พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ความมืดเริ่มเข้าปกคลุมดินแดนรกร้างทางใต้ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงดาวระยิบระยับ สาดส่องลงมาบนพื้นดิน หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
บนยอดเขาทองคำทมิฬ อีกาอัคคีนับร้อยยืนกางปีกดูดซับพลังจากแสงดาว แสงดาวสีแดงปกคลุมไปทั่วเขาทองคำทมิฬ เหนือยอดเขามีน้ำวนขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น แสงดาวส่องผ่านน้ำวนลงไปที่ต้นหม่อน เป็นค่ำคืนที่ดูสวยงาม
จี้ฮ่าวเฝ้ามองทิวทัศน์ที่งดงามอย่างเงียบๆ มือของเขาวางอยู่บริเวณหน้าท้อง ในขณะที่ใช้นิ้วมือผสานกันเพื่อดูดซับพลังจากแสงดาว รอบตัวของเขามีส่องแสงอ่อนๆออกมา
เวทย์เก้าสัจธรรม คือวิชาเวทย์ลึกลับที่สามารถปลดปล่อยพลัง ที่แฝงอยู่ในร่างกายออกมาได้ ถ้าสามารถฝึกสำเร็จจนถึงขั้นสุดท้ายแล้วร่างกายจะเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และปฐพี ทำให้ได้รับพลังที่แข็งแกร่งอย่างไร้ขีดจำกัด
ตั้งแต่เกิดจี้ฮ่าวได้พยายามฝึกฝนเวทย์เก้าสัจธรรมมามากกว่าสิบปี ตอนนี้เขาฝึกสำเร็จไป 2-3 ขั้นแล้ว
“ฮ่าว เข้านอนได้แล้ว ถึงเจ้าจะจ้องมองไปบนฟ้าทุกวัน เจ้าก็บินขึ้นไปไมได้หลอก ” จี้เซียพูดกับจี้ฮ่าว
“แต่การจะบินขึ้นไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าหากเจ้าเป็นจอมเวทย์ระดับสุดยอด” จี้เซียพูดพร้อมกับหัวเราะ
ในระยะเวลากว่าพันปีที่ผ่านมา เผ่าอีกาอัคคีไม่เคยมีจอมเวทย์ระดับสุดยอดเกิดขึ้นมาเลย ถ้าหากมีสุดยอดจอมเวทย์เกิดขึ้นมาสักคนละก็ เผ่าอีกาอัคคีก็จะสามารถขึ้นไปเทียบชั้นกับเผ่านกกระเรียนและเผ่านกกระจาบได้ แต่เนื่องจากเผ่าอีกาอัคคีไม่มีจอมเวทย์ระดับสุดยอดเกิดขึ้นมานานแล้ว จึงตกอยู่ภายใต้อำนาจของเผ่านกกระเรียน
ถึงแม้จี้เซียจะเชื่อว่าจี้ฮ่าวเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจี้ฮ่าวจะไปถึงระดับจอมเวทย์ขั้นสูงได้ แม้จี้ฮ่าวจะมีพรสวรรค์สูง แต่ในปัจจุบันเขาเป็นแค่นักเวทย์ฝึกหัดขั้น3 ยังไม่แม้จะถึงระดับนักเวทย์ขั้นต้น และถัดจากระดับนักเวทย์ขั้นต้น มันก็ยากมากที่จะไปถึงระดับนักเวทย์ขั้นสูง และขั้นสุดท้ายคือจอมเวทย์สุดยอด มันยากจนไม่อาจจะจิตนาการได้ (ระดับพลังได้เขียนอธิบายไว้เเล้วด้านล่าง*)
“ก็ได้ ” จี้ฮ่าวพูดด้วยท่าทีเฉื่อยชา เขาหยุดดูดซับพลังแล้วโดดลงมาจากหลังคา
ที่หน้าประตูมีหมีขนาดห้าสิบฟุตกำลังนอนอยู่ มันลืมตาขึ้นมาแล้วเอาอุ้งมือมาลูบหัวจี้ฮ่าวอย่างสนิทสนม จี้ฮ่าวเอาผลไม้ป้อนเจ้าหมีตัวนั้น มันกลืนผลไม้นั่นลงไปโดยไม่เคี้ยวแล้วก็เดินออกไป
“เจ้าอ้วนอีกไม่นานแกจะหนักจนเดินไม่ไหว แล้วแกจะไม่ได้เป็นสัตว์เเห่งพันธสัญญาของพ่อข้าอีก ”
