“ฮ่าๆ ! น้องชาย! ดีใจจังที่ได้พบนายอีกครั้ง!
อุตสาห์มีชีวิตรอดมาจากเซอร์เบอรัสได้ทั้งที จริงๆแล้วเราทั้งคู่ควรจะจัดงานเลี้ยงกันนะ!
อ่า … ฉันหนีมันไปได้ยังไงนะเหรอ?
อันที่จริงไอ่ตัวที่เรียกว่าเซอร์เบอรัสเนี้ย เป็นนักกินที่แปลกประหลาดทีเดียว มันมีความหิวกระหายรุนแรงมากแต่หากมีเนื้อให้มันกิน มันจะกลายเป็นสุนัขโง่ๆตัวหนึ่ง
อีกอย่างที่อยากบอก ฉันเป็นนักชิมอาหารตัวยงเลยนะ
ก่อนจะเข้ามาที่นี่ ฉันเอาเนื้อตากแห้งคุณภาพสูงใส่มาในกล่องไอเทมด้วยหล่ะรู้มั้ย ……
กว่าจะรู้วิธีใช้งานมันอย่างถูกต้องเล่นเอาฉันเกือบตายเลย
ーーถึงแขนขวาของฉันจะถูกมันกินไปด้วยก็เถอะ!!!!
ตามนั้นแหละ
โย่ว!เอาหล่ะ ฉันจะอธิบายเกี่ยวกับชั้นนี้ให้ฟัง
ーーอย่างที่นายเห็น ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ไม่มีมอนสเตอร์! นอกจากนี้ยังคนอาศัยอยู่ในนี้ด้วย!
ทางทิศใต้มีบันไดไปที่ชั้นถัดไป!
เช่นเดียวกับคนที่นี่ นายสามารถอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้ทุกเมื่อหากต้องการ หรือนายจะไปชั้นถัดไปเลยก็ได้
แต่เพื่อนยาก ฉันคิดว่ามันแปลกๆ
โลกภายนอก และหมู่บ้านแห่งนี้ …… ฉันคิดว่ามีความแตกต่างอยู่ระหว่างมัน
ชาวบ้านที่นี่มีกันไม่ถึงร้อยคน และนายอาจลังเลที่จะอยู่ที่นี่
ก็นะ ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เหมือนหลายคนที่เลือกอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจพวกนั้นนะ
ฉันหมายถึง มันไม่แปลกที่นายจะลังเลใช่มั้ย ~
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรอดจากเซอร์เบอรัสมาได้……มันสาหัสจริงๆ
ยังไงก็ตามฉันตัดสินใจที่จะไม่หยุด และมีจุดมุ่งหมายคือชั้นถัดไป …… ถ้าถามว่าทำไม?
ฉันเป็นนักผจญภัยผู้โดดเดี่ยว ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น ฉันว่างงานและเป็นพวกนีดーーถูกแล้ว ฉันมันพวกมีปัญหาในการเข้าสังคม! อย่าให้ฉันพูดมากกว่านี้เลย มันน่าอาย!
เอาล่ะ เจอกันคราวหน้าเพื่อนยาก! หวังว่านายจะได้อ่านข้อความต่อไปของฉัน!
สายลมพัดพากลิ่นหอมของฤดูใบไม้ผลิเข้าสู่ปลายจมูกของจุนเปย์เป็นระลอก
ภายในเขาวงกตซึ่งเป็นที่ราบสูงล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันอุดมสมบรูณ์
แหล่งกำเนิดแสงมาจากฝ้าเพดานที่ปกคลุมไปด้วยต้นมอสสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
มีแม่น้ำสายน้อยใหญ่ไหลลงช้าๆจากหุบเขา และบ้านไม้เล็กๆหลังคามุงด้วยใบจาก กระจัดกระจายล้อมรอบทุ่งข้าวสาลีสีทอง
ทิวทัศน์ด้านหน้าทำให้จุนเปย์นึกถึงพื้นที่เพาะปลูกของชาวสวิส
ーー อ่า หลังจากที่เข้ามาในช่องมิติเขาวงกต จนถึงตอนนี้ก็เจอสภาพแวดล้อมต่างๆมากมายเช่นถ้ำหินปูน ทุ่งหญ้า ป่าทึบ และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ตรงหน้า ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย
อนุภาคสีเงินปกคลุมพื้นผิวของพื้นที่ทั้งหมด
ความหนาแน่นของมันบางเบาแตกต่างกับชั้นก่อนหน้านี้มาก
เนื่องจากความหนาแน่นของแสงมีน้อย หากไม่ได้เพ่งเล็งอย่างละเอียดอาจจะคิดว่าตาของคุณแค่กำลังพร่ามัว
“อืมม”
จุนเปย์เอามือจับคางตัวเอง
ーーทั้งชั้นเป็นพื้นที่ปลอดภัย……มีที่อย่างนี้ด้วยแฮะ
เอาล่ะ จุนเปย์ยืนยันสถานะปัจจุบันของเขา
นั่นหมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ
เนื่องจากเขาแทบหมดหวังที่จะมีชีวิตอยู่ จึงทำให้เขาไม่ค่อยสนใจมันจนถึงตอนนี้
แต่ในที่สุดเขาก็สามารถอยู่ในสถานที่ ที่ปลอดภัย
มีคำว่า“การเลี้ยงดูที่ดีย่อมมีการอบรมที่ดีไปด้วย” แต่ในกรณีนี้อาจจะเป็นความหมายเชิงความปลอดภัย คือเมื่อชีวิตมีความปลอดภัย ย่อมมีการเลี้ยงดู เสื้อผ้า อาหารที่ดีหลังจากนั้น
อย่างแรกที่เขาสังเกตเห็น น้ำหนักของเขาลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากมาที่นี่
ความสูงของเขายังคงเป็น 162 เซนติเมตร เช่นเดียวกับก่อนหน้า
แต่น้ำหนักตัวลดลงเหลือเพียง 56 กิโลกรัม
เขาไม่เคยคิดถึงมัน แต่ผลกระทบจากการบาดเจ็บรุนแรงอย่างต่อเนื่องทำให้ไขมันและแคลอรี่ของเขาถูกเผาผลาญ นอกจากนั้นยังเป็นเพราะเขาเทแต้มโบนัสทั้งหมดลงไปที่อัตราการหลบหลีกด้วย
เขามองไปที่เสื้อผ้าของตัวเอง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา
เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งชุดนี้ เป็นชุดที่ดีที่สุดของเขา…… ซึ่งสภาพมันไม่ต่างอะไรกับผ้าขี้ริ้ว
มีรอยขาดที่แขนซ้ายจนถึงไหล่ และร่องรอยต่างๆจากเซอร์เบอรัส
นอกจากนั้นมันยังสกปรกไปด้วยเลือด โคลน และฝุ่นละอองพร้อมกับส่งกลิ่นเหม็น
อีกครั้งหนึ่งที่เขาถอนหายใจ
แม้แต่ตอนอยู่ในญี่ปุ่น เขาก็ไม่ค่อยสนใจดูแลตัวเองเลย
ระหว่างที่จุนเปย์กำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวเอง จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งเกิดขึ้น
「ว้าว นายดูเจ๋งมาก! นายไม่ใช่คนที่นี่หนิ……นายมาจากชั้นล่างใช่ไหม……ใช่แน่ๆนายมาจากชั้นล่าง! 」
ผมสีเหลืองอ่อนยาวถึงไหล่ มีท่าทางอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กๆ
เธอสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาล อายุของเธอคงจะไล่เลี่ยกับจุนเปย์
ร่างกายของเธอผอมเพรียว แต่มีหน้าอกอวบอูมขนาดใหญ่
เธอเป็นสาวสวยคิ้วเข้ม บวกกับดวงตาสีฟ้าซึ่งทำให้เธอมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ในขณะที่เธอสวมรอยยิ้มอันเย้ายวล มือของเธอกุมอยู่ที่หน้าอก ก่อให้เกิดความหวั่นไหวแก่สายตาจุนเปย์เป็นอย่างยิ่ง
“… เธอคือ?”
