ช่องมิติเขาวงกตชั้น 7
และแล้วงานปล้นสะดมซากศพเพื่อการแพร่พันธุ์สไลม์ของจุนเปย์ก็จบลง หลังจากพักผ่อนเขาก็พร้อมที่จะไปชั้นถัดไปทันที
ใกล้กับทางเข้าชั้น 7 อาศัยแสงจากกองไฟเขาตรวจดูสเตตัสของตัวเอง
ーーเลเวล 818
นักดาบเซียนบนทวีปมีเลเวลอยู่ที่ประมาณ 300
สมมุติว่าค่าเฉลี่ยสำหรับนักผจญภัยระดับ S คือเลเวล 200 ตอนนี้เขาก็คงอยู่ใกล้กับตำแหน่งสูงสุดในโลกภายนอกแล้ว
ระหว่างกำลังนึกถึงเรื่องภายนอกจุนเปย์ก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง
หลังจากมองไปรอบและเดาะลิ้น
เขาดับกองไฟด้วยทราย จากนั้นวิ่งไปที่ด้านล่างของชั้น 6 อย่างเงียบๆ
ーーมันเป็นกลุ่มของชายสี่คน
นานมาแล้วช่องมิติเขาวงกตได้กลืนกินนักผจญภัยระดับ S และระดับต่างๆจำนวนมาก จากความอื้อฉาวดังกล่าวทำให้ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมานี้แทบไม่มีความท้าทายใดที่ทัดเทียมกับมันปรากฎ แต่อย่างไรก็ตามข่าวลือที่เกิดขึ้นมักถูกลบเลือนและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ชายหน้าตาหล่อเหลาผมสีทองสวมเกราะสีทอง ชายที่มีผมสีแดง และชายชราผมสีขาว
อาชีพของพวกเขาคือ อัศวินศักดิ์สิทธิ์, อัศวินมังกร และ นักปราชญ์ตามลำดับ
ส่วนอีกคนหนึ่งคือคนที่สวมเสื้อผ้าสีดำในมือถือดาบปีศาจสีดำเงา ผู้ซึ่งกำลังคุยโวอยู่ตอนนี้
「 เห้อน่าผิดหวังจริงๆ หากมองในฐานะที่เราทั้ง 4 เป็นนักผจญภัยระดับ S อาวุธของประเทศ…… 」
「นายพูดถูก ฉันคิดว่าจะได้ต่อสู้อย่างดุเดือดตั้งแต่ชั้นแรกเลยซะอีก แต่ดูซากศพพวกนี่สิ」
ร่วมกับการถอนหายใจ อัศวินศักดิ์สิทธิ์ผมสีทองยาวพูดต่อด้วยเสียงสุภาพ
「 ไม่มีไอเทมหลงเหลืออยู่กับซากศพพวกนี้ แสดงว่ามีคนนำมันไปหมดแล้ว」
「สมบัติถูกเอาไป เป็นไปได้ว่ามันจะเป็นนักผจญภัยระดับสูง」
「สมมุติว่ามีใครบางคนนำสมบัติไปทั้งหมด ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่ เดาได้ว่ามันคงจะไม่แบ่งสมบัติกับพวกเราหรอกใช่มั้ย แล้วเราจะรับมือกับมันยังไง? 」
「ของมันแน่นอนอยู่แล้ว? เราจะฆ่าและขโมยทุกอย่างของมันมา」
ทุกคนดูเหมือนว่าจะมีความคิดเห็นเหมือนกัน พวกเขาพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง
「แล้วถ้าเราเจอกับคนธรรมดาที่ไม่มีสมบัติหล่ะ?」
「ที่นี่ไม่มีข้อห้ามอะไร…..ถึงศัตรูจะเป็นคนก็เถอะแต่นายก็สามารถเก็บเลเวลจากการฆ่ามันได้รู้มั้ย? และการที่เข้ามาที่นี่ได้แสดงว่าระดับของมันคงไม่ธรรมดา ข้างนอกนั่นมีแต่ศัตรูอ่อนแอ เลเวลของพวกเราเลยไม่เพิ่มขึ้นมากกว่านี้ และเพราะยังงี้พวกเราเลย…. เฮ้ …… อย่าให้ฉันต้องพูดทั้งหมดเลย」
「นายจะทำมันจริงๆใช่มั้ย? ทุกคนว่ายังไง?」
นักปราชญ์ชราผมสีขาวพยักหน้า และอัศวินมังกรผมแดงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
「ーーถ้าเป็นผู้หญิง ฉันจะไม่ปล่อยให้นายฆ่าเธอ」
นักดาบปีศาจผู้ซึ่งสวมชุดสีดำมีท่าทีที่ฉุนเฉียวขึ้น
