บทที่ 115: กรากอซ (5)
กวานแจเตรียมตัวเคลื่อนไหวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
‘ฉันต้องเอาสร้อยคอนั่นกลับมา’
แน่นอนว่าการเอาคอที่สร้อยคอนั้นห้อยอยู่กลับมาด้วยเป็นเรื่องที่แน่นอน
เขาต้องรีบ
คาปูซิโอ้จะหยุดไล่ล่าพวกนั้นเมื่ออีกฝ่ายเข้าไปในอุโมงค์มด และเขาจะไม่อาจฆ่าคนพวกนั้นได้ด้วยตัวเองเมื่อถึงตอนนั้น
เขาต้องไล่ตามพวกนั้นไปในระหว่างที่คาปูซิโอ้สามารถไล่ล่าพวกนั้นได้
กวานแจแตะเอวของตนเอง
‘ฉันจะใช้สิ่งนี้’
<ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่นายต้องปะทะกับระดับมาร์กอชก็ใช้สิ่งนี้ มันคือสูตรที่จะทำให้มาร์กอชเสียสติ พวกมันจะไล่ล่าทุกอย่างที่มันเห็นจนกว่าพลังของยาจะหมดฤทธิ์ ใช้มันให้ระวังๆ เพราะคนเป็นหมื่นจะตายเมื่อนายใช้มัน>
‘… เวรเอ้ย เป็นหมื่นเนี่ยนะ?’
มือของกวานแจชะงัก
มันให้ความรู้สึกเหมือนเขาจะเสียสติถ้าเขาไม่สามารถจับตัวไอ้หมอนั่นที่อยู่ต่อหน้าเขาได้
แต่การที่คนเป็นหมื่นๆ คนจะตายได้ชะงักการกระทำของเขา
ในขณะที่กวานแจกำลังครุ่นคิดถึงปัญหานี้ เสียงเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นจากสถานที่แห่งหนึ่ง
<อย่าลืมสัญญาของเรา จำไว้ว่านายแลกอะไรไปเพื่อที่จะได้รับพลังในตอนนี้มา คนที่มีชีวิตอยู่สำคัญกว่าคนที่ตายไปแล้ว>
กวานแจกัดฟันกรอดในตอนนั้น
‘บ้าเอ้ย’
คนอื่นๆ คงจะไปเกือบถึงป่าฮอร์นแล้วในตอนนี้
เขาเองก็ต้องไปเช่นกัน
เพื่อที่จะควบคุมคนพวกนั้น
‘ฉันจะไปที่นั่นก่อนที่จะไป’
เขาต้องทำให้ตัวเองสงบลงเพื่อที่จะทำงาน
กวานแจมองไปยังบาลี รอปเปอร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะทะยานร่างไปยังอุโมงค์มด
‘เขาไปแล้วเหรอ?’
ฮันซูขมวดคิ้วขณะที่มองกวานแจล่าถอยห่างออกไป
‘ค่อนข้างน่าเสียดาย’
ฮันซูแสดงสีหน้าเสียดายออกมาชั่วขณะ
เขากำลังจะโยนบาลี รอปเปอร์ออกไปเป็นเหยื่อล่อถ้าหมอนั่นพุ่งเข้ามาหาพวกเขาแล้วค่อยจับอีกฝ่าย
แต่หมอนั่นใช้สักวิธีในการอดกลั้นความโกรธเอาไว้และล่าถอยไป
แน่นอนว่ามันยังคงมีบางอย่างที่เขาได้รับหลังจากการเผชิญหน้าสั้นๆ นี้
“บาลี รอปเปอร์ ยอดเยี่ยม ฉันคาดหวังว่าจะร่วมงานกับนายได้มากกว่านี้นะ”