「ฉันชื่อแคทรีนา! อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้! เกิดและโตอยู่ที่ชั้นนี่」
「…… หมู่บ้าน?」
「 นานมาแล้วนักผจญภัยที่มาจากชั้นล่างสร้างหมู่บ้านขึ้น และผลจากการเพาะพันธุ์ ทำให้พวเรากลายเป็นผู้รอดชีวิต」
จุนเปย์ทำสีหน้าแปลกๆนิดหน่อย
「เพาะพันธุ์……ฟังดูมีนัยสำคัญแปลกๆ….แล้วเธอ?」
「เพราะงั้นฉันมีเรื่องที่จะถามนาย」
「ถามฉัน?」
“อื้อ” เธอพยักหน้า และเผยรอยยิ้มกว้าง
「ฉันต้องการ ‘เมล็ดพันธุ์’ ของนาย!」
「……หะ?」
ปรากฎความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง
สำหรับจุนเปย์เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เธอกล่าวออกมา
「เมล็ดพันธุ์….เธอหมายถึงอะไร?」
「นายเป็นผู้ชายหรือเปล่าเนี้ย นี่นายไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งฉันเล่น ?」
「ฉันไม่รู้จริงๆว่าเธอพูดอะไร…..ช่วยพูดให้ชัดเจนหน่อยสิ? 」.
「ฉันอยากได้น้ำอสุจิของนาย」
จุนเปย์หันหลังกลับ เดินจากไปโดยไม่สนใจเธออีก
「ฉันคงนอนไม่พอ…ร่างกายฉันคงอ่อนล้าจนเห็นภาพหลอน….นี่มันถึงจุดที่เห็นภาพเป็นตัวเป็นตนขนาดนี้แล้วเหรอ……หรือเป็นเพราะฉันผิดหวังเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ?」
มุ่งสู่ชั้นถัดไป จุนเปย์เริ่มเดินไปตามที่ตาลุงนั่นเขียนไว้ในข้อความ
「เดี๋ยว!!เดี๋ยว!! รอก่อน !! นายจะไปไหน! ฉันไม่ใช่ภาพหลอน! ฉันอยู่ที่นี่จริงๆ โอเค๊ !! 」
ขณะกำลังปวดหัว จุนเปย์หันไปทางหญิงสาว
「ไม่ เธอไม่ใช่สิ่งปกติ คนปกติที่ไหนกันจะขอน้ำอสุจิจากคนที่เพิ่งพบกันครั้งแรก? 」
「 เน่ ฉันจะทำยังไงนายถึงจะยอมหยุด! ฉันรู้มันแปลกที่จู่ๆก็พูดเกี่ยวกับน้ำอสุจิ มันไม่เหมาะสำหรับคนที่พบกันครั้งแรก …..งั้นฉันขอเปลี่ยนคำพูดได้มั้ย?
「เปลี่ยนคำพูด?」
「ฉัน…..กับนาย」
「กับฉัน?」
「ฉันอยากมีเซ็กส์กับนาย !」
“เห้อ” จุนเปย์ถอนหายใจยาว
「ดูเหมือนว่ามันเป็นภาพหลอนจริงๆ ฉันคงนอนไม่พอ…… 」
จุนเปย์หันกลับไปทางเดิมอีกครั้ง และกำลังเดินขึ้นบันไดเพื่อไปชั้นถัดไป
「เดี๋ยว เดี๋ยว! รอก่อน !! เห้! ฉันไม่ใช่ภาพหลอน! ฉันอยู่ที่นี่โอเค๊ !! 」
เธอคว้าไหล่ของจุนเปย์ หญิงสาวที่ชื่อว่าแคทรีนาทำหน้าตาจริงจัง
「ฉัน……ไม่ เราต้องการเมล็ดพันธุ์ ฉันอยากให้นายฟังฉันดีๆอีกครั้ง อีกอย่างฉันชื่อ แคทรีนา! อย่าเรียกฉันว่า “เธอ”! 」
คิ้วของจุนเปย์ยกขึ้นในขณะที่ฟังคำตอบเด็กสาว
「เรา …… งั้นเหรอ ดูเหมือนว่ามีเหตุผลบางอย่าง」
「ถูกต้อง มีความจำเป็นที่ฉันต้องการเมล็ดพันธุ์ของนาย」
ภายในป่าเป็นพื้นที่สลัวล้อมรอบด้วยหญ้าสูง
แคทรีนาแนะนำให้จุนเปย์นั่ง จากนั้นพวกเขาก็หันหน้าคุยกัน
「คืองี้ คนที่ก่อตั้งหมู่บ้านของเรามี 7 คน และตอนนี้ทั้งหมดมีประมาณ 50 คน แน่นอนว่าเราหลีกเลี่ยงการแต่งงานกันระหว่างพวกเดียวกัน หรือเครือญาติไม่ได้」
ขณะที่ทำหน้าจริงจัง แคทรีนาก็ยืนขึ้นแล้วผลักจุนเปย์ลงไปนอน
กลิ่นหอมจางๆจากผมของเธอลอยเข้าจมูกของจุนเปย์
「ฉันเข้าใจแล้ว 」
เธอพยักหน้าอย่างยินดี ที่จุนเปย์ไม่ได้ต่อต้าน เธอเริ่มใช้มือลูบไล้ไปบนตัวเขา
ตั้งแต่คอเสื้อーーเธอลากนิ้วผ่านลงไปด้านล่างด้วยสัมผัสแผ่วเบา ราวกับไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงที่จุดไหน
「นี่คือคำพูดของหนึ่งในผู้ก่อตั้งหมู่บ้านนี้ ……การแต่งงานกันระหว่างเครือญาติ จะทำให้เด็กมีโอกาสได้รับยีนด้อยมากกว่าปกติถึง 2 เท่า ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคทางพันธุกรรมーーนายเคยได้ยินไหม」
「อืม เห็นฉันแบบนี้……แต่ฉันก็มาจากโลกที่มีความก้าวหน้านะ ฉันเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังพยายามพูด」
「เพราะอย่างงั้นฉันถึงต้องการเมล็ดพันธุ์ของนาย! นักผจญภัยที่มาจากชั้นล่างเปรียบได้กับของมีค่า สำหรับผู้หญิงทุกคนในหมู่บ้านนี้ .! อย่างน้อยก็ทำมันกับฉัน! เมล็ดพันธุ์ของนายโปรดมอบให้ฉันเถอะนะ! 」
โป๊ก! เสียงเขกดังฟังชัดยิ่ง กำปั้นของจุนเปย์วางอยู่บนหัวของแคทรีนา
「เอาล่ะฉันเข้าใจแล้ว ตอนนี้หยุดคลำเป้าของฉันก่อนได้ไหม?
