บทที่ 124: ลาร์ซาร์ (2)
“นายคิดบ้าอะไรอยู่? นายจะรับมือกับเรื่องนั้นคนเดียวเนี่ยนะ?”
เอนบิ อารินมองไปยังฮันซูด้วยสีหน้าเคลือบแคลง
กองทัพขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ส่งพิราบสื่อสารนับร้อยไปมาระหว่างกันขณะที่พวกเขาเดินหน้า
นี่ไม่ใช่กองทัพธรรมดา
ทุกคนในนั้นเหมือนกับนักดาบในเรื่องราวแฟนตาซี
แม้ว่าอีกโลกอาจจะเป็นโลกที่บัดซบ มันก็ยอดเยี่ยมในการสร้างยอดมนุษย์ขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ปี
การที่เขาจะไปรับมือกับกองทัพของคนพวกนั้นแบบนั้น
มันมีความแตกต่างระหว่างความกล้าหาญและความโอหัง
แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง สิ่งที่เขาพยายามจะทำมันก็เกินกว่าคำว่าโอหังไปมาก
‘… เขาเสียสติไปเพราะกินไอ้ของแปลกๆ ก่อนหน้านี้ไปรึเปล่า?’
ฮันซูหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“อย่ากังวลเลย มันไม่ได้ยากขนาดนั้น”
“บ้าเอ้ย! เราได้รับความเสียหายมากแค่ไหนจากคนแค่คนเดียว!”
อาคอน คนที่กลายเป็นหัวหน้ากิลด์โอโคเนลลี่แทนแอเรียลตะโกนขึ้นอย่างกราดเกรี้ยว
ห้าวัน
พันธมิตรกิลด์ได้ค้นหาไปทั่วป่าฮอร์นนี้เพื่อที่จะหาคนพวกนั้น
มันไม่มีอะไรให้กลัว
ในเมื่อมาร์กอชได้วิ่งหนีไปหมดเพราะการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของทิราดัส และกิลด์ครอสเดิมก็ได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกัน
และเขาอยู่ที่นี่
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไปสุ่มๆ เอาใครมา 9000 คน
พวกเขานำคน 9000 คนที่มีความสามารถมาจากกิลด์ทั้งหลาย
แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ผิดไปอย่างใหญ่หลวง
พวกเขาเคยต่อสู้มาหลายครั้ง แต่พวกเขาไม่เคยทำสงคราม
‘ฮึ่ย… ฉันไม่รู้เลยว่ามันจะมีความแตกต่างมากขนาดนี้’
อาคอนนวดศีรษะของเขา
เขาเคยสู้คนเดียว สู้ทีล่ะสิบคน และกระทั่งสู้พร้อมกันร้อยคนมาหลายครั้ง
แต่เขาก็เข้าสู่ขีดจำกัดของเขาอย่างรวดเร็วเมื่อเขาพยายามจะควบคุมคนนับพันโดยร่วมมือกับคนจากกิลด์อื่นๆ
คำสั่งไม่ได้ถูกส่งต่ออย่างทันท่วงที และการข่าวของพวกเขาอ่อนแอ
และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่ได้มีคนมากขนาดนั้นที่จะติดต่อนักผจญภัยระดับมาร์กอชได้ ในเมื่อพวกเขาต้องรักษาความสัมพันธ์กับระดับมาร์กอชคนอื่นๆ ด้วย เขาไม่แม้แต่จะรู้ว่าพวกเขาได้รับความเสียหายมากขนาดไหนแบบชัดๆ
‘บ้าเอ้ย เขาคงไม่ได้เยอะขนาดนั้นถ้าเราสู้กันตรงๆ!’
เจ้าหมอนั่นเข้าใจถึงจุดอ่อนในการติดต่อสื่อสารของพวกเขาทำให้อีกฝ่ายโจมตีและล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
เขาทำลายส่วนที่เกาะกันอย่างหลวมๆ และทิ้งพวกที่เกาะกลุ่มกันเยอะๆ เอาไว้
‘แค่ฆ่าพวกนั้นทิ้งเถอะน่า! มันยิ่งยากในเมื่อเราต้องรักษาคนพวกนั้นด้วย!’