มันเข้าไปใกล้อัศวินมังกรและจ้องไปที่เขา
「นายหมายความว่ายังไง?” นายกำลังบอกว่าจะทิ้งค่าประสบการณ์ที่ล้ำค่า? ฉันหมายถึงไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่จะทำให้เลเวลพวกเราเพิ่มขึ้น และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงมาที่นี่? ฉันบอกแล้วว่าที่นี่ไม่มีกฏใดๆทั้งสิ้น ในโลกใบนี้ความแข็งแกร่งก็คือความยุติธรรม」
จู่ๆอัศวินมังกรก็หัวเราะอย่างตลกขบขัน
「ถูกต้อง ฉันจะไม่ปล่อยให้นายฆ่าเธอ จนกว่าฉันจะได้ข่มขืนเธอซะก่อน ฮ่าๆๆ」
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มหัวเราะเช่นเดียวกัน
「เลวทรามต่ำช้ากันจริงๆพวกนาย」
「 ต่ำช้า? แกหมายความว่าไงวะ อยากมีเรื่องเหรอ」
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ตอบด้วยใบหน้านิ่งสงบ
「ถึงฉันจะมากับพวกนาย แต่บอกไว้เลยว่า มีสิ่งหนึ่งที่ฉันจะไม่ยอมเด็ดขาด」
「สิ่งหนึ่งที่จะไม่ยอม? ถ้านายคิดจะพูดเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับข้อบัญญัติจากวิหารศักดิ์สิทธ์ ฉันจะเอาดาบนี่ยัดตูดนาย?
“เปล่า” อัศวินศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่สั่นศีรษะ
「ฉันจะไม่ยอมเด็ดขาดถ้าไม่ได้ข่มขืนก่อนเป็นคนแรก」
เสียงหัวเราะของทั้งกลุ่มก็ดังขึ้นอีกครั้ง
「แหม แหมไอ้อัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ เอาที่เอ็งสบายใจแล้วกัน! อัศวินมังกรนายไม่ข้องใจอะไรใช่มั้ย?
「ช่วยไม่ได้นี่นา ฉันจะยอมมันวันหนึ่ง」
「งั้นก็ขอให้พวกเราสามัคคีกันอย่างงี้ต่อไปแล้วกัน」
“ว่าแต่” อัศวินศักดิ์สิทธิ์มองไปรอบ ๆ
「ในเขาวงกตนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ? มอนสเตอร์บนชั้นนี้ไปไหนกันหมด? 」
ーーท่ามกลางเงามืดใกล้ประตูทางเข้าของพื้นที่ปลอดภัย
จุนเปย์ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้หายใจเข้าลึก
เขาได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็วก่อนจะคว้าปืนของเขาออกมา
ーー ต้องโจมตีอย่างรวดเร็วในครั้งเดียว ไม่งั้นฉันต้องเป็นคนที่ถูกฆ่าแน่นอน เพราะคนพวกนี้เหมือนกันกับคิโดะ โนริโกะ และคนอื่น ๆ
ーーพวกมันเป็นพวกเศษสวะ
ด้วยปืนในมือจุนเปย์ที่พร้อมสำหรับการโจมตี
สายตาของเขามองลอดผ่านใบไม้เพื่อสังเกตุการณ์กลุ่มตรงหน้า
ーーใกล้ๆกับพื้นที่ปลอดภัย พวกมันกำลังเริ่มตั้งค่ายพัก
กลิ่นหอมของเนื้อย่างเริ่มโชยไปในอากาศ ซุป ขนมปัง และสเต็ก
ーーกินดีอยู่ดีกันจังเลยนะพวกแก
เมื่อกลิ่นหอมอ่อนๆของเครื่องเทศลอยมาถึงจมูกของจุนเปย์
มันทำให้จุนเปย์นึกถึงอดีตーーสงสัยจังว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศคือตอนไหน น้ำลายและกระเพาะอาหารของเขาเริ่มหวั่นไหว
ーーดี ฉันจะเอาทุกอย่างของพวกมันมาให้หมดเลย ต้องชิงลงมือก่อนที่พวกมันจะได้กิน
โดยทั่วไปค่าเฉลี่ยของระดับนักผจญภัยระดับ Sจะอยู่ระมาณเลเวล 200
ระดับของเขาตอนนี้เท่ากับ 818