แคทรีนาทำหน้าบูดพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย
「ฉันบอกนายว่า…..ต้องการเมล็ดพันธุ์ของนาย….. 」
“หืม…… ” จุนเปย์มองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ
「ฉันกำลังถูกล้อม? ดูจากเสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ พวกเขาเป็นเพื่อนของเธอใช่มั้ย?」
รอบๆจุนเปย์และแคทรีนา มีผู้คนที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของต้นไม้
เสื้อผ้าที่มีระดับอารยธรรมใกล้เคียงกับแคทรีนาーーชายและหญิงมากกว่าสิบคนเห็นได้ชัดว่าเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านนี้
ทุกคนมีธนูและหอก
เห็นความสงสัยของจุนเปย์ แคทรีนาหัวเราะอย่างไร้เดียงสา
「คือเรากำลังอยู่ในระหว่างการล่าสัตว์ ขณะเดินทางเราก็บังเอิญพบกับนาย อาหารเป็นสิ่งสำคัญแต่เมล็ดพันธุ์มีความสำคัญยิ่งกว่า และตอนนี้คนที่สวยที่สุดกำลังอยากมีเซ็กส์กับนาย」
「คนอะไรชมตัวเอง……และการขอมีเซ็กส์ เธอเลือกใช้คำที่มันดูดีกว่านี้ได้ไหม เห้อ ปวดหัวจริงๆ」
「นายจะขึ้นไปที่ชั้นถัดไปเลยเหรอ? ถ้าเป็นไปได้ ขอให้นายพักในหมู่บ้านของเราสักระยะหนึ่งได้มั้ย ระหว่างนั้น นายจะได้คิดเกี่ยวกับเรื่องให้เมล็ดพันธุ์ด้วย」
สักพักหนึ่งหลังจากครุ่นคิดจุนเปย์ก็พยักหน้า
「บางทีอาจเป็นโอกาสดีที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับเขาวงกต」
「ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากจะไปที่หมู่บ้านทันที แต่ …… 」
「เธออยู่ระหว่างการล่าสัตว์ใช่ไหม? ถึงฉันไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่ แต่ฉันจะตามไปจนกว่าพวกเธอจะกลับไปยังหมู่บ้าน」
หลังจากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง
พวกเขาเดินไปตามเส้นทางในป่าเพื่อไปยังสถานที่หนึ่ง
ทุกอย่างเงียบงันーーไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น
นอกจากนกป่าที่ทำเสียงเจี๊ยวจ๊าว ก็มีเพียงสายลมและเสียงหายใจของเหล่าคณะเดินทางเท่านั้น
กว่าสิบคนที่มีอุปกรณ์ครบครัน กำลังจ้องรออะไรบางอย่าง
ถูกต้องรวมทั้งจุนเปย์ทุกคนมุ่งมั่นต่างจ้องมองไปยังจุดเดียวกัน
ในสถานที่เปิดโล่งล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ มีรูปแบบทรงเรขาคณิตบางอย่างส่องแสงสว่างจ้าอยู่
มันเป็นวงเวทย์รัศมีประมาณสิบเมตร
ภายในพุ่มหญ้าจุนเปย์ถามแคทรีนที่กำลังเงียบอยู่
「เอ่อ ……แคทรีน…… นี่เรากำลังรออะไรอยู่」
「ชั้นนี้ไม่มีมอนสเตอร์ หรืออันตรายอะไรสักหน่อย」
「อืม มันเป็นพื้นที่ปลอดภัย ถ้ามีบางอย่างเช่นเซอร์เบอรัส……เราคงไม่ได้อยู่ที่นี่」
「 แต่ถ้าเป็นมอนสเตอร์ปกติ ฉันบอกก่อนหน้านี้ว่าเรากำลังล่าสัตว์ใช่ไหม?」
จุนเปย์ประหลาดใจเล็กน้อย
「ใช่ ฉันได้ยินว่าเธอกำลังล่า …… แต่ฉันคิดว่ามันเป็นสัตว์ธรรมดา……ไม่นึกว่าเธอจะหมายถึงพวกมอนสเตอร์」
「สัตว์ป่าทั่วไปจะไม่ปรากฏบนชั้นนี้ มีเพียงมอนสเตอร์ที่หลุดเข้าบ้างเป็นครั้งคราว ….. และนั่นทำให้เราสามารถออกล่าได้ในบางช่วงของเวลาเท่านั้น และเมื่อมานาในวงแหวนเวทย์เทเลพอร์ตถูกเติมเต็มーーอย่างตอนนี้ ดูสิ” 」
หลังจากแคทรีนาพูดจบ ใจกลางวงเวทย์มีบางอย่างสูงประมาณ 130 ซม. โอนิ*ขนาดเล็กที่เรียกว่าก๊อบลิน 7 ตัวปรากฏตัวขึ้น
—————————————————
*โอนิ (ญี่ปุ่น: 鬼 oni) คือ โยไกในความเชื่อของลัทธิชินโตในประเทศญี่ปุ่น อาจเทียบได้กับโอเกอร์ในความเชื่อของตะวันตก คือยักษ์สูงใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์
—————————————————
ก๊อบลินถูกกำหนดให้เป็นมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในโลกของเกมส์ RPG ยอดนิยมทั้งหลาย
รูปร่างของก๊อบลินที่ปรากฏในตอนนี้ดูไม่ต่างอะไรกับเด็กนักเรียนประถมของมนุษย์
อย่างไรก็ตามกล้ามเนื้อของพวกมันมีแต่กล้าม พร้อมกับเขี้ยวแหลมคมในปาก
ในเวลาเดียวกันกับที่มอนสเตอร์ปรากฏ พายุลูกศรก็พุ่งออกมาจากทุกทิศทุกทาง
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก! หลังจากสิ้นเสียงของลูกศร
ก๊อบลินมากกว่าหนึ่งตัวก็กลายเป็นศพ
พวกเขาเปลี่ยนจากธนูเป็นหอกจากนั้นวิ่งเข้าไปจัดการส่วนที่เหลือ
สภาพก๊อบลินดูเละเทะーーเนื่องจากพวกมันถูกแทงหลายครั้ง
เลือดเจิ่งนอง เศษเนื้อปลิวว่อน อวัยวะต่างๆกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่
หลังจากศพสลายไป เสียงโห่ร้องจากผู้คนก็ดังขึ้น
แคทรีนาพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นจึงเปิดปากพูด
「มันคือชัยชนะ」
「 พวกเธอดูโหดร้ายจัง…. 」
และอีกครั้งที่วงเวทย์เริ่มส่องแสง
ผู้ชายและผู้หญิงถือหอกวิ่งออกจากที่นั่น และซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของต้นไม้เหมือนเดิม
แสงพุ่งออกมายังกับฟ้าผ่า เปรี้ยง! บรรยากาศรอบๆสั่นสะเทือน
หลังจากแสงเริ่มอ่อนลงーーก็ปรากฎภาพเลือนลางของโอนิขนาดยักษ์
สูงกว่า 3 เมตร ผิวสีแดงเข้ม แขนของมันมีมัดกล้ามกว้างเท่าเอวของผู้ใหญ่
มันใส่กระโปรงที่ทำจากใบไม้ เปลือยท่อนบน นอกจากนั้นหัวของมันยังมีเขางอกออกมา
สิ่งที่เห็นมันーーเป็นโอเกอร์ (โอนิ)
แค่มองไปที่รูปลักษณ์ จุนเปย์ก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที เขาเปิดใช้สกิล【 ตรวจสอบ 】
【 โอเกอร์ 】
ระดับความอันตราย▼ ▼ ▼ D
ลักษณะเฉพาะ ▼▼▼ มอนสเตอร์ประเภทโอนิ มีถิ่นอาศัยอยู่ใกล้เคียงกับมนุษย์ มีความอันตรายค่อนข้างสูง ติดอยู่ใน 5 อันดับของเควสปราบปรามที่กิลด์ต่างๆร่วมกันตั้งขึ้น พลังโจมตีสูง และความถึกที่มาพร้อมกับร่างกายใหญ่โต พวกมันถือเป็นฝันร้ายของเหล่านักผจญภัยมือใหม่ หากคุณสามารถล่ามอนสเตอร์ตัวนี้ได้ ……คุณอาจได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานต้อนรับของกิลด์
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้พวกเขายิงธนูเข้าใส่โอเกอร์จากระยะไกล
แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาได้ใช้ลูกธนูไปจำนวนมากก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเวลานี้ธนูของพวกเขาจึงหมดลงอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่มันดึงลูกธนูนับสิบออกจากร่างกายเสร็จ โอเกอร์ก็วิ่งเข้าไปหาคนที่อยู่ใกล้สุดทันที