“… หืมมม? โอ้ โอเค”
บาลี รอปเปอร์ รู้สึกแปลกใจกับคำชมที่เกิดขึ้นกะทันหันของฮันซู แต่เขาเพียงคิดว่าฉันซูกำลังชื่นชมฝีมือของเขาและเมินมันไป
‘ดูเหมือนว่าฉันจะใช้หมอนี่ได้ในอนาคต ฉันควรจะรักษาชีวิตของหมอนี่ไว้ดีๆ’
ฮันซูหมายมาดบาลี รอปเปอร์เอาไว้ว่าเป็นเหยื่อล่อชั้นดี จากนั้นจึงมองไปยังรอบๆ
แม้ว่าจะมีลูกกิลด์หลายคนตายไป พวกเขาก็สามารถรักษากำลังคนส่วนมากเอาไว้ได้
เขาแค่ต้องรีบไปรวมตัวกับพวกอคารอนและช่วยพวกนั้น
ป่าฮอร์นคือสถานที่ที่มาร์กอชอาศัยอยู่
มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายแม้ว่าจะเป็นห้าเสาหลักที่คอยปกป้องนักบวช
ในตอนนั้นเองที่พิราบสื่อสารตัวหนึ่งบินมาหาฮันซู
<ฝั่งนั้นทุกอย่างเป็นไปได้สวยรึเปล่า? คนจากรีโรรีโรเรที่นี่มุ่งหน้าไปในทิศทางแปลกๆ>
มันมีทิศทางที่คนเหล่านั้นมุ่งหน้าไปจากการตรวจสอบของซังจินถูกเขียนเอาไว้ในพิราบสื่อสาร
‘ผ่านพื้นที่ 11… ผ่านพื้นที่ 14… ไปยังพื้นที่ 19 งั้นเหรอ’
พื้นที่ 11 อยู่เหนือบริเวณหน้าอก และพื้นที่ 14 อยู่บริเวณลำคอ
ส่วนพื้นที่ 19 นั่นคือบนหลังศีรษะของมาร์กอช
ไม่ช้าฮันซูก็รู้ถึงเป้าหมายที่คนเหล่านั้นมุ่งหน้าไป
‘ป่าฮอร์น พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ป่าฮอร์น’
ป่าฮอร์น
ชื่อของป่าที่อยู่ระหว่างเขาที่เป็นราวกับภูเขาขนาดยักษ์สองเขาที่อยู่บนศีรษะขนาดยักษ์ของมาร์กอช
จุดหมายปลายทางของอคารอนและคนพวกนี้คือที่เดียวกัน
แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ
แม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าป่า มันก็ยังกว้างอย่างมาก
ตำแหน่งในการควบคุมกรากอซที่อคารอนมุ่งหน้าไปอยู่ในป่านี้เช่นเดียวกัน
ป่าเขาคือตำแหน่งที่ทุกกิลด์ใช้บ่อยครั้งเพราะระดับของสกิลและอาร์ติแฟคที่ดรอปที่นี่สูง
แต่จุดหมายปลายทางและเวลามันทับซ้อนกันมากเกินไป
‘… คนพวกนี้ พวกมันโยนแกรปไฟต์ลงไปที่นี่เพื่อที่จะล่อพวกอคารอนออกมารึเปล่า’
พวกนั้นรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
และพวกนั้นรู้วิธีการไปยังป่าฮอร์นได้ยังไง?