ถ้ามองผิวเผินดูเหมือนว่าจุนเปย์จะชนะขาดลอย แต่หากมองจากสเตตัสพื้นฐาน
สเตตัสพื้นฐานปกติจะอยู่ที่ 10 และพวกมีพรสวรรค์จะอยู่ที่ 15
แต่ของจุนเปย์คือ 5 มันเป็นสเตตัสที่โคตรห่วย
หากมองจากสเตตัสพื้นฐานของจุนเปย์ที่ต่ำเตี่ยเรี่ยดิน เขาจะต้องมีเลเวลมากกว่าพวกที่มีสเตตัสเจ๋งๆถึงสามเท่า ทุกอย่างถึงจะดูเท่าเทียมกัน
ถ้าเป็นการสู้ 1 ต่อ 1 จุนเปย์อาจเอาชนะได้โดยง่าย
แต่ฝ่ายตรงข้ามตอนนี้มีหลายคน
นั่นเป็นเหตุผลที่จุนเปย์ต้องห้ามใจแล้วเก็บปืนไว้ที่เดิมก่อนจะหายใจเข้าลึก ๆ และกำลังพยายามฉีกปากยิ้มให้ดูเป็นมิตรมากที่สุด
ーมันเป็นรอยยิ้มทางธุรกิจ
「อะแฮ่ม สวัสดี สวัสดีทุกคน 」
ในขณะที่ปั้นหน้ายิ้มอย่างเป็นมิตร จุนเปย์เริ่มเดินไปหานักผจญภัยระดับ S พวกนั้น
แหล่งกำเนิดแสงตอนนี้มีเพียงกองไฟที่พวกเขาสุมขึ้นมาเท่านั้น
ภายใต้แสงสลัว รอยยิ้มแสแสร้งของเขาจึงดูเหมือนกลายเป็นรอยยิ้มที่แท้จริง
มองไปทางจุนเปย์พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังและสงสัย
「หยุด อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้」
ระยะทางระหว่างพวกเขาคือประมาณ 10 เมตร
ผู้ชายชุดดำーーนักดาบปีศาจตะโกนพูดขึ้นเพื่อนหยุดจุนเปย์
「นายเป็นใคร? 」
「อ่าฉันเหรอ? ฉันเป็นคนโชคร้ายที่ถูกโยนเข้าในช่องมิติเขาวงกต…..แต่ฉันโชคดีที่รอดมาจนถึงชั้นนี้ พวกนายคงรู้ว่าการเดินทางคนเดียวที่นี่มันอันตรายขนาดไหนใช่มั้ย 」
「นายจะบอกว่า อยากร่วมเดินทางกับเรา? 」
「ใช่แล้ว เพราะกลุ่มพี่ชายดูแข็งแกร่งมาก」
「รออยู่ตรงนั้นก่อน」
พวกเขาเริ่มปรึกษากัน
「นายคิดว่าไง?」
「ก่อนอื่นเราต้องตรวจสอบเลเวลเขาก่อน」
หลังพูดจบนัยน์ตาซ้ายของนักปราชญ์ก็เรืองแสงขึ้น
ーー【ดวงตาเวทย์แห่งการรู้แจ้ง (ระดับมาสเตอร์) 】
เป็นสกิลเพื่อใช้วัดระดับของฝ่ายตรงข้ามที่เป็นมนุษย์
หลังจากวัดระดับของจุนเปย์ ขากรรไกรของชายชราก็เปิดกว้างด้วยความตกใจ
「เด็กผู้ชายคนนั้น …..มัน……เลเวลมากกว่า 800? 」
「ฮ่าฮ่า เวอร์แล้วปู่ อย่ามาตลกน่า? บอกมาจริงๆว่ามันมีเลเวลเท่าไหร่?」
สีหน้าของชายชรายังคงจริงจังค้างด้วยความตกตะลึง
「 เรื่องจริงเหรอ? 」
「ฉันก็ไม่ได้บอกว่าล้อเล่นซะหน่อย」
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ทุกคนอยู่ในสภาวะที่ตกตะลึงกันถ้วนหน้า
「เลเวล 800 ……นี่มันโหดกว่าราชาปีศาจอีกนะ 」
และอัศวินมีศักดิ์สิทธิ์ก็พูดทำลายความเงียบดังกล่าว
「บางทีเด็กคนนี้อาจเป็นคนฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมด ไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้ ช่องว่างมิติเขาวงกตอาจจะยากเกินไปสำหรับพวกเรารึเปล่า 」
“ยังไงก็ตาม” นักดาบปีศาจตีหมัดของเขา
「พาเด็กคนนั้นไปกับเรา ต่อจากนี้เราจะตรวจสอบว่าสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้หรือไม่ หากเราเจออุปสรรคบางทีอาจใช้มันเป็นผู้คุ้มกัน」