แม้ว่าชายคนนั้นจะรีบวิ่งหนีด้วยความกลัว แต่ทว่าไม่อาจทันความเร็วที่แตกต่างระหว่างพวกมันได้
เขาถูกจับทันที มันคว้าไหล่ของเขา
「 เห้ย แคทรีนา…..นั่นมันโอเครไหม? ดูมอนสเตอร์ตัวนั้นสิ …… 」
ยังไม่ทันสิ้นสุดคำพูดของจุนเปย์ ไหล่ของผู้ชายคนนั้นก็ถูกโอเกอร์บีบแตก
แคร๊ก! หึหึหึ พร้อมกับเสียงหัวเราะของโอเกอร์ กระดูกสีขาวก็ทิ่มทะลุผิวหนังออกมาให้เห็น ไหล่ของชายคนนั้นฉีกออก เลือดพุ่งกระจายราวกับดอกไม้สีเลือดที่กำลังเบ่งบาน
「ไม่เป็นไรหรอก 」
แคทรีนาตอบกลับจุนเปย์ด้วยสีหน้าที่เป็นปกติ
「แผลนั้น …… ถ้ากังวลว่ามันจะรักษาได้หรือไม่ มันไม่มีปัญหาหรอก」
「ไม่ใช่ปัญหานั่น …… 」
「ถึงความหนาแน่นของมันจะน้อย แต่ยังไงที่นี่ก็เป็นพื้นที่ปลอดภัย! แม้ว่าแขนจะขาดสักข้างหรือสองข้าง……พวกมันจะกลับมาเป็นปกติเองภายในสองสัปดาห์! 」
「ไม่ ฉันไม่ได้หมายถึงปัญหาเกี่ยวกับการรักษา …… แต่เมื่อกี่เขาเกือบจะตายจริงๆแล้วเธอไม่เห็นเหรอ 」
เหมือนที่จุนเปย์พูด โอเกอร์หัวเราะขณะที่จับหน้าของชายคนนั้นอยู่
ถ้าโอเกอร์ตัวนั้นออกแรงเพิ่มอีกเล็กน้อยーーมันไม่ยากที่จะจินตนาการว่าหัวของชายคนนั้นจะระเบิดออกเหมือนแตงโมลูกหนึ่ง
「ถูกต้องที่รัก …… คงรักษาได้ถ้าเขาไม่ตาย หมายถึงถ้าเราทำให้เขาไม่ตาย」
「ที่รัก……..ฉันไปเป็นที่รักของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่…. ?」
ในขณะที่จุนเปย์กล่าว แคทรีนากำลังขว้างก้อนหินไปยังโอเกอร์
ดูเหมือนว่าการกระทำนั้นจะดึงดูดความสนใจของโอเกอร์ไม่น้อย
ผู้ชายที่กำลังจะถูกบี้สมอง ถูกเหวี่ยงทิ้งไปด้านข้าง
แคทรีนายิ้มมองไปที่จุนเปย์อย่างซุกซน
「 …… เธอกำลังทำอะไร? 」
「เราต้องการเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแกร่ง ให้ฉันเห็นพลังของคุณ」
“อา ~ …… ” เขาถอนหายใจลึก ๆ
「ถ้าฉันจะไปฆ่าคิโดะกับพวกที่เหลือ ……ฉันต้องรู้ว่าตอนนี้ฉันแข็งแกร่งแค่ไหน」
「ฉันอยากรู้อยู่พอดีว่าหากต่อสู้กันตามปกติ ผลมันจะเป็นยังไง」
ไม่เพียงแต่พูดจุนเปย์เอาปืนพกออกจากเอว
อันดับแรก เขาหลบหลีกการโจมตีที่ร้ายกาจของโอเกอร์หลายครั้ง
ด้วยเขี้ยวอสูรทำให้โอเกอร์ต้องได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง
หลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามล้มลงーーแม๊กนั่ม.41 ก็ทำให้หัวของมันระเบิดเป็นจุล
เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงการยืนยันความมั่นใจของจุนเปย์เท่านั้น
ーー หากถามว่าตอนนี้เขาสามารถฆ่าคิโดะและพวกที่เหลือได้หรือไม่
คำตอบคือใช่
การเอาชนะมอนสเตอร์ระดับ D คือหลักฐาน
โอเกอร์ 1 ตัวและก๊อบลิน 7 ตัว กลายเป็นซากศพกระจัดกระจาย
ตามที่พระเจ้าได้อธิบายไว้ กฎของโลกนี้แตกต่างจากโลกที่ผ่านมา
เมื่อสัตว์และสิ่งใดๆที่เสียชีวิต มวลสารทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นแสง จากนั้นมันจะกลายเป็นมานากระจายไปในชั้นบรรยากาศ
ด้วยเหตุนี้พวกเนื้อต่างๆหลังจากดรอปลงมา มันจะถูกเปลี่ยนให้อยู่รูปแบบของการ์ด
และวัตถุประสงค์ของการล่ามอนสเตอร์ครั้ง ก็คือการล่าเนื้อ
「 แคทรีนา! ฉันยกให้เธอ! 」
เป็นเสียงที่ทำให้แคทรีนาชุ่มชื่นหัวใจ
เธอเดินเข้าไปสัมผัสกับซากศพของก๊อบลินทีละตัว จนทั้งหมดกลายเป็นการ์ด
「เธอเปิดใช้สกิล【บุชเชอร์】ในขณะที่สัมผัสพวกมัน」
ภาพที่เห็นไม่ต่างอะไรกับเวลาที่จุนเปย์สัมผัสมอนสเตอร์แล้วมีไอเทมดรอปออกมา แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกแปลกใจ
ถ้าคุณพูดว่าการชำแหละ การลอกหนัง การตัดเนื้อออกเป็นส่วนๆ……มันเป็นงานทีคุณจะต้องทำเป็นประจำถึงจะชำนาญ
“แต่ …… ” ตอนนี้จุนเปย์เปลี่ยนความคิดแล้ว
หลังจากไม่กี่นาทีมอนสเตอร์ทุกตัวที่แคทรีนาสัมผัสได้เปลี่ยนเป็นการ์ด ……และที่น่าแปลกใจ การ์ดทั้งหมดที่ดรอปออกมามันคือ “เนื้อ”
「 โฮ่ย แคทรีนาพวกมันทั้งหมดคือ เนื้อ? ….รวมแล้วเป็นเนื้อถึง 35 ใบ? จนถึงตอนนี้รู้มั้ยฉันฆ่ามอนสเตอร์ไปมากมาย แต่ฉันเคยดรอปได้เนื้อแค่ประมาณ 30% เอง 」
“อื้อ เกี่ยวกับเรื่องนั้น” แคทรีน่าหัวเราะเบา ๆ
「มันคือสกิลแล่เนื้อ นายไม่ได้ยินฉันเรียกใช้สกิลเหรอ?」
「 …… สกิล? 」
「ถูกต้อง สกิล【บุชเชอร์】ーー ระดับซุปเปอร์ 」
「 ระดับซุปเปอร์ ….สกิลนี้เป็นถึงสกิลระดับสูง? 」
จากคำถามของจุนเปย์ แคทรีนาตอบด้วยแววตาเศร้าหมอง
「 เราสามารถเพาะปลูกธัญพืชได้มากมาย แต่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์หรือแหล่งโปรตีนเราไม่สามารถหาได้เลย」
「ไม่มีโปรตีน ……มนุษย์จะใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง…… 」
「ถูกต้องนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสกิลต้องอยู่ในระดับซุปเปอร์ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในชั้นนี้ เพื่อให้สามารถอยู่รอดการฝึกฝนสกิลให้อยู่ในระดับนี้เป็นสิ่งจำเป็น」
「……?」
「ถ้าไม่ใช่ระดับซุปเปอร์โอกาสดรอปไอเทมจะน้อยกว่านี้มาก และบางทีสิ่งที่ดรอปออกมาอาจเป็นอย่างอื่นเช่นผิวหนัง นั่นถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงเลยหล่ะ」
「ฉันฝึกฝนทักษะนี้ตั้งแต่ฉันเด็กกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ แหล่งที่มาของโปรตีนในชั้นนี้มีเพียงมอนสเตอร์เท่านั้น และมันโผล่ออกมานานๆครั้งเท่านั้น ถ้าไม่มีสกิลนี้หมู่บ้านคงล่มสลาย」
“ยังไงก็ตาม” แคทรีนามองไปที่จุนเปย์ด้วยสายตาที่เปล่งประกาย
「การฆ่าโอเกอร์ในทันที ……ด้วยความเร็วมหาศาล …..สมกับเป็นที่รักของฉันจริงๆ」
「ฉันไม่ใช่ที่รักของเธอ 」
แคทรีนาดึงมือขวาของเขามาทาบไว้ที่อก
「ไม่ต้องเขิลหรอก คืนนี้ฉันจะทำให้นายต้องติดใจ」
การมีใครสักคนมาชอบไม่ได้เป็นเรื่องแย่ แต่มันติดที่ว่าเธอเพียงต้องการยีนของเขา นั่นทำให้เขารู้สึกไม่ยินดีกับมันสักเท่าไหร่
มีชายและหญิงกว่าสิบคนทกำลังมองจุนเปย์จากไกลๆ
อายุของพวกเขามีตั้งแต่วัยรุ่นถึง 20 กว่าๆ
หนึ่งในนั้นกล่าวออกมา
「การเคลื่อนไหวเมื่อกี้…… มันน่าทึ่งจริงๆ ค่าหลบหลีกนายมีเท่าไหร่… ? 」
「 เอ่อ 3000 」
ท้ังกลุ่มตื่นตระหนก
「3000?! นายทำยังไงมันถึงเยอะขนาดนี้? !!
