จี้ฮ่าวกำลังนั่งอยู่บนหัวของช้างแมมมอธ 4 งา และมองไปรอบๆ
ช้างแมมมอธ 4 งาคือพาหนะทั่วๆไป ที่ใช้ในการขนของในดินแดนทางใต้ ช้างแมมมอธโตเต็มวัยจะสูงประมาน 60 ฟุต และยาว 100 ฟุต ความแข็งแกร่งของมันพอๆกับนักรบขั้นต้น

จี้ฮ่าวกำลังนั่งอยู่บนตัวที่เป็นจ่าฝูง มันสูงกว่า 100 ฟุต มันกำลังใช้งวงของมันในการฉีกต้นไม้เป็นชิ้นๆ เพื่อเปิดทางให้คนเดิน

“เยี่ยมมาก เจ้ายักษ์” จี้ฮ่าวตบไปที่หัวขอมันเบาๆ จี้ฮ่าวนั่งอยู่บนหัวแมมอธ และดูมันพังป่าเพื่อสร้างเป็นทางอย่างสนุกสนาน

ตัวที่กำลังเดินตามหลังมันมาเป็นคู่หู่ของมัน มันเป็นแมมมอธเพศเมียที่คล้ายๆกับตัวหัวหน้า มันมีขนาดใหญ่กว่าแมมมอธทั่วๆไป แมมมอธตัวเมียแบกกระท่อมไว้บนหลังของมัน ชิงฟูกำลังนั่งอยู่ในกระท่อมนั้นและมองดูจี้ฮ่าวด้วยรอยยิ้ม บนหัวของมันมีจี้เซียกำลังยืนค่อยสั่งการพวกนักรบและแมมมอธตัวอื่นๆ

“ระวังๆกันด้วย! ในป่าแห่งนี้แมลงมีพิษจำนวนมากอยู่ ระวังอย่าให้ตัวเองบาดเจ็บและอย่ารั้งท้ายมากเกินไป เกาะกลุ่มกันไว้!”
จี้่เซียตะโกนสั่งการ

ป่าในดินแดนรกร้างทางใต้นั้นอันตรายมาก แม้แต่นักรบขั้นสูงก็อาจจะบาดเจ็บสาหัสได้ถ้าไม่ระวัง จี้เซียได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้า เขาต้องค่อยระวังเป็นพิเศษเพื่อให้คนของเขาเดินทางอย่างปลอดภัย

ในขบวนกองกำลัง นอกจากจี้เซียแล้วยังมีนักรบขั้นสูงอีก 3 คน พวกเขาคือ จี้หยิง จี้หลาง และจี้เบา พวกเขาทั้ง 3 เป็นเพื่อนสนิทของจี้เซีย นอกจากนั้นแล้วยังมีนักรบขั้นต้นอีก 50 คน และนักรบฝึกหัดอีก 600 คน เป็นกองกำลังที่ทรงพลังมาก

บนยอดเขาเจียงเหยากำลังยืนมองมาที่กองกำลังของจี้เซีย ซึ่งกำลังเดินหายเข้าไปในป่า

“จี้เซีย ชิงฟูและก็ไอ้เด็กเวรจี้ฮ่าว”
ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ

“หนามแห่งความเป็นและความตาย! ชิงฟู! เจ้ายอมสละของวิเศษเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อ เจ้ามันช่างโง่!”

“พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตาย หวู่! ลูกแม่!…” เจียงเหยาครวญครางด้วยความเศร้าและความแค้น

เจียงโบกำลังยืนอยู่ด้านหลังเจียงเหยาและจ้องมาที่นางอย่างเย็นชา

“ดูสิอะไรที่เจ้าทำลงไป พวกเราสามารถที่จะสังหารพวกเขาอย่างเงียบๆแต่เจ้ากับสร้างปัญหา จี้ฮู จี้เฟิงและจี้ซุยตอนนี้ได้ตายไปแล้ว เจ้าไม่คิดว่าพ่อแม่ของพวกเขาจะมาตำหนิเรารึ?”

เจียงโบกัดฟันของเขาและพูดต่อ

“แล้วที่แย่ยิ่งกว่านั้นยัยเด็กเจียงเสวียนั่น ข้าบอกให้เจ้าคอยดูแลนาง แต่เจ้ากลับส่งนางไปฆ่าจี้ฮ่าว! แต่ตอนนี้จี้ฮ่าวยังมีชีวิตอยู่และนางกับหายตัวไป แล้วข้าจะไปอธิบายกับเจียงซูพ่อของนางยังไง?”

เจียงเหยาหัวเราะอย่างน่าเกลียดน่ากลัวและจ้องไปที่เจียงโบทำให้ เจียงโบถึงกับสะดุ้ง นางพูดว่า

“นั่นไม่ใช่ปัญหา พวกเราได้สิ่งที่ต้องการจากกาอัคคีแล้วไม่ใช่รึ? อะไรที่ท่านผู้นั้นต้องการเราก็จะสนอง…”

รอยยิ้มปรากฏบนหน้าของเจียงโบเขาพยักหน้าและพูด

“ถูกต้อง ตราบใดที่เรายังทำให้ท่านผู้นั้นพอใจ มันจะเป็นประโยชน์กับเรามาก เพื่อเกียรติและความยิ่งใหญ่ชั่วนิรันดร์ เรื่องยุ่งยากแค่นี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก”

เจียงเหยามองที่เจียงโบและพูดว่า
“ข้าต้องการให้จี้เซีย ชิงฟูและลูกของมันตาย เรื่องนี้ท่านต้องจัดการให้ข้า”