「ในทางตรงกันข้ามหากเราแน่ใจว่าสามารถไปกันเองได้โดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือใดๆ」
「เราจะฆ่ามันซะ แล้วเลเวลพวกเราต้องพุ่งกระฉูดแน่นอน พยายามตีสนิทและสร้างความไว้ใจให้มากที่สุด ถึงจะเลเวลต่างกันแต่ก็มีหลายวิธีที่จะใช้ฆ่าได้」
「ไม่ว่าจะเป็นการลอบโจมตีระหว่างนอนหลับ หรือวางยาพิษในอาหาร อืม 」
「เอาตามนี้ นายดูเป็นคนที่อัธยาศัยดีที่สุด ไปคุยกับเขาซะ」
อัศวินศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า
แผ่นเกราะหนักส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดขณะที่อัศวินศักดิ์สิทธ์เดินไปหาจุนเปย์
เขาเอื้อมมือไปที่ไหล่ของจุนเปย์
「ฉันมาคุยกับนายเพื่อทำข้อตกลง? 」
「กลุ่มของพวกเรายินดีต้อนรับ ต่อจากนี้คงได้ร่วมทางด้วยกันอีกนาน ถึงพวกเราจะยังไม่รู้จักกันดีก็เถอะ」
「ไม่ ฉันคิดว่าฉันรู้นะーー」
「นายรู้? อะไรเหรอ?”」
「รู้ว่าพวกสวะแบบนายคิดอะไรกันอยู่ไง! 」
จุนเปย์เอื้อมมือขวาและー
ーーด้วยมีดโกนที่ซ่อนอยู่ใต้ฝ่ามือ เขาเฉือนเนื้อนิ้วมือของตัวเองออกประมาณ 1 ซม.
และเลือดสดๆจากนิ้วของจุนเปย์ก็พุ่งกระฉูดออกมา
ความเร็วระดับพระเจ้าーーไม่แปลกถ้าจะพูดแบบนั้น
แต้มโบนัสของจุนเปย์ーーส่วนใหญ่ถูกเพิ่มไปให้ค่าหลบหลีกนั่นหมายความว่าในด้านของความเร็วเขาได้ถึงขอบเขตที่เหนือมนุษย์ไปแล้ว มันสามารถเรียกได้ว่า ชูคุจิ ーーหมายความถึงพลังการเคลื่อนไหวอย่าง ก้าวย่างพริบตา
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวได้ เลือดของจุนเปย์จึงถูกสะบัดตรงเข้าสู่เบ้าตาทั้งสองข้างทันที
อัศวินศักดิ์สิทธิ์จับดวงตาทั้งสองข้าง และทรุดเข่าลง
ที่นั่นจุนเปย์สูดหายใจเข้าเต็มปอด รอยยิ้มของเขาค่อยๆกลายเป็นเหี้ยมโหด
「ตาของฉัน ตาของฉัน ร่างกายมัน… มันขยับไม่ได้」
ーーมันติดสถานะพิษแล้ว
เขาจ้องมองไปยังนักผจญภัยที่เหลืออยู่ด้วยสายตาเย็นชา
ーーเหลือแค่สาม !!
เขาดึงมีดเขี้ยวอสูรอาบยาพิษออกมาจากเอวแล้ววิ่งไปหานักดาบปีศาจด้วยความเร็วที่ไม่ต่างอะไรกับสายฟ้าฟาด
ด้วยความเร็วที่ช้ากว่าเสียงเพียงเล็กน้อย อัศวินมังกร และนักปราชญ์ไม่สามารถตอบสนองอะไรได้
อัศวินมังกรจะเก่งเรื่องการใช้เทคนิคต่อสู้โดยดึงพลังจากมังกร(สายแท้งค์)
นักปราชญ์ไม่ใช่อาชีพที่เก่งดวล 1vs1 แต่หากเป็นเรื่องการควบคุมพื้นที่โดยการใช้เวทย์ เขาสามารถทำให้พื้นที่บริเวณกว้างเต็มไปด้วยความเสียหายได้
แต่เนื่องจากพวกเขาไม่มีทักษะการต่อสู้ระยะประชิดที่ดี ดังนั้นจึงไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถจับการเคลื่อนไหวของจุนเปย์ที่อยู่ในระดับเหนือมนุษย์ได้
จุนเปย์เคลื่อนที่ซ้ายขวารูปแบบสลับฟันปลาเพื่อปิดเส้นทางของนักดาบปีศาจ
ก่อนจะใช้มีดเขี้ยวอสูรอาบยาพิษฟันออกไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าฝ่ายตรงข้ามกลับเป็นอาชีพที่เก่งด้านการต่อสู้ระยะประชิด