<บัดซบ! พื้นที่ 15 กำลังถอย! 9 จาก 18 คนได้รับบาดเจ็บ!>
<พื้นที่ 82 กำลังถอย เชี่ย! เราเห็นคาปูซิโอ้ตัวหนึ่งอยู่ใกล้ๆ!>
อาคอนกัดฟันกรอดกับข้อความที่บินมาหาเขา
คนที่ถูกโจมตีโดยหมอนั่นต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปทั้งวันเพราะสปอร์ที่เกาะอยู่บนร่าง
มันรุนแรงในเมื่อรูนและสกิลฟื้นฟูไม่มีผลต่อมัน
พวกเขาไม่อาจปล่อยคนที่ได้รับบาดเจ็บทิ้งไว้ในป่าฮอร์นที่อันตรายได้
ในเมื่อสถานที่แห่งนี้ยังคงอันตรายแม้ว่ามาร์กอชบางส่วนจะย้ายไปแล้ว
เพราะแบบนี้ อคารอนที่พวกเขาคาดว่าจะเจอตัวภายในสองวันจึงไม่อาจค้นเจอได้
และมันยังมีอีกอย่างที่ทำให้อาคอนและลูกกิลด์คนอื่นๆ รู้สึกไม่สบายใจ
โกวววว!
กรากอซได้ร้องออกมาอย่างต่อเนื่องและมุ่งหน้าไปยังบางแห่ง
ชีวิตประจำวันของกรากอซนั้นโดยปกติแล้วเรียบง่ายอย่างมาก
เดินไปรอบๆ ดื่มลาวา พักผ่อน แล้วก็เดินเล่นอีกสักหน่อย
อาคอนอยู่ในเขตสีส้มมาแล้วสามปี แต่เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เขาอาจจะเมินเรื่องส่วนมากได้ แต่เขาทำได้เพียงรู้สึกไม่ดีในเมื่อสัตว์ประหลาดยักษ์กำลังทำตัวแบบนี้
กิลด์ที่เล็กกว่านี้ได้มุดลงไปลึกในเนื้อเผื่อว่ากรากอซกำลังเตีรยมตัวจะพลิกตัว
ลึกพอที่ลาวาจะไม่แทรกซึมเข้าไปแม้ว่ามันจะพลิกตัว
และบางกลุ่มภายในกองทัพของพวกเขาเองก็กำลังพูดคุยถึงเรื่องนี้
เป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในหลายๆ ทาง
‘… เราต้องยอมแพ้งั้นเหรอ?’
เขาไม่คิดว่าจะถูกไล่ต้อนขนาดนี้จากคนเพียงคนเดียว แต่สภาพมันฉายชัด
ยิ่งไล่ตามเข้าไปลึกเท่าไหร่ มันก็ยิ่งยากเท่านั้น
แต่อาคอนแข็งใจและส่ายหัว
‘ไม่ เราต้องจับเขาให้ได้’
นี่นับว่าเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่และเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเขาอย่างมากแล้ว
และอีกเรื่องหนึ่ง
‘… ถ้าพวกนั้นจับมือกับพวกอคารอนล่ะ’
อาคอนตื่นตระหนกหลังจากที่เห็นการต่อสู้ของฮันซู
มันไม่ใช่เพราะการผ่าตัดดัดแปลงร่างกาย
มันคือวิธีการแปลกประหลาดที่สามารถควบคุมอาเคลล่าที่แข็งแกร่งได้ราวกับทาส
‘ถ้าเขาสร้างกองทัพด้วยการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายและเพิ่มขนาดของมันอย่างไร้ที่สิ้นสุด งั้น… มันก็จะกลายเป็นหายนะ’
เขตสีส้มนี้จะกลายเป็นจักรวรรดิของเขา
จักรวรรดิแห่งทาสที่มีเขาเป็นจักรพรรดิ
“พวกนั้นคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แบบนั้น”
ฮันซูผงกศีรษะกับคำพูดของโอเทออน
‘อย่างที่ฉันคิด… การควบคุมคนอื่นเหมือนกับทาสมันเสี่ยงมาก’
