเล็กน้อย ขณะเดียวกัน เขาก็หันไปมองหลินชื่อฉิงที่นั่งอยู่บนรถ เขาต้องการให้คนทั้งคู่อยู่นอกกลุ่มทหารที่ปิดล้อมโรงงานไว้
“ไม่เป็นไรหรอก พวกเรามีนายคอยคุ้มกันให้อยู่แล้ว”
หลินเต๋อเทียนยิ้ม
“เข้าใจแล้วครับ”
ธันเดอร์กัดฟันพยักหน้า เขาไม่ได้รู้สึกดีใจที่หลินเต๋อเทียนเชื่อมั่นในตัวเขา กลับกัน เขารู้สึกว่าภาระบนบ่าทั้งสองข้างในตอนนี้หนักขึ้นกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่แสนอันตรายแค่ไหน หลินเต๋อเทียนก็มักจะนำหน้าอยู่เสมอ เขายืนหยัดอย่างมั่นคง และไม่เคยคิดจะหันหลังให้แก่อันตรายใดๆ ลักษณะนิสัยอันพิเศษนี้ ทำให้ธันเดอร์รู้สึกชื่นชมและนับถือในตัวชายคนนี้
“สาวน้อย เธอ…..”
หลินซิวหวู่มองมายังหลินชื่อฉิง ราวกับเขาต้องการให้เธอลงจากรถบรรทุกและอยู่นอกวงล้อมเพื่อความปลอดภัย
“ไม่ต้องหรอก ฉันจะไปกับพ่อด้วย”
หลินชื่อฉิงเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น พร้อมกับหันไปมองเย่เฟิงและซูเหมิงหาน หญิงสาวคิดในใจว่าในเมื่อสองคนนี้ยังไม่เกรงกลัวอะไร แล้วแบบนี้จะให้เธอยอมถ่อยกลางทางแบบนี้ได้อย่างไร? ที่โรงงานร้างมีแค่ชายสวมหน้ากากไม่ใช่หรอ แล้วจะมีสิ่งใดน่ากลัวกัน?
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลินชื่อฉิงรับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเย่เฟิงและซูเหมิงหานใกล้ชิดกันเอามากๆ ความรู้สึกขุ่นเคืองที่อธิบายไม่ได้บางอย่างก็บังเกิดขึ้นมาในใจของหญิงสาว หากคุณปู่ของเธอกำหนดคู่หมั้นเป็นผู้ชายคนอื่น หญิงสาวคงจะไม่คัดค้านอันใด แต่คู่หมั้นของเธอคือเย่เฟิง
ซูเหมิงหานช่างโชคดีจริงๆที่มีผู้ชายแบบนี้
น่าเสียดายที่หลินชื่อฉิงเป็นคนประเภทใส่หน้ากากเข้าหาคนอื่นอยู่ตลอดเวลา แล้วแบบนี้เมื่อไหร่กัน เธอถึงจะมีโอกาสได้เจอคนที่ใช่ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง? แม้แต่การตายของไซ่เชาหง หญิงสาวยังไม่ได้รู้สึกเศร้าใจแม้แต่น้อย เธอเพียงแค่ใคร่รู้ว่าไซ่เชาหงมีศัตรูที่เคียดแค้นถึงขนาดไหนกัน ศพของเขาถึงได้ถูกทำลายจนไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยแบบนี้?
“ทุกๆคนคุ้มกันหัวหน้าและคุณหนูหลินด้วย ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฟันอยู่เสมอ พวกเราจะไปกันแล้ว!”
ธันเดอร์กวาดมือออกคำสั่ง
ทหารบรรทุกวิ่งเข้าไปในวงปิดล้อมอย่างรวดเร็ว เย่เฟิง ซูเหมิงหาน หลินเต๋อเทียน หลินชื่อฉิง และคนอื่นๆ นั่งอยู่ในที่นั่งตอนหลังของรถบรรทุกที่ไม่มีหลังคาและเป็นรถที่วิ่งตามหลัง ส่วนธันเดอร์นั่งอยู่ในรถบรรทุกคันแรกที่นำหน้า
ภายใต้แสงสลัวและความเงียบงันยามค่ำคืน เสียงของรถบรรทุกที่วิ่งบนถนน ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ
เย่เฟิงใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบบริเวณโดยรอบ และพร้อมรับมือกับสิ่งไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นทุกเมื่อ
ทั่วทั้งโรงงานร้างแห่งนี้ ถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชน้อยใหญ่มากมาย สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมืองมาก หากใครคนใดต้องการจะพัฒนาพื้นที่แทบนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว
ในยามค่ำคืน บริเวณโดยรอบล้วนถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด หากไม่ใช่อุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะแล้วละก็ คงเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะมองเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่ห่างไกลออกไป สายลมอันหนาวเย็นที่พัดผ่านมาเป็นช่วงๆ รวมทั้งเหล่าพืชพันธุ์ที่เอนไหวไปตามสายลม ส่งผลให้บรรยากาศโดยรอบดูน่าหวาดกลัวและน่าสยองขวัญ
บรรยากาศนี้เองทำให้ซูเหมิงหานรู้สึกกังวล เธอหดตัวและกอดแขนเย่เฟิงไว้แน่น
อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น มีสิ่งแปลกประหลาดมากมายพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงจากดงหญ้าที่รกชันทั้งสองข้างทาง พวกมันพุ่งเข้ามายังรถบรรทุกทั้งสองคัน
ตัวประหลาดเหล่านั้นมีทั้งหมด 8 ตัวด้วยกัน!