ในตอนนั้นเองที่อีกความเป็นไปได้ได้ปรากฏขึ้นในศีรษะของฮันซู
‘มีอคารอนอีกตนงั้นหรือ’
อคารอนที่มอบการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายและข้อมูลให้กับกวานแจ
อคารอนที่ไม่อาจแสดงตัวขึ้นต่อหน้าอคารอนอื่นๆ ได้และทำเรื่องนี้ด้วยเหตุผลอย่างหนึ่ง
“ฉันมาแล้วไอ้เวรเอ้ย”
อคารอนที่แสดงสีหน้าเย่อหยิ่งผงกศีรษะขณะที่เขาพูดขึ้น
“เจ้าก็ยังคงยโสเหมือนเคย ข้าจะยอมให้แล้วกันในเมื่อเจ้ามีประโยชน์”
กวานแจลอบเค้นเสียง
บุรุษที่มีอาร์ติแฟคหรูหราห้อยอยู่เต็มตัวแม้ว่าจะถูกล่ามอยู่ที่มุมหนึ่ง
อคารอนที่ไม่อาจแม้แต่จะใช้อาร์ติแฟคเหล่านั้น
อคารอนตรงนั้นที่เรียกตนเองว่าบาทหลวงคนก่อน ใส่อาร์ติแฟคเหล่านั้นเอาไว้เพื่อที่จะพรางตัว
‘เขาเหมือนกับราชาของประเทศที่ล่มสลาย’
แต่สถานการณ์ของเขาเลวร้ายกว่ามาก
ในเมื่อเขาไม่อาจแม้แต่จะต่อต้านคำพูดของอีกฝ่าย
อคารอนที่ดูเหมือนจะคาดเดาเจตนาของเขาหัวเราะเสียงเย็นพร้อมเอ่ยขึ้น
“อย่าทำตามอำเภอใจนัก เจ้ากับข้าทำสัญญากันแล้ว”
กวานแจกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินเช่นนั้น
โอกาสในการรอดชีวิตของเขายามที่กระโดดลงไปในอวัยะไหลย้อนเมื่อสี่ปีก่อนเพราะบาลี รอปเปอร์เรียกได้ว่าเป็น 0%
ในเมื่อเขามีแผลลึกและต้องดูแลภรรยาที่หมดสติอยู่ในเวลาเดียวกัน
และเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นเพราะอคารอนที่อยู่เบื้องหน้าเขา
หมอนั่นที่เรียกตนเองว่าบาทหลวง
ตอนที่เขาหมดสติไป อคารอนตนนี้ได้ลากเขาออกมาและกระซิบที่หูของเขา
<อืม… เจ้าคงจะพอใจแล้วกับขนาดนี้ในระดับของเจ้า หลับเสียหน่อยเถอะ ข้าจะมอบพลังให้กับเจ้า>
และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา ทุกสิ่งก็เปลี่ยนแปลงไป
พลังมหาศาลที่ไหลเวียนในร่างและร่างกายที่ทรงพลัง
จนถึงจุดที่เขาคิดว่าเขาได้เกิดใหม่
แต่เขารู้ในทันที
ว่าหมอนี่จะไม่มอบการดัดแปลงนี้ให้แก่เขาเพียงเพราะความเมตตา
อคารอนเอ่ยขึ้นกับเขาในตอนนั้น
<อย่ากังวล มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่เจ้าเชื่อฟังคำพูดของข้าแค่นั้นเอง? แต่การที่คนที่ข้าช่วยชีวิตเอาไว้จะจองหองขนาดนี้ ข้าได้มอบคำอวยพรที่อนุญาตให้เพียงแค่เผ่าของเราโดยที่ใช้วัตถุดิบที่เหลืออยู่ทั้งหมดเลยนะ เจ้ารู้ไหมว่ามันยากแค่ไหนที่จะดัดแปลงร่างกายโดยที่ไม่มีวิหารน่ะ?>
และเมื่ออคารอนเบื้องหน้าเขาส่งกลิ่นบางอย่างออกมาเล็กน้อย ร่างกายของเขาก็ถูกบังคับให้คุกเข่าลงเบื้องหน้าอีกฝ่าย
<ใช่แล้ว สูงระดับนี้ถึงจะดี>
‘บัดซบ’
กวานแจกัดฟันกรอดหลังจากที่คิดถึงเรื่องก่อนหน้า
ในเมื่อเขาต้องทำงานอย่างหนักหน่วงนับแต่นั้น
เพื่อที่จะทำสิ่งที่หมอนี่ต้องการให้เขาทำให้สำเร็จ
มันไม่ได้ยาก
ในเมื่อข้อมูลและความแข็งแกร่งที่หมอนี่มอบให้กับเขาไม่ใช่แค่เล็กน้อย
กวานแจสงบใจลงจากนั้นจึงเอ่ยขึ้นกับอคารอน
“อคารอนโผล่ออกมาหลังจากที่เราทำให้ของเหลวในร่างแข็งตัวอย่างที่นายบอก”
“ใช่แล้ว พวกนั้นต้องอพยพ”
อคารอนหัวเราะเสียงเย็น
พวกเขาต้องไปยังป่าเขาเพื่อที่จะเคลื่อนไหวกรากอซไปยังกรากอซอีกตัว
พวกนั้นจะหลบซ่อนตัวอยู่ได้ยังไงในเมื่อได้รับสัญญาณเตือนระดับสีดำแม้ว่าพวกนั้นจะซ่อนตัวอย่างดีก็ตาม
“เราเกือบจะทำสำเร็จแล้ว แค่จับพวกนั้นให้หมด ฆ่าสักตนสองตนก็ไม่เป็นไร”
กวานแจขมวดคิ้วกับคำพูดพึมพำของอคารอนว่าการฆ่าเผ่าพันธุ์เดียวกับตนเองนั้นไม่เป็นไร
บาทหลวงคนก่อนหน้าจะพูดเกี่ยวกับชีวิตของเผ่าพันธุ์เดียวกันแบบนั้นได้ง่ายๆ ได้อย่างไร?