สิ่งหนึ่งที่มนุษย์กลัวมากพอๆ กับความตายคือการสูญเสียอิสรภาพ
ลักษณะพิเศษลอร์ดไม่อาจควบคุมลูกกิลด์ได้อย่างที่พวกเขาต้องการ
และพวกเขาก็จะไม่ทำแม้ว่าจะสามารถทำได้
‘ฉันใช้มันเพราะฉันจำเป็น แต่ต่อจากนี้ฉันควรจะระวัง’
ฮันซูจัดระเบียบความคิดของเขา มองไปยังร่างกายของเขาที่ฟื้นฟูขึ้นอย่างช้าๆ และเริ่มทำงานที่เขาค้างไว้กับนักบวช
ยารักษากรากอซที่ติดเชื้อจากภัยพิบัติแห่งความตาย
‘เราจะไปถึงลาร์ซาร์ได้อย่างปลอดภัยถ้าเราโชคดี แต่… ฉันคงต้องเตรียมเผื่อไว้’
วัตถุดิบจำนวนมาก ยาจำนวนมากจากนักบวชและบาทหลวงได้เดือดปุดไปพร้อมกับแกนกลางของทิราดัส
ไม่นานฮันซูก็ผงกศีรษะพร้อมกับมองไปยังของเหลวสีขาวที่ส่องประกาย
เอนบิ อารินและโซเฟียเอ่ยถามฮันซูหลังจากที่พูดคุยกันเองไปพักหนึ่ง
“จะยังไงก็เถอะ ทำไมนายถึงต้องพยายามมากขนาดนี้? มันไม่ได้มีประโยชน์กับนายมากมายซะหน่อย”
พวกเธอรู้ว่าฮันซูพยายามหนักมาก แต่พวกเธอไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายคืออะไร
แต่มีอย่างหนึ่งที่ชัดเจน
‘เขาไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง’
เพราะฮันซูล่าอย่างต่อเนื่องในขณะที่วิ่งไปรอบๆ ป่าฮอร์น รูนของเขาถึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะเมื่อเอนบิ อารินและคนอื่นๆ ที่รูนเต็มแล้วช่วยเขา
‘มันเร็วมาก ในเมื่อรูนของเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ภายในหนึ่งอาทิตย์’
แต่มีอย่างหนึ่งที่ชัดเจนต่อพวกเธอ
ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้หากตอนนี้เขามุ่งเป้าไปยังการเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง
การฆ่าทิราดัสหรือช่วยเหลืออคารอนไม่มีความเกี่ยวข้องกับฮันซู
อาเคลล่าเอ่ยเสริมขึ้นจากข้างๆ
“บางทีเขาอาจจะอยากเล่นเป็นพระราชาล่ะมั้ง ด้วยการรวบรวมทหารแบบนี้ ยึดครองเขตสีส้มเป็นไงล่ะ? มันคงไม่ยากนักหรอก โอ้ ใช่แล้ว อย่างน้อยก็ทำเหมือนฉันเป็นควีนบนกระดานหมากด้วยล่ะ ถึงพวกเราจะเป็นทาสกันหมด แต่คนในระดับฉัน…อื้อ!”
กร๊อบ!
“หุบปากสักพักสิ”
เอนบิ อารินผลักอาเคลล่าที่พล่ามไม่หยุดออกไปขณะที่เธอมองไปยังฮันซู
เธอไม่อาจมองเขาออกได้แม้แต่น้อย
“เป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”
การดิ้นรนจะทำอะไรบางอย่างที่เขาไม่อาจทำได้นั้นแปลกมาก
เหมือนกับมนุษย์ธรรมดาพยายามที่จะบินให้ได้เหมือนนก
แต่หากฮันซูอยากจะเล่นเป็นพระราชา มันก็ไม่ได้แปลกประหลาดขนาดนั้น
‘ถึงมันคงจะไม่สนุกแบบนั้น’
ตอนที่ฮันซูกำลังจะพูดบางอย่างหลังจากที่ครุ่นคิดไปชั่วขณะ
ครืนนนน!