「ก็……เลเวลของฉันเกิน 600 ไปแล้ว…… 」
「เกิน 600?!! ทำได้ยังไง?」
ชายคนหนึ่งที่มีหนวดเคราซึ่งดูเหมือนจะอายุมากที่สุดเอ่ยปาก
ก่อนหน้านี้มีผู้กล่าวว่านักผจญภัยที่เข้ามามีมากกว่า 500 คน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชั้นล่างจากที่นี่ล้วนเป็นดั่งขุมนรก」
จุนเปย์ผู้ที่ผ่านขุมนรกเหล่านั้นมาแล้ว รู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นสายตาชื่นชมจากผู้คนรอบข้าง
「น่าทึ่งจริงๆนักผจญภัยที่มาจากชั้นล่าง และแคทรีนาจะได้รับเมล็ดพันธุ์จากคนแข็งแกร่งแบบนี้」
「เห้ย ฉันไม่ได้บอกว่าจะให้เมล็ดพันธุ์อะไรนั้นกับพวกนายสักหน่อย…… 」
เมื่อได้ยินจุนเปย์กล่าว ช่วยไม่ได้ที่ทั้งกลุ่มจะรู้สึกผิดหวัง
แคทรีนาเองก็เช่นกัน
「เดี๋ยว…..ทำไมนายใจร้ายแบบนี้? 」
สายตามองมาพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้า
จุนเปย์กำลังครุ่นคิด
ーーถึงจะดูปลอดภัย แต่ฉันก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานนัก
แคทรีนาคลายความเศร้าแต่เจือปนไปด้วยความสงสัยแทน
「หากค่าหลบหลีกของนายมี 3000 แล้วค่าอื่นๆของนายจะเป็นยังไง …… 」
「อ่ะ…ให้ดูเลยคงจะเร็วกว่าอธิบายด้วยคำพูด」
จุนเปย์ยื่นแผ่นแสดงสเตตัสจากเอวของเขาให้แคทรีนา
「 นี่เป็น สเตตัสที่แปลกมากเลยแฮะ」
【 ทาเคดะ จุนเปย์ 】
เลเวล▼▼ 637
HP ▼ ▼ 30 MP ▼▼ 175
พลังโจมตี ▼▼ 255 (สเตตัสพื้นฐาน 5)
พลังป้องกัน ▼▼ 5 ค่าหลบหลีก ▼▼ 3000
ปรากฎรอยยิ้มแปลกๆบนในหน้าของเธอ
「ฉันขอถามนายหน่อยได้ไหม」
「อะไรเหรอ?」
「สเตตัสพื้นฐานของพลังโจมตีนายคือ 5 หน่วย…นั่นหมายความว่าจริงๆแล้วนาย 」
“อาฮะ” จุนเปย์พยักหน้า
「ปกติแล้วฉันอ่อนแอกว่าพวกที่อยู่ตรงนั้นซะอีก」
“ฉันเข้าใจแล้ว” แคทรีนาพยักหน้าจากนั้นคว้าแขนของจุนเปย์ไว้
พลังโจมตีพื้นฐานของฉันอยู่ที่ 80 หน่วย ตามปกติหากวัดกันที่พลังโจมตีและพลังป้องกันแล้ว ไม่แปลกเลยที่ตอนนี้นายจะหนีไปจากฉันไม่ได้!! 」
จุนเปย์ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์
「เฮ้ ……เจ็บ …… ทำไม …… เธอแรงเยอะแบบนี้」
มุมปากของแคทรีนายกขึ้นด้วยรอยยิ้ม
「ตามแผนที่วางไว้ตอนแรก…..ในระหว่างการจัดงานเลี้ยงฉันจะวางยานาย แต่ดูเหมือนว่ามันไม่จำเป็นแล้ว」
ในตอนนั้นเองที่จุนเปย์สัมผัสได้ถึงดาเมทรุนแรงจากด้านหลังศีรษะ
สมองภายในหัวของเขาสั่นเหมือนพุดดิ้ง
ทุกอย่างที่เขาเห็นตอนนี้เป็นภาพกลับด้าน
ทัศนียภาพค่อยๆมืดลง ในขณะที่เขาหันไปมองด้านหลัง
ภาพของกระบองーーเป็นชายที่คุยกับเขาด้วยเสียงสงบก่อนหน้านี้
“บ้าอะไรเนี้ย” ก่อนที่จิตสำนึกของจุนเปย์จะดับลง เขาเปิดใช้งานสกิล【 ตรวจสอบ 】
ーーปกติสกิล【ตรวจสอบ】จะใช้ไม่ได้กับมนุษย์ แต่ตอนนี้มันกลับใช้งานได้ปกติ นั่นหมายความว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในประเภทดังกล่าว
【ชนเผ่าในหุบเขา】
ลักษณะเฉพาะ▼▼กลุ่มคนที่ตั้งรกรากอยู่ในหุบเขาภายในดันเจี้ยน ตามบรรพบุรุษ เพื่อหลีกเลี่ยงการถดถอยของพันธุกรรม พวกเขาใช้วิธีการทั้งหมดเพื่อให้ได้ยีนใหม่ (นักผจญภัย) ถึงแม้จะเป็นมนุษย์ แต่มีนิสัยดิบเถื่อนราวกับมอนสเตอร์ พวกเขาเคลื่อนไหวด้วยกฎและศีลธรรมที่แตกต่างกับคนปกติ พวกเขาป่าเถื่อน เผ่าพันธุ์ของพวกเขามีเทคนิคที่เรียกว่า【 บุชเชอร์ 】เพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีนจากสัตว์ เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมพิเศษ โปรตีนเป็นสิ่งที่หากินได้ยาก พวกเขาจึงมีวัฒนธรรม “กินเนื้้อคน” และ “ผสมพันธุ์กันเอง”
—————————————————————
จุนเปย์ลืมตาตื่นขึ้นーー เขาอยู่ในห้องที่มีกลิ่นเหม็นอับ
ความกว้างของห้องเท่ากับ 10 เมตร มีประตูที่ทำจากเหล็กเส้นตรงบันไดทางเข้า
ไม่แปลกหากจะนึกถึงภาพของคุกใต้ดิน
ที่มุมหนึ่งของห้องมีเครื่องมือรูปร่างน่ากลัวพึลึกอยู่
มันดูเหมือนเตียงผ่าตัดที่มีอุปกรณ์พร้อมสำหรับตรึงแขนขาของผู้ป่วยไว้
กลิ่นเหม็นสาบโชยมาพร้อมกับกลิ่นของความตาย
ถึงพื้นและอุปกรณ์จะถูกทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคอย่างดี แต่มันคงเป็นเรื่องยากที่จะกำจัดกลิ่นที่เกิดจากกระบวนการซ้ำๆมาอย่างยาวนาน
ณ เตียงตรงข้ามกับที่เห็น ทั้งแขนและขาของจุนเปย์ถูกยึดติดด้วยเข็มขัดหนัง
「……นี่มัน?」
จากคำถามของจุนเปย์ แคทรีนาตอบพร้อมกับมองลงไปที่เขา
「ที่นี่คือโรงงาน」
「……โรงงาน?」
「ใช่ ถูกต้อง โรงงานแปรรูปวัตถุดิบสำหรับเพาะเนื้อ」
ลมหายใจถูกสูดเข้าลึกก่อนจะปล่อยออกมา เมื่อนึกถึงสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในตอนนี้ จุนเปย์ถามในขณะมีเหงื่อผุดออกจากรูขุมขนตามร่างกาย
「เธอพูดว่า ……เพาะเนื้อ? 」
แคทรีนาพยักหน้า
「อาหารสำหรับชั้นนี้ …… ธัญพืช …… พวกมันมีมากพอ วิตามินและเกลือแร่……ก็ยังมีมากจนเกินไป 」
“เหลือแค่” เธอเสริม
「เป็นเวลานาน …… ผู้คนที่อยู่ที่นี่ ……พวกเรา ……แทบจะสิ้นหวังเกี่ยวกับโปรตีน ไม่มีถั่ว ไม่มีแมลงหรือสัตว์ มีเพียงเนื้อจากมอนสเตอร์ที่ปรากฏขึ้นเพียงบางครั้ง …… แต่ถึงอย่างนั้นจำนวนของมันก็ยังไม่เพียงพอ」
「ไม่….. แต่ …… เพาะเนื้อ……มันหมายความว่ายังไง? ใช่การเพาะพันธุ์มนุษย์เพื่อทำเป็นอาหารหรือเปล่า?
「เปล่า วิธีนั้นไม่ค่อยได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าไหร่」
「แล้วการเพาะพันธุ์ หรือเพาะเนื้อที่ว่าหมายถึง …… ? 」
「ที่นี่คือพื้นที่ปลอดภัย ฉันไม่คิดว่าจะต้องมีคำอธิบายอะไรอีก? 」
จุนเปย์ถึงกับลืมหายใจ
เมื่อนึกถึงความจริงที่เคยเกิดขึ้นกับร่ายกายตัวเองก่อนหน้านี้ และสิ่งที่แคทรีนาเคยพูด
「ถึงแม้ว่าความหนาแน่นของมันจะน้อย แต่ยังไงนี่ก็เป็นพื้นที่ปลอดภัย! แม้ว่าแขนจะขาดสักข้างหรือสองข้าง……พวกมันจะกลับมาเป็นปกติเองภายในสองสัปดาห์! 」
ส่วนคำว่าเพาะพันธุ์
ถึงเขาไม่ต้องการ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตัวเองได้ในตอนนี้
「อย่าบอกนะ…..ว่าเธอจะตัดแขนขา ……แล้วรอให้มันฟื้นฟูใหม่…..เธอผลิตเนื้อทำเป็นอาหารด้วยวิธีการนี้ ? 」
「มันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้พวกเราสามารถมีชีวิตอยู่」
「หากมีนักผจญภัยหลงเข้ามา เราจะใช้พวกเค้า และ……หากไม่มีนักผจญภัย เราก็จะใช้พวกของเรา ก่อนหน้านี้คนที่ถูกมอบหมายให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ คือพี่ชายของฉัน」
แคทรีนาจับมือของเธอ
「กฎง่ายๆ นายจะต้องอยู่ที่หมู่บ้านของเรา คอยมอบอสุจิ และแขนขา เมื่อพวกเราต้องการมัน 」
ในขณะที่จุนเปย์เงียบ แคทรีน่ายังคงพูดต่อไป
「ยังไงก็ตาม นอกเหนือจากเรื่องดังกล่าว เราจะรักษาและให้ความเคารพนายเต็มที่」
「ขอโทษจริงๆนะ」
หวืดดดดดดดด ! ฉับบบบ !