จี้ฮ่าวเตะไปที่หัวเจ้าหมี เจ้าหมีใช้อุ้งมือทั้งสองข้างปิดหัวของมันไว้ มันไม่สนใจว่าจี้ฮ่าวจะเตะมันแรงแค่ไหน มันนอนต่อไป เขาเขย่าหัวของมันและเดินเข้าไปในบ้าน
ชิงฟูสวมชุดสีฟ้าทำจากผ้าลินิน กำลังนั่งอยู่ที่มุมห้อง นางกำลังถือที่บดยา และกำลังค่อยๆเอาสมุนไพรสีฟ้าใส่ลงไปในชามหิน ส่วนผสมของ สมุนไพรต่างๆเริ่มเข้ากัน สมุนไพรค่อยๆละเอียดขึ้น ในที่สุดมันก็กลายเป็นผงยา
“ท่านแม่ ” จี้ฮ่าวนั่งลงและมองชิงฟูเงียบๆ
ชิงฟูมาจากเผ่าซินหยีเป็นเผ่าเล็กๆทางตะวันออก ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากเผ่าอีกาอัคคี ผู้หญิงของเผ่าซินหยีจะเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการใช้เวทย์รักษาและการปรุงยา ขณะที่ผู้หญิงเผ่าอีกาอัคคีเกิดมามีความแข็งแกร่งไม่ต่างจากผู้ชาย ต่างจากผู้หญิงเผ่าซินหยีโดนสิ้นเชิง ที่มีร่างกายเล็ก บอบบางและมีผิวที่ขาวนุ่มนวล
ชิงฟูนั้นถือเป็นหนึ่งในนักบวชผู้ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของเผ่าซินหยีในรอบร้อยปี ในขณะที่ความงามของนางนั้นก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าความสามารถ นางมีความงามยากที่จะหาผู้ใดเปรียบ แต่ในปัจจุบันอายุของนางยังไม่ถึงสามสิบปี เส้นผมของนางกลับกลายเป็นสีเทา ใบหน้าและริมฝีปากของนางก็ดูซีด
ขณะที่นางกำลังบดยาสมุนไพร นางยิ้มและพูดกับจี้ฮ่าว
“ฮ่าว แม่ได้ยินว่าวันนี้ ลูกเอาชนะลูกชายของจี้ซูได้งั้นรึ ”
จี้ฮ่าวเอามือเกาหัว ขณะที่มองไปที่ชิงฟูพร้อมกับหัวเราะ
“ข้าใช้งูเพลิงโจมตี แต่มันก็ไม่ค่อยได้ผลกับเขาเท่าไรนัก ถ้ามันเป็นการต่อสู้กันซึ่งๆหน้า ข้าอาจจะไม่มีโอกาสชนะ แต่ถ้าเจอกันในป่าล่ะก็ เขาคงตายไปเป็นพันๆครั้งแล้ว ”
ขณะพูดและหัวเราะในจิตสำนึกของจี้ฮ่าวเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและเยือกเย็น
ชิงฟูมองที่จี้ฮ่าวอย่างมีความสุข นางเอามือลูบไปที่หัวของจี้ฮ่าวและพูดอย่างนุ่มนวล ” ถ้าเป็นแบบนั้น แม่ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ”
“แม่ไม่ค่อยชอบวิธีของพ่อเจ้าที่ชอบแก้ปัญหาต่างๆด้วยสันติ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่รอดในดินแดนนี้ ถ้าไม่ใช้วิธีรุนแรงซะบ้าง ”
ชิงฟูบดยาเสร็จ นางโรยมันลงไปในเม็ดยาสีฟ้า และใส่มันลงไปในขวดอย่างระมัดระวัง
“ฮ่าว ลูกจะต้องจำเรื่องที่แม่กำลังจะบอกต่อไปนี้ไว้ให้ดี เผ่าซินหยีของแม่เคยเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรื่องมากในแถบตะวันออก แต่หนึ่งในผู้นำเผ่าของเราเป็นเพียงหญิงชรา นางหลงกลถูกศัตรูหลอก จนเผ่าของแม่เกือบพังพินาศ เพื่อเอาตัวรอดพวกเราต้องหนีมาดินแดนทางใต้ มาพึงพาอาศัยเผ่าอีกาอัคคี ”
ชิงฟูกล่าวต่อไปอย่างเยือกเย็น