แรงสั่นสะเทือนรุนแรงปรากฏขึ้นทั่วกรากอซ
“ฮึบบบ!”
“ฝังตัวเองลงกับพื้น!”
แต่อคารอนทำเพียงยืนอยู่บนพื้นขณะที่มัดร่างของตนเองเอาไว้ด้วยเถาวัลย์ที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้าโดยไร้ซึ่งความตื่นตระหนก
ครืนนนนนน
แรงสั่นสะเทือนที่ไม่อาจแม้แต่จะเทียบกับแผ่นดินไหวทั่วไปได้
“… บ้าเอ้ย”
สีหน้าของโซเฟียหม่นหมองลง
ในเมื่อเธอเคยพบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
ทันทีที่เธอมาถึงเขตสีส้ม
“… นายรู้เรื่องนี้งั้นสินะ”
ฮันซูผงกศีรษะ
“ฉันไม่ได้บอกมันออกมาตรงๆ ในเมื่อพวกเธอจะกลัว แต่ฉันคิดเอาไว้แล้ว”
‘ในเมื่อต่อให้เรารู้เราก็ทำอะไรไม่ได้มากอยู่ดี’
สิงโตขาว ลาร์ซาร์
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่พยายามจะรักษาภาพลักษณ์อันสง่างามของมันเอาไว้แม้ว่าจะติดเชื้อจากภัยพิบัติแห่งความตาย
กรากอซจำนวนมากที่ยังคงพยายามดิ้นรนยังคงอยู่รอบๆ ลาร์ซาร์
กรากอซที่ต้องการจะกินร่างที่ยังมีชีวิตอยู่ของกรากอซตัวอื่นและรักษาภัยพิบัติแห่งความตายที่กำลังกลืนกินร่างกายของพวกมันอย่างเชื่องช้า
กรากอซขนาดยักษ์ที่ต้องการจะกินลาร์ซาร์จนท้ายที่สุดยังคงอยู่ในบริเวณเดิม
โกวววว!
วัวยักษ์ส่งเสียงร้องออกมาอย่างแตกต่างจากที่มันเคยร้อง
และเอนบิ อารินและโซเฟียอุทานออกมาหลังจากที่มองไปรอบๆ ด้วยดวงตายักษ์ที่พวกเธอส่งขึ้นสูงไปสองสามกิโลเมตรในอากาศ
“ฉิบหาย…”
พวกเธอไม่อาจมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนในเมื่อพวกเธอส่งดวงตาขึ้นไปไม่สูงมากนัก ทว่าแค่นี้ก็ยังคงมากพอ
กรากอซอีกตัวกำลังกินก้นของกรากอซยักษ์อยู่
กรากอซรูปลักษณ์เหมือนเสือดาวที่ร่างกายครึ่งล่างกลายเป็นสีดำไปแล้ว
และมันไม่ใช่แค่นั้น
ห่างออกไป ภูเขาขนาดยักษ์กำลังเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้พวกเธออย่างเชื่องช้าฝ่าก้อนเมฆ
มันดูเหมือนกับจุดจบของโลก
กรากอซที่มีรูปลักษณ์เป็นสัตว์ต่างๆ ที่เต็มไปจุดสีดำบนร่าง
ตัวหนึ่งเหมือนงู อีกตัวเหมือนหมี
ตัวหนึ่งเหมือนสลอต และอีกตัวเหมือนลิง
ความเหมือนกันเพียงอย่างเดียวของพวกมันคือพวกมันทั้งหมดตัวใหญ่ยักษ์
พวกมันกำลังลากร่างที่เป็นอัมพาตช่วงล่างของพวกมันมาและคำรามออกมาอย่างเจ็บปวดขณะที่พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาหาวัวอย่างเชื่องช้าสุดขีด
ราวกับว่าที่นี่คือสถานที่แห่งเดียวที่พวกมันยังคงเหลือความหวัง
“… นายพากรากอซมาที่นี่หลังจากที่คาดการณ์เรื่องนี้เอาไว้แล้วเนี่ยนะ? นายเสียสติไปแล้วรึเปล่า? มันไม่มีประโยชน์หรอกถึงนายจะมียารักษาก็เถอะ!”