เธอหยิบมีดยาวหนึ่งเมตรออกมา จากนั้นเหวี่ยงมันอย่างแรงลงไปที่ต้นขาขวาของเขา
จุนเปย์กัดฟันข่มความเจ็บปวด แต่ก็ยังมีเสียงคำรามเล็ดลอดออกมา
หลังจากความเจ็บปวดผ่านพ้นไป ความรู้สึกร้อนวูบวาบก็เข้ามาแทนที่
เลือดสาดกระเซ็นราวกับน้ำพุ แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่ามันยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้ขาขวาของเขาขาดออกจากลำตัว
หลังจากครวญครางด้วยความเจ็บปวด เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก “ฟู่ ” จุนเปย์หายใจพร้อมกับไหล่ที่สั่นไหว ในขณะที่แคทรีน่าเอ่ยปากขอโทษเขาอีกครั้ง
「……ฉันขอโทษ ฉันจะรีบทำให้มันขาดเดี๋ยวนี้」
พร้อมกับคำเหล่านั้น มีดขนาดใหญ่ก็หวดลงตรงเนื้อต้นขาที่ยังไม่ขาดออกจากกัน
เมื่อได้ยินเสียงโลหะจากมีดและเตียงกระทบกัน จุนเปย์ก็สูญเสียขาข้างนั้นไปอย่างสมบรูณ์
「 อา ……อ๊ากกกกกกกกกกกกกก !! 」
ขณะที่จุนเปย์กำลังตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง แคทรีน่ารีบปฐมพยาบาลแผลทันที
เธอห้ามเลือดของจุนเปย์โดยใช้ผ้าพันรัดไว้อย่างแน่นหนา
จากนั้นจุนเปย์ก็ถูกปล่อยให้ห้อมล้อมด้วยอนุภาคสีเงิน
วิธีปฐมพยาบาลจากมนุษย์ และการฟื้นฟูจากพื้นที่ปลอดภัยกำลังร่วมมือกันเพื่อรักษาบาดแผล
เมื่อความเจ็บปวดๆลดลง จุนเปย์แสยะยิ้มออกมา
ーーฉันจะไม่ยอมตายง่ายๆที่นี่
ーーเลือดของเขาหยุดไหลภายในหนึ่งชั่วโมง
หลังจากผ่านการสูญเสียและความเจ็บปวด สิ่งที่เขาเห็นคือขาขวาของตัวเองซึ่งถูกแคทรีถือเอาไว้
「เธอจะกินมันใช่มั้ย? 」
「วันนี้เราจะจัดงานเลี้ยงสำหรับการมาถึงของนาย เนื้อของนายจะถูกวางไว้บนโต๊ะอาหารสำหรับทุกคน 」
เขาเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เปลี่ยนใจ
「 อะไรเหรอ」
「เปล่า ฉันแค่อยากถามอะไรบางอย่าง …… 」
「อะไรล่ะ? ถ้าฉันรู้ ฉันจะตอบ」
「 …… เธอจะล็อคประตูเหล็กนี้ไหม?」
“ไม่หรอก” จนกว่าขาของนายจะฟื้นฟูเสร็จ ฉันจะไม่ทำอะไรแบบนั้น」
จุนเปย์พยุงตัวเองขึ้นด้วยมือสั่นๆ จากนั้นเขาก็ยิงคำถามต่อไป
「มันจะไม่ดีกว่าเหรอ ที่เธอจะขังฉันไว้ที่นี่?」
「ฉันเคยบอกแล้ว เราจะปฏิบัติกับนายด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง นั่นเป็นเหตุผลที่เราจะไม่กักขังนายโดยไม่จำเป็น ผ่านบันไดขึ้นไปก็จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของเรา …..อีกอย่างถ้านายจะวางแผนหลบหนี ฉันว่าด้วยขานั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอก」
“ฉันรู้” จุนเปย์หัวเราะเบาๆอย่างขุ่นเคือง
「นอกจากนี้ยังมี เหตุผลที่เราไม่กักขังนายเกินไป….นอกจากความเคารพแล้ว มันยังเป็นเพราะว่า」
「อะไร? 」
แคทรีนายิ้มด้วยท่าทีเขินอาย
「ฉันเป็นผู้หญิง และมันไม่ใช่แค่เนื้อ จริงๆแล้วเมล็ดพันธุ์ของนายก็เป็นสิ่งจำเป็น ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้อาจไม่ค่อยดีนัก ถึงมันจะเป็นเรื่องยากที่นายจะเข้าใจ ดังนั้นฉันคิดว่าเราควรจะทำดีต่อกันเข้าไว้」
จิตสำนึกของจุนเปย์เริ่มปั่นป่วน
แคทรีนา แม้เธอพึ่งจะทำสิ่งเลวร้ายกับจุนเปย์ไปหมาดๆแต่เธอยังคงต้องการความสัมพันธ์ที่ดีและกล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง
ตอนนี้ผู้ชายที่เธอพึ่งจะตัดขาข้างหนึ่งของเขาไปทำอาหาร เธอกลับพูดเรื่องความรักออกมาได้หน้าตาเฉย
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของหมู่บ้านนี้
เมื่อเขาคิดถึงวัฒนธรรมของคนที่นี่ มันทำให้เขามีอาการคลื่นไส้
ーーพวกมันช่าง…… บ้าสุด ๆ …… พวกมันไม่ปกติ ……
ถึงอย่างนั้นจุนเปย์ก็ยังคิดว่าในประเทศญี่ปุ่นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเขาวงกตนี้อาจเป็นเรื่องผิดศีลธรรม แต่สำหรับพวกเขามันคือเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
แต่ว่าถึงจะพยายามมองด้วยเหตุผลยังไงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเขา
ยอมแพ้ให้กับโชคชะตา ยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำในสิ่งที่สามารถทำได้ーーคุณคิดได้เพียงแค่นั้น
เกิดความเห็นใจเล็กๆในจิตใจของจุนเปย์ อีกครั้งที่เขาหันไปมองแคทรีนาราวกับจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่จุนเปย์จะทันได้กล่าวอะไร แคทรีนาก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
「ถึงเวลาแล้ว ทุกคนกำลังรอคอยเนื้อนี่อยู่ข้างบน 」
เธอยกขาขวาของจุนเปย์พาดบ่า
「……」
「คืนนี้ …… หลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำ …… ฉันจะมาหานายในฐานะเจ้าสาว ^^」
เมื่อเธอหันหลังเดินจากไป “ยังไงก็เหอะ” เพื่อเตือนอะไรบางอย่างจุนเปย์พยายามจะเรียกเธอให้หยุด อย่างไรก็ตามกับสิ่งที่เขาได้ยิน
ขณะที่กำลังเลียขาขวาของจุนเปย์ เธอพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
「 …..น่ากินจังเลย 」
นั่นเป็นเหตุผลที่สุดท้ายจุนเปย์ก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป
เช้าวันรุ่งขึ้น
จุนเปย์เดินขึ้นบันไดด้วยไม้ค้ำยันที่เขาสร้างและกล่าวบางอย่างออกมาเบาๆ
「 มันคงเกิดขึ้นแล้ว」
นั่นเป็นห้องโถงที่มีพื้นที่ขนาด 30 เสื่อทาทามิ หากมองดูจากการตกแต่งภายใน เหมือนว่ามันมักจะใช้เป็นห้องทานอาหาร
เหมือนที่แคทรีน่าพูดเมื่อวาน ที่นี่คงเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหลักของชาวบ้าน
ด้วยการถอนหายใจลึกๆ จุนเปย์มองไปรอบ ๆ
สตูว์เนื้อดูเหมือนจะถูกแจกจ่ายไปตามโต๊ะยาว ซึ่งถูกตั้งอยู่กลางห้องอาหาร