เย่เฟิงมีปฏิกิริยาทันที เขารวบตัวซูเหมิงหานเอาไว้ และเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น
“พวกเราถูกโจมตี!”
นอกจากเย่เฟิงแล้ว ทหารหน่วย NSA ที่มีหน้าที่คอยคุ้มกัน พบศัตรูที่บุกเข้ามาเช่นเดียวกัน พวกเขาตะโกนเตือนทุกคนเสียงดัง แต่น่าเสียดายที่ปฏิกิริยาของเหล่าทหารช้าเกินไป ความเร็วของฝ่ายตรงข้ามนั้นรวดเร็วเกินกว่าที่พวกเขาจะคาดคิด
ปัง!
ตัวประหลาดผมยาวทั้ง 8 ร่างในชุดกันลมที่ขาดรุงริ่ง เคลื่อนที่ได้ไกลกว่า 100 เมตรใน 32 ก้าว เวลานี้ พวกมันวิ่งเข้ามาถึงตัวรถแล้ว มีบางตัวที่พุ่งมายืนขวางหน้ารถบรรทุก ก่อนจะกระแทกอย่างรุนแรงเพื่อลดความเร็วของรถบรรทุก
ปัง!
“โฮก!”
พละกำลังของตัวประหลาดเหล่านี้น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง พวกมันยกรถบรรทุกขึ้นเพื่อหมายจะพลิกคว่ำ!
“คุ้มกันหัวหน้า!”
ทหารสองนายเข้าไปพยุงตัวหลินเต๋อเทียนก่อนจะกระโดดลงจากรถพร้อมกัน อีกด้านหนึ่ง หลินชื่อฉิงก็ได้รับความช่วยเหลือเช่นกัน เพราะถือคือบุคคลสำคัญ ความปลอดภัยของคนทั้งคู่ต้องมาเป็นอันดับแรก
ไม่นานนัก รถบรรทุกก็พลิกคว่ำไปทั้งคัน ถึงอย่างนั้น ด้วยปฏิกิริยาอันรวดเร็วของทหารหน่วย NSA รวมทั้งคนขับรถ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ
หลังจากลงมาจากรถ เหล่าทหารพลันยกอาวุธในมือมา พร้อมทั้งเปิดฉากยิงทันที ลำแสงกระสุนสีฟ้าพุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนมากมาย ความเร็วของลูกกระสุนเหล่านี้เร็วมากกว่าเสียงถึง 3 เท่า พวกมันพุ่งเข้าใส่ตัวประหลาดเหล่านั้นที่พยายามพลิกคว่ำรถบรรทุกก่อนหน้านี้
ปัง! ปัง! ปัง!
ด้วยที่มันเพิ่งพลิกคว่ำรถบรรทุกได้สำเร็จ จึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะพุ่งหนีไปได้ในเวลานี้ เหล่าตัวประหลาดจึงถูกยิงใส่จนพรุนไปทั้งตัว
ตัวประหลาดทั้งหมด 6 ตัว ถูกยิงจนร่วงไปนอนบนพื้น และไม่ไหวติ่งอีก ถึงอย่างนั้น หนึ่งในพวกมันยังคงลุกขึ้นมาได้ ตัวประหลาดตัวนั้นได้ปล่อยหมัดเข้าใส่ทหารหน่วย NSA คนหนึ่งทันที
โพล๊ะ!
เลือดสดๆแตกกระจายออกราวกับลูกแตงโมที่ถูกทุบจนแตก เหตุการณ์นี้ดูน่าสยดสยองอย่างยิ่ง
ด้วยพละกำลังที่มากพอจะพลิกคว่ำรถบรรทุกได้อย่างง่ายดายนี้ หากใครคนใดถูกต่อยเข้าที่หัวก็คงไม่ต้องบอกว่าจะเป็นอย่างไร
ความน่าตกใจยังไม่จบสิ้นแค่นั้น ตัวประหลาดอีกหนึ่งตัวสามารถลุกขึ้นมาได้เช่นกัน มันคือตัวที่พยายามจะหยุดรถบรรทุกก่อนหน้านี้ ด้วยเสียงคำรามครั้งหนึ่ง มันกลิ้งตัวไปบนพื้น ก่อนจะพุ่งมายังหลินชื่อฉิงราวกับสัตว์ป่าที่บ้าคลั่ง
“คุ้มกันคุณหนูหลิน!”
เหล่าทหารมากมายมีปฏิกิริยาทันที พวกเขาเล็งปากกระบอกปืนไปยังตัวประหลาดตัวนั้น และกระหน่ำยิงใส่ไม่ยั้ง
ถึงอย่างนั้น ความเร็วของตัวประหลาดตัวนี้ รวดเร็วจนเกินกว่าจะจินตนาการได้!
เพิ่งแค่อึดใจเดียว ขณะที่หลินชื่อฉิงกำลังพลิกตัวลุกขึ้นยืน ทันใดนั้น เธอก็รับรู้ถึงกลิ่นอันน่าสะอิดสะเอียน ตัวประหลาดอัปลักษณ์ผมยาวพุ่งมาถึงตัวหญิงสาว ก่อนจะอ้าแขนหมายจะจับตัวเธอไว้
ม่านตาของหลินชื่อฉิงขยายขึ้นด้วยความตกใจ ตัวประหลาดนี่มันอะไรกัน?!
………………………..
แปลโดย Solar Spark