“ในครึ่งเดือนนี้ ถ้าพ่อเจ้ารอดชีวิตจากพิธีบูชาได้ก็แล้วไป แต่ถ้าไม่…. ” จี้ฮ่าวฟังชิงฟูอย่างเงียบๆ
“ถ้าพ่อเจ้าถูกจี้ซูสังหารระหว่างพิธีบูชา แม่จะตายไปพร้อมกับเขา ถึงตอนนั้นลูกต้องหนีออกจากเผ่านี้ไปซะ ลูกต้องแข็งแกร่งกว่านี้ แล้วค่อยกลับมาแก้แค้นให้พวกเรา โดยการสังหารจี้ซูและครอบครัวเขาทั้งหมด ”
จี้เซียขนเนื้อชิ้นใหญ่เข้ามา เขามองไปที่ชิงฟู เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า
“ทำไมเจ้าพูดแบบนั้นกับจี้ฮ่าว ข้าจะไม่แพ้การต่อสู้กับจี้ซูในพิธีบูชา เขาคิดว่าการขึ้นเป็นหัวหน้ามันจะง่ายงั้นรึ ? ” จี้ฮ่าวยังคงฟังต่อไปเงียบๆ เขาเข้าไปกอดชิงฟู จากนั้นก็เข้าห้องนอนไป
พิธีบูชาจะถูกจัดขึ้นทุกๆสิบปี บรรดาผู้อาวุโสของเผ่าจะมาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ ในภูเขาเขาทองคำทมิฬเพื่อกราบไหว้บรรพชน นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะก้าวขึ้นมามีอำนาจในเผ่า
ถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อน จี้ซูไม่มีโอกาสที่จะชนะจี้เซีย แต่ปัจจุบันจี้เซียสูญเสียจุดชีพจร เป็นผลให้เขาสูญเสียพลังไปมาก เป็นความจริงตามที่จี้ซูพูดว่าพลังของจี้เซียนั้นตกไปอยู่ในระดับนักรบขั้นต้น
“ในการเผชิญหน้ากับจี้ซูและคนของเขา พ่อและแม่จะเป็นยังไง? แล้วถ้าไม่มีพวกเขาคอยปกป้องจะเกิดอะไรขึ้นกับข้า ? ”
“ไม่มีที่ที่สงบสุขในดินแดนแห่งนี้ ” จี้ฮ่าวพูดกับตัวเอง ในหลายปีที่ผ่านมา เขาเคยเห็นพวกเด็กๆที่น่าเวทนาจำนวนมาก พวกเด็กๆที่เผ่าของพวกเขาถูกศัตรูทำลาย
พลัง! เขาต้องเพิ่มพลังให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้เขาอาจจะไม่สามารถช่วยพ่อของเขาได้ แต่เขาต้องมีพลังพอ ที่พร้อมจะรับกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
เขาปิดประตูและเปิดหน้าต่าง ให้แสงดาวส่องลงมาที่ห้องของเขา จี้ฮ่าวล้มตัวลงไปนอนบนขนของสิงโตและหลับตา พลังภายในของเขามีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ซึ่งมันทำให้ง่ายที่เขาจะเข้าไปในช่องว่าง ในจิตใจของเขา โดยการทำสมาธิเพียงชั่วครู่ (นักเวทย์ที่แข็งแกร่งจะสามารถเข้าไปในช่องว่างในจิตใจของตัวเอง หรือแม้แต่ของผู้อื่นได้ มันเป็นสถานที่พิเศษที่สร้างจากพลังวิญญาณที่อยู่ในจิตใจ)
“เฮ้ ท่านผู้เฒ่า ข้ามาแล้ว ข้ายอมรับข้อเสนอของท่าน แลกวิชาบูรณะสวรรค์ของท่าน กับวิชาเก้าสัจธรรมของข้า แล้วอย่าลืมที่ท่านให้สัญญาไว้ ” จี้ฮ่าวพูดกับอากาศหลังจากที่เขาเข้าไปในช่องว่างในจิตใจ
หลังจากที่จี้ฮ่าวพูดจบ หมอกสีขาวลอยขึ้นมารอบๆแท่นหินที่อยู่ด้านหน้าของจี้ฮ่าว ชายรูปร่างสูงนั่งอยู่บนแท่นหิน มองลงมาที่จี้ฮ่าว
“หนุ่มน้อย เจ้าจะไม่นึกเสียใจแน่นะ ที่จะแลกเปลี่ยนกับข้า ”