‘มันเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกไล่ออกจากเผ่าตัวเอง’
“… นายกำลังพยายามจะทำอะไร?”
บาทหลวงหัวเราะเสียงเย็น
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ อย่าข้ามเส้น แค่ทำสิ่งที่เจ้าต้องทำให้สำเร็จ”
“…”
กวานแจกัดฟันกรอด แต่เขาไม่อาจทำอะไรได้
แม้ว่าร่างกายของเขาจะถูกผูกมัด แต่มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ
มันมีหลายทางที่เขาจะใช้ในการหลบเลี่ยงการควบคุมของอีกฝ่าย แต่เขาไม่อาจทำแบบนั้นได้แม้ว่าจะอยากทำ
‘มิฮยาง ที่รักของฉัน’
คนเพียงคนเดียวที่เขาจะสามารถหาความผ่อนคลายได้หลังจากการตายของลูกสาว
กวานแจมองไปยังภรรยาของเขาที่กำลังนอนหลับราวกับตายไปแล้วอยู่ด้านหลังอคารอน
อคารอนหัวเราะราวกับว่ามันรับรู้ได้ถึงสายตาของกวานแจที่มองไปยังหญิงสาว
“ดูเหมือนว่าคำพูดของข้าจะรุนแรงไปหน่อย มันหมายความว่าเจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับมันขนาดนั้น ข้าจะปล่อยตัวคนรักของเจ้าอย่างที่ข้าสัญญา แล้วข้าก็จะปลดการควบคุมในร่างของเจ้าออกด้วย เข้าแค่ต้องไปยังเขตสีเหลืองหลังจากนั้น ง่ายใช่ไหมล่ะ? มันไม่สำคัญหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
กวานแจตั้งสติจากคำพูดเหล่านั้น
‘ใช่แล้ว นี่คือการแลกเปลี่ยน มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแน่ๆ’
แม้ว่าเขาจะต้องทำงานเหมือนหมามากว่าสี่ปี รางวัลก็ไม่ได้เลวร้าย
ในเมื่อเขาได้รอดจากวิกฤตและได้รับพลังที่จะปกป้องภรรยาของเขา
เขาแค่ต้องขึ้นไปยังเขตสีเหลืองหลังจากที่เขาทำทุกอย่างที่นี่เสร็จสิ้นแล้ว
‘มันเกือบจะจบแล้ว’
สัญญาคือการล่ออคารอนที่หลบซ่อนอยู่ออกมาและจับพวกนั้น
เขาต้องรวบรวมและเพิ่มพลังอำนาจของเขาเพราะเรื่องนี้
ในเมื่อเขาต้องแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกันเพื่อที่จะจับอคารอนที่แข็งแกร่งเหล่านั้น
แต่ตอนนี้ทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว
เมื่อเห็นพวกสวะดาวไถและลูกกิลด์รีโรรีโรเรกำลังเหนื่อยอ่อน
เขาไม่ได้มีความตั้งใจจะหาวิหารหรือควบคุมกรากอซตั้งแต่แรก
มันเป็นเพราะเขาต้องสร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะสร้างกิลด์
หลังจากนี้ เขาจะสามารถออกจากไอ้เขตสีส้มบัดซบนี่ได้
“อ่า อีกเรื่องหนึ่ง หากเจ้าเจอพวกนั้นหลังจากนี้…”
กวานแจแขมวดคิ้วหลังจากได้ยินที่อคารอนเอ่ย
‘จิตใจของเขาต้องบิดเบี้ยวจริงๆ แน่’