มันดูคล้ายกับสตูว์เนื้อวัว แต่ในกรณีนี้……
ยังไงก็ตาม มีสตูว์เย็นชืดเหลืออยู่ในจานซึ่งเห็นได้ว่าบางส่วนถูกกินไปแล้ว
ถูกต้องสิ่งที่พวกเขากินอยู่คือสตูว์เนื้อคน
ผลที่ตามมาคือหนึ่งในนั้นฟุบลงที่โต๊ะ บางคนก็ล้มลงอยู่ที่พื้น แน่นอนว่าพวกเขากลายเป็นศพไปแล้ว
จำนวนของพวกเขาーーทั้งหมด 50 คน
ทุกคนเต็มไปด้วยกองอาเจียนเลือด
ขณะที่เขาเดินตรวจสอบพวกที่กลายเป็นศพแข็งทื่อ จุนเปย์หยุดอยู่หน้าคนๆหนึ่ง
เกือบทุกคนถูกเปลี่ยนเป็นศพ แต่มีคนหนึ่งที่ยังไม่ตายーーเด็กผู้หญิงกำลังตกอยู่ในการอาการชักเนื่องจากพิษในระบบประสาท
แคทรีนาหันหน้าเข้าหาจุนเปย์ และเปิดปากที่เต็มไปด้วยฟองเลือด
「 ……ทำไม นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? 」
「ฉันขอโทษแคทรีนา เนื้อของฉัน …… มันเป็นพิษ」
ไม่ปรากฏท่าทีตกใจ ดูเหมือนเธอจะคาดเดาไว้แล้ว แคทรีนาส่ายหัวของเธอ
「ฉันเข้าใจแล้ว. นายมาจากชั้นล่าง…ไม่แปลกเลยที่นายจะมีลักษณะบางอย่างที่เราไม่รู้ 」
จุนเปย์มองไปรอบๆอีกครั้งด้วยความสลด
「เธอต้องยอมรับความทรมานจากผลลัพธ์ที่พวกเธอเป็นคนสร้างมันขึ้นมา ฉันเสียใจด้วย」
「 …… ทุกข์ทรมานกับผลที่ตามมา? 」
「 …… พวกเรา ……ทำแบบนี้เพื่อความอยู่รอด ถ้านายบอกว่าเรากำลังทุกข์ทรมานจากสิ่งที่เราทำ มันเหมือนกับว่านี่เป็นความผิดของเรา นายรู้มั้ยบางสิ่งเราก็เลือกทำมันไม่ได้…… 」
“อ่า” จุนเปย์พยักหน้า
「ถูกต้องเธอไม่ผิด แต่ยังไงเธอก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับผลที่ตามมาอยู่ดี」
「……?」
「ฉันไม่รู้ว่าอะไรเป็นตัวกำหนดความเป็นมุนษย์สำหรับชั้นนี้ และทางเลือกของเธออาจไม่ผิด ฉันจะไม่ตำหนิเธอสำหรับเรื่องนั้น」
「เพราะยังไงพวกเธอก็เหมือนถูกฉันหลอกนะแหละ」
「หลอก…… ? 」
「ถึงเธอจะหลอกฉันก่อน แต่ฉันเองก็ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับร่างกายของฉันเหมือนกันเมื่อรู้ว่าพวกเธอจะกินมัน」
「การกินเนื้อคน เธอไม่คิดว่ามันเป็นอะไรที่ผิด…ฮะ ฉันรู้ …..เธออยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความวิปริต 」
「ว่าแต่อาวุธของฉันอยู่ที่ไหน? ฉันจะได้ปล่อยให้เธอพักผ่อนจากเรื่องพวกนี้ซะที」
「ในลิ้นชัก …… 」
เขาเดินตามทิศทางที่แคทรีนาชี้ไปที่มุมห้องและค้นหาลิ้นชัก
ปืนพกถูกหยิบขึ้นมา เขามองไปทางแคทรีนา
「เอาหล่ะ เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ」
「 อย่างน้อยฉันก็จะถูกฆ่าโดยชายที่ฉันรัก」
แคทรีนายิ้มในขณะที่เธอหลับตาราวกับจะยอมแพ้ต่อโชตชะตา
จุนเปย์จ่อปืนไปตรงระหว่างคิ้วของแคทรีนา
「ฉันขอสกิล【บุชเชอร์】ไปละนะ」
จากนั่นไกปืนก็ถูกเหนี่ยวเต็มแรง
「 ………..」
ขณะที่ใช้ไม้ค้ำยันเขาออกจากห้องอาหารที่เต็มไปด้วยซากศพเดินออกไปข้างนอก
พื้นถนนปูด้วยก้อนหิน เท่าที่เขาเห็นมีอาคารแบบ 2 ชั้นอยู่ 6 หลัง
ห้องโถงที่ทำเป็นห้องอาหารถูกจัดไว้ตรงกลาง
「ส่วนใหญ่คงเป็นที่อยู่อาศัย แต่หลังนี้น่าจะเป็น 」
เขาเดินตรงไปยังอาคารที่ใกล้เคียงที่สุด
หลังจากเปิดประตู จุนเปย์มองไปรอบๆและพยักหน้า
「 เยี่ยม」
เท่าที่เห็นภายในกระสอบมากมายคงเป็นพวกธัญพืช
จำนวนกระสอบมากกว่าสองร้อยถุง
จากความรู้สึกแต่ละกระสอบอาจมีมากกว่า 20 กิโลกรัม
เขาเรียกกล่องไอเทมออกมาจากนั้นเก็บกระสอบธัญพืชไว้ข้างใน
…… มันเป็นงานที่ยากพอสมควร เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นเพียงผู้พิการขาเดียว
และเพราะค่าความอดทนมีน้อย ทำให้เขาต้องทิ้งกระสอบลงพื้นหลายครั้ง
ค่า HP ทำให้ทนทานต่อการโจมตี นอกจากนั้นยังทำให้อึดและถึกขึ้น
แต่สเตตัสของจุนเปย์นอกเหนือจากค่าหลบหลีก ค่าอื่นๆถือว่าต่ำกว่าคนปกติยิ่งนัก
จุนเปย์พึมพัมด้วยความเบื่อหน่าย
「ถึงเวลาแล้วที่ฉันควรหยุดใส่ค่าหลบหลีกแล้วหันมาสนใจค่า HP บ้าง กับการป้องกันที่ต่ำแบบนี้ ฉันอาจตายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เหมือนโนไลฟ์คิง」
อาจเพราะการทำงานอย่างต่อเนื่อง เอวของเขาเริ่มปวดราวกับว่ามันเป็นสัญญาณให้เขาพัก
จุนเปย์ทรุดตัวลงนั้งบนกระสอบ พร้อมกับสูดลมหายใจลึก
เขาถอนหายใจเบาๆーーสังเกตขาขวาที่หายไปของตัวเอง
「จริงด้วยเธอบอกว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์สำหรับการฟื้นฟู ฉันไม่เห็นต้องรีบเลยหนิ」
หลังจากหยุดพักประมาณ 2 นาทีเขาก็ยืนขึ้นโดยใช้ไม้ค้ำและเริ่มทำงานต่อ
สามวันถัดไป
จุนเปย์มองรายการสิ่งของในกล่องไอเทมของเขา
– เมล็ดข้าว (250 กระสอบ) – 5 ตัน
– น้ำ (500 ถุงหนัง) – 2500 ลิตร
– สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน – เสื้อผ้า – ทุกอย่างที่เขาสามารถเก็บได้
– เครื่องมือ – ทุกอย่างที่เขาสามารถเก็บได้
– ยาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น – ทุกอย่างที่เขาสามารถเก็บได้
– เครื่องใช้ประเภทโลหะ – ทั้งหมดที่มีอยู่
และหม้อน้ำมันจำนวนมาก
เขายัดอาหารและน้ำมากมายเผื่อในกรณีที่มันเน่าเสียด้วย
แม้ในความเป็นจริงอาจไม่จำเป็นต้องนำไปมากนัก
แต่อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับที่นี่ อาจมีคนอยู่ในชั้นอื่นๆอีก
เขาสามารถใช้อาหารและน้ำแลกเปลี่ยนในสิ่งที่เขาต้องการ และหากมันเน่าเสียเขาก็แค่โยนมันทิ้งไปแค่นั้น
ーーไม่มีสิ่งใดไร้ประโยชน์สำหรับการเอาชีวิตรอด
ด้วยผ้าชิ้นเดียวหรืออาจจะเป็นเข็มหนึ่งเล่ม ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ไม่แน่มันอาจจะกลายเป็นอาวุธที่สามารถฆ่าสัตว์ระดับเทพนิยายได้