เจียงโบเงียบไปชั่วครู่และพูดว่า

“เจ้าสามารถทำอะไรได้ตามต้องการ แต่อย่าให้คนอื่นๆในเผ่ากาอัคคีรู้เป็นอันขาด มันใกล้ถึงเวลาที่แผนการของเราจะเริ่มแล้ว”

ครึ่งเดือนต่อมาจี้เซียและกองกำลังของเขาเดินทางมาไกลจากภูเขาทองคำทมิฬ พวกเขาเดินทางข้ามเขา ลุยป่าและแม่น้ำ สู้กับฝูงจระเข้ยักษ์ และงูพิษ พวกเขาพบเจอกับสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ระหว่างการเดินทางพวกเขาพบกับเผ่าย่อยของกาอัคคีนับ 10 จี้เซียได้เสบียงจากพวกเขามาเป็นจำนวนมาก แต่ละเผ่าส่งนักรบชั้นยอดของพวกเขามาร่วมเดินทางกับจี้เซียในครั้งนี้่ด้วย ทำให้กองกำลังของจี้เซียมีขนาดใหญ่ขึ้น

ตอนนี้จี้ฮ่าวกำลังนอนอยู่บนหัวแมมมอธจ่าฝูง เเมมมอธใช้งาของมันดึงเถาวัลย์ที่ข้างทางอยู่ออกมา หลังเถาวัลย์ปรากฏให้เห็นทะเลสาบแสนสวยอยู่เบื้องหน้า

ทะเลสาบมีขนาดใหญ่มาก มันกว้างหลายสิบไมล์เลยทีเดียว ที่ทะเลสาบมีหาดทรายสีขาว เต่ายักษ์กำลังนอนอาบแสงอาทิตย์อยู่บนชายหาด นกสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังบินอยู่เหนือทะเลสาบและจับปลาจากผิวน้ำอย่างสนุกสนาน

ห่างจากจี้ฮ่าวไม่ถึงไมล์ บนก้อนหินสีดำก้อนใหญ่ มีมังกรวารีความยาวกว่าร้อยฟุต กำลังนอนขดอยู่ เมื่อมันเห็นแมมมอธและคนจำนวนมาก มันจ้องมาที่จี้ฮ่าวและโดดหนีหายไปกับสายน้ำ
จี้ฮ่าวจ้องไปที่มังกรวารีโดดหายไปตาไม่กระพริบ มันเป็นมังกรมีเกร็ดและหนวดสีขาว มันมีเขาเดียวที่กลางหน้าผาก ลำตัวยาว มีขาเล็กๆที่ใต้ลำตัวของมัน จี้ฮ่าวจำลักษณะของมันได้ติดตา

“เจ้ามังกรน้อยหนีหายไป ช่างขี้อายจริงๆ ไม่งั้นเราคงได้กินเนื้อมังกรวารีเป็นอาหารแน่วันนี้ เนื้อมังกรวารีอร่อยที่สุดในโลก!”
จี้เซียพูดขณะที่เขากำลังมองที่ก้อนหินนั่น

“ข้าเคยกินเนื้อมังกรวารีเมือข้ายังเล็ก ตอนนั้นพ่อข้ายังมีชีวิตอยู่ รสชาติของมันช่าง… ฮ่าวถ้าเจ้ามีโอกาสเจ้าต้องลองเนื้อมังกรวารี”

จี้ฮ่าวนั่งฟังจี้เซียเล่าความหลังอย่างออกรส มังกรวารีเป็นสัตว์ในตำนาน แต่สำหรับจี้เซียแล้วเขามองมันเป็นแค่อาหารเท่านั้นรึ?

ทันใดนั้นเองมีเงาสีเขียวพุ่งผ่านป่ามา มีลูกธนูปรากฏอยู่ด้านหน้าจี้เซียอย่างเงียบๆ

จี้เซียหัวเราะ เขาใช้นิ้วของเขาหักลูกธนูเป็นชิ้นๆและตะโกน

“หยิง เจ้ายังไม่ได้กินข้าวงั้นรึ? ข้าไม่รู้สึกถึงพลังจากลูกธนูเลย หรือเมียของเจ้าดูดพลังเจ้าไปหมดแล้ว”

“โถ่ พี่ใหญ่อย่าทำเหมือนข้าเป็นเด็กๆสิ นี้คือจี้ฮ่าวหรอเนี่ย? ข้าเคยเห็นแต่ตอนเขายังเป็นทารก”

พร้อมกับเสียงนั้น หนุ่มรูปร่างผอมสูงปรากฏตัวออกมาจากพุ่มไม้ เขาวิ่งเร็วมาก นอกจากหนุ่มคนนี้แล้วยังมีนักรบหนุ่มอีก 200 คน รูปร่างผอมสูงมากับเขาด้วย ในมือของพวกเขาถือธนูยาวและที่เอวของพวกเขามีกระเป๋าหนังที่บรรจุลูกธนูห้อยไว้

จี้ฮ่าวจ้องไปที่ชายหนุ่มที่กำลังคุยอยู่กับจี้เซีย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มจำชายคนนั้นได้

“ท่านน้า ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับ”

ชายคนนี้คือชิงหยิง เป็นน้องชายแท้ๆของชิงฟูและเป็นหัวหน้าของนักรบเผ่าซินหยี

นักรบที่อยู่ด้านหลังจี้เซียพากันลงจากหลังแมมมอธ และเดินเข้าไปกอดและทักทายนักรบนักเผ่าซินหยีอย่างสนิทสนม