การเคลื่อนไหวทั้งหมดของจุนเปย์ไม่สามารถตามทันด้วยตาเปล่า นักดาบปีศาจจึงเปลี่ยนมาใช้สัญชาตตญาณในการตอบสนองหลบการโจมตีของจุนเปย์
จากด้านล่างขึ้นด้านบน แนวดาบตวัดเฉือนขึ้นราวกับสามารถตัดผ่านได้ทุกสิ่ง
ดาบปีศาจดำพุ่งผ่านขึ้นโดยมีเป้าหมายอยู่ที่จุนเปย์
เมื่อรับรู้ถึงอันตรายดังกล่าวจุนเปย์สามารถตอบสนองได้ทันทีด้วยการบิดตัวหลบการโจมตีของดาบดำ จากนั้นกระโดดทำมุม 90 องศาออกไปทางด้านข้าง
* ครืดดดด * ーーเขาชะลอตัวลงขณะสไลด์ไปตามพื้นกว่า 20 เมตร
“จิ๊” จุนเปย์ทำเสียงไม่สบอารมณ์
ーーดูเหมือนจะยากกว่าที่คิดแฮะ
จากนั้นเมื่อจุนเปย์หันศีรษะไปประมาณ 30 องศาด้านหลัง รูม่านตาของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้น
「หืม ไม่จริงใช่มั้ย!!」
มีอะไรบางอย่างเช่นนกไฟยักษ์บินอยู่
ความยาวของลำตัว 40 เมตรและมีปีกกว้างประมาณ 300 เมตร
มันคือเวทมนตร์ที่กินพื้นที่กว้างที่สุดในบรรดาสกิลประเภทเปลวเพลิง
ーーเปลวเพลิงฟินิกซ์บรรพกาล
นกไฟยักษ์ตัวนั้นมุ่งหน้าสู่เขาโดยไม่มีช่องว่างใดๆ มันกำลังใกล้เข้ามาโดยไม่มีทางหลบเลี่ยง
กำแพงเพลิงที่มีความกว้าง 300 เมตร เปลวไฟอันทรงพลังซึ่งพอจะพิสูจน์ได้ว่านักผจญภัยระดับ S เป็นยังไง ถ้านี่เป็นสนามรบ การโจมตีครั้งนี้สามารถทำให้ทหารธรรมดาหลายพันนายสูญหายไปได้เลย และมันจะเป็นการตัดสินใจผู้ชนะและผู้แพ้ในสงครามแน่นอน
อุณหภูมิที่ท่วมท้นด้วยเวทย์มนต์ที่กินพืั้นที่ในวงกว้างกำลังมุ่งสู่จุนเปย์
และเขาคิดว่า
ーーแย่หล่ะ ทำอะไรไม่ได้แล้ว? หลบไม่พ้นแน่นอน ーー
จุนเปย์ทำได้เพียงหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรง จากนั้นปิดตาจมูกและปากด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อป้องกันเปลวไฟที่เหลือ
เมื่อฟินิกซ์ที่บินผ่านไป
เขาถูกห่อหุ้มด้วยความร้อนอย่างช้าๆ … ผิวและผมของเขาเริ่มละลาย
เขารู้สึกร้อนราวกับว่าเส้นเลือดกำลังเดือดจากการต้ม และสติของเขาเริ่มจางหายไปทีละน้อย
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีーーในความเป็นจริงมันใช้เวลาเพียงแค่นั้น แต่สำหรับจุนเปย์เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นเวลาที่แสนยาวนาน
เมื่อความร้อนที่แผดเผาร่างกายเริ่มหายไป ความรู้สึกของเขาก็เริ่มกลับมา
จากนั้นจุนเปย์ก็เริ่มวิ่งหนี
ーーโย้ช นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว! น่ากลัวจริงๆ
ーーดีที่เพิ่มค่า HP ลงไปจำนวนหนึ่ง แต่ปัญหาตอนนี้คือฉันไม่สามารถตอบโต้การโจมตีระยะไกลได้
ขณะวิ่งเขาหยิบปืนแม๊กนั่มออกมาจากเอว
* ปัง!* ปัง!*ปัง!*ปัง!* กระสุนหลายนัดถูกยิงออกมาติดต่อกัน
เขาเล็งไปที่นักดาบปีศาจ อัศวินมังกร นักปราชญ์ คนละ 2 นัด
ーーนักดาบปีศาจใช้ดาบปีศาจดำของเขากันกระสุนออกไป
ーー อัศวินมังกรเปลี่ยนส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นเกล็ดแข็ง(Dragonoid)เพื่อบล็อคกระสุน