เช่นเดียวกับที่เขาใช้ด้วยฟืน หม้อน้ำมัน และไฟเพื่อปราบเจ้าเซอร์เบอรัส
จุนเปย์นั้งกินอาหารอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยศพ กลิ่นเหม็นเน่าเริ่มรุนแรงขึ้น จนจุนเปย์คิดว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่าง ด้วยสกิลที่เขาขโมยมาจากแคทรีนา
ーー【บุชเชอร์】
สกิลระดับซุปเปอร์ถ้ามันใช้กับเป้าหมายที่เป็นศพนั่นหมายความว่าเขาสามารถเล็งไปที่อะไรก็ได้
และเป้าหมายในครั้งนี้ไม่ใช่มอนสเตอร์ แต่เป็นมนุษย์ คุณอาจได้รับสกิลมากมายจากวิธีนั้น
ที่นั่นจุนเปย์เดินตรงไปยังศพของวัยกลางคนและยื่นมือออกไป
「ยืนยันศพของเป้าหมาย สกิล【 บุชเชอร์】ถูกเรียกใช้」
ร่างกายของมันถูกห่อหุ้มด้วยอนุภาคแสงและถูกเปลี่ยนเป็นวัสดุบางอย่าง
ศพเหล่านี้กลายเป็นการ์ดส่องแสงตกลงด้านหน้าจุนเปย์
【เนื้อมนุษย์】
ระดับไอเทม ▼▼▼ปกติ
ลักษณะเฉพาะ▼▼▼สามารถใช้เป็นอาหารยามฉุกเฉิน
การ์ดเนื้อมนุษย์ตรงหน้าทำให้จุนเปย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่หลังจากทบทวนครู่หนึ่งเขาก็เก็บมันลงไปในกล่องไอเทม ในทางกลับกันเขาโยนการ์ดสกิลที่ดรอปออกมาทิ้ง
「สกิลทำอาหาร มีแบบนี้ด้วยแฮะแต่ฉันไม่ต้องการมัน…..ต่อไปละกัน」
จากนั้นศพข้างๆก็ถูกเปลี่ยนเป็นการ์ด
การ์ดเนื้อถูกเก็บ และสกิลขยะถูกทิ้งไป
และหลังจากคนที่สิบหก ใบหน้าของจุนเปย์ก็ดูผ่อนคลาย
【มอนสเตอร์เทม】
ระดับสกิล ▼▼ เริ่มต้น
ลักษณะเฉพาะ▼▼▼ สามารถฝึกมอนสเตอร์ที่มีพลังอ่อนแอให้เชื่องได้
เขาใส่สกิลใหม่ลงในช่องสกิลจากนั้นเริ่มเดินไปข้างนอกห้องอาหาร
จากอาคารทั้งหมด จุนเปย์เดินตรงไปยังอาคารที่ถูกสร้างขึ้นอย่างเดียวดายหลังหนึ่ง
ภายนอกดูเก่าแก่ แต่ว่าภายในกลับมีการตกแต่งที่ดูดี
ที่นี่มีเฟอร์นิเจอร์มากมายถึงพวกมันจะดูค่อนข้างทรุดโทรมก็ตาม
พื้นและผนังปูด้วยโลหะแข็งแรงวางเป็นชั้นๆ
ーーที่นี่น่าจะเป็นสถานีทดลองการเพาะพันธุ์เนื้อมอนสเตอร์
กลิ่นของอุจจาระตลบอลอวลทั่วห้อง
มันเป็นห้องใต้ดินที่มีความกว้างประมาณ 20 เมตร แต่ละส่วนถูกแบ่งด้วยแผ่นโลหะ ประกอบไปด้วยพื้นที่ของก๊อบลิน,โคบอลด์ และสไลม์
นี่มันห้องแสดงมอนสเตอร์ชัดๆ แต่เป็นเพียงมอนสเตอร์อ่อนแอ มอนสเตอร์กระจุกตัวกันอยู่ที่ขอบ เนื่องจากการให้อาหารได้หยุดลง และพวกมันกำลังหิว
เหตุใดพื้นที่เพาะพันธุ์นี้จึงมีอยู่ภายในหมู่บ้าน
แคทรีนา …… พวกเขาคงหมดหวังจริงๆ
หลังจากทำทุกอย่างแล้ว แม้จะเป็นไปไม่ได้ พวกเขาก็ยังคงพยายามเดินตามเส้นทางนี้ต่อไป
จุนเปย์รู้สึกเห็นใจเล็กน้อย
ーーรูปแบบการใช้ชีวิตในแต่ละมิติช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน
ตอนนี้สิ่งสำคัญสำหรับจุนเปย์สิ่งเดียวที่อยากจะทำคือ การขอบคุณแคทรีนาสำหรับทุกอย่างที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านนี้
「 เพียวสไลม์ เขาคิดว่ามันน่าสนใจ 」
สกิล【 ตรวจสอบ 】 ถูกใช้งาน
【เพียวสไลม์】
ระดับความอันตราย▼▼▼ไม่มี
ลักษณะเฉพาะ ▼▼▼มอนสเตอร์ที่มีระดับความอันตรายต่ำ และถูกจัดว่าอ่อนแอที่สุด . เพียวสไลม์ กินอาหารน้อย – ทนต่อทุกอุณหภูมิและสภาพบรรยากาศ – ไม่มีคุณลักษณะพิเศษใดๆและได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมได้ง่าย ลักษณะนิสัยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่พวกมันโตขึ้น
“อืม” เขาพยักหน้าและกล่าวว่า
「ใช่แล้วมันเหมือนกับฉันไม่มีผิด นักล่าสกิลพลังนี้อ่อนแอที่สุดจึงสามารถเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ และเพราะมันไม่มีลักษณะพิเศษฉะนั้นจึงง่ายที่จะเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นอาวุธใดๆก็ได้」
“นั่นคือเหตุผล” จุนเปย์กล่าวต่อ
「หากไม่ยึดติดกับความคิดเก่าๆ ฉันจะสามารถมีชีวิตอยู่ โดยใช้พวกสไลม์นี้…… 」
จุนเปย์นึกถึงคุณสมบัติของเนื้อผีดิบ
“และ ” เขามีความคิดอะไรบางอย่าง
เพื่อให้มันมีผลของพิษต่อประสาทและทำให้เป็นอัมพาต
ถ้าทำให้ผลของพิษอยู่ในระดับเซลล์ของมันได้
สกิล【 มอนสเตอร์เทม 】ถือว่าเป็นสกิลสำคัญสำหรับกระบวนการนี่
ตั้งแต่แรกเริ่มสไลม์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แพร่พันธ์ุได้ง่ายหากได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
และแน่นอนว่าเขาสามารถเลี้ยงมันในกล่องไอเทมได้
「เยี่ยม ฉันอยากเห็นจริงๆว่าพวกมันจะเติบโตออกมาเป็นยังไง?
ฉันจะเลี้ยงดูพวกแกอย่างดีเลย 」
***********************************************************************
ด้วยเช่นนี้จุนเปย์ก็ได้รับเพียวสไลม์มาเป็นลูกสมุน
ชื่อ: ทาเคดะ จุนเปย์
เลเวลเพิ่มขึ้น : 637 → 638
ได้รับแต้มโบนัส : 5
สถานะตัวละคร
อาชีพ: Skill Hunter เลเวล: 638
HP: 35 MP: 175
พลังโจมตี: 255 พลังป้องกัน: 5
※พลังโจมตีอาวุธย่อย: 245
ค่าหลบหลีก: 3000
อุปกรณ์สวมใส่
หลัก: เขี้ยวอสูรเวทย์ (ระดับเทพนิยาย)
※ผสมผสานกับแอตทริบิวต์ฆ่าพระเจ้า
รอง: S&W M57 แม๊กนั่ม 41″ (สมบัติของชาติ)
กระสุน※รีโหลดด้วยค่าพลังเวทย์ ยังไม่ได้อัพเกรด
ช่องสกิล (เหลือ 7 )
ตรวจสอบ (ระดับซุปเปอร์)
ต้านทานสถานะผิดปกติทุกประเภท
บุชเชอร์ (ระดับซุปเปอร์)
มอนสเตอร์เทม (ระดับเริ่มต้น)
คุณสมบัติ
ราชาผีดิบ
※องค์ประกอบของร่างกาย ถูกเปลี่ยนเป็นผีดิบของเหลวในร่างกายรวมถึงเลือดและเนื้อ มีสถานะเป็นพิษส่งผลต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง
มอนส์เตอร์ที่ฝึกแล้ว
เพียวสไลม์ x 4500
■■■■■■ สไลม์ x 1500