อาเคลล่าร้แองออกมาขณะที่เธอมองไปยังภาพเดียวกัน
กรากอซรูปร่างเหมือนเสือดาวที่กำลังกัดวัวอยู่
ลาวาตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับลูกเห็บ และทุกครั้งที่กรากอซทั้งสองปะทะกัน คลื่นกระแทกที่ให้ความรู้สึกเหมือนอุกกาบาตขนาดยักษ์ตกลงมากระแทกพื้นก็ได้สั่นสะท้านไปทั่วทั้งกรากอซ
พวกเขาต้องฝ่าพวกมันไป ขึ้นไปเหนือกรากอซนั่น และใส่ยารักษาเข้าไปตรงๆ
แม้ว่าพวกเขาจะมีคนจำนวนมาก มันก็อาจจะไม่สำเร็จ
ในเมื่อมนุษย์จะตายหมดแม้จะเพียงแค่ถูกลูกเห็บไฟลุกพวกนั้นตกใส่
ฮันซูหัวเราะ
“อย่ากังวลเลย พวกเธออยู่ที่นี่แล้วก็กินขนมรอแล้วกัน อ่ะนี่”
จากนั้นฮันซูจึงโยนลูกอมแกรปไฟต์ที่ได้มาเยอะจากกวานแจให้
“… นายยังเก็บเอาไว้อยู่เหรอ หืม ฉันพยายามทำพวกมันค่อนข้างมากเลยนะ”
กวานแจที่ยืนอยู่ข้างๆ ฮันซูเพราะเขาไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถทะลวงฝ่าแนวรบรอบๆ ป่าฮอร์นออกไปได้แม้ว่าภรรยาของเขาจะตื่นแล้วมองไปยังฮันซูด้วยสีหน้าอึ้งๆ
ฮันซูเมินอีกฝ่ายขณะที่เขาทำเพียงแค่มองไปยังอเคลล่าและกวานแจ
และเอ่ยถามตนเองอย่างแปลกๆ
‘ฉันยังคงไม่แน่ใจ ฉันไม่รู้ว่าเจ้าพวกนี้มีค่าพอที่จะขึ้นไปแบบมีชีวิตอยู่รึเปล่า’
จากตัวอย่างของกษัตริย์แห่งแสงและลอร์วิปลาส มันมีมนุษย์จำนวนมากที่จะก่อความเสียหายถ้ายังปล่อยให้มีชีวิตรอด
และเขาต้องกำจัดคนพวกนั้นให้หมดหลังจากที่ไปยังเขตสีเหลือง
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างพวกเขาและอาเคลล่าคือระดับของการกระทำของพวกเขา จริงๆ แล้วสำหรับฮันซูมันก็ไม่ต่างมากนักในเมื่อทั้งสองก็เลวพอกัน
แต่แอรีสเคยบอกเขา
<สภาพแวดล้อมคือสาเหตุ สภาพแวดล้อมเปลี่ยนพวกเขาให้โหดร้าย และแฟรี่เปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นสัตว์ป่า ถ้าพวกเราสามารถสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกได้ งั้นคนพวกนั้นก็จะยังคงรักษาความเป็นมนุษย์เอาไว้ได้ ได้โปรด ฆ่าให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้>
‘อืม แอรีส ฉันไม่ค่อยแน่ใจ แต่… ในเมื่อเธอแทบจะไม่พลาดเลย ครั้งนี้ฉันจะเชื่อเธออีกสักครั้งแล้วกัน’
ฮันซูหยุดคิดขณะที่เขาเตรียมยารักษาจำนวนมากไว้ที่เอว
เขาแค่ต้องใส่ยารักษาหยดหนึ่งเข้าไปในส่วนลึกของสมองของมัน
จากนั้นยารักษาจะกลืนกินภัยพิบัติแห่งความตายและแพร่ไปทั่วร่างของมัน
มันก็แค่เส้นทางในระหว่างนั้นมันยากลำบากมาก