แต่เขาทำสิ่งที่เขาต้องทำที่นี่แล้ว
จิตใจของเขาเยือกเย็นลงอีกเล็กน้อยหลังจากที่เห็นภรรยาของเขาและรู้สึกได้ว่าสติของเขากำลังกลับมา
‘ใช่แล้ว ตอนนี้… ฉันต้องเพ่งความสนใจไปให้คนที่มีชีวิตอยู่แทนที่จะเป็นคนที่ตายแล้ว’
เขาต้องทำตามคำสั่งเพื่อที่จะช่วยชีวิตของภรรยาที่ยังมีชีวิตอยู่แทนที่จะมาเคียดแค้นเพราะลูกสาวที่ตายไปแล้วของเขา
กวานแจมองไปยังภรรยาของเขาอีกครั้ง ออกจากอุโมงค์มดที่มืดมิด จากนั้นจึงรีบมุ่งหน้าไปยังศีรษะของกรากอซ
ตูมมม!
ทารูโฮลท งตัวลงบนพื้นหลังจากที่ระเบิดศีรษะของมาร์กอซ ดู แกรซิออส ที่มีรูปลักษณ์คล้ายสัตว์กินพืชตัวยักษ์ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บ
ตูมมม!
คลื่นเสียงขนาดยักษ์กระจายออกมาและไอเลนรีบพุ่งตัวไปดูแลร่างกายของทารูโฮล
ทารูโฮลโบกมือและดันไอเลนถอยหลัง
“ไม่เป็นไร เจ้าก็ไปสู้เถอะ เรามีคนไม่พอ”
ทารูโฮลพึมพำขณะที่มองไปยังเขาขนาดยักษ์ทั้งสองที่อยู่ห่างออกไป
เส้นทางไปยังป่าฮอร์นยากลำบากกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้
ในเมื่อจำนวนของมาร์กอชได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
‘… ถ้าเราไม่ได้จัดระเบียบพวกนี้ หายนะก็จะเกิดขึ้น จะยังไงก็เถอะ เราเกือบไปถึงที่นั่นแล้ว’
พวกเขาแค่ต้องผ่านช่องเขาระหว่างหน้าผาข้างหน้า
วินาทีที่ทูราโฮลพักหายใจ บางอย่างก็ได้ทะยานมาจากห่างออกไป
‘อะไรกัน!’
ตูมมม!
สกิลที่มาจากเหนือหน้าผาได้พลิกพื้นดิน และทูราโฮลที่ผ่อนคลายลงชั่วขณะได้เตรียมตัวรับมือการลอบโจมตี
ในตอนนั้นเองที่เสียงตะโกนดังลั่นได้ดังขึ้นจากเหนือหน้าผา
“นายรู้ใช่ไหมว่าฉันจงใจโจมตีไม่ให้โดนนาย?”
และเบื้องหลังผู้หญิงคนนั้น มนุษย์นับพันคนก็ได้ปรากฏขึ้นเหนือหน้าผา
ทารูโฮลแสดงสีหน้าไม่อยากเชื่อออกมากับกองทัพของมนุษย์
‘พวกมันมารออยู่?’
เส้นทางไปยังป่าฮอร์นนั้นยากลำบากเกินกว่าสิ่งใดสำหรับมนุษย์
ทำไมคนพวกนี้จึงมาอยู่ที่นี่ทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรให้ทำ?
ผู้หญิงบนหน้าผาเอ่ยขึ้นขณะที่มองไปยังทารูโฮล
“ดูเหมือนว่าเพื่อนในกิลด์ของเราจะมาช้าไปสักหน่อย มาเล่นกันเองก่อนสักหน่อยแล้วกัน โอ้ แล้วก็… ผู้นำกิลด์ของเราบอกว่าให้เราบอกข้อความนี้ให้กับพวกนาย”
จากนั้น หนึ่งในสมาชิกของดาวไถ อาเคลล่า จึงมองไปยังพิราบสื่อสารสีแดงที่ถูกส่งมาจากกวานแจแล้วแสดงสีหน้างุนงงออกมา
‘มันหมายความว่าอะไร?’