ーーนักปราชญ์สร้างโล่บาเรียสำหรับป้องกันการโจมตีทางกายภาพทำให้กระสุนไม่สามารถเข้าถึงเขาได้ภายในรัศมีห้าเมตร
“อืม…… ” จุนเปย์คิด
ไม่มีใครสักคนที่โดนยิงเลยー
ーー ยังไงก็ตาม
ด้วยเหตุนี้เขาได้คำนวณว่าควรจะฆ่าใครก่อน
อัศวินมังกรมีการป้องกันที่แข็งแกร่งเกินไปฉันไม่มีความคิดเห็นอื่นนอกจากนั้น
ในทางกลับกัน นักปราชญ์และนักดาบปีศาจ ปกติแล้วพวกเขาไม่สามารถกันกระสุนได้โดยปราศจากการเคลื่อนไหวพิเศษ นั่นหมายความว่าพวกเขาคงจัดการได้ง่ายกว่า
“งั้นก็” จุนเปย์เพิ่มความเร็วของเขามากขึ้นกว่าเดิม
“ตามแผนเดิม” เขาไม่สนใจนักผจญภัยーーและเพียงมุ่งไปยังจุดหนึ่งจากนั้นาโยนกล่องไอเทมออกมา
หลังจากเปิดกล่องไอเทมเขาก็หนีไปอีกทางด้วยความรวดเร็ว
ที่นั่นนักปราชญ์ก็ตะโกนขึ้น
「กล่องไอเทมーーสไลม์? !! 」
และปลายทางของพวกสไลม์คือแหล่งกำเนิดแสงเดียวในนี้ーーกองไฟ
จากหนึ่งและหนึ่งไปเรื่อยๆ สไลม์พากันกระโดดเข้ากองไฟเพื่อดับมัน
ชั่วพริบตาเดียวทั้งชั้นก็ปกคลุมไปด้วยความมืด
ทันทีทันใดーーปฏิกิริยาตอบกลับของนักผจญภัยก็ลดลง
* วูบ * เสียงลมถูกฉีกกระชาก
ภายในความมืดสำหรับพวกเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ อัศวินมังกรส่งเสียงกรีดร้องดังสะท้อนจากมุมใดมุมหนึ่ง
「อ๊ากก !!」
นั่นคือเสียงที่เกิดขึ้นจากมีดเขี้ยวอสรูสตัดผ่านเส้นเลือดแดงของอัศวินมังกร
「ไอ้สารเลวนี่ แกเคลื่อนไหวในความมืดได้ยังไงกัน?」
「พวกผีดิบเป็นสิ่งมีชีวิตในความมืดที่นายรู้มั้ย? 」
จุนเปย์วิ่งออกจากจุดที่มีอัศวินมังกรอยู่ จากนั้นฝ่าความมืดไปหานักผจญภัยอีกสองคนที่อยู่ห่างออกไป
ーーเหลือแค่สอง
ความมืดอันสมบูรณ์แบบ หลังเสียงกรีดร้องของอัศวินมังกรที่ดังออกมาเพียงชั่วครู่
จากนั้นเสียงของนักดาบปีศาจตะโกนขึ้นตามมา
「ปู่ !! ฉันตามความเร็วบัดซบนี่ในความมืดไม่ทัน ใช้เวทย์อะไรที่ทำให้เกิดแสง! เร็วเข้า!! 」
เสียงโกรธของนักดาบปีศาจสะท้อนออกมา และด้วยโทนเสียงเช่นเดียวกันของนักปราชญ์ผิวดำก็ตอบว่า
「ไม่จำเป็นต้องบอกฉันน่า! 」
จากนั้นーー * อ๊ากก* …… เสียงเจ็บปวดของชายชราคนผมขาวก็ดังขึ้น
「ใช่แล้ว บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องบอกคุณ คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ーーและฉันคงไม่ไม่ปล่อยให้ทำตามที่ต้องการได้ง่ายๆหรอกนะ」
ตอนนี้คนที่ยังสามารถเคลือนไหวได้อย่างอิสระก็เหลือเพียงจุนเปย์ และนักดาบปีศาจ
-อัศวินศักดิ์สิทธิ์ก็ตาบอดเนื่องจากสารพิษในเลือดและทำได้เพียงครางเจ็บปวดอยู่ในที่ไกลๆ
ดูเหมือนว่าพิษต่อระบบประสาทแสดงผลได้ดีมาก
-อัศวินมังกรก็ไม่มีเวลามากพอจะเปลี่ยนทั้งร่างให้เป็นมังกร ภายในความมืดสนิทเส้นเลือดใหญ่ของเขาก็ถูกตัดออกด้วยการโจมตีที่น่าประหลาดใจ พิษได้ผ่านเข้าสู่สมองและหัวใจ และตอนนี้เขาได้สูญสิ้นสติไปแล้ว ถึงไม่ต้องลงมือซ้ำ ในไม่ช้าเขาก็จะต้องตายเองอยู่ดี
และชายแก่ーー นักปราชญ์ อีกครั้งกับมีดเขี้ยวอสรูสเคลือบยาพิษ เส้นเลือดบนข้อมือของเขาก็ถูกตัด เนื่องจากเขาไม่มีความแข็งแกร่งด้านกายภาพตั้งแต่แรกทำให้ผลกระทบส่งผลรุนแรงกว่าคนอื่น เขาหงายหลังล้มลง สีหน้าถูกย้อมด้วยสีม่วงน้ำลายฟูมปาก
「ตอนนี้นายเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่รู้มั้ย? นักดาบปีศาจซัง」
「……」
ชั่วขณะนั้นความเงียบก็ปรากฎและจู่ๆนักดาบปีศาจก็หัวเราะขึ้น
「ไอ้สารเลว แกกล้าใช้วิธีสกปรกอย่างลอบโจมตี ใช้ความมืด และยาพิษ แกไม่รู้สึกอายตัวเองบ้างเลยรึไง」
「ฮ่า!? ในสถานการณ์ที่ต้องฆ่าหรือถูกฆ่า ขโมยหรือถูกขโมย ความยุติธรรมงั้นหรือ ตัดสินว่าใครน่ารังเกียจ ฮึ? ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรถูกหรือผิดหรอกจริงมั้ย? มันมีแค่ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ รวมถึงชีวิตที่จะช่วงชิงมาจากคนอื่นหรือจะถูกคนอื่นช่วงชิงมันก็มีเท่านี้ไม่ใช่เหรอไง」
「แก วางแผนแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ? 」
จุนเปย์พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ
「ถูกต้องーー นายคงไม่คิดว่าฉันจะโง่สู้กับพวกนายทุกคนหรอกใช่มั้ย อย่าบอกนะว่านายคิดแบบนั้น」
「นายคิดยังไงกับกับสถานการณ์ตัวเองตอนนี้ นักดาบปีศาจซัง ?」
「ดูจากอาวุธและความเร็วของแก ーーฉันคงเอาชนะไม่ได้ 」
นักดาบปีศาจยกดาบขึ้นーーปลายดาบถูกชี้ไปที่ฝ่ายตรงข้าม
มันเป็นสายตาของคนที่เตรียมพร้อมที่จะตาย
「ถึงจะรู้ว่าเอาชนะไม่ได้ นายก็อยากลองดูใช่มั้ย?
「 ในที่สุดตาของฉันก็เริ่มชินกับความมืดーーแม้ว่าฉันจะลากแกไปด้วยไม่ได้แต่อย่างน้อยแกก็ต้องบาดเจ็บสาหัสーー」
ทว่ายังไม่ทันสิ้นเสียงพูด หัวของนักดาบปีศาจก็หมุนติ้ว
เขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้นพร้อมกับกระอักเลือกออกมากองหนึ่ง
「 เกิดอะไรขึ้น」
จุนเปย์ยิ้ม
「ฉันบอกนายไปแล้วไง ฉันไม่ได้คิดจะสู้กับนายอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่แรก」
「 อั่ก ?!นี่มันอะไรกัน!」
「ก่อนหน้านี้ฉันดับไฟด้วยแพนเดมิคสไลม์ พวกมันมีไวรัสที่รุนแรงในร่างกายーーและหากพวกมันถูกเผา เชื้อโรครวมถึงสารพิษอันตรายต่างๆจะแพร่กระจายออกมา」
“อ๊ากส์!” ใบหน้าของเขายับย่นด้วยความทุกข์ทรมาน
นักดาบปีศาจดิ้นรนราวกับจะข่วนปอดของเขาออกจากชุดเกราะ
เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาจุนเปย์ใช้ปืนเล็งยิงไปที่หัวของนักดาบปีศาจ—
「ขอบคุณ สำหรับแต้มค่าประสบการณ์ 」
และ หลังจากผ่านไปสักครู่
จุนเปย์ผู้ที่จัดการศพนักผจญภัยระดับ S ด้วยสกิล “บุชเชอร์” ก็ถอนหายใจลึก ๆ
Dragonoid Transformation (ระดับมาสเตอร์) ช่วยเพิ่มพลังป้องกันได้ถึงสี่เท่าในเวลาอันรวดเร็ว
White Magic (ระดับมาสเตอร์) ーーーーーเวทย์สำหรับรักษา ใช้งานได้เฉพาะกับผู้อื่น
Black Magic (ระดับมาสเตอร์) เวทย์โจมตีวงกว้าง สามารถใช้ได้ในพื้นที่ที่มีระยะรัศมี 2-3 ร้อยเมตร
Swordsmanship (ระดับมาสเตอร์) เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างปฏิกิริยาตอบกลับการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม
God’s Protection (ระดับมาสเตอร์) ーーーーーเป็นสกิลติดตัวที่ทำให้พลังป้องกันและพลังโจมตี x1.5 ระหว่างการสู้รบ
Monster Tame (ระดับมาสเตอร์) ーーーーーสกิบฝึกมังกร
「สกิลทั้งหมดนั่นดูไร้ประโยชน์ …… แต่อุปกรณ์ของปู่นักปราชญ์ดูจะยอดเยี่ยม พูดได้เลยว่าโชคดีที่เจอมัน」
หลังจากคุยกับตัวเองแล้วเขาก็เดินไปที่บันไดเพื่อไปยังชั้นถัดไป
เส้นทางที่ต้องเดินเพียงลำพัง
มันเป็นความรู้สึกเหงาแปลกๆที่หมุนวนอยู่ในอกของเขา
ーー “เป็นพิษที่ไม่มีอะไรเทียบได้จริงๆ”
เนื้อที่เขากินเข้าไปไม่ใช่เนื้อผีดิบธรรมดา
แต่มันเป็นเนื้อของโนไลฟ์คิง ราชาของเหล่าผีดิบ นั่นคือเหตุผลที่ว่าแม้แต่เซอร์เบอรัสยังทนผลลัพธ์ของมันไม่ได้
ในเขาวงกตคนนี้จะมีใครอีกรึเปล่าที่ทำแบบเดียวกับที่เขาทำ
หากมีเพียงสกิล【 ตรวจสอบ 】และ【 ต้านทานสถานะผิดปกติทุกประเภท 】 …… ความสามารถรวมกันนี้คงไม่สามารถผ่านอุปสรรคสูงๆได้
และที่นั่นเขายังคิดอีกว่า
แน่นอนในอดีตจะต้องมีคนที่เคยเดินไปในเส้นทางเดียวกันกับเขา และพวกเขาเหล่านั้นต้องพยายามเดินหน้าต่อไปเพื่อเคลียร์ช่องมิติเขาวงกตแน่ๆ
ตัวเลขที่ปราศจากแสงแห่งความหวัง อีกครั้งที่เขานึกถึงมัน
ถูกต้อง
ณ สถานที่แห่งนี้ーーผู้รอดชีวิตเท่ากับศูนย์
——————————————————————-
ชื่อ: ทาเคดะ จุนเปย์
เลเวลเพิ่มขึ้น: 818 → 908
ได้รับคะแนนโบนัส: 450
สเตตัส
อาชีพ: นักล่าสกิล เลเวล : 908
HP: 1385 MP: 175
พลังโจมตี: 255 (5) พลังป้องกัน: 5 ※อาวุธรอง : 245
อัตราหลบหลีก: 3000
อุปกรณ์สวมใส่
หลัก : มีดเขี้ยวอสูร (ระดับเทพนิยาย) ※มีผลกับคุณสมบัติมือสังหารพระเจ้า ( Infused with God Killer attribute ตั้งแต่แรกแล้วผมไม่แน่ใจว่าประโยคนี่หมายถึงอะไรกันแน่ ฉะนั้นในอนาคตถ้ารู้ว่ามันคืออะไรแล้วที่ผมแปลมันผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ)
รอง : S&W M57 แม๊กนั่ม.41 (ระดับสมบัติของชาติ) ※รีโหลดกระสุนด้วยพลังเวทย์ ไม่มีการเสริมสร้างความเข้มแข็ง(No strengthening)
เสื้อคลุม: เสื้อคลุมแห่งการหลบหลีก (อุปกรณ์ของนักปราชญ์) ※ สกิลติดตัว เพิ่มประสิทธิภาพในการหลบหลีกขั้นพื้นฐาน 1.5 เท่า
สกิล (ช่องสกิลเหลือ: 7 )
ตรวจสอบ (ระดับ – ซุปเปอร์) ต้านทานสถานะผิดปกติทุกประเภท บุชเชอร์ (ระดับ – ซุปเปอร์) มอนสเตอร์เทม (ระดับเริ่มต้น)
คุณสมบัติ
ราชาผีดิบ ※องค์ประกอบของร่างกาย ถูกเปลี่ยนเป็นผีดิบของเหลวในร่างกายรวมถึงเลือดและเนื้อ มีสถานะเป็นพิษส่งผลต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง
มอนส์เตอร์ที่ฝึกแล้ว
เพียวสไลม์ x 500 แพนเดมิคสไลม์ x 15000
————————————————————-
**ขอสารภาพว่าตอนนี้ผมดำน้ำเยอะพอสมควร (ขออภัยจริมๆ)