‘ฉันควรจะไปรับค่าจ้างของฉันเลยดีไหม’
เขาได้กลับมาคนเดียวหลังจากที่ทิ้งเพื่อนทั้งสามของเขาไว้เบื้องหลัง
หากนับเพียงแค่ความสามารถในการรวบรวมคนอื่น แอรีสหรือเคลเดียนย่อมดีกว่าเขามาก
หากแอรีสหรือเคลเดียนอยู่ในเขตเดียวกับเขาในตอนนี้ งั้นเขาคงไม่อาจเอาชนะกิลด์ที่แอรีสและเคลเดียนสร้างขึ้นได้
แต่มันมีบางสิ่งที่พวกเขาไม่อาจทำได้ ดังนั้นแล้วเขาจึงกลับมา
สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในฐานะมนุษย์
ครึ่กกก
การกลายพันธุ์ที่คูลดาวน์เสร็จและมีความเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติเริ่มที่จะเติมเต็มร่างกายของเขา
พลังที่ถูกเสริมขึ้นจากการดัดแปลงร่างกายได้เพิ่มขึ้นจากส่วนลึกในร่างของเขา
พลังที่ไม่อาจเทียบได้กับในอดีตเพราะจำนวนรูนที่เพิ่มขึ้น
ฟึ่บ
ฮันซูเตรียมหอกของเขาก่อนจะเอ่ยขึ้นกับคนอื่นๆ
“ซ่อนให้ดี”
“เฮ้! นายบ้าไปแล้วเหรอ! รูนของนายยังไม่เต็มด้วยซ้ำ! มันแค่ราวๆ 20% เองนะ!”
ฮันซูหัวเราะใส่โซเฟีย
และกลืนคำพูดที่เขาเกือบจะเอ่ยออกไปลงไป
‘อย่ากังวลเลย ฉันมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง’
จากนั้นฮันซูจึงมองไปยังตำหน่งหางของกรากอซ
ครืนนนน ครืนนนนน
ท้องฟ้าปริแยกออก พื้นดินพลิกกลับ
“บัดซบ! เฮ้! นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ! ทำไมนายถึงไปยืนอยู่ตรงนั้น! มันอันตรายนะ! เราต้องลงไปข้างล่าง!”
อาร์ค มาเรียนตวาดใส่ซังจิน
‘เชี่ยเอ้ย ฉันนี่แหละคนบ้า แล้วทำไมฉันถึงต้องกังวลเกี่ยวกับเขาด้วยเนี่ย!’
จากนั้นอาร์ค มาเรียนจึงมองไปรอบๆ
โกววววว
หางของกรากอซฟาดผ่านพื้นดินราวกับแส้ของพระเจ้า
ไม่สิ แม้ว่าจะไม่มีหางนั่น แค่คลื่นกระแทกจากการปะทะระหว่างกรากอซสองตัวก็ได้ทำให้ทั่วทั้งร่างของเธอรู้สึกเหมือนถูกบดขยี้แล้ว
เธอต้องรีบหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
และซ่อนอยู่สักที่ลึกในกรากอซ
ในขณะที่สรรค์และปฐพีลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง ซังจินหัวเราะใส่อาร์ค มาเรียนขณะที่มองไปยังทิศของป่าฮอร์น
“มันมีบางอย่างที่ฉันจะต้องมอบให้กับเพื่อนฉัน เขาจะต้องใช้มันแน่ๆ ดังนั้นก็ไปก่อนโดยไม่มีฉันแล้วกัน”
จากนั้นซังจินจึงมองไปยังรูนจำนวนนับไม่ถ้วนที่เขารวมไว้ที่ข้อมือของเขา
TL: MVP ตอนนี้ก็ซังจินเหมือนเคย ออกมานิดเดียวแต่เอาใจเทียร์ไปเลยยย//โบกป้าย
ปล. โบนัสค่า