แต่มันมีหลายอย่างที่พวกเขาไม่เข้าใจเกี่ยวกับกวานแจ
อาเคลล่าทำเพียงอ่านข้อความจากพิราบสื่อสาร
“ยินดีด้วย เผ่าพันธุ์ของข้า พวกเจ้าจะได้ติดตามข้า ผู้นำคนแรกของพวกเจ้า อีกครั้ง”
ทารูโฮลและนักบวชหญิง โอเทออน แสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ผู้นำคนแรก
คนเพียงคนเดียวที่หยิ่งผยองมากพอที่จะเรียกตนเองว่าผู้นำคนแรกที่พวกเขารู้จักมีเพียงคนเดียว
บาทหลวง คาร์บาน่า
คนที่ต่อสู้เคียงข้างกับเมคิโด้ นักบวชสูงสุด ทว่ากลับประณามทุกอย่างและผลักความรับผิดชอบไปยังเมคิโด้ที่คิดค้นการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายขึ้นมาเมื่อภัยพิบัติแห่งความตายปรากฏขึ้นและหนีไป
‘เขายังไม่ตายงั้นหรือ’
แต่พวกเขาตระหนักได้ว่ายามนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องแบบนั้น
ทารูโฮลกัดฟันกรอดไปยังนักผจญภัยระดับมาร์กอชทั้งสามและลูกกิลด์นับพันที่พุ่งเข้ามาหาเขาขณะที่เขาเดินหน้าไปเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้น
‘เร็วเข้าฮันซู ข้าไม่รู้ว่าข้าจะรับมือได้นานแค่ไหน’
ตูมมม!
คลื่นกระแทกขนาดยักษ์และเสียงดังสนั่นได้ดังก้องไปทั่วทั้งป่าฮอร์น
ฉันต้องรีบ
มันคือการแข่งกับเวลา
ไม่ว่าจะเป็นกวานแจหรือดาวไถทั้งสามไปถึงก่อนพร้อมกับกองกำลังของพวกเขา
หรือเป็นเขาที่ไปถึงก่อนพร้อมกับกองกำลังของกิลด์คราวน์
ถ้าพวกเขารวมพลังของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน พลังโดยรวมก็จะใกล้เคียงกัน
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายไหนได้รับกำลังเสริมก่อนจะได้เปรียบมากกว่ามาก
‘ฉันต้องไปถึงก่อน’
บาลี รอปเปอร์ครางออกมาขณะที่ไล่ตามอีกฝ่ายไปอย่างกระชั้นชิด
ทำไมหมอนี่ต้องรีบขนาดนั้น?
ความรู้สึกที่ร่างกายของเขขยับอย่างเร่งรีบแบบนั้นโดยที่ไม่ใช่ความตั้งใจของตนเองมันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีแม้แต่น้อย
“ช้าลงหน่อย!”
ฮันซูหันหน้ากลับไปก่อนจะแย้มยิ้มอย่างใจดี
‘โอ้ใช่แล้ว ฉันมีอาวุธลับนี่นา’
ถ้าสิ่งที่สามารถสร้างความหวั่นไหวให้กับหัวหน้าศัตรูได้ไม่ใช่อาวุธลับ แล้วมันจะเป็นอะไร?
“โอ้ใช่ บาลี รอปเปอร์ของพวกเราคือคนที่จะทำสิ่งที่สุดยอดให้กับเรา”
“…?”
‘มันให้ความรู้สึกแย่นิดหน่อยเพราะอะไรก็ไม่รู้’
บาลี รอปเปอร์ที่รู้สึกหนาวเยือกเริ่มวิ่งเร็วกว่าเดิมเพื่อที่จะสลัดความรู้สึกนี้ออกไป
TL: จะซวยแล้วยังพูดมากอีก
ปล. เปิดโดเนทล่